Skip to content

A Will Eternal 800

บทที่ 800 ศิษย์และอาจารย์กลับมาเจอกันอีกครั้ง

บุรพาจารย์ตระกูลเมี่ยวคำรามแหบโหยอย่างดุเดือด ร่างทั้งร่างเหมือนจะพังทลาย เขาแพ้แล้ว ที่แพ้ไม่ใช่แค่ชีวิตของตัวเอง ไม่ใช่แค่วิญญาณป๋ายฮ่าวเท่านั้น แต่ยังแพ้ทั้งด้านสติปัญญาและไหวพริบด้วย!

แพ้อย่างราบคาบ!!

“ฆ่า!” ป๋ายเสี่ยวฉุนเงยหน้าขึ้นด้วยนัยน์ตาเย็นเยียบ สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วสะบัดปลายแขนเสื้อเป็นวงกว้าง

ทันใดนั้นศพหุ่นเชิดที่อยู่รอบด้านและยังมีชายฉกรรจ์เกราะเงินก็ลงมืออย่างพร้อมเพรียงกัน ปราณดุร้ายซัดตลบให้ลมและเมฆปั่นป่วน พวกเขาถลาเข้าประหัตประหารรวดเร็วราวจะอาบย้อมนภากาศให้เป็นสีเลือด

ไม่ว่าจะเป็นบุรพาจารย์ตระกูลเมี่ยวหรือโจวอู่เต้า อย่าว่าแต่ศพหุ่นเชิดหลายพันนายที่ลงมือเลย ลำพังเพียงแค่ชายฉกรรจ์เกราะเงินก็สามารถทำให้พวกเขามอดม้วยได้

ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังมีวิญญาณป๋ายฮ่าวเป็นตัวประกัน พวกเขายังพอจะเอาชีวิตรอดได้อย่างกล้อมแกล้ม ทว่าเวลานี้กลับไร้กำลังให้ทัดทาน ท่ามกลางเสียงสบถด่าด้วยความบ้าคลั่งและเสียงร้องโหยหวนเจ็บปวด เสียงกัมปนาทก็ดังสะเทือนไปแปดทิศ ร่างของคนทั้งสองแตกทลายเป็นเสี่ยงๆ เลือดเนื้อปะปนกันพร่าเลือน พลังชีวิตก็ยิ่งถูกบดขยี้ให้เป็นเศษชิ้นส่วน ดับสลายทั้งกายและจิต!!

เรื่องนี้ยุติลงเพียงเท่านี้ แม้ตระกูลโจวจะยังดำรงอยู่ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับเหลือเพียงแค่ชื่อเท่านั้น!

เจดีย์พระยาสวรรค์แหลกลาญ พระยาสวรรค์สิ้นชีพ พระยาสวรรค์น้อยตายดับ ตลอดทั้งตระกูลโจว…ได้ถูกลบชื่อออกจากลำดับของพระยาสวรรค์อย่างสิ้นซากแล้ว!

ขณะเดียวกัน ตระกูลเมี่ยวที่เป็นตระกูลซึ่งเคยมีอาจารย์หลอมวิญญาณชั้นดินที่แข็งแกร่งที่สุดปรากฏตัว มาวันนี้ก็ได้สูญเสียเสาค้ำประคองตระกูลไปเช่นกัน!

ทว่าป๋ายเสี่ยวฉุนเองก็ไม่ได้ผิดคำพูด ในเมื่อเขาบอกว่าจะไม่ดับทำลายสายเลือดตระกูลเมี่ยว ถ้าเช่นนั้นเขาย่อมปล่อยคนตระกูลเมี่ยวพวกนี้ไป เพียงแต่ว่าบนร่างของคนเหล่านี้ล้วนถูกโจวอีซิงทิ้งตราประทับเอาไว้อย่างลับๆ ป๋ายเสี่ยวฉุนไม่ฆ่า ไม่ได้หมายความว่าเขาโจวอีซิงจะยอมปล่อยให้คนตระกูลเมี่ยวที่วันหน้าอาจกลายมาเป็นภัยคุกคามได้มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย หากพวกเขาไม่มีเจตนาชั่วร้ายก็ยังพอว่า แต่หากเกิดใจคิดร้ายขึ้นมา โจวอีซิงก็จะลงมือปลิดชีพคนผู้นั้นทันที

