บทที่ 197 แต่เดิมคิดว่าจบ
ขอบฟ้ามีเมฆแดงให้เห็น หลานเยี่ยเงยหน้าขึ้นมองฟ้า หลังจากจบลงสีของท้องฟ้าและพื้นดินก็เปลี่ยนกลับมาแล้ว แต่เมฆแดงกลุ่มนั้นที่แลดูไม่เข้าพวก เหมือนกำลังบอกว่าจะมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้น
ทหารพลังในสนามรบทั้งหมดถอยออกไปแล้ว เหลือเพียงหลานเยี่ย หลานเฟิง มู่หลีและชิวลั่ว นี่เป็นความรู้สึกเช่นไรกัน หลานเยี่ยไม่รู้ ว่างเปล่าเล็กน้อย มีความรู้สึกล่องลอยเล็กน้อย
เหมือนว่าทำการใหญ่เรื่องหนึ่งสำเร็จลุล่วง ทำให้ความกล้าในใจนั้นวางลง แต่กลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผู้เฒ่าผู้นั้นเคยพูดว่าเมื่อเวลามาถึง เขาจะปรากฏตัวให้เห็นเอง ดูท่าทางตอนนี้คงยังไม่ถึงเวลา
เจียงหลิงเข้ามาปรึกษาเรื่องราวหลังจากนี้ทั้งหมดกับหลานเฟิง หลานเยี่ยยืนเหม่ออยู่อีกข้าง ชิวลั่วมองตระกูลเยี่ยที่แตกสลาย มองร่างของชิวฉือบนพื้น ทอดถอนใจเล็กน้อย มู่หลียืนมองเขาอยู่ห่างๆ
หลานเยี่ยหมุนตัว จู่ๆ ก็เหมือนจะเข้าใจเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นมา คำตอบที่เขาไล่ล่าตามหาอย่างยากลำบาก เรื่องที่เคยคิดอยากจะเข้าใจ เหมือนว่ามีบางครั้งที่ไม่ต้องการรู้คำตอบ มีบางครั้งที่ไม่ต้องการคิดเข้าใจ จะใช่หรือไม่ ก็เป็นเพียงความฝันเท่านั้น
ห่างออกไปไกลเหมือนมีอะไรบางอย่างขยับเขยื้อน หลานเยี่ยเงยหน้าเหลือบมองทีหนึ่ง ท่าทางใจลอย แต่กลับบีบให้เขารีบมีสติขึ้นมา
จิ้งจอกราตรีผู้หนึ่งอยู่ด้านหลังมู่หลี ลากร่างที่พิการของตน ใช้พลังชีวิตเฮือกสุดท้ายที่มีโจมตีอย่างโหดร้ายต่อมู่หลีที่อยู่ใกล้ที่สุด
“มู่หลี” หลานเยี่ยเสมือนตื่นจากความฝัน รีบวิ่งไปผลักเขาออก แม้ทั้งสองคนจะหลบการโจมตีของจิ้งจอกราตรีผู้นั้นได้ แต่เหตุใดบริเวณหัวใจยังมีเลือดไหลออกมา วิชาอันเป็นเอกลักษณ์ของจิ้งจอกราตรี บูชาชีวิต ขอเพียงยังมีลมหายใจก็สามารถใช้ชีวิตเดินไปสู่ความตายพร้อมกับศัตรู
หลานเฟิงได้ยินเสียงจึงหันไปมองหลานเยี่ย สมองยังไม่ทันมีปฏิกิริยา จิ้งจอกราตรีนายหนึ่งที่อยู่ด้านหลังหลานเยี่ยและมู่หลีก็มอบดาบที่ถึงแก่ชีวิตให้กับพวกเขาทั้งสองคน
“เสี่ยวเยี่ย”
หลานเยี่ยและมู่หลีล้มลงบนพื้น หลานเฟิงวิ่งไปประคองหลานเยี่ยไว้ ชิวลั่วมองมู่หลีที่ใกล้จะไม่ไหวแล้วอย่างไม่คิดเชื่อ
“อาหลี เจ้าเป็นอย่างไร อาหลี” เสียงของชิวลั่วสั่นสะท้านอย่างกลั้นไม่อยู่ แล้วยังมีเสียงสะอื้นอย่างลึกล้ำ มู่หลีสำรอกออกมาเป็นเลือดไม่หยุด เขายื่นมือขึ้นมาอยากยากลำบากหมายจะจับชิวลั่วไว้
“ชิว… ลั่ว… ข้า…” ยังไม่ทันพูดจบ มู่หลีก็ไอออกมาอย่างรุนแรง ชิวลั่วตบหลังให้เขาไม่หยุด ไม่รู้ว่าต้องทำเช่นไร
“อาหลี เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปหาหมอเซียน”
“ขอ… โทษ ข้า… ไม่ไหวแล้ว หาก… มีชาติหน้า จะต้อง… แต่งกับเจ้า เสี่ยวเยี่ย…” สุดท้ายมู่หลีกันไปมองทางหลานเยี่ยทีหนึ่ง จากนั้นก็ไร้ซึ่งลมหายใจ
หลานเยี่ยกุมหัวใจเอาไว้ หลานเฟิงเองก็ใช้มือกุมไปที่หัวใจของหลานเยี่ยไม่หยุด แต่เลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุด หากเมื่อครู่เขาไม่ไปสนใจมู่หลี บางทีตอนนี้อาจจะไม่เป็นอะไร แต่หากย้อนกลับได้อีกครั้งหนึ่ง เขาก็ยังคงทำเช่นเดิม
นี่เกรงว่าคงเป็นด่านเคราะห์สุดท้ายแล้วกระมัง หลานเฟิงข้าขอโทษ จำต้องเหนื่อยเจ้าแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้เฒ่าผู้นั้นก็ควรจะปรากฏตัวออกมาได้แล้วกระมัง แต่พวกเราสองคนอาจไม่ได้เห็นวันนั้นแล้ว
“เสี่ยวเยี่ยๆ เจ้าอดทนไว้”
“นี่… กรงว่าคงเป็นด่านเคราะห์สุดท้ายแล้วกระมัง แต่เดิมข้า… คิดจะช่วยมู่หลี คิดไม่ถึงว่า… เหนื่อยเจ้าแล้ว” ทุกประโยคที่หลานเยี่ยพูด เลือดก็ยิ่งไหลเร็วมากขึ้น
“เสี่ยวเยี่ย เจ้าอย่าเพิ่งพูด แหล่งพลังวิญญาณเดิม รีบใช้แหล่งพลังวิญญาณเดิมเร็วเข้า ข้าขอร้องเจ้าอย่าตาย ตระกูลเยี่ยเพิ่งจะล่มสลาย ความหวังของพวกเรายังไม่สำเร็จทั้งหมดเลย!” หลานเฟิงมองหลานเยี่ยที่เป็นเช่นนี้ โศกเศร้าจนน้ำตาไหลลงมา
“อย่าร้องไห้ ข้าใช้ ใช้… เดี๋ยวนี้” หลานเยี่ยยกมือขึ้น เช็ดน้ำตาให้หลานเฟิง