บทที่ 16 ศิลาวิญญาณชั้นยอด
ดวงจันทร์สุกสว่างลอยเด่นอยู่บนฟ้า พระจันทร์ในยุคกำเนิดวิญญาณเป็นดวงเดิมที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี ไม่เหมือนดวงอาทิตย์ที่บัดนี้มีกระบี่เสียบกลางอยู่ แสงจันทร์อ่อนทอระเรื่อไปทั่วเกาะมหาปราชญ์ชั้นรอง
แม้ยอดเขาสาขาอาวุธเวทจะไม่ได้มีปริมาณพลังปราณหนาแน่นที่สุด ในบรรดายอดเขาประจำสาขาของเกาะชั้นรองแห่งสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด แต่ก็ถือว่ามีพลังปราณอยู่เป็นอันดับต้นๆ
อย่างไรเสีย สานุศิษย์ของสาขาอาวุธเวทก็ต้องมาหลอมศิลาวิญญาณกันที่ ยอดเขาแห่งนี้เป็นประจำทุกวัน ก่อให้เกิดการใช้พลังปราณเป็นปริมาณมหาศาล
ปริมาณพลังปราณอันแทบไร้ขีดจำกัดและเคล็ดวิชาหลอมศิลาวิญญาณประจำสาขา หาใช่เพียงผลประโยชน์อันหลักลอยสำหรับศิษย์สาขาอาวุธเวท ต่างจากศิษย์สาขาวิชาอื่น ศิษย์สาขานี้ต้องส่งศิลาวิญญาณให้ครบจำนวนที่กำหนดเป็นการวัดผลปลายปี และจำนวนที่กำหนดก็ไม่น้อยเลยทีเดียว
แม้การเข้าเรียนที่โถงหลักทั้งสามโถงของสาขาอาวุธเวทจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทุกสิ่งอย่างนอกเหนือไปจากนั้น ไล่ตั้งแต่การรับประทานอาหารไปจนถึงการฝึกวิชาที่ห้องฝึกตน ล้วนแต่ต้องจ่ายเป็นศิลาวิญญาณทั้งสิ้น นี่เป็นกุศโลบายให้ศิษย์สาขานี้หมั่นฝึกฝนการหลอมศิลาวิญญาณอยู่ร่ำไป
สาขาหลอมโอสถเองก็มีวิธีคล้ายแบบนี้เช่นกัน แม้จะไม่โหดเท่า ส่วนสาขาอื่นกลับมีวิธีการหารายรับที่ง่ายกว่านั้น เช่น ห้องฝึกที่มีไว้สำหรับศิษย์สาขานั้นๆ ก็เปิดให้ผู้เรียนสาขาอื่นเข้าใช้ได้ด้วย แต่ต้องจ่ายค่าเข้าในราคาแพงหูฉี่
ยกตัวอย่างเช่น ภูเขาทะเลเมฆแห่งสาขาฝึกอสูร ลายแทงแปดขุมทรัพย์แห่งสาขาอักษรปราณ หอเยือกเหมันต์แห่งสาขากับดัก และห้องหินละลายแห่งสาขาการยุทธ์ ถือเป็นสถานที่ชั้นยอดที่ช่วยให้ผู้ฝึกตนบรรลุจากขั้นปราณโลหิตไปเป็นขั้นผนึกกายาได้ง่ายขึ้น ทุกวันจะมีสานุศิษย์จากสาขาอื่นมุ่งหน้ามายังสถานที่เหล่านี้เพื่อฝึกตน เพียงเท่านี้แต่ละสาขาก็มีรายรับมากพอชำระค่าใช้จ่ายประจำวันแล้ว
ณ ห้วงเวลานั้น บนยอดเขาสาขาวิชาอาวุธเวท กระแสปราณอันไร้ลักษณ์ไหลเอื่อยก่อนแยกไปเป็นสายธารขนาดย่อมหลายพันสาย ไหลไปสู่ศิษย์สาขาอาวุธเวทมากมายที่กำลังฝึกปรือกันอยู่ ในถ้ำลับสำหรับศิษย์คัดเลือกพิเศษที่จุดใกล้ยอดเขา กระแสปราณกลับไหลบ่าเข้าไปในบริเวณนั้นมากผิดปกติ
ภายในถ้ำที่พัก หวังเป่าเล่อกำลังดีใจเนื้อเต้น เขาใช้เคล็ดวิชากลืนปราณมหาสูญดูดเอาพลังปราณจำนวนมากเข้าไปในร่าง ก่อนจะส่งพลังปราณนั้นไปที่ท่อนแขน เพื่อหลอมออกมาเป็นก้อน ทันทีที่เขาเห็นศิลาวิญญาณควบแน่นขึ้นบนฝ่ามือ อย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย
ข้าทำสำเร็จแล้ว! ฮ่าๆ ข้าก้าวข้ามขีดจำกัดได้แล้ว! หวังเป่าเล่อที่กำลังตื่นเต้นดีใจ รู้สึกได้ว่าศิลาในมือกำลังพุ่งผ่านตัวเลขร้อยละ 75 อย่างรวดเร็ว เมื่อความบริสุทธิ์ ขึ้นไปแตะเลข 76 เขาก็แทบกลั้นความดีใจเอาไว้ไม่อยู่ หวังเป่าเล่อหยิบถุงขนมออกมาอย่างสุขใจหลังจากที่ผลิตศิลาวิญญาณได้หนึ่งก้อน ชายหนุ่มเริ่มเคี้ยว หนึบหนับ
ข้าต้องฝึกให้หนักกว่านี้เพื่อผ่านเลข 80 ไปให้โดยเร็วที่สุด!
หวังเป่าเล่อเช็ดปากหลังจากที่กินขนมหมดสองสามถุงก่อนจะเริ่มผลิตศิลาก้อนใหม่ในทันที แต่จู่ๆ เขาก็รู้สึกระวังตัวขึ้นมา
ข้าต้องรอบคอบให้มากกว่านี้ จะให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยไม่ได้ ถ้าไม่ควบคุมตนเองให้ดี ข้าอาจจะกลับไปอ้วนเป็นหมูตอนอีก หวังเป่าเล่อพยักหน้าเห็นด้วย กับตนเอง เนื่องจากประสบการณ์ลดน้ำหนักล่าสุดของเขานั้นช่างแสนเจ็บปวดทรมาน แม้ว่ามันจะทำให้เขาบรรลุพลังขั้นปราณโลหิต เขาก็ไม่อยากให้ประสบการณ์เลวร้ายนั้นเกิดขึ้นอีก
เส้นทางการลดน้ำหนักนี่ช่างยากลำบากและยาวไกลยิ่งนัก มีแต่คนที่มุ่งมั่นระดับข้าเท่านั้นแหละที่จะทำสำเร็จ หวังเป่าเล่อถอนหายใจพลางให้กำลังใจตนเอง เขาดีใจมากที่รู้สึกตัวเสียก่อน หลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ชายหนุ่มก็ตัดสินใจได้ว่าตนเองต้องการกำลังใจจึงหยิบขนมหนึ่งถุงขึ้นมาแกะ หลังจากกินจนหมดเขาก็ตบพุงตัวเองก่อนจะเริ่มเดินหน้าผลิตศิลาวิญญาณต่อไป
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโชคช่วยหรือเพราะโอสถปัดเป่านั้นสรรพคุณดีเหลือ ศิลาวิญญาณที่หวังเป่าเล่อหลอมออกมาในวันต่อจากนั้นกลับพัฒนาคุณภาพขึ้นเรื่อยๆ และร่างกายของเขาก็ไม่ได้เริ่มสะสมไขมันอีก
พลังปราณไม่ได้ตกค้างอยู่ในร่างกายเขาจนกลายเป็นไขมันวิญญาณอีกแล้ว หลังจากที่กำจัดสายมลทินจำนวนมากออกไปจากกาย ร่างของหวังเป่าเล่อก็ปรับตัวตามความเร็วของกระแสปราณที่ไหลเวียนเข้าออก สายปราณที่ไหลต่อเนื่องราบรื่น ทำให้ศิลาวิญญาณมีคุณภาพดีขึ้น และยังเพิ่มความแข็งแกร่งให้ร่างกายของ หวังเป่าเล่อไปในเวลาเดียวกัน ขั้นปราณโลหิตของเขาพัฒนาขึ้นมาก
นี่ยิ่งทำให้หวังเป่าเล่ออิ่มเอมใจเข้าไปอีก เมื่อเขารู้สึกว่าตนเองยังหุ่นดีเหมือนเดิมแถมยังหลอมศิลาวิญญาณความบริสุทธิ์ร้อยละ 80 ออกมาได้ เขาก็เริ่มลดความระมัดระวังลงและทุ่มเทพลังกายพลังใจทั้งหมดลงไปกับการฝึกปรือ