แต่ก็ไม่ใช่คนในตระกูลเมี่ยวทุกคนที่ถูกจัดการด้วยวิธีนี้ อย่างเมี่ยวหลินเอ๋อร์นั้นถูกป๋ายเสี่ยวฉุนโยนเข้าไปขังในคุกใหญ่ ต่อให้เมี่ยวหลินเอ๋อร์จะหน้าตาสวยงามรูปร่างเย้ายวนใจมากพอจะทำให้ใจชายเกิดความคิดหยาบช้ากับนางได้แค่ไหน

แต่ป๋ายเสี่ยวฉุนกลับยังคงไร้ปราณีไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น

และเรื่องนี้ก็ครึกโครมไปทั่วทั้งนครจักรพรรดิขุยในวันเดียวกันนั้นเอง แทบไม่มีใครที่ไม่รู้เรื่องนี้ พระยาสวรรค์ทุกคนต่างก็ทั้งตะลึงทั้งแปลกใจ พากันหน้าเปลี่ยนสีไปหมด

ต้องรู้ว่าก่อนหน้านี้ต่อให้ระหว่างพวกเขากับป๋ายเสี่ยวฉุนจะเอาชนะคะคานกันขนาดไหน แต่สุดท้ายก็ยังไม่ถึงขั้นมีคนตายอย่างนี้ ทว่าตอนนี้…พระยาสวรรค์ท่านหนึ่ง รวมถึงผู้สืบทอดของเขา กลับถูกฆ่าตายไปแล้ว!!

แม้แต่เจดีย์พระยาสวรรค์ก็ยังพังทลาย ทั้งหมดนี้ทำให้พวกเขาที่พอได้ยินข่าวต่างก็สำลักลมหายใจด้วยความตะลึงพรึงเพริด ความคิดแรกที่เกิดขึ้นก็คือนี่ต้องเป็นความต้องการของต้าเทียนซือแน่นอน

แต่ไม่นานเมื่อเจ้าพระยาสวรรค์ล้วนเกรี้ยวกราด เมื่อต้าเทียนซือเองก็แสดงความเดือดดาลออกมาจากในวังหลวง พระยาสวรรค์ทุกคนก็ล้วนกระจ่างแจ้งโดยพลันว่า ทุกอย่างนี้…เป็นการกระทำโดยพลการของผู้ตรวจการเอง!!

“เจ้าป๋ายฮ่าวผู้นั้นบ้าไปแล้ว เขาถึงขนาดฆ่าคนเองตามอำเภอใจ!!”

“ไม่ได้รับคำอนุญาตจากต้าเทียนซือ เขากลับกล้าฆ่าพระยาสวรรค์!!”

“ไม่กลัวกฎหมาย ไม่อายฟ้าดิน!!”

“คนผู้นี้จะปล่อยเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว อำนาจของผู้ตรวจการยิ่งใหญ่เกินไป วันนี้เขาบ้าคลั่งฆ่าโจวอู่เต้า พรุ่งนี้เขาก็มาฆ่าพวกเราได้!!”

“เจ้าป๋ายฮ่าวผู้นี้เขาคิดจะก่อกบฏ ที่นี่คือนครจักรพรรดิขุยนะ หรือเขาคิดจะกลายมาเป็นต้าเทียนซือคนที่สอง!!” พระยาสวรรค์ทุกคนล้วนโกรธเกรี้ยว พอบวกรวมกับแค้นเก่าก่อนหน้านี้ ยิ่งโองการประทานคุณแด่ประชาที่ทำให้ชนชั้นสูงทั้งหมดตกอยู่ในสภาพจนตรอก พวกเขาจึงยิ่งเกลียดป๋ายเสี่ยวฉุนเข้ากระดูกดำ

ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาที่กำลังแค้นเคืองและกริ่งเกรงก็คว้าข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของป๋ายเสี่ยวฉุนไว้ในกำมือได้แล้ว แล้วมีหรือที่พวกเขาจะยอมเลิกราง่ายๆ แทบจะเวลาเดียวกันนั้น พระยาสวรรค์ทุกคนจึงระดมกำลังบินทะยานไปยังพระราชวัง!

“ครั้งนี้เขาต้องตายอย่างมิต้องสงสัย!”

“ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าป๋ายฮ่าวผู้นี้จะหนีพ้นไปจากความตายได้ยังไง!!”

“ต่อให้เขามีสามเศียรหกกร คราวนี้เขาก็ต้องตายโดยไร้ที่ฝังกระดูกแน่นอน!”

“ใครก็ช่วยเขาไม่ได้! สิทธิ์และอำนาจทั้งหมดของผู้ตรวจการอย่างเขาล้วนมาจากต้าเทียนซือ และวันนี้…เขาก็มิอาจหนีเคราะห์ครั้งนี้ไปได้!”

ไม่เพียงแต่พระยาสวรรค์เท่านั้น แม้แต่สิบเจ้าพระยาสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังเดินออกมาจากเจดีย์เจ้าพระยาสวรรค์ของตัวเองแล้วก้าวเดินไปทางวังหลวง เฉินฮ่าวซงคือผู้นำที่ทะยานตัวไปเป็นคนแรก ใบหน้าเขาประดับไปด้วยรอยยิ้มหยัน เพราะเขาเข้าใจดีว่าครั้งนี้…ต่อให้เป็นต้าเทียนซือก็มิอาจปกป้องป๋ายฮ่าวได้!

ครั้งนี้ป๋ายฮ่าวทำผิดมหันต์อย่างแท้จริง เขาได้ข้ามเส้นบรรทัดฐานที่ราชสำนักจักรพรรดิขุยจะรับได้ไปแล้ว!!

ชนชั้นสูงทั้งราชสำนักจักรพรรดิขุยต่างก็พากันระดมพล หรือแม้แต่ชาวบ้านที่พอได้ยินเรื่องนี้ก็ยังพากันเงียบงัน หลายคนถึงกับสำลักลมหายใจ เพราะระดับความรุนแรงของเรื่องนี้ได้เหนือการคาดการณ์ของทุกคนไปแล้ว

และสำหรับเรื่องที่ป๋ายเสี่ยวฉุนสังหารพระยาสวรรค์ตามอำเภอใจก็ครึกโครมไปทั่วทั้งแดนทุรกันดารในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นกัน

หลังจากที่ได้รับรู้ข่าวนี้ ราชาผียักษ์ก็กริ้วโกรธอย่างหนัก เขาที่อยู่ในตำหนักราชาคิดจะหยิบแผ่นหยกมาส่งข้อความเสียงหาป๋ายเสี่ยวฉุนอยู่หลายครั้ง แต่ก็ต้องวางลงเสียทุกครั้ง และพอถึงท้ายที่สุดเขาก็ถึงกับกระทืบเท้าแรงๆ ด้วยความขัดใจ ทำให้ตลอดทั้งตำหนักราชาสั่นคลอน

“โง่เขลายิ่งนัก!!”

ในนครเก้านรกภูมิ ราชาเก้านรกภูมิถือแผ่นหยกไว้ในมือ หัวคิ้วขมวดมุ่น เขาไม่ได้สนใจความตายของบุรพาจารย์ตระกูลเมี่ยวและโจวอู่เต้า สำหรับเขาแล้ว วันนั้นที่ลงมือก็เพราะได้รับผลประโยชน์ที่มากพอ แน่นอนว่าไม่ว่าป๋ายเสี่ยวฉุนที่เขาเกลียดขี้หน้านี้จะเป็นหรือตาย อีกฝ่ายก็เหมือนแค่มดตัวหนึ่งในสายตาของเขาเท่านั้น

แต่ที่เขาสนใจก็คือการพังทลายของเจดีย์พระยาสวรรค์

“ผิดปกติแหะ…” ขณะที่ราชาเก้านรกภูมิกำลังรู้สึกแปลกใจ โจวหงผู้สืบทอดแห่งนครเก้านรกภูมิที่พอได้ยินเรื่องนี้ก็ปิติยินดีอย่างบ้าคลั่ง หัวเราะร่าเสียงดัง

“ป๋ายฮ่าวเอ๋ยป๋ายฮ่าว ข้าอยากจะรู้นักว่าคราวนี้เจ้าจะพลิกร้ายให้กลายเป็นดีได้อย่างไร!”

ในสายตาของทุกคน เรื่องนี้ล้วนมิอาจแก้ไขได้ นี่คือทางตันที่มีแต่ตายกับตายเท่านั้น!

ในขณะที่ตลอดทั้งแดนทุรกันดารครึกโครมไปกับเรื่องนี้ ป๋ายเสี่ยวฉุนก็ได้กลับมาถึงจวนตรวจการของตัวเองแล้ว อันที่จริงหลังจากกลับออกมาจากตระกูลโจว เขาก็ไม่ได้ไปที่ไหนทั้งนั้น แต่อยู่ในจวนตรวจการของตัวเองมาโดยตลอด

เขาโยนป้ายคำสั่งผู้ตรวจการไว้ข้างกายโดยไม่แม้แต่จะชายตามอง โจวอีซิงก็ถูกเขาไล่กลับไป ให้อีกฝ่ายไปหลบภัยที่อื่นก่อน ส่วนพวกชายฉกรรจ์ศพหุ่นเชิดเวลานี้ก็ยืนนิ่งอยู่ในจวนตรวจการ

เรื่องพวกนี้ป๋ายเสี่ยวฉุนไม่สนใจ ตอนนี้เขานั่งอยู่ตรงนั้น มองนิ่งไปยังสถูปวิญญาณที่อยู่ในมือ ในสถูปวิญญาณ วิญญาณของป๋ายฮ่าวที่พอพักฟื้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็เริ่มมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาบ้าง เขาจึงลืมตาทั้งคู่ขึ้นช้าๆ

ชั่วขณะที่ดวงตาทั้งคู่ของเขาลืมขึ้นมานั้น เขาก็มองเห็นอาจารย์ผู้มีใบหน้าเหนื่อยล้าซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าตนเอง

“ตื่นสักที เจ้านี่นะ คราวหน้าต้องระวังตัวให้มากหน่อย มาๆๆ อาจารย์จะเล่าให้เจ้าฟังเองว่าหนึ่งเดือนมานี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง หึหึ เจ้าไม่รู้อะไร หนึ่งเดือนมานี้อาจารย์ร้ายกาจนักล่ะ ไม่มีใครกล้ามาแหยมด้วย ขนาดคนฟ้าข้าก็ยังกล้าชี้หน้าด่ามาแล้ว!” ป๋ายเสี่ยวฉุนที่พอเห็นป๋ายฮ่าวฟื้นตื่นก็ถึงได้พรูลมหายใจออกมายาวๆ ก่อนที่เขาจะเริ่มเล่าเรื่องอย่างคึกคักด้วยสีหน้าเบิกบานเป็นกระด้ง ราวกับได้หวนกลับไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อนนี้ กลับไปยังช่วงเวลาที่ป๋ายฮ่าวอยู่ข้างกายตนเอง ช่วงเวลาที่คนทั้งสองใช้ชีวิตพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

ปากของเขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดหนึ่งเดือนอย่างออกรส ทั้งหมดทั้งมวลนี้พอดังเข้าไปยังจิตวิญญาณของป๋ายฮ่าวก็ถึงกับทำให้ดวงตาของป๋ายฮ่าวพร่ามัว

“อาจารย์…” ป๋ายฮ่าวที่ฟังเรื่องเล่าจากป๋ายเสี่ยวฉุนก็เริ่มตัวสั่น เมื่อเขาได้ยินว่าอาจารย์ถึงกับกระตุ้นใช้โองการประทานคุณแด่ประชาเพื่อตน รวมไปถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ความซาบซึ้งใจและความอบอุ่นที่รุนแรงยิ่งกว่าก่อนหน้านี้หลายต่อหลายเท่าพลันทำให้วิญญาณป๋ายฮ่าวบินออกมาจากสถูปวิญญาณแล้วมาคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าป๋ายเสี่ยวฉุน

“ข้านึกว่าข้าจะไม่มีวันได้เจออาจารย์อีกแล้ว…” อารมณ์ของป๋ายฮ่าวกระเพื่อมไหวรุนแรงจนมิอาจหาคำใดมาบรรยายความรู้สึกของเขาในยามนี้ได้ เขารู้สึกว่าการที่ตัวเองรักษาความลับของอาจารย์ไว้อย่างแน่นหนาแม้จะถูกทารุณกรรมให้ได้รับความเจ็บปวดตลอดหนึ่งเดือนที่โดนจับตัวไปนี้ ทุกอย่างที่เขาทุ่มเทไปล้วนคุ้มค่ายิ่งนัก!

เพราะคนที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุดก็คืออาจารย์ของตน!

สำหรับป๋ายฮ่าวแล้วหนึ่งเดือนมานี้คือความมืดมิดไร้ที่สิ้นสุด ความเจ็บปวดที่ได้รับมิอาจหาคำใดมาพรรณนา ทุกวันเขาจะต้องถูกบุรพาจารย์ตระกูลเมี่ยวใช้ไฟวิญญาณเผาร่างเพื่อชุบหลอมตัวเขา นอกจากนี้ยังเจอกับความทรมานจากการค้นวิญญาณ และการหลอมไฟของตระกูลเมี่ยวนั้น ช่วงแรกเริ่มจำเป็นต้องใช้วิธีการทารุณหลากหลายรูปแบบเช่นการค้นวิญญาณมาทำให้วิญญาณที่มีสติปัญญายอมแพ้เสียก่อน ถึงจะทำให้การหลอมไฟในช่วงหลังราบรื่น เพียงเท่านี้ก็พอจะนึกภาพความเจ็บปวดที่ป๋ายฮ่าวได้รับตลอดหนึ่งเดือนมานี้ได้!

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังถึงขั้นคิดอยากจะตายไปให้พ้นๆ แต่เพราะในใจมีความยึดมั่น เขาไม่ยอมที่จะแหลกสลายไปทั้งอย่างนี้ เขายังต้องสร้างตำรับหลอมไฟสิบเก้าสีให้กับอาจารย์ เขายังไม่ได้เห็นอาจารย์หลอมไฟสิบแปดสีสำเร็จ ความฝันที่เขาเคยสาบานกับตัวเองในใจว่าต้องให้อาจารย์กลายเป็นอาจารย์หลอมวิญญาณชั้นฟ้ายังไม่เป็นจริง

เขาจะตายไม่ได้ เขาไม่อยากตาย หากวันหนึ่งเขาต้องตายไปจริงๆ ถ้าอย่างนั้นเขาก็ต้องช่วยให้อาจารย์ทำเรื่องทั้งหมดนี้ให้เสร็จก่อนถึงจะตายตาหลับ

แต่วันนี้เขายังมีเรื่องมากมายให้ต้องทำ เขายิ่งเป็นกังวลว่าหากไม่มีตนดูแลอยู่ข้างกาย ด้วยนิสัยของอาจารย์ เกรงว่าคงชักนำเรื่องอันตรายนับไม่ถ้วนมาสู่ตัว เขาต้องคอยเตือนอาจารย์ เขาต้องคอยช่วยอาจารย์คลี่คลายปัญหาทุกอย่างเท่าที่เขาสามารถทำได้!

นี่คือความยึดมั่นถือมั่นของเขา และก็ด้วยความยึดมั่นนี้ที่ประคับประคองให้เขายืนหยัดมาได้ตลอดหนึ่งเดือน เขาไม่รู้ว่าสุดท้ายตัวเองจะยืนหยัดได้นานแค่ไหน จนกระทั่งครั้งหนึ่งที่หลังจากหมดสติไปแล้วลืมตามาเห็น…อาจารย์ของเขา

“ฮ่าๆ ซาบซึ้งใจล่ะสิ ตอนนั้นอาจารย์ก็เคยบอกเจ้าแล้วว่ากราบข้าเป็นอาจารย์ เจ้าไม่เสียเปรียบแน่นอน…” ป๋ายเสี่ยวฉุนเห็นท่าทางเช่นนี้ของป๋ายฮ่าวก็รู้สึกว่าตนช่างเป็นอาจารย์ที่ทำให้คนวางใจและเชื่อถือได้ดีจริงๆ นี่จึงทำให้เขาลำพองใจอย่างยิ่ง ทั้งยังขยับเข้าไปลูบหัวป๋ายฮ่าวเบาๆ

“บุญคุณที่อาจารย์ให้ชีวิตใหม่แก่ข้า บุญคุณที่อาจารย์ช่วยชีวิตข้า ศิษย์…ไม่มีทางลืมไปชั่วชีวิต!!!” ป๋ายฮ่าวเหม่อมองป๋ายเสี่ยวฉุน ก่อนจะก้มตัวลงกราบคำนับอย่างจริงจัง

ไม่ต่างจากปีนั้นที่อยู่ในถ้ำ เมื่อครั้งที่เขาฟื้นคืนสติปัญญาจากการเป็นเพียงวิญญาณพยาบาทแล้วมองเห็นแผ่นหลังของป๋ายเสี่ยวฉุน เมื่อครั้งที่เขากราบไหว้อีกฝ่ายเป็นอาจารย์…ด้วยความซื่อสัตย์จริงใจ ไร้ซึ่งความเสียดายและเสียใจ!

“เจ้าคือลูกศิษย์ของข้า ใครกล้าแตะต้องเจ้าก็เท่ากับตบหน้าข้า อย่าว่าแต่กระตุ้นใช้โองการประทานคุณแด่ประชาเลย หากวิธีการนี้ยังหาเจ้าไม่เจอ ต่อให้ถึงขั้นต้องชักนำคนแผ่นดินทงเทียนมาเยือน ข้าก็ต้องช่วยเจ้าให้ได้!” ป๋ายเสี่ยวฉุนเชิดคาง สะบัดปลายแขนเสื้อเบาๆ เขาในเวลานี้ไม่มีความกดดันและความเย็นชาอย่างในหนึ่งเดือนที่ผ่านมาอีกแล้ว จึงพูดด้วยท่าทางโอ้อวดลำพองตนตามนิสัยเดิมของตัวเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version