Skip to content

A Will Eternal 107

บทที่ 107 มหาเวทสายฟ้าชะล้างโอสถ

กลับมาถึงเขาเซียงอวิ๋น ป๋ายเสี่ยวฉุนรู้สึกเจ็บปวดใจ สำหรับยาประหลาดที่เหลืออีกไม่น้อยในถุงเก็บของของตัวเองยามนี้ เขาไม่กล้าทดลองต่อ โดยเฉพาะเวลานี้ที่เขาเดินอยู่บนทางของเขาเซียงอวิ๋น ลูกศิษย์เขาเซียงอวิ๋นทุกคนพอมองเห็นตน หากไม่ทำท่าทางแปลกประหลาด ก็ทำท่าดุดัน หรือไม่ก็แค้นเคือง

“การยืนหยัดในอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ เหตุใดถึงได้ยากขนาดนี้…นี่จะโทษข้าไม่ได้นะ ท่านอาหลี่บอกให้ข้าศึกษาเองนี่นา…” ป๋ายเสี่ยวฉุนทอดถอนใจ วิ่งเหยาะๆ มาตลอดทาง พอกลับเข้ามาในถ้ำก็นั่งอยู่ตรงนั้น เหม่อมองไปยังท้องฟ้าไกล

“ไม่ได้ ข้ามีอุดมการณ์ มีความฝัน ท่านอาหลี่พูดถูก ขอแค่ลงมือทำด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะเรียกว่าเป็นวิถีโอสถของตัวเองอย่างแท้จริง ต่อให้ยากลำบากสักแค่ไหนก็ต้องพิชิตมันต่อไป!” ผ่านไปครู่ใหญ่ ป๋ายเสี่ยวฉุนกัดฟัน เขาไม่ทดลองยาประหลาดแล้วก็ได้ แต่สำหรับวิถีโอสถ เขากลับยิ่งยึดมั่นมากขึ้น

“ข้าจะต้องกลายเป็นปรมาจารย์โอสถที่ยิ่งใหญ่ให้ได้!” ป๋ายเสี่ยวฉุนสูดลมหายใจเข้าลึก เดินเข้าไปในห้องหลอมยาอย่างเด็ดเดี่ยวบ้าคลั่ง จมจ่อมอยู่กับการหลอมยาอีกครั้งอย่างลืมตัวเองไปสิ้น

เวลาผันผ่าน พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วหลายเดือน ป๋ายเสี่ยวฉุนค่อยๆ ชำนาญการหลอมยาวิเศษระดับสามมากยิ่งขึ้น จากการที่พิชิตปัญหาไปได้ทีละข้อ ยาวิเศษระดับสามเมื่อมาอยู่ในมือของเขาจึงดูเหมือนว่าจะไม่มีความยากมากเท่าไหร่แล้ว

เพียงแต่…กลับมีปัญหาข้อที่ยากยิ่งกว่าข้อหนึ่งค่อยๆ ปรากฏออกมา

ป๋ายเสี่ยวฉุนค้นพบอย่างจนใจว่าถึงแม้เขาจะชำนาญการหลอมยาระดับสามขึ้นมาเยอะมาก แต่อัตราความสำเร็จกลับยากที่จะเพิ่มสูงขึ้น โดยทั่วไปแล้วหลอมยาสิบครั้ง เขาทำสำเร็จได้ห้าครั้ง อีกห้าครั้งที่เหลือมีครั้งหนึ่งที่หลอมออกมาเป็นยาประหลาดซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็แยกแยะไม่ออก ยังมีอีกสี่ครั้งที่หลอมออกมาเป็นยาพิษซึ่งมีสารเจือปนสูงเกือบสิบส่วน

ป๋ายเสี่ยวฉุนใกล้บ้าเต็มที เขาก็เคยลองเอามาหลอมพลังจิตแล้ว พบว่าต่อให้เอายาพิษมาหลอมพลังจิต ประสิทธิภาพที่ได้ก็แย่มากเช่นกัน มีเพียงแค่ต้องอยู่ในระดับล่างก่อนเท่านั้นถึงจะสามารถใช้การหลอมพลังจิตมาเพิ่มระดับคุณภาพให้สูงขึ้นได้

และความยึดติดที่เขามีต่อการหลอมยาถึงขั้นที่ว่าแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ตัว ว่าในนิสัยของเขาคล้ายจะมีโรคบีบบังคับตัวเองอย่างหนึ่งอยู่ หากไม่ถึงจุดที่พอใจ เขาจะกระวนกระวายไม่เป็นสุข

“สิ่งเจือปน ทำอย่างไรถึงจะกำจัดสิ่งเจือปนออกไปได้!” ป๋ายเสี่ยวฉุนตาแดงก่ำ จ้องเขม็งไปยังยาพิษปริมาณมากเบื้องหน้า ครุ่นคิดอย่างหนัก ใจอยากจะไปถามหลี่ชิงโหว แต่พอคิดขึ้นได้ว่าหลี่ชิงโหวเคยให้กำลังใจบอกให้ตนใคร่ครวญศึกษาด้วยตนเอง เขาจึงกัดฟัน ตกอยู่ในความบ้าคลั่งใหม่อีกครั้ง

เวลาผ่านไปทีละวัน หลายคนล้วนคิดว่าในที่สุดป๋ายเสี่ยวฉุนก็หยุดนิ่งได้เสียที ไม่มีเสียงดังกัมปนาท ไม่มีสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่ก่อเรื่องไปทั่วภูเขา ชีวิตที่สงบสุขเช่นนี้ หลายคนรู้สึกไม่ค่อยชินเสียด้วยซ้ำ

แต่ช่วงเวลาดีๆ อยู่ได้ไม่นาน…กลางดึกคืนหนึ่งของหนึ่งเดือนต่อมา ป๋ายเสี่ยวฉุนผมเผ้ายุ่งเหยิง นั่งอยู่ข้างเตาหลอมราวกับคนสติวิปลาส ทำมุทราควบคุมเปลวไฟอย่างต่อเนื่องขณะโยนพืชหญ้าเข้าไปในเตาหลอมตลอดเวลา ดวงตาทั้งคู่มีแต่เส้นเลือดฝอย

“สำเร็จแล้ว ใกล้จะสำเร็จแล้ว คราวนี้ข้าแก้ปัญหาทุกอย่างได้ ทั้งยังริเริ่มสิ่งใหม่ เพิ่มเถาพระเจ้าฟ้าร้อง และยังมีดอกล่อฟ้า ไม้แห้งชะฝน หญ้าหยินหยาง คิดค้นวิธีการชำระล้างสิ่งเจือปนด้วยรูปแบบพิเศษ ต้องสำเร็จอย่างแน่นอน นี่ก็คือวิชาที่ข้าป๋ายเสี่ยวฉุนสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยตัวเอง…มหาเวทสายฟ้าชะล้างโอสถ!” ขณะที่เขากำลังฮึกเหิมอยู่นั้น เตาหลอมที่อยู่เบื้องหน้าพลันสั่นไหว ชั่วพริบตานั้นกลิ่นหอมของยาพลันปรากฏออกมา แต่วินาทีที่กลิ่นของยากระจายไปนั้นเอง ทันใดนั้นบนท้องฟ้าเบื้องบนยอดเขาเซียงอวิ๋นที่เดิมทีแม้จะเป็นค่ำคืนมืดมิด แต่พระจันทร์ก็ลอยสูง ไม่มีเมฆปกคลุม

แต่พริบตานั้นเอง ชั้นเมฆหนาแน่นพลันปรากฏขึ้นมา สายฟ้าเส้นหนึ่งฟาดผ่าลงมาบนถ้ำของป๋ายเสี่ยวฉุนที่อยู่บนเขาเซียงอวิ๋นดังเปรี้ยง ทำให้ค่ายกลของถ้ำสั่นไหว และยังมีจำนวนไม่น้อยที่มุดลอดเข้าไปในถ้ำ ตกลงบนเตาหลอม