เวลาผ่านไปดั่งสายน้ำไหลเอื่อย
จั่วอี้ฟานที่โดนซ้อมเสียน่วมจนร่างกายเจ็บปวด กำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในถ้ำ ที่พักที่สาขาการยุทธ์ ชายหนุ่มรู้สึกมืดแปดด้าน ด้วยความที่ไม่ได้อยู่สาขาเดียวกับ หวังเป่าเล่อจึงทำให้กลเม็ดการล้างแค้นมากมายใช้ไม่ได้ผล
หวังเป่าเล่อ! จั่วอี้ฟานเดือดดาลถึงที่สุด เขาคิดสะระตะอยู่นานก่อนจะนึกได้ว่าตนเองมีเพื่อนอยู่ที่สาขาอาวุธเวทเหมือนกัน หัวหน้าศิษย์แห่งโถงศิลาวิญญาณ นามว่า เจี่ยงหลินผู้นั้นอย่างไรล่ะ แม้เขาสองคนจะไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันมากเป็นพิเศษ แต่ก็มากพอที่จะขอความช่วยเหลือได้ จั่วอี้ฟานหยิบแหวนสื่อสารขึ้นมาทันที หลังจากพูดคุยกับปลายสายเรียบร้อยชายหนุ่มก็ฉีกยิ้มออกมา
หวังเป่าเล่อ ต่อให้ข้าอยู่คนละสาขากับเจ้า ข้าก็ยังจัดการเจ้าได้!
เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า จนในที่สุดก็หมุนเวียนมาครบสองเดือน
ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ศิลาวิญญาณของหวังเป่าเล่อพัฒนาคุณภาพขึ้นเรื่อยๆ จนขึ้นไปแตะเลข 84 ในที่สุด พลังปราณโลหิตของเขาก็อยู่ในขั้นสมบูรณ์แบบ
หากข่าวนี้ล่วงรู้ไปถึงสาขาการยุทธ์ เหล่าสานุศิษย์คงพากันเสียสติไปเลยทีเดียว เพราะการพัฒนาขั้นปราณของหวังเป่าเล่อนั้นเร็วกว่าบรรดาศิษย์สาขาการยุทธ์ ที่ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกตนโบราณเสียอีก
ฮ่าๆ ดูเหมือนเจ้าโอสถปัดเป่านี่จะกำจัดข้อด้อยของวิชากลืนปราณมหาสูญไปเสียหมดสิ้น! หวังเป่าเล่อเริ่มเชื่อแล้วว่าโอสถปัดเป่าที่เขาซื้อมาในราคาแพงจับใจนั้นคุ้มค่าศิลาทุกก้อนที่เสียไป
คะเนดูแล้วข้าคงขึ้นไปแตะเลข 85 ได้อย่างแน่นอน ต้องเดินหน้าไปให้ถึง เลข 90 โดยเร็ว ข้าจะต้องเป็นหัวหน้าศิษย์และมุ่งหน้าสู่จุดสูงสุดในชีวิตข้า! แค่คิดหวังเป่าเล่อก็ดีใจจนเนื้อเต้น เขาเริ่มเดินหน้าตามแผนการที่จะหลอมศิลาวิญญาณให้ความบริสุทธิ์สูงกว่าร้อยละ 85 ชายหนุ่มดูดพลังปราณโดยรอบและทำให้พลังนั้น จับตัวเป็นก้อนในฝ่ามือ
ตั้งแต่เริ่มเปิดภาคเรียนมา หวังเป่าเล่อที่มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับวิชากลืนปราณมหาสูญ แทบไม่ได้เข้าเรียนที่โถงศิลาวิญญาณเลยด้วยซ้ำ เขาจึงไม่รู้ว่าโดยปกติแล้ว การหลอมศิลาวิญญาณจะมีจุดคอขวดธรรมชาติอยู่ที่ร้อยละ 85!
หากจะให้แจกแจงให้ละเอียดขึ้น แม้ว่าศิลาวิญญาณความบริสุทธิ์ต่ำกว่าร้อยละ 50 นั้นจะนับว่าใช้การได้ คุณภาพระดับนั้นก็ถือเป็นแค่ศิลาวิญญาณระดับพื้นๆ เท่านั้น
เมื่อความบริสุทธิ์แตะเลข 50 จึงจัดอันดับได้ว่าเป็นศิลาวิญญาณชั้นด้อย ส่วนศิลาวิญญาณชั้นกลางนั้นจะต้องมีความบริสุทธิ์มากกว่าร้อยละ 75 ขึ้นไป
เส้นแบ่งระหว่างศิลาวิญญาณชั้นกลางและชั้นยอดนั้นคือเลข 85!
ศิลาที่มีความบริสุทธิ์มากกว่าร้อยละ 85 คือศิลาวิญญาณชั้นยอด และเมื่อความบริสุทธิ์นั้นพุ่งเกินร้อยละ 95 จึงจะถือเป็นศิลาวิญญาณขั้นสูงสุด มีแต่ระดับปรมาจารย์เท่านั้นที่จะหลอมศิลาวิญญาณบริสุทธิ์ยิ่งยวดแบบนั้นออกมาได้
สำหรับจุดคอขวดนี้นั้น…ผู้ฝึกวิชาค้ำจุนปราณจะต้องมีประสบการณ์และความสามารถเพียงพอเท่านั้น จึงจะบรรลุไปได้ กระนั้นวิชากลืนปราณมหาสูญที่ได้ผลชะงัดกว่า กลับช่วยเผยอุปสรรคนี้ให้หวังเป่าเล่อรับรู้ได้ทันที เมื่อระดับความบริสุทธิ์แตะถึงจุดคอขวดดังกล่าว
เมื่อศิลาวิญญาณที่หวังเป่าเล่อกำลังหลอมแตะเลข 84 และกำลังจะเขยิบขึ้นไปแตะเลข 85 ร่างของเขาก็พลันสั่นเทา แรงดูดมวลมหาศาลอย่างไม่เคยมีมาก่อนระเบิดออกมาจากเมล็ดหลุมดำแห่งการดูดกลืนที่กำลังหมุนวนช้าๆ!
ความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันนี้เกินกว่าที่หวังเป่าเล่อจะรับมือหรือจินตนาการได้ถึง พลังปราณในถ้ำที่เขาอยู่ถูกดูดจนแห้งเกือบหมด!
