ตอนที่ 1029
เจ้าคือแมลงอสูร
แทบจะในทันทีที่เสียงแผดร้องของเมิ่งฮ่าวดังก้องออกไป…เนื่องจากเสียงนั้นมีความคล้ายคลึงกับเสียงเรียกของตัวด้วงสีดำจริงๆ อย่างน่าเหลือเชื่อ ทำให้ตัวด้วงสีดำที่กำลังมึนงงอยู่ในกลุ่มควัน จู่ๆ ก็ได้สติกลับคืนมา และเริ่มส่งเสียงแผดร้องขึ้นมาพร้อมกันกับเขา
“ช่างน่ารังเกียจนัก! ทำไมถึงมีหนึ่งตัวที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ!?!?”
หญิงสาวครุ่นคิด ด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าว ถอยไปทางด้านหลัง จากนั้นก็ขยับร่ายเวทด้วยมือขวา นางไม่เพียงแต่จะบดขยี้ไปที่กิ่งไม้สีขาวขนาดเล็กที่อยู่ในโคมไฟเท่านั้น นางยังได้กัดปลายลิ้นไปเล็กน้อยและพ่นโลหิตออกมาหนึ่งคำอีกด้วย
ในเวลาเดียวกันนั้น เสียงแผดร้องของเมิ่งฮ่าวก็ทำให้ตัวด้วงสีดำได้สติกลับคืนมามากขึ้นไปเรื่อยๆ พวกมันเริ่มบินออกไปจากกลุ่มควัน กระจายกลิ่นอายอันโหดร้ายและน่ากลัวออกมา ขณะที่พุ่งตรงไปยังหญิงสาวนางนั้น
แม้แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่เคยคาดคิดว่า จะสามารถปลุกตัวด้วงสีดำให้มีสติกลับคืนมาได้เช่นนี้ พวกมันบางตัวยังได้มีท่าทางยอมรับเขาอีกด้วย และเริ่มบินเป็นวงกลมอยู่รอบๆ ตัวเขา ราวกับเป็นการบ่งบอกว่าพวกมันยินดีที่จะให้เขาเป็นผู้นำ
เนื่องจากเช่นนี้ ทำให้เมิ่งฮ่าวดูโดดเด่นขึ้นมาในท่ามกลางทะเลแห่งตัวด้วง อันที่จริงเขาแทบจะดูคล้ายกับเป็น…หนึ่งในผู้นำของพวกมัน
จิตใจเมิ่งฮ่าวกำลังเต้นรัว แต่ก็รู้สึกพึงพอใจในตนเองเป็นอย่างยิ่ง สำหรับหญิงสาวนางนั้น เขาไม่ได้กังวลว่านางจะตกอยู่ในอันตรายใดๆ นอกจากนี้ นี่คือเศษซากเซียน วิธีการที่นางก้าวเดินออกมาจากระลอกคลื่น ทำให้เมิ่งฮ่าวรู้ว่านางได้อยู่ในอาณาจักรโบราณขั้นต้น เขาคาดคิดว่านางคงจะมีวิธีการของตัวเอง พร้อมที่จะหลบหนีจากไปเมื่อถึงคราวจำเป็น
เขาไม่มีความคิดที่จะสังหารนาง เป้าหมายของเขาคือทำให้นางหวาดกลัวจนหลบหนีจากไป ป้องกันไม่ให้นางมาขโมยการค้าของเขาไปเท่านั้น
ในตอนนี้ดูเหมือนว่าแผนการของเขาจะประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี ตัวด้วงสีดำกำลังเกาะกลุ่มพุ่งตรงไปยังหญิงสาวจากทั่วทุกทิศทาง แต่ในตอนนี้เองที่กิ่งไม้สีขาวซึ่งนางได้บดขยี้ไป กลายเป็นกลุ่มควันสีขาวลอยออกมา หลังจากที่ได้ดูดซับโลหิตของนางเข้าไป มันก็กระจายออกไปรอบๆ ตัวนางคล้ายกับเป็นเกราะป้องกัน
ขณะที่ตัวด้วงสีดำเข้าไปใกล้นาง กลุ่มควันสีขาวก็กระจายออกไป และหญิงสาวก็หายตัวไป แต่…ขณะที่กลุ่มควันกระจัดกระจายออกไป ก็มีบางสิ่งที่สามารถจะมองเห็นได้…ด้วงสีดำหนึ่งตัว!!
เมื่อด้วงสีดำตัวนี้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ก็ทำให้เกิดเป็นความสนใจขึ้นเป็นอย่างมาก ในแง่ของการปรากฏกายขึ้นมาและกลิ่นอายของมัน ทำให้ดูคล้ายกับเป็นตัวด้วงสีดำจริงๆ!
อันที่จริง คงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่ามันคือภาพลวงตาหรือของจริง!
เมิ่งฮ่าวจ้องมองไปด้วยความตกตะลึง
กลุ่มตัวด้วงที่พุ่งเข้าไปก็อ้าปากค้างขึ้นด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกัน เมื่อคิดว่าพวกมันไม่ได้มีความฉลาดมากนัก จึงไม่มีทางที่พวกมันจะเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เมิ่งฮ่าวมองไปด้วยโทสะ ขณะที่หญิงสาวในรูปแบบตัวด้วงสีดำ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มตัวด้วงไปอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบสงบลง และเมิ่งฮ่าวก็จ้องมองไปยังหญิงสาวนางนั้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นางค่อยๆ คืบคลานไปรอบๆ บนพื้น ทำการค้นหาต้นสมุนไพรด้วยความระมัดระวังตัว
“ช่างไร้ยางอายนัก! เห็นได้ชัดว่านางเป็นผู้ฝึกตน! แต่ก็ยอมที่จะละทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดไป เพื่อกลายเป็นตัวด้วง และทำการค้นหาต้นสมุนไพรที่ไร้ค่าบางอย่าง!
นั่นคือสิ่งที่ผู้ฝึกตนควรจะกระทำ!?!?” เมิ่งฮ่าวเริ่มมีโทสะขึ้นมา รู้สึกว่าหญิงสาวนางนี้ช่างไร้ยางอายเป็นอย่างยิ่ง
ถึงแม้ว่าเขาจะคิดเช่นนี้ แต่เมิ่งฮ่าวก็ได้กระทำในสิ่งที่เขาเคยทำมาก่อนอย่างต่อเนื่อง คืบคลานไปมาอยู่ในท่ามกลางทะเลตัวด้วง เพื่อไปยังต้นสมุนไพรที่อยู่ใกล้มากที่สุดและทำการเก็บเกี่ยวมันไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาคืบคลานไป ทันใดนั้นก็ตระหนักว่าเขากำลังถูกติดตามอยู่ ที่ด้านหลังเป็นตัวด้วงจำนวนไม่น้อยที่เริ่มติดตามเขามา หลังจากที่เขาปลุกพวกมันให้ได้สติตื่นขึ้นมา
ทำให้เมิ่งฮ่าวดูโดดเด่นขึ้นมามากกว่าก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขามีผู้ติดตามที่เป็นตัวด้วงกลุ่มเล็กๆ ที่ดูแทบจะคล้ายกับเป็นผู้พิทักษ์อยู่รอบๆ ตัว ซึ่งจริงๆ แล้วก็ทำให้เขาทำการเก็บเกี่ยวต้นสมุนไพรได้ง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิม
ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวมีระยะห่างระหว่างหญิงสาวนางนั้นอยู่ไม่น้อย ไม่เพียงแต่ว่าคนทั้งสองจะไม่ไปรบกวนซึ่งกันและกันเท่านั้น แต่หญิงสาวนางนั้นไม่อาจจะรับรู้ได้ว่ากำลังมีคู่แข่งอยู่ในท่ามกลางทะเลแห่งตัวด้วงเหล่านี้
แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังคงมีโทสะเหมือนก่อนหน้านี้ และทำการเก็บเกี่ยวต้นสมุนไพรไปด้วยความเกรี้ยวกราดจนมีความรวดเร็วขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ ถึงแม้เมิ่งฮ่าวจะเชื่อว่านางกำลังขโมยการค้าของเขาอยู่ แต่การที่สามารถจะอยู่ในที่แห่งนี้ได้นานขึ้นกว่าเดิม ก็ทำให้เขายอมรับในสถานการณ์เช่นนี้ได้ ถ้านางไม่ทำให้เขาเกิดความยุ่งยากใดๆ
อย่างไรก็ตาม วิธีการของหญิงสาวนางนั้นก็ค่อนข้างจะลงมือหนักไป ทำให้มีอยู่หลายครั้งที่ตัวด้วงสีดำได้พลุ่งพล่านขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่าได้เกิดเป็นผลกระทบต่อเมิ่งฮ่าวด้วยเช่นกัน
ขณะที่เวลาผ่านไปมากขึ้น ตัวด้วงสีดำที่พุ่งขึ้นไปก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ ยังมีบางครั้งที่ทำให้เมิ่งฮ่าวแทบจะตกอยู่ในอันตรายอีกด้วย
อันที่จริงในทุกๆ การระเบิดขึ้นมาในท่ามกลางกลุ่มตัวด้วงสีดำ ทำให้มีด้วงดำบางตัวได้เริ่มทำการลาดตระเวนไปรอบๆ บริเวณนั้น จนเมิ่งฮ่าวต้องหยุดการเก็บเกี่ยวไป
แต่การขัดขวางที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรุนแรงเหล่านี้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีผลกระทบต่อหญิงสาวนางนั้นแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม เมิ่งฮ่าวก็ได้มาถึงจุดที่ไม่อาจจะยอมรับได้อีกต่อไป เขารอจนกระทั่งกลุ่มด้วงสีดำสงบลง จากนั้นก็หมุนตัวพุ่งตรงไปยังบริเวณที่หญิงสาวนางนั้นกำลังเก็บเกี่ยวอยู่
คนทั้งสองเริ่มเข้าใกล้กันและกันอย่างช้าๆ และในที่สุด ดวงตาของทั้งคู่ก็ตกกระทบไปบนต้นหญ้าวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ต้นเดียวกัน และคนทั้งสองก็รีบวิ่งตรงไปในเวลาเดียวกัน
ในที่สุดหญิงสาวนางนั้นก็รู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งที่แปลกๆ กำลังเกิดขึ้นอยู่ นางมองไปยังเมิ่งฮ่าว และทันใดนั่นก็จำได้ว่าเขาคือตัวด้วงสีดำ ที่พบเห็นการคงอยู่ของนางจากก่อนหน้านี้
ในตอนที่นางมองเห็นเขา นางก็กัดฟันแน่น จากนั้นก็ส่งเสียงแผดร้องเพื่อข่มขู่คุกคามออกมา กลุ่มตัวด้วงที่เป็นผู้ติดตามของเมิ่งฮ่าวแผดร้องขึ้นมาในทันที และมองไปยังหญิงสาวด้วยความดุร้าย
ด้วยความรู้สึกที่ไม่มีทางเลือก เมิ่งฮ่าวเข้าไปใกล้นางมากขึ้น และจากนั้นก็ถ่ายทอดข้อความออกไปว่า “มีวิธีใดบ้างที่เจ้าจะกัดอย่างระมัดระวังกว่านี้ เมื่อทำการเก็บเกี่ยวต้นสมุนไพร? ไม่ควรจะทำให้ตัวด้วงเกิดปฏิกิริยาเช่นนั้นขึ้นมาได้!?”
ในทันทีที่นางได้ยินคำพูดของเขา หญิงสาวเยาว์วัยก็มองมา ด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ แม้จะอยู่ในรูปแบบของตัวด้วงก็ตามที
“เจ้า เจ้า เจ้า…เจ้าคือแมลงอสูร!” นางกล่าวเสียงแหบแห้งขึ้น ด้วยท่าทางตกตะลึง “เป็นแมลงอสูรจริงๆ!!” จากปฏิกิริยาดั้งเดิมของนางไม่ได้คาดคิดว่า เมิ่งฮ่าวจะเป็นผู้ฝึกตนเช่นเดียวกับตัวเอง แต่เขาคือแมลงที่กลายร่างเป็นอสูร
แน่นอนว่าคงไม่อาจจะตำหนินางได้ที่จะมีปฏิกิริยาขึ้นเช่นนี้ ความจริงแล้วการปลอมตัวของเมิ่งฮ่าวช่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่ง จากมุมมองของนาง เขาคือหนึ่งในกลุ่มตัวด้วงสีดำจริงๆ ความสามารถในการแปลงร่างให้กลายเป็นตัวด้วงสีดำของนาง มาจากพลังที่พัฒนาขึ้นมาตามธรรมชาติของนางเอง ซึ่งการที่จะทำเช่นนี้ได้ ทั่วทั้งเก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่ มีแต่กลุ่มสายโลหิตในตระกูลของนางเท่านั้นที่สามารถจะทำได้
ความสามารถศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแปลงร่าง ไม่อาจจะหลอกลวงตัวด้วงสีดำเหล่านี้ได้ นางไม่เคยเห็นใครสามารถจะทำในสิ่งที่เมิ่งฮ่าวกำลังทำอยู่นี้มาก่อน โดยการแปลงร่างเป็นตัวด้วงอยู่ในทะเลแห่งแมลง ยิ่งไปกว่านั้นจากรูปร่างหน้าตาของเขา และการที่เขามีกลุ่มผู้ติดตามคอยคุ้มกัน ทำให้ไม่มีทางที่นางจะคิดว่าเขาคือผู้ฝึกตน
ในความคิดของนาง ผู้ฝึกตนใดๆ ก็ตามที่สามารถมาอยู่ในท่ามกลางกลุ่มตัวด้วงสีดำเหล่านี้ได้ และยังมีตำแหน่งเป็นผู้นำอีกด้วย ผู้ฝึกตนเช่นนั้น…คงจะเป็นผู้ที่ต่อต้านสวรรค์อย่างแท้จริง
“เจ้าจึงเป็นแมลงอสูร! ครอบครัวเจ้าทั้งหมดต่างก็เป็นแมลงอสูร!!” เมิ่งฮ่าวโต้ตอบกลับไปด้วยโทสะ จ้องมองไปยังหญิงสาว
“ข้ามายังที่แห่งนี้ก่อน ถ้าเจ้าต้องการจะเก็บเกี่ยวต้นสมุนไพร ก็ให้กระทำด้วยความระมัดระวังบ้างเล็กน้อย! หยุดก่อกวนตัวด้วงทั้งหมดได้แล้ว! การกระทำเช่นนั้นไม่ได้ช่วยให้พวกเราดีขึ้นมาเลย!” เมิ่งฮ่าวกัดฟันแน่นด้วยความที่ไม่อาจจะทำอะไรได้ หญิงสาวนางนี้สามารถจะเก็บเกี่ยวต้นสมุนไพรได้ และเห็นได้ชัดว่ายังไม่ต้องการจะจากไป ถ้าคนทั้งสองเริ่มต่อสู้กัน ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำการเก็บเกี่ยวต่อไปได้
หญิงสาวเยาว์วัยจ้องมองกลับมาที่เขาด้วยความตกตะลึง หลังจากที่มองไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างละเอียดอยู่ชั่วขณะ ในที่สุดนางก็เริ่มเชื่อแล้วว่าหัวหน้าด้วงดำตัวนี้จริงๆ แล้วก็คือผู้ฝึกตนเหมือนกับตัวเอง
สำหรับนางแล้ว นี่เป็นสิ่งที่แทบไม่อยากจะเชื่อแม้แต่น้อย
“เจ้าเป็นผู้ฝึกตนจริงๆ?” นางถามขึ้น แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา อันที่จริงการที่ได้พบกับผู้ฝึกตนในที่แห่งนี้ เป็นเรื่องที่ดีกว่าต้องมาพบเจอกับแมลงที่กลายร่างเป็นอสูรมากนัก ในตอนนี้สายตาของนางเริ่มสาดประกายขึ้นด้วยความเย็นชา กล่าวว่า
“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นแมลงอสูรหรือผู้ฝึกตน ไม่สำคัญว่าเจ้าจะมาที่นี่ก่อนหรือไม่ ต้นสมุนไพรในที่แห่งนี้ทั้งหมดเป็นของข้า ให้ออกไปในทันที! ถ้าเจ้ากล้ามาต่อสู้กับข้า ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นแมลงอสูรก็ตามที ข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นแมลงที่แหลกเละ! และถ้าเจ้าเป็นผู้ฝึกตนจริงๆ ข้าก็จะทำให้เจ้ากลายเป็นซากศพไป!”
“สำหรับการที่ข้าทำให้ตัวด้วงปั่นป่วนขึ้นมา นั่นก็เป็นเรื่องของข้า! ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า ตอนนี้ให้ออกไปจากที่แห่งนี้ได้แล้ว!” รังสีสังหารแวบขึ้นมาในดวงตาของหญิงสาว ขณะที่นางไม่สนใจเมิ่งฮ่าวโดยสิ้นเชิง จากนั้นก็เข้าไปใกล้กับต้นสมุนไพรที่คนทั้งสองกำลังมุ่งหน้าไปตั้งแต่ตอนแรก
“ช่างไร้เหตุผลนัก!” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา ขณะที่พุ่งตรงไปยังต้นสมุนไพรเดียวกันนั้น ในชั่วพริบตาคนทั้งสองก็บรรลุถึงสมุนไพรต้นนั้น ในตอนนี้เองที่ร่างของหญิงสาวได้แวบขึ้นในทันใด แยกออกจากกันกลายเป็นด้วงสามตัว!
นางพุ่งตรงไปยังต้นสมุนไพรด้วยความรวดเร็วสูงสุด
แต่เมิ่งฮ่าวมีความคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง กับวิธีการเก็บเกี่ยวต้นสมุนไพร และเนื่องจากเช่นนั้นถึงแม้ว่านางจะมีถึงสามตัว แต่ก็ยังช้ากว่ามากนัก เพียงแค่แวบเดียว เขาก็เก็บเกี่ยวสมุนไพรต้นนั้นไปอย่างรวดเร็ว
“เจ้ารนหาที่ตาย!?” นางแผดร้องออกมา ดวงตาสาดประกายรังสีสังหารขึ้น ทันใดนั้นนางก็ทำให้กลุ่มควันกระจายออกไปปกคลุมรอบๆ บริเวณนั้นไว้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งเมิ่งฮ่าวด้วย
ในเวลาเดียวกันนั้น กลิ่นอายที่ถูกเปลี่ยนไปโดยขนนกสีดำ ก็ตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายอันเนื่องมาจากกลุ่มควันเหล่านั้น
ในทันทีที่กลิ่นอายนั้นกระจัดกระจายออกไป ตัวด้วงสีดำที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นก็ส่งเสียงหึ่งๆ ขึ้นมาในทันที แม้แต่บางตัวที่ได้ติดตามเมิ่งฮ่าวจากก่อนหน้านี้ ทันใดนั้นก็เริ่มมีความดุร้ายขึ้น และบินตรงมาที่เขา
สีหน้าเมิ่งฮ่าวสลดลง เขาไม่เคยคาดคิดว่า หญิงสาวเยาว์วัยจะใช้กลยุทธ์เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าในตอนนี้เขามีกลิ่นอายของผู้ฝึกตน และไม่อาจจะปกปิดตัวเองไว้ได้อีกต่อไป เมิ่งฮ่าวจึงต้องหลบหนีจากไปอย่างไร้ทางเลือก
ขณะที่ทำเช่นนั้น พื้นดินก็เริ่มสั่นไหวไปมา เมื่อตัวด้วงสีดำนับหมื่นได้บินขึ้นไป จ้องมองมาที่เขาอย่างน่ากลัว และจากนั้นก็พุ่งเข้ามา ทำให้เกิดเป็นเสียงหึ่งๆ ดังเต็มอยู่ในอากาศ
หญิงสาวที่อยู่ในรูปแบบตัวด้วงถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความพึงพอใจ แอบหัวเราะอย่างเย็นชาขึ้น
เมิ่งฮ่าวมองไปยังหญิงสาวด้วยความเย็นชา คุณสมบัติของกลุ่มควันเมื่อครู่นี้ทำให้เขาต้องตกตะลึงไป เห็นได้ชัดว่ามันมีความสามารถในการลบล้างการแปลงร่างของเขาไป
“เพราะว่าเจ้ามีวิชาเวทที่สามารถจะขัดขวางการแปลงร่างของข้าได้ ทำให้เจ้าโจมตีมาโดยไม่ลังเล เจ้าคิดว่าจะไล่ข้าออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้จริงๆ หือ…?”
“ถ้าเช่นนั้นก็มาดูกันว่า ใครจะถูกไล่ออกไปกันแน่!”
เมิ่งฮ่าวคิดพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา ขณะที่กลุ่มด้วงสีดำได้เข้ามาใกล้ เมิ่งฮ่าวทำท่าคว้าจับออกไป ทันใดนั้นหินปราณเซียนก็ลอยออกมาจากถุงแหวนสมบัติ จากนั้นเขาก็โยนตรงไปยังทิศทางของหญิงสาวนางนั้น
ขณะที่หินสีดำส่งเสียงแหลมเล็กแหวกฝ่าอากาศตรงไปยังนาง หญิงสาวก็จ้องมองมาด้วยความตกตะลึง หลังจากนั้นหินสีดำก็ตกลงไปอยู่ที่เบื้องหน้านาง
ในเวลาเดียวกับที่หินปราณเซียนได้ปรากฏขึ้น กลิ่นอายของมันก็พุ่งออกไป ส่งผลให้กลุ่มด้วงสีดำตกอยู่ในความบ้าคลั่งอย่างรุนแรง เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่กลุ่มตัวด้วงที่กำลังไล่ตามเมิ่งฮ่าวไปแผดร้องอย่างดุร้ายออกมา จากนั้นก็เปลี่ยนทิศทาง และยังมีด้วงดำอยู่มากมายหลายตัวที่อยู่ตรงตำแหน่งอื่นบนดินแดนต้นสมุนไพร ได้เริ่มพุ่งตรงไปยังหินปราณเซียน ด้วยดวงตาที่แดงเจิดจ้าอีกด้วย
สีหน้าของหญิงสาวเยาว์วัยสลดลง นางไม่เคยคาดคิดว่าเมิ่งฮ่าวจะสามารถใช้กลยุทธ์เช่นนี้มาช่วยพลิกสถานการณ์ได้ ถึงแม้ว่ากลิ่นอายของนางจะไม่ได้ไปสร้างความปั่นป่วนให้กับกลุ่มตัวด้วงก็ตามที แต่เนื่องจากมีหินสีดำอยู่ที่เบื้องหน้านาง ทำให้ตอนนี้นางได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของห้วงมหาภัยทั้งหมด
“นั่นคือหินอะไรกัน? ถึงทำให้ด้วงตาปีศาจต้องบ้าคลั่งได้เช่นนี้! มันต้องเป็นสิ่งของอันล้ำค่าบางอย่างเป็นแน่ ซึ่งก็หมายความว่ามันต้องมีไม่มากนัก อย่างมากที่สุดมันก็อาจจะมีแค่หนึ่งหยิบมือเท่านั้น สิ่งที่ข้าต้องทำก็คือหลบเลี่ยงจากกลุ่มตัวด้วงที่คลุ้มคลั่งเหล่านี้เล็กน้อย และรอคอยจนกระทั่งมันใช้ออกมาจนหมด!”
หญิงสาวกัดฟันแน่น ถอยไปทางด้านหลัง และพ่นกลุ่มควันออกมาอีกครั้ง ทำให้มันปกคลุมไปรอบๆ