ตลอดทั้งถ้ำมีฟ้าแลบแปลบปลาบ ป๋ายเสี่ยวฉุนรีบหลบออกมาท่ามกลางเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่ง เมื่อฟ้าแลบรอบกายหายไปหมด เขาก็วิ่งกลับเข้ามาอยู่ข้างเตาหลอมด้วยความตื่นเต้น ยื่นหน้าเข้าไปมองทันที

เห็นแค่ว่าในเตาไม่มียาอยู่ เหลือเพียงแค่กากสีดำ ทั้งยังมีควันดำลอยกรุ่นขึ้นมาด้วย

“ใส่ดอกล่อฟ้าเยอะเกินไป!” ป๋ายเสี่ยวฉุนผมเผ้ายุ่งเหยิง ราวกับคนบ้าที่มุมานะศึกษาค้นคว้าคนหนึ่ง จับมัดผมตัวเองแรงๆ เล็กน้อย หยิบเอาพืชหญ้าออกมาอีกครั้งแล้วเริ่มปรับสูตร

เวลาเดียวกันนี้ลูกศิษย์จำนวนไม่น้อยของเขาเซียงอวิ๋นล้วนมองเห็นสายฟ้าเส้นนั้น แต่ละคนเบิกตากว้าง รับรู้ได้ว่าสถานที่ที่สายฟ้าผ่าลงไปก็คือถ้ำของป๋ายเสี่ยวฉุน

“ป๋ายเสี่ยวฉุนนี่…หรือว่าแม้แต่สวรรค์ก็ยังทนดูไม่ได้?

“ต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน สวรรค์มีตา ก็เลยส่งสายฟ้าลงมาผ่าเขาให้ตาย…”

ขณะที่ในใจของทุกคนมีความคิดมากมายลอยขึ้นมา หรือถึงขั้นมีคนไม่น้อยรู้สึกเป็นสุขในความทุกข์ของป๋ายเสี่ยวฉุน ผู้อาวุโสหลายคนของเขาเซียงอวิ๋นเองก็สังเกตเห็นสายฟ้าเส้นนี้เช่นกัน แต่ละคนพากันแปลกใจ

“ต่อให้ท่านผู้นำหลี่หลอมยาก็ยังไม่เคยชักนำให้เกิดฟ้าผ่า ในตำนานกล่าวว่ามีเพียงยาวิเศษระดับเจ็ดขึ้นไปเท่านั้นถึงจะเกิดปรากฏการณ์ฟ้าผ่าได้ ป๋ายเสี่ยวฉุนผู้นี้กำลังทำอะไรอยู่?”

ช่วงเที่ยงของสามวันต่อมา เสียงหัวเราะของป๋ายเสี่ยวฉุนดังก้องอยู่ในถ้ำของเขา เขาจ้องเตาหลอมเขม็ง มือทั้งสองข้างทำมุทราอย่างรวดเร็ว พลังวิญญาณแผ่ซ่าน เมื่อไฟใต้เตาระเบิดออก เขาตะโกนก้องหนึ่งครั้ง มือทั้งคู่ตบลงไปบนเตาอย่างแรง

“มหาเวทสายฟ้าชะล้างโอสถ!”

เตาหลอมสั่นสะเทือน พริบตาเดียวยอดเขาเซียงอวิ๋นพลันมีชั้นเมฆหนาแน่นมารวมตัวกัน สายฟ้าแลบเปรี้ยงปร้าง คำรามตรงไปยังถ้ำของป๋ายเสี่ยวฉุน

ครั้งนี้ลูกศิษย์จำนวนมากล้วนมองเห็นสายฟ้านี้ ทุกคนตะลึงงัน เมื่อเสียงฟ้าร้องดังก้องอยู่ข้างหู ถ้ำของป๋ายเสี่ยวฉุนก็สั่นไหว

ในถ้ำ ป๋ายเสี่ยวฉุนเดินมายังเตาหลอมด้วยความฮึกเหิม พอมองไปกลับเห็นว่าในเตายังคงไม่มีเม็ดยา มีเพียงกากยาเท่านั้น ควันดำลอยโขมงขึ้นมา เขาแค่สูดดมไปเล็กน้อยก็มึนศีรษะตาพร่าเลือน ถอยหลังไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว ทั้งในปากยังมีฟองขาวปรากฏออกมา

“ใส่เถาพระเจ้าฟ้าร้องมากเกินไป…” ป๋ายเสี่ยวฉุนพึมพำเสียงเบาแล้วล้มฟุบลงไป จนกระทั่งสามชั่วยามต่อมาถึงได้ฟื้นคืนสติ รีบไปล้างหน้าแล้วกลืนยาลงไปอีกบางส่วน จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพรวด หลอมยาต่อไป

วันต่อๆ มา ฟ้าแลบฟ้าผ่ายิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ หนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ลูกศิษย์ของเขาเซียงอวิ๋นมักจะเห็นสายฟ้าเส้นหนึ่งฟาดผ่าลงมายังถ้ำของป๋ายเสี่ยวฉุนเป็นประจำ ไม่นานทุกคนก็ล้วนเบิกตากว้างอ้าปากค้าง แม้แต่พวกผู้อาวุโสก็ยังให้ความสนใจอยู่หลายครั้ง ทุกคนล้วนตกตะลึง

พวกเขาสงสัยเป็นอย่างมาก…เป็นอย่างนี้ต่อไป ป๋ายเสี่ยวฉุนจะถูกฟ้าผ่าตายเข้าสักวัน

แต่ป๋ายเสี่ยวฉุนผู้กลัวตายดันตกอยู่ในสภาพคลุ้มคลั่งต่อการหลอมยา ถึงขั้นลืมความตายไปเสียแล้ว จมจ่อมอยู่ในวิถีแห่งโอสถ คอยแก้ไขตำรับยา ปรับเปลี่ยนสูตรอยู่ตลอดเวลา พยายามให้มหาเวทสายฟ้าชะล้างโอสถมีประสิทธิผล

“มหาเวทสายฟ้าชะล้างโอสถ!”

เปรี้ยง!

“แม่งเอ้ย มหาเวทสายฟ้าชะล้างโอสถ!”

เปรี้ยง!

ค่ายกลคุ้มกันของถ้ำป๋ายเสี่ยวฉุนไม่ได้ผลอีกต่อไป เสียงแหลมปรี๊ดของเขาดังลอยออกมาจากในถ้ำตลอดเวลา หลายคนพอได้ยินก็เล่าต่อๆ กันไป ทำให้แทบจะทุกคนล้วนรู้ว่าที่มีฟ้าผ่าก็เพราะป๋ายเสี่ยวฉุนคิดค้นวิธีบางอย่างในการชำระล้างสิ่งเจือปนในยา

ถึงขั้นที่ว่าผู้อาวุโสจำนวนไม่น้อยก็ยังรู้สึกสนใจ จับตามองป๋ายเสี่ยวฉุน ครั้งนี้แม้ว่าสายฟ้าจะโหมซัดสาด แต่กลับไม่มีคนเข้าขัดขวาง

แม้แต่หลี่ชิงโหวเองก็รู้สึกปลื้มใจกับความคิดสร้างสรรค์ของป๋ายเสี่ยวฉุน จึงให้ความสนใจบ้างเป็นบางครั้ง

เพียงแต่…เรื่องดีอยู่ได้ไม่นาน หลังจากป๋ายเสี่ยวฉุนจับคู่ปรุงสูตรอยู่หลายร้อยครั้งก็ยังคงไม่ได้สัดส่วนอย่างที่ต้องการ ดังนั้นจึงเริ่มเพิ่มพืชหญ้าอื่นๆ เข้าไป ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลจากพืชหญ้าประเภทไหน หลายวันต่อมา ช่วงสายัณห์ของวันหนึ่ง เสียงตวาดของป๋ายเสี่ยวฉุนดังออกมา สายฟ้าตลบอบอวลไปทั่วนภากาศในชั่วพริบตา ไม่ใช่แค่เส้นเดียวอย่างที่เคยเป็น แต่เป็นหลายสิบเส้นแลบแปลบปลาบแล้วฟาดผ่าลงมาทั้งหมด

ที่น่าแปลกก็คือสายฟ้าที่ผ่าลงมานี้ดันมีเส้นเดียวที่ผ่าลงมายังถ้ำของป๋ายเสี่ยวฉุน ที่เหลือล้วนกระจายกันฟาดลงไปยังเขตอื่นๆ ของเขาเซียงอวิ๋น

เปรี้ยงๆๆๆ!

สายฟ้าจำนวนมากโจมตีลงมา มีคนไม่น้อยเปล่งเสียงร้องโหยหวน เพียงครู่เดียว เขาเซียงอวิ๋นสะท้านสะเทือนกันอีกครั้ง ถ้ำของโจวซินฉีก็โดนผ่าเปรี้ยงเช่นกัน ยังดีที่ค่ายกลสกัดกั้นเอาไว้ได้จึงไม่เป็นอะไรมาก โจวซินฉีมองไปยังถ้ำของป๋ายเสี่ยวฉุนด้วยแววตาดุร้าย ฝืนข่มกลั้นความเกลียดแค้นนี้ลงไป

หลี่ชิงโหวและผู้อาวุโสของเขาเซียงอวิ๋นก็ต้องไปปลอบใจลูกศิษย์ของเขาเซียงอวิ๋น เพราะยังไงซะความยึดมั่นที่ป๋ายเสี่ยวฉุนมีต่อวิถีโอสถตอนนี้ทำให้พวกเขารู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก

เพียงแต่ว่า…ป๋ายเสี่ยวฉุนบ้าไปแล้ว หนึ่งชั่วยามต่อมา เมฆทะมึนแผ่นหนึ่งปกคลุม ครั้งนี้มีสายฟ้ามากเกือบร้อยเส้น ทั้งหมดฟาดตรงดิ่งมายังเขาเซียงอวิ๋น

ขณะที่เสียงกัมปนาทโหมกระหน่ำ ลูกศิษย์หลายคนมองท้องฟ้าด้วยความตะลึงพรึงเพริด รีบกลับเข้าไปยังที่พักของตัวเองไม่กล้าออกมา หลี่ชิงโหวและผู้อาวุโสเหล่านั้นก็อึ้งงันไปเช่นกัน

เห็นว่าสายฟ้าร่วมร้อยฟาดลง หลายเขตบนเขาเซียงอวิ๋นล้วนสั่นสะเทือนกันไปหมด บางทีอาจเป็นเพราะถ้ำของโจวซินฉีอยู่ใกล้ป๋ายเสี่ยวฉุนมากเกินไป ถึงได้มีสายฟ้าหกเจ็ดเส้นผ่าลงมาบนถ้ำของนาง ทำให้ถ้ำของโจวซินฉีสั่นไหวอย่างรุนแรง ค่ายกลบิดเบี้ยว

ยังไม่หมด ซึ่งก็คือระยะเวลาครึ่งก้านธูป คนจำนวนนับไม่ถ้วนเปล่งเสียงฮือฮาดุเดือด แต่ที่มากกว่านั้นคือเสียงร้องตกตะลึงด้วยความหวาดกลัว บนท้องฟ้าเวลานี้ชั้นเมฆยิ่งมีเยอะ ในกลุ่มเมฆที่แน่นขนัดมีสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนคำรามเปรี้ยงปร้างลงมา

ตรงดิ่งมายังเขาเซียงอวิ๋น ถ้ำแต่ละแห่งส่ายไหว หลายแห่งระเบิดออกโดยตรง ถ้ำของป๋ายเสี่ยวฉุนในเวลานี้ก็แทบจะพังทลายลงมา แต่ยังพอฝืนประคับประคองตัวไปได้

แต่…ถ้ำของโจวซินฉี เมื่อต้องถูกโจมตีจากสายฟ้าห้าสิบกว่าเส้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับโดนภัยพิบัติจากสวรรค์ ทำให้ถ้ำของโจวซินฉีปริแตกออกอย่างสมบูรณ์แบบ สุดท้ายก็ระเบิดและพังถล่ม

โจวซินฉีหน้าซีดเผือด หนีออกมาอย่างรวดเร็ว นางมองถ้ำของตัวเองที่แบนราบเป็นหน้ากลองด้วยความอึ้งตะลึง เปล่งเสียงกรีดร้องเศร้ากำสรด

“ป๋ายเสี่ยวฉุน!!”

และยังมีถ้ำของศิษย์ฝ่ายในบางส่วนที่ถูกฟ้าผ่าให้แตกกระจายออกเช่นเดียวกัน แต่ละคนหลังจากหนีออกมาได้ก็คำรามเสียงโกรธแค้นดังสะเทือนฟ้าดิน ขณะที่กำลังจะไปคิดบัญชีกับป๋ายเสี่ยวฉุนโดยไม่สนใจอะไรอีก…ทันใดนั้น เมฆทะมึนบนท้องฟ้าก็โหมซัดสาดอีกครั้ง ระดับความหนาแน่นของก้อนเมฆก่อเกิดเป็นความกดดันระลอกหนึ่งปกคลุมไปทั่วพื้นดิน ใจของโจวซินฉีสั่นเยือก ตะลึงพรึงเพริดหน้าถอดสี ลูกศิษย์คนอื่นที่จะมาหาเรื่องป๋ายเสี่ยวฉุน ทุกคนล้วนสูดหายใจเฮือก จิตใจหวั่นหวาด

แม้แต่ผู้นำของเขาจื่อติ่งและเขาชิงซานก็ยังสังเกตเห็นถึงสิ่งนี้ หลังจากเห็นชั้นเมฆแล้วก็เบิกตากว้างทันที และยังมีเจ้าสำนักเจิ้งหย่วนตงที่แค่มองจากไกลๆ หนังหัวก็พลันชาหนึบ

ในชั้นเมฆ ปรากฏสายฟ้านับพันเส้น!!

“นี่มัน…นี่มันทำให้เขาเซียงอวิ๋นดับสิ้นได้เลยนะ!!”

“ป๋ายเสี่ยวฉุน!!”

“สวรรค์ เขากำลังทำอะไร เขาทำได้ยังไง ถึงได้…ถึงได้มีสายฟ้ามากขนาดนี้!!”

“ศัตรูบุก! ศัตรูบุก!!” คนจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งในและนอกเขาเซียงอวิ๋นเปล่งเสียงร้องแตกตื่นอย่างหวาดผวา

โดยเฉพาะบนเขาเซียงอวิ๋น ลูกศิษย์เหลือคณานับล้วนตัวสั่นสะท้าน ฝ่ายนอกก็ดี ฝ่ายในก็ช่าง ยามนี้ทุกคนล้วนรู้สึกถึงวิกฤตความเป็นความตายอันรุนแรง

“มหาเวทสายฟ้าชะล้างโอสถ!” ป๋ายเสี่ยวฉุนลืมตัวไปนานแล้ว ไม่ได้สนใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบด้านนี้แม้แต่น้อย เวลานี้ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ มองเตาหลอมที่อยู่ข้างหน้า พลันแผดเสียงก้อง มือทั้งคู่ยกขึ้นตบลงไปบนเตาหลอม

เปรี้ยง!

———

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version