Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1023

ตอนที่ 1023

ข้อตกลงของพันธมิตรขุนเขาทะเล

ผู้ฝึกตนที่แปลกประหลาดหนึ่งคน สามารถจะไล่ล่าหลี่หลิงเอ๋อร์ และแทบจะสังหารนางไป!

คาดไม่ถึงว่า ไม่มีใครจากตระกูลหลี่ได้แสดงตัวขึ้นเพื่อจะหยุดเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะแปลกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดว่า…ตระกูลหลี่ที่อยู่บนดาวเป่ยหลูไม่ได้อยู่ห่างไกลออกไปจากที่แห่งนี้มากนัก ในขุนเขาทะเลที่เก้านี้ ถ้าผู้ฝึกตนธรรมดาทั่วไปได้ทำการต่อสู้และถูกสังหารไป ก็มักจะไม่ค่อยมีผู้ใดให้ความสนใจมากนัก อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ถูกเลือกได้ตายไปหรือได้รับบาดเจ็บ ก็มักจะกลายเป็นเรื่องราวที่ใหญ่โตขึ้นมา!

ค่อนข้างจะหาได้ยากที่ผู้ถูกเลือกจะถูกสังหารไปจริงๆ เพราะจะทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นอันวุ่นวายขึ้นมาได้

อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกตนที่แปลกประหลาดผู้นี้ ต้องการจะสังหารหลี่หลิงเอ๋อร์ไป และที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือว่า…ก่อนหน้านี้สายตาของเมิ่งฮ่าวถูกรบกวนไป ทำให้เขาไม่อาจจะมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้

เห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกตนที่แปลกๆ นี้ไม่ได้มีเพียงคนเดียว มันต้องมีผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังหลบซ่อนตัวอยู่ในเงามืดคอยช่วยเหลือมันอยู่อย่างแน่นอน เมิ่งฮ่าวได้ข้อสรุปทั้งหมดนี้เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะมาช่วยเหลือหลี่หลิงเอ๋อร์ด้วยซ้ำไป แต่สุดท้ายแล้วเขาได้ตัดสินใจว่า ถึงอย่างไรก็ตามเขาจะต้องมาช่วยเหลือนางให้จงได้

ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินใครบางคนร้องตะโกนออกมา ไม่ให้โจมตีไปยังบุรุษหนุ่มผู้นี้ เขาก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะร้องตะโกนขึ้น “ปรมาจารย์เอกะเทวะ ขัดขวางคนผู้นั้นไว้หนึ่งเค่อ (15 นาที) แล้วข้าจะให้เจ้ามีอิสระไปหนึ่งร้อยปี!” นี่เป็นครั้งที่สามที่เขาได้พูดขึ้นมาในช่วงของการต่อสู้นี้!

ตอนแรกปรมาจารย์เอกะเทวะไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง มันไม่สนใจต่ออิสระเพียงแค่หนึ่งร้อยปีเท่านั้น แต่ขณะที่มันคิดไปถึงเรื่องนี้ ก็ตระหนักได้ว่าถ้าเมิ่งฮ่าวบอกว่าจะให้มันมีอิสระไปชั่วชีวิต ก็คงเป็นเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้โดยสิ้นเชิง แต่ถ้าเป็นเวลาแค่หนึ่งร้อยปีเท่านั้น ก็ดูเหมือนว่าจะน่าเชื่อถือกว่ามากนัก

“ท่านย่ามันเถอะ!” มันร้องตะโกนออกมา ดวงตาสาดประกายด้วยแสงอันดุร้าย ทันใดนั้นมันก็แหงนหน้าขึ้น และมองไปยังชายชราที่กำลังพุ่งตรงมา จากนั้นก็แผดร้องคำรามออกไป

ในเวลาเดียวกับที่มันส่งเสียงแผดร้องคำรามอันเข้มข้นออกมา แสงสีดำก็แวบขึ้นอยู่รอบๆ ตัว ขณะที่มันพุ่งตรงไปยังชายชราผู้นั้น

ชายชราผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกจากเป็นบุคคลที่ได้ติดตามอี้ฝ่าจือมาตลอดเวลา เป็นผู้พิทักษ์เต๋าของมัน!

เมื่อชายชรามองเห็นปรมาจารย์เอกะเทวะโถมทับลงมายังร่างมัน ดวงตาก็ต้องเบิกกว้างขึ้นด้วยความหวาดกลัว มันโบกสะบัดมือด้วยความไม่แน่ใจว่าควรจะทำอย่างไรดี ทำให้สิ่งมีชีวิตภาพลวงตาขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายกับเป็นลูกกบได้ปรากฏขึ้น

ลูกกบนั้นมีสีดำสนิทและไม่มีดวงตา มีแต่ปากที่อ้ากว้างเท่านั้น ในทันทีที่มันปรากฏขึ้น ก็อ้าปากกว้างขึ้นมา และพุ่งตรงไปยังปรมาจารย์เอกะเทวะ ราวกับว่าต้องการจะกลืนกินมันลงไป

“ท่านย่ามันเถอะ!” ปรมาจารย์เอกะเทวะแผดร้องคำรามขึ้นอีกครั้ง ขณะที่พุ่งตรงไปข้างหน้า ในขณะที่มันพูดจบก็ต้องผงะขึ้นเล็กน้อย และสงสัยว่าทำไมถึงได้พูดจาเช่นนี้ออกมา แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง

เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่ปรมาจารย์เอกะเทวะระเบิดพลังทั้งหมดของมันออกไป ถ้าให้กล่าวกันโดยทั่วไปแล้ว ด้วยตัวของมันเองไม่อาจจะทำให้ชายชราต้องหยุดชะงักลงได้

แต่ในตอนนี้เองที่ชายชราได้สังเกตเห็นลำแสงจำนวนมากที่กระจายออกมาจากร่างของปรมาจารย์เอกะเทวะ ทำให้สีหน้ามันต้องสลดลงไปในทันที ราวกับว่ามันเพิ่งจะนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ ทำให้มันมีความรู้สึกทั้งตื่นตระหนกและหวาดกลัวต่อลำแสงนั้น และกระทำทุกอย่างเพื่อที่จะหลบเลี่ยงพวกมันไป ทำให้มันไม่อาจจะพุ่งไปข้างหน้าได้ต่อไป

เมิ่งฮ่าวไม่แม้แต่จะมองกลับไปที่ด้านหลัง และไม่เชื่องช้าลงแม้แต่น้อย ในชั่วพริบตาเขาก็ไปอยู่ที่ด้านบนอี้ฝ่าจือ กำมือเป็นหมัด ดวงตาสาดประกายรังสีสังหารออกมา และจากนั้นก็เริ่มต่อยออกไป ด้วยความตั้งใจที่จะทำลายการป้องกันของอี้ฝ่าจือไปให้หมดสิ้น

จิตใจอี้ฝ่าจือกำลังเต้นรัว มันมีศักดิ์ฐานะที่สูงส่งอย่างน่าเหลือเชื่ออยู่ในอาณาจักรของมันเอง ถ้าไม่ใช่เป็นเช่นนี้ มันก็ไม่มีทางจะมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะมายังขุนเขาทะเลที่เก้าเพื่อทำการทดสอบ โดยมีแค่ผู้พิทักษ์เต๋าเพียงคนเดียวที่มาคอยปกป้องคุ้มครองมัน

อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ของมันก็ไม่อาจจะเทียบได้กับของเมิ่งฮ่าว ทั้งในแง่ของความโหดร้ายมันก็ไม่อาจจะเทียบได้แม้แต่น้อย อี้ฝ่าจือไม่อาจจะคาดคิดได้ถึงสิ่งต่างๆ ทั้งหมดที่เมิ่งฮ่าวเคยประสบพบเจอมา

ในช่วงอันตรายที่วิกฤตนี้เอง ทันใดนั้นสีหน้าของอี้ฝ่าจือก็เปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งขึ้นมา มันกัดลงไปที่ปลายลิ้นเล็กน้อย จากนั้นก็พ่นโลหิตออกมาหนึ่งคำ ทำให้กลายเป็นทะเลสาบสีโลหิตขนาดใหญ่ หมุนคว้างตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

เมื่อทะเลสาบนั้นพุ่งมาปะทะเข้ากับหมัดของเมิ่งฮ่าว มันก็เหือดแห้งหายไปอย่างง่ายดาย กลายเป็นกลุ่มหมอกสีโลหิตที่จางหายไปอย่างรวดเร็ว สำหรับหมัดของเมิ่งฮ่าว…ได้พุ่งผ่านเข้าไปในกลุ่มหมอก กระแทกลงไปยังหน้าอกของอี้ฝ่าจือโดยตรง

เกิดเป็นเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกไป ตามมาด้วยเสียงแตกร้าว โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากของอี้ฝ่าจือขณะที่หน้าอกของมันยุบลงไปเป็นโพรง ร่างมันลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง รู้สึกราวกับว่ามีพลังกำลังระเบิดขึ้นมาอยู่ภายในร่างของมันหนึ่งร้อยยี่สิบสามครั้ง ในชั่วพริบตาร่างมันก็ระเบิดออกไป

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ร่างมันระเบิดออก เมิ่งฮ่าวก็ขมวดคิ้วขณะที่มองไปยังเศษชิ้นส่วนขนาดเล็กของเลือดเนื้อ ที่ได้ก่อตัวกลับเข้ามารวมกันอยู่ในกลางอากาศ ระลอกคลื่นแห่งพลังอันน่ากลัวได้ระเบิดออกไป

“เมิ่งฮ่าว!! ข้าจะต้องสังหารเจ้า! สังหารเจ้าไปให้จงได้!!”

“เจ้าทำลายร่างเวทที่ข้าชื่นชอบไป! ข้าจะต้องนำร่างเจ้า…ไปกลั่นสกัดให้กลายเป็นร่างเวทใหม่ของข้า! เมิ่งฮ่าว เจ้าต้องตาย, ตาย, ตายยยย!”

เสียงแผดร้องที่ดูเหมือนจะมีต้นกำเนิดมาจากขุมนรกอเวจี ได้ดังขึ้นมาจากร่างที่กำลังก่อตัวขึ้นมาใหม่ เต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวและบ้าคลั่งอย่างไร้ขอบเขต

ขณะที่คำพูดเหล่านั้นดังก้องออกไป ชิ้นเนื้อที่กระจัดกระจายออกไป ก็ได้รวมตัวกลับเข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างรวดเร็ว เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมากลายเป็นสิ่งที่ดูไม่เหมือนกับอี้ฝ่าจือเมื่อครู่นี้ แต่เป็น…

สิ่งมีชีวิตสามหัวพร้อมกับหางที่มีขนาดยาวส่ายไหวไปมา ดูไม่เหมือนกับมนุษย์หรืออสูรเลยแม้แต่น้อย!

ศีรษะแรกของมันดูคล้ายกับอี้ฝ่าจือ ศีรษะที่สองเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งงูเหลือม มีหน้าตาที่ดุร้ายโหดเหี้ยมเป็นอย่างยิ่ง ศีรษะที่สามดูเหมือนกับอสรพิษโดยสิ้นเชิง พร้อมกับลิ้นสองแฉกที่กำลังแลบเข้าออกอย่างรวดเร็ว

“เมิ่งฮ่าว, ข้าจะฉีกเจ้าออกเป็นชิ้นๆ! ข้าจะใช้โลหิตของเจ้ามาทำให้พื้นฐานเซียนของข้าสมบูรณ์แบบ” มันร้องตะโกนขึ้นด้วยเสียงแหลมเล็กอย่างน่าตกใจ

เมื่อเมิ่งฮ่าวมองเห็นรูปร่างใหม่ของอี้ฝ่าจือ ดวงตาก็ต้องเบิกกว้างขึ้น หลี่หลิงเอ๋อร์ก็มองเห็นด้วยเช่นกัน และจิตใจนางก็เริ่มเต้นรัว

จิตใจเมิ่งฮ่าวเต้นถี่เร็ว ขณะที่มองไปยังอี้ฝ่าจือ เขาไม่เคยเห็นตัวตนใดๆ เช่นนี้มาก่อน เขาเคยเห็นอสูร, สิ่งที่คล้ายกับเป็นแม่น้ำหรือภูเขา แต่ทั้งหมดนั้นต่างก็เป็นอสูรที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

แต่เขาไม่เคยเห็นสิ่งใดๆ ที่มีรูปร่างหน้าตาเช่นนี้มาก่อน มันดูคล้ายกับเป็นสัตว์อสูรก็ไม่เชิง เป็นผู้ฝึกตนก็ไม่ใช่

ที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นก็คือว่า…เมิ่งฮ่าวตระหนักได้ว่าแผ่นหยกผนึกอสูรที่อยู่ในถุงสมบัติจู่ๆ ก็สั่นขึ้นมาด้วยความถี่ที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน

การสั่นไปมาเช่นนี้รุนแรงกว่าตอนที่เขารู้สึกได้ เมื่อได้ครอบครองเวทรุ่นห้า หรือตอนที่เขาได้เผชิญหน้ากับผู้ผนึกอสูรรุ่นหกซะอีก

ราวกับว่าความเป็นศัตรูและความเกลียดชัง ที่ไม่อาจจะลบล้างออกไปได้ด้วยกาลเวลาที่ผ่านมา ทันใดนั้นก็ได้ระเบิดขึ้นมาจากแผ่นหยกผนึกอสูรด้วยความเข้มข้นอย่างน่าเหลือเชื่อ

“ผู้ทรยศแห่งอาณาจักรชั้นต่ำ! สายโลหิตแห่งตระกูลเจิ้ง! เมื่อพวกเราเหล่าผู้ผนึกอสูรได้เผชิญหน้ากับคนเช่นนี้, มันต้องตาย!”

“ตาย ตาย ตาย!! ตายยย!!” จิตใจเมิ่งฮ่าวดังกระหึ่มขึ้นด้วยเสียงเก่าแก่โบราณของแผ่นหยกผนึกอสูร กลิ่นอายอันน่ากลัวกระจายออกมาจากชีพจรเซียนผู้ผนึกอสูรของเขา ซึ่งได้เริ่มโคจรหมุนเวียนขึ้นในทันที

เห็นได้ชัดว่าถ้าเมิ่งฮ่าวไม่สังหารสิ่งที่ถูกเรียกว่า ผู้ทรยศแห่งอาณาจักรชั้นต่ำนี้แล้วละก็ ชีพจรเซียนผู้ผนึกอสูรก็จะไม่ยอมรับเขาอีกต่อไป!

นี่คือความบ้าคลั่งและเกลียดชังอย่างถึงที่สุด ซึ่งเมิ่งฮ่าวไม่เคยรับรู้ได้มาก่อนในชั่วชีวิตนี้

แทบจะในทันทีที่ร่างจริงของอี้ฝ่าจือได้ปรากฏขึ้นจนประจักษ์แจ้งแก่สายตาของคนทั้งหมด ชายชราที่กำลังต่อสู้อยู่กับปรมาจารย์เอกะเทวะจู่ๆ ก็ร้องตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าโง่! เจ้าปัญญาอ่อน! เจ้า เจ้า เจ้า…บัดซบ เมื่อเจ้าพ่ายแพ้ไปแล้ว ทำไมถึงไม่หลบหนีไปในทันที! ทำไมถึงได้โง่เขลาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา! บัดซบ! บัดซบ! เจ้าคนจากตระกูลเจิ้งทั้งหมดต่างก็โง่เขลากันทั้งสิ้น!!!”

เห็นได้ชัดว่ามันกำลังมีโทสะขึ้นโดยสิ้นเชิง และกำลังสั่นสะท้านไปทั้งร่างอีกด้วย นอกจากใบหน้ามันจะแสดงถึงความกราดเกรี้ยวออกมาแล้ว ก็ยังมีความหวาดกลัวและกระวนกระวายใจขึ้นเช่นเดียวกัน ราวกับว่าการเปิดเผยร่างนี้ของอี้ฝ่าจือ จะทำให้เกิดเป็นภัยพิบัติขึ้นจนสวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือนไป

ในช่วงเวลาเดียวกับที่อี้ฝ่าจือได้เปิดเผยร่างกายที่แท้จริงของมัน เสียงกู่ร้องก็ได้ยินออกมาจากคฤหาสน์โบราณของตระกูลจี้ที่อยู่บนขุนเขาที่เก้า เสียงกู่ร้องนั้นได้ดังก้องออกไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่เก้าในทันที

แต่ก็ไม่มีใครสามารถจะได้ยินเสียงกู่ร้องนี้ มีแต่ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในอาณาจักรเต๋าเท่านั้น ที่สามารถจะรับรู้ถึงเสียงแหลมเล็กและเรียกหาอย่างฉับพลันนี้ได้

มันเป็นเสียงที่ไม่เคยได้ยินมาเป็นเวลานาน นานมากๆ แล้ว!

เสียงกู่ร้องอันน่าตกใจนี้ ทำให้สีหน้าของเหล่าปรมาจารย์อาณาจักรเต๋าทั้งหมดในขุนเขาทะเลที่เก้าต้องเปลี่ยนไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ ทันใดนั้น ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าทั้งหมดของพวกมันก็บินขึ้นไป ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดและกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง

ทั่วทั้งตระกูลจี้ที่อยู่บนขุนเขาที่เก้าต่างก็สั่นสะท้านใจไปเช่นเดียวกัน ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าของพวกมันเริ่มหอบหายใจออกมา ขณะที่รีบพุ่งตรงไปยังด้านหลังของคฤหาสน์โบราณตระกูลจี้ ซึ่งเป็น…สระเซียนที่อยู่บนยอดเขาของขุนเขาที่เก้า!

น้ำในสระนั้นใสแจ๋วราวกับเป็นกระจก และถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มหมอกสีขาว แต่ตรงที่ด้านล่างของสระ มองเห็นกระถางสัมฤทธิ์อยู่เก้าใบ แต่ละกระถางกระจายความเก่าแก่โบราณออกมา ราวกับว่าพวกมันได้คงอยู่ในกระแสแห่งกาลเวลามาเป็นเวลานานหลายปีอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้

ตรงจุดศูนย์กลางของกระถางทั้งเก้า เป็นเต่าเสวียนอู่ขนาดใหญ่มหึมา…อย่างน่าตกใจยิ่ง

เต่าเสวียนอู่และกระถางทั้งเก้าใบเหล่านี้ ไม่ได้เป็นสิ่งของของตระกูลจี้

อันที่จริงสามารถจะกล่าวได้ว่าพวกมันไม่ได้เป็นของตระกูลหรือสำนักใดๆ ทั้งหมด พวกมันเป็นของ…ขุนเขาที่เก้า!

ตระกูลหรือสำนักใดๆ ก็ตามที่กลายมาเป็นราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เก้า ก็จะสามารถควบคุมพวกมันได้!

บนหลังของเต่าเสวียนอู่เต็มไปด้วยหนามอันแหลมคม ซึ่งหนามแต่ละชิ้นเหล่านั้นถูกปกคลุมด้วยสัญลักษณ์เวทมากมายนับไม่ถ้วน ดูดุร้ายอย่างถึงที่สุดขณะที่มันกบดานอยู่ที่นั่น หลังของมันแทบจะยื่นขึ้นมาจากน้ำ เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่มันยังคงอยู่ในตำแหน่งนี้ ขยับนิ่งไม่เคลื่อนไหว ราวกับว่ามันเป็นแค่รูปปั้นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อครู่นี้เต่าเสวียนอู่ยักษ์นี้จู่ๆ ก็ขยับตัวเคลื่อนไหว! แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่าง ขณะที่มันพุ่งขึ้นไปและกู่ร้องออกมา เสียงกู่ร้องอันน่ากลัวนี้ดังก้องออกไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว

ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน และสระน้ำก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน กระถางทั้งเก้าเริ่มสั่นไหวไปมา

ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าของตระกูลจี้ ต่างก็รู้สึกกระวนกระวายใจกันทั้งหมด พวกมันมองไปยังเต่าเสวียนอู่ที่กำลังกู่ร้อง และสีหน้าก็สลดลง

เสียงกู่ร้องนั้นดูเหมือนจะเป็นการบ่งบอกว่า เต่าเสวียนอู่กำลังฝืนทนต่อความเจ็บปวดอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้

“เกิดอะไรขึ้น! ทำ…ทำไมเต่าเสวียนอู่ถึงได้กู่ร้องราวกับเจ็บปวดเช่นนี้!?!?”

“เป็นไปได้หรือไม่ว่า มีใครบางคนมาลอบโจมตีตระกูลจี้ของพวกเรา?!?!”

“ไม่ใช่ ข้าเพิ่งจะคิดไปถึงตำนานเรื่องหนึ่งในขุนเขาที่เก้าแห่งนี้…”

ขณะที่ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋ากำลังสั่นสะท้านขึ้นด้วยความตกใจ ทันใดนั้นดวงตาขนาดใหญ่หนึ่งดวงก็ได้ปรากฏขึ้นในท้องฟ้าเหนือขุนเขาที่เก้า!

ภายในดวงตานั้นมองเห็นภาพของชายชราผู้หนึ่ง กำลังนั่งขัดสมาธิเข้าฌาณอยู่อย่างเลือนลาง

ในทันทีที่ดวงตาข้างนั้นปรากฏขึ้น ทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่เก้าก็สั่นสะเทือนขึ้น

เสียงอันเก่าแก่โบราณทันใดนั้นได้ดังก้องออกมาจากภายในดวงตาข้างนั้น

“มีชนเผ่านอกคอกได้บุกรุกเข้ามาในขุนเขาทะเลที่เก้า! ด้วยข้อตกลงโบราณแห่งพันธมิตรอาณาจักรขุนเขาทะเล! ชนเผ่านอกคอกนั้นต้องถูกสังหารไป!!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version