แรงดูดนี้ก่อให้เกิดหลุมดำธรรมชาติ ราวกับว่ามีหลุมใหญ่อุบัติขึ้นในทะเลพลังปราณ ปราณปริมาณมหาศาลสั่นระริกขณะก่อเป็นคลื่นยักษ์ที่ถาโถม โชคดีที่ยอดเขา สาขาอาวุธเวทนั้นมีวงแหวนปราณคอยช่วยรักษาสมดุลของกระแสปราณโดยรอบ
พลังดูดของหวังเป่าเล่อนั้นรวดเร็วมาก และปริมาณปราณที่ถูกดูดเข้าไป ก็มหาศาล แต่ถ้าเทียบกับทะเลปราณทั้งหมดที่ไหลเวียนอยู่บนยอดเขานั้น ก็เปรียบเสมือนหินก้อนเล็กในมหาสมุทรกว้างใหญ่ ศิษย์ผู้อื่นมิได้รู้สึกถึงเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด
อย่างมากพวกเขาก็อาจรับรู้ได้ว่ากระแสปราณนั้นหยุดไหลไปชั่วครู่เท่านั้น
แต่สำหรับหวังเป่าเล่อ แรงดูดที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน และปราณปริมาณมหาศาลที่ไหลบ่าเข้าร่างเขาราวกับฤดูน้ำหลาก ทำให้เขาแทบล้มทั้งยืน เขาไม่สามารถผลักพลังปราณทั้งหมดจากร่างกายไปยังฝ่ามือได้ทันท่วงที จึงทำให้พลังเหล่านั้น สะสมกลายเป็นไขมันอย่างรวดเร็ว
ขณะไขมันวิญญาณพอกหนาขึ้นเป็นชั้นๆ ศิลาวิญญาณในมือเขาก็ข้ามเลข ร้อยละ 84 ไปแตะเลข…85 ในที่สุด!
นี่ไม่ใช่เพียงศิลาชั้นกลางอีกต่อไปแล้ว แต่มันคือ ศิลาวิญญาณชั้นยอด!
ลำแสงระยิบระยับส่องประกายออกมาจากศิลาวิญญาณที่ตกผลึกสุกปลั่ง แม้ว่าจะด้อยกว่าศิลาวิญญาณที่อาจารย์โจวเคยหลอมให้ดูในชั้นเรียน แต่ความต่างก็ไม่ได้มากมายขนาดนั้น เจ้าศิลาก้อนนี้ก็ยังถือว่ามีคุณภาพดีเยี่ยมและมีราคาสูงลิบลิ่ว!
แต่หวังเป่าเล่อกลับดีใจไม่ลง ชายหนุ่มก้มลงมองร่างกายของตนที่ดูแล้ว อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกราวกับต้องมนต์สะกด ศิลาวิญญาณในมือเขาตกลงกระทบ พุงดังโป๊ะ ก่อนกระเด้งดึ๋งไปบนพื้น เมื่อชายหนุ่มมองตามลงไปที่พื้น สิ่งเดียวที่เขามองเห็นคือ พุงขนาดมหึมาของตน
ไม่กี่อึดใจหลังจากนั้น เสียงร้องโหยหวนก็ดังออกมาจากถ้ำลับ หวังเป่าเล่อ น้ำตาคลอขณะยกแขนทั้งสองข้างขึ้นอย่างกระสับกระส่าย ชายหนุ่มก้มลงมองพุงใหญ่ยักษ์ของตนและร้องไห้ออกมาอย่างระทมทุกข์
“ไม่นะ ร่างกายอันแสนสมบูรณ์แบบของข้า!
“กลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร”
หวังเป่าเล่อตื่นตกใจและพยายามจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ทำไม่ได้ นี่ทำให้ชายหนุ่มเกือบจะเป็นบ้าเลยทีเดียว ลมเย็นเยือกพัดผ่านกายเขา หวังเป่าเล่อรู้สึกราวกับ เหล่าบรรพบุรุษจ้ำม่ำหลั่งไหลมาหาเขาจากทั่วทุกสารทิศ และต่างพากันส่งยิ้มให้อย่างพร้อมเพียงและโบกมือไหวๆ หวังว่าจะเอาเขาไปอยู่ด้วย
ข้าแค่อยากเป็นหัวหน้าศิษย์เท่านั้น เหตุใดชีวิตข้าถึงต้องยากแบบนี้ด้วยนะ
หวังเป่าเล่อพยายามลุกขึ้นยืนอย่างระทมทุกข์ และบีบตัวออกจากประตูถ้ำ
เขาโล่งใจเมื่อพบว่ายังพาร่างตนเองออกจากถ้ำได้อยู่ ก่อนหน้านี้ชายหนุ่ม กลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะอ้วนจนออกจากประตูไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น…เห็นทีชีวิตเขาจะเดินทางมาถึงจุดจบเสียแล้ว
โชคดีที่ตอนนั้นเป็นเวลาดึก จึงไม่มีใครล่วงรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในถ้ำ หากมีคนมาพบเข้าคงคิดเตลิดไปไกลว่ามีสัตว์ร้ายชนิดใดหลุดเข้ามาเป็นแน่แท้ หวังเป่าเล่อกัดฟันเริ่มออกวิ่งรอบเกาะอีกครั้งด้วยความทุกข์ทรมาน
แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าวิธีลดน้ำหนักนี้จะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป แม้เขาจะแอบไปที่ลานฝึกยามร้างผู้คน และยกเวทอย่างบ้าคลั่งแถมยังเพิ่มน้ำหนักด้วยแล้ว ร่างกายเขาก็ยังอ้วนตุ้ยนุ้ยอยู่เหมือนเดิม ไขมันที่พอกกายไม่ได้ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย
สวรรค์ โปรดช่วยข้าด้วยเถิด หวังเป่าเล่อเริ่มกระสับกระส่ายขณะเหงื่อเม็ดเป้งไหลลงมาจากหน้าผาก ท้ายที่สุดแล้วชายหนุ่มเข้าไปค้นหาเคล็ดลับการลดน้ำหนักในเครือข่ายวิญญาณ
เครือข่ายวิญญาณนั้นเต็มไปด้วยข้อมูลสะเปะสะปะครอบจักรวาล แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เจ้าอ้วนที่กำลังมุ่งมั่นกับการลดน้ำหนักย่อท้อแม้แต่นิด คนอ้วนมักตาแหลมเป็นพิเศษในเรื่องการลดน้ำหนัก แม้แต่กระทู้สุดแสนธรรมดาก็สามารถนำมาเป็นเคล็ดลับสู่ความผอมได้
ยกตัวอย่างเช่น…ห้องหินละลายแห่งสาขาการยุทธ์
“ห้องหินละลายของสาขาการยุทธ์นี่มันนรกดีๆ นี่เอง ทรมานเป็นบ้า ข้าตัวเปียกโชกอย่างกับโดนห่าฝนตกใส่”
“นี่มันสถานที่ทรมานชัดๆ ข้าเข้าไปแค่ห้านาทีก็น้ำหนักลดไปครึ่งกิโล น่าสมเพชตัวเองเสียจริง”
เมื่อเขาเห็นข้อความก่นด่าห้องหินละลายในเครือข่ายวิญญาณ หวังเป่าเล่อก็หายใจเร็วด้วยความตื่นเต้น และตาก็พลันลุกวาวในทันใด
ห้องหินละลาย…ห้องหินละลาย! หวังเป่าเล่อรู้สึกเหมือนคนกำลังจมน้ำที่ คว้าเอาขอนไม้ช่วยชีวิตไว้ได้ทัน เขาเงยหน้าขึ้นทันทีและมองไปทางยอดเขาประจำสาขาการยุทธ์ ก่อนจะทะยานไปยังเป้าหมาย
ร่างเทอะทะหนาอ้วนราวกับสัตว์ร้ายพุ่งตรงไปข้างหน้า พร้อมเสียงลมหวีดหวิว ใต้แสงจันทร์
ข้าต้องผอมให้ได้!