Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1241

ตอนที่ 1241

หวาดกลัวแทบตาย

เปลวไฟแห่งพลังชีวิตลุกโชนขึ้นในดวงตาเมิ่งฮ่าว ราวกับว่ามีทะเลแห่งเปลวไฟอยู่ภายในนั้น แต่ทะเลแห่งเปลวไฟนั้นก็เริ่มลดน้อยลงไป ขณะที่ผลเนี่ยผานลูกที่สี่ในหน้าผากของเขาดูดซับมันไป

ดูเหมือนว่าผลเนี่ยผานนี้จะกลายเป็นหลุมลึกที่ไร้จุดสิ้นสุด!

เมิ่งฮ่าวเคยดูดซับผลเนี่ยผานลูกที่สี่มาก่อน แต่ก็สามารถจะอดทนได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นก่อนที่จะต้องหยุดลง ผลเนี่ยผานโผล่ออกมาด้วยตัวของมันเอง ไม่เช่นนั้นเขาก็จะถูกดูดพลังชีวิตจนเหือดแห้งไป

นอกจากนี้ทุกครั้งที่เขาใช้มัน หลังจากนั้นก็จะเป็นช่วงที่อ่อนแอมากที่สุด เป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้ในการฟื้นฟูร่างกาย กลายเป็นอุปสรรคป้องกันไม่ให้เขาก้าวเข้าไปในอาณาจักรโบราณได้ ถ้าเขาไม่อาจจะดูดซับผลเนี่ยผานลูกที่สี่นี้เข้าไปได้อย่างสมบูรณ์ เขาก็ไม่อาจจะก้าวเข้าไปได้

อย่างไรก็ตามนี่เป็นสิ่งที่ไม่อาจจะรีบร้อนได้ แต่ละครั้งที่เขาดูดซับผลเนี่ยผานเข้าไป มันต้องใช้พลังชีวิตไปมากมายจนน่าตกใจ ยิ่งไปกว่านั้นผลเนี่ยผานแต่ละผลก็ต้องเพิ่มจำนวนมากขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อถึงตอนที่เขาบรรลุถึงผลที่สี่ จำนวนที่ต้องใช้ก็ยิ่งมากมายจนยากที่จะอธิบายออกมาได้

ถ้าเขาไม่พบเจอกับโชควาสนาที่สามารถจะช่วยได้ เมิ่งฮ่าวก็คงคิดว่ามันต้องใช้เวลานาน นานมากๆ ก่อนที่เขาจะสามารถดูดซับผลเนี่ยผานลูกที่สี่นี้เข้าไปได้ทั้งหมด

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้วิตกมากนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตันหลางที่ครอบครองร่างเขาอยู่รู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่ง

“บัดซบ ของสิ่งนี้คืออะไรกัน!?!?” ตันหลางแผดร้องออกมาพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างขึ้น มันเป็นคนที่ดื้อรั้นยืนกราน สิ่งที่มันต้องทำก็คือปล่อยให้ผลเนี่ยผานลูกที่สี่โผล่ออกมา และมันก็จะไม่ตกอยู่ในอันตรายใดๆ

แต่มันเป็นคนที่ดื้อรั้นและเย่อหยิ่ง จนแทบไม่อยากจะเชื่อว่ามันไม่อาจจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จไปได้

“ข้าไม่เชื่อว่า จะไม่สามารถดูดซับผลไม้เต๋าอันกระจ้อยร่อยนี้ได้!!” มันกัดฟันแน่น แทนที่จะยกเลิกเครื่องหมายผนึกที่สร้างขึ้นมา กลับทำให้แก่นแท้พลังชีวิตส่งเสียงกระหึ่มดังไปทั่วร่าง พุ่งเข้าไปในผลเนี่ยผานลูกที่สี่มากยิ่งขึ้น

ตูมมมมมมม!

ถ้าผลเนี่ยผานลูกที่สี่มีความรู้สึก มันคงจะแผดร้องออกมาด้วยความยินดี ก่อนหน้านี้เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะเติมเต็มความต้องการของมันได้ และไม่เคยจะทำเช่นนี้ได้ แต่ตอนนี้ด้วยการช่วยเหลือด้วยความเต็มใจของตันหลาง ทำให้ผลเนี่ยผานลูกที่สี่…กำลังถูกดูดซับเข้าไปได้อย่างแท้จริง!!

ในทันทีที่ขั้นตอนนี้เริ่มขึ้น สีหน้าของตันหลางก็เปลี่ยนไป ขณะที่แก่นแท้พลังชีวิตของมันหนึ่งในสิบส่วนแทบจะถูกดูดซับเข้าไปในทันที มันรู้สึกลังเลแต่จากนั้นก็กัดฟันแน่น

“ข้าไม่เชื่อ!!” มันบังคับให้แก่นแท้พลังชีวิตไหลเข้าไปในผลเนี่ยผานลูกที่สี่อย่างเต็มกำลัง มันคาดเดาได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นถ้าผลไม้นี้หลอมรวมเข้าไปได้อย่างสมบูรณ์ พื้นฐานฝึกตนของร่างนี้ก็จะพบเจอกับการทะลวงผ่านขึ้นไป เมื่อไหร่ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ การเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตกใจก็จะเกิดขึ้น

ในที่สุดแก่นแท้พลังชีวิตของตันหลางก็ถูกดูดซับเข้าไปสองในสิบส่วน ร่างกายมันสั่นสะท้านและความหวาดกลัวก็เริ่มสาดประกายอยู่ในแววตา แต่ก็ยังคงกัดฟันแน่น จนกระทั่ง…สามส่วน และจากนั้นก็สี่ส่วน!!

เมื่อแก่นแท้พลังชีวิตของมันถูกดูดซับไปสี่ในสิบส่วน เปลวไฟแห่งพลังชีวิตในดวงตาของมันก็เริ่มมืดสลัวลงไป และความหวาดกลัวก็เต็มอยู่ในแววตา ขณะที่ตอนนี้ความดื้อรั้นใดๆ ของมันถูกโยนออกไปจากจิตใจหมดแล้ว

แก่นแท้พลังชีวิตของมันสี่ในสิบส่วน ยังคงไม่เพียงพอที่จะไปเติมเต็มผลไม้นี้ได้ ทำให้ตันหลางรู้สึกหวาดกลัวจนใบหน้าซีดขาว โดยไม่ลังเลอีกต่อไป มันยกมือขึ้นไปปลดผนึกที่อยู่บนหน้าผาก

“ท่านย่ามันเถอะ! ผลไม้นี้ช่างแปลกประหลาดนัก บิดาไม่เล่นแล้ว มาเถอะ!!”

“ออกมา!” ตันหลางตวาดขึ้น ไม่ปรารถนาที่จะดูดซับผลไม้เต๋าที่น่ากลัวนี้อีกต่อไป มันรู้สึกหวาดกลัว ดังนั้นจึงพยายามที่จะบังคับให้ผลไม้นี้ออกมา แต่…ผลเนี่ยผานถูกดูดซับเข้าไปมากกว่าครึ่งแล้ว ดังนั้นมันจะหยุดได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำของตันหลางก็ทำให้ผลเนี่ยผานหยุดชะงักลงชั่วคราวเท่านั้น เห็นได้ชัดว่ามีพลังที่แปลกประหลาดบางอย่างทำให้มันดูดกลืนพลังชีวิตของตันหลางเข้าไปอย่างตะกละตะกลามมากขึ้นกว่าเดิม

“ไม่!!” ดวงตาตันหลางเบิกกว้างขึ้น และทันใดนั้นความรู้สึกถึงวิกฤตอันตรายก็เต็มอยู่ในจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตันหลางไม่อาจจะยอมรับได้ มันคาดเดาได้ว่าถ้ายังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป และผลไม้นี้ทำการหลอมรวมได้อย่างสมบูรณ์ พลังชีวิตทั้งหมดของมันก็คงจะถูกดูดซับเข้าไปจนหมดสิ้นด้วยเช่นกัน

มันจะกลายเป็นบุคคลแรกในตลอดหลายปีที่ผ่านมา…ถูกสังหารไปโดยร่างกายที่มันได้ครอบครองอย่างแท้จริง…

แค่คิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้ตันหลางต้องรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง สีหน้ามันเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ขณะที่แก่นแท้พลังชีวิตของมันอีกหนึ่งส่วนถูกดูดกลืนไปอย่างรวดเร็ว

“ท่านย่ามันเถอะ! นี่คือสิ่งของปีศาจอะไรกัน?!?!” ตันหลางสั่นสะท้านขณะที่ตระหนักว่ามันยังเหลือแก่นแท้พลังชีวิตอีกแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น จิตใจมันรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกกรีดเฉือนด้วยใบมีดอันคมกริบ เต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดแสนจะพรรณนา

นอกจากนี้แก่นแท้พลังชีวิตของมันคือสมบัติอันล้ำค่ามากที่สุด และเป็นพื้นฐานทั้งหมดของมันที่ทำให้วิญญาณไม่ถูกกำจัดไป

ดวงตาตันหลางกลายเป็นสีแดงก่ำไป และกำลังสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง ขณะที่พุ่งตัวออกไปในเขตสุสาน เปลวไฟในดวงตาของมันอ่อนแอลงเป็นอย่างยิ่ง และยังได้แสดงให้เห็นถึงสัญญาณว่าพวกมันอาจจะดับลงไปในที่สุด

ในจิตใจของมันกำลังรู้สึกเสียใจอย่างลึกล้ำ เสียใจที่คิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป และดูถูกผลไม้เล็กๆ ลูกนี้

“แต่ข้าก็ยังมีอีกวิธี ยิ่งร่างกายนี้แข็งแกร่งมากขึ้น ก็จะยิ่งช่วยข้าได้มากขึ้น ต้องลองดู!” ตันหลางกัดฟันแน่นแวบฝ่าอากาศไปจนกลายเป็นลำแสงสีเทา เคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ สายฟ้าเต้นไปมาอยู่รอบๆ ศีรษะ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามันสามารถจะพุ่งทะลวงผ่านผนังกำแพงใดๆ ก็ตามที่มาขวางอยู่เบื้องหน้า

ในชั่วพริบตามันก็ไปปรากฏกายขึ้นตรงเส้นทางอีกแห่ง ซึ่งมีสองผู้ฝึกตนอาณาจักรโบราณกำลังเดินทางไปด้วยความระมัดระวังตัว ก่อนที่พวกมันจะทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ ตันหลางก็กลายเป็นเงาร่างอันเลือนลางขณะที่กระแทกเข้าไปยังหนึ่งในสองคนนั้น

ผู้ฝึกตนอีกคนตกตะลึง และเริ่มหลบหนีจากไปในทันที ขยับมือร่ายเวทเพื่อปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์และของวิเศษออกมา แต่ก็ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเงาร่างเลือนลางสีเทาซึ่งก็คือตันหลาง ในชั่วพริบตามันก็พุ่งผ่านคนแรกไป และกระแทกไปยังผู้ฝึกตนที่หลบหนีไปนั้น

เสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจดังก้องขึ้น ขณะที่ร่างของผู้ฝึกตนนั้นแห้งเหี่ยวจนกลายเป็นเถ้าธุลีไป กลุ่มหมอกสีขาวไหลเข้าไปในร่างเมิ่งฮ่าว ซึ่งจากนั้นก็แวบร่างหายตัวไป

เมื่อปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก็ไปอยู่ตรงเส้นทางอีกแห่ง ใกล้กับผู้ฝึกตนอาณาจักรโบราณอีกคนที่กำลังพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาไม่นานเงาร่างที่เลือนรางสีเทาก็ปกคลุมไปบนร่างมัน

ตันหลางทำการสังหารไปตลอดทางเช่นนี้ติดต่อกัน มันกลายเป็นเงาร่างเลือนลางสีเทาพุ่งไปกลืนกินและสังหารผู้ฝึกตนในเขตสุสาน ไม่มีใครที่เผชิญหน้ามันแล้วจะสามารถหลบหนีจากไปได้

หนึ่ง, สอง, สาม…สิบ, สิบห้า, ยี่สิบ…

ในช่วงเวลาสั้นๆ เมิ่งฮ่าวที่ถูกตันหลางยึดร่างก็สังหารผู้ฝึกตนไปมากมาย ด้วยความพยายามจะดูดซับผลเนี่ยผานลูกที่สี่เข้าไปอย่างสมบูรณ์ แต่ก็ทำได้แค่ช่วยลดความเร็วในการถูกดูดซับแก่นแท้พลังชีวิตไปเท่านั้น

“ข้าต้องการพลังชีวิตมากกว่านี้!” ตันหลางแผดร้องขึ้น จนแทบจะคลุ้มคลั่งไป มันเริ่มเคลื่อนที่ไปเร็วขึ้น ทำการสังหารเร็วมากขึ้น จนกระทั่งในที่สุดสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของมันก็ไปพบกับผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าอีกคน ที่ถูกฉุดลากเข้ามาในเขตสุสานแห่งนี้

“มันคือคนต่อไป!” ดวงตาตันหลางกลวงลึกลงไป มันเคยสังหารผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋ามาแล้วหนึ่งคน และนี่จะเป็นคนที่สอง มันพุ่งทะลวงผ่านกำแพงที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นออกไปยังเส้นทางอีกแห่ง อยู่ห่างจากเงาร่างๆ หนึ่งที่กำลังพุ่งตัวออกไปเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

การโผล่เข้ามาของตันหลาง ทำให้คนผู้นั้นต้องหันหน้ากลับมามองทางด้านหลัง ดวงตามันสาดประกายขึ้นคล้ายสายฟ้า มันเป็นชายชราที่เป็นหนึ่งในสองผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าสองแก่นแท้ ซึ่งพยายามจะมาขัดขวางเมิ่งฮ่าวตอนที่อยู่ตรงด้านนอกของเขตสุสานแห่งนี้

“เมิ่งฮ่าว!” มันกล่าวขึ้น แต่แทบจะรับรู้ได้ในทันทีว่ามีบางสิ่งที่แปลกไป ดูเหมือนว่าเมิ่งฮ่าวจะแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้อีกนอกจากความแข็งแกร่ง ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะน่ากลัวและดูเหนือกว่า จนทำให้จิตใจของชายชราต้องสั่นสะท้านขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว

โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย มันถอยไปทางด้านหลังในทันที แต่เวลาเดียวกันนั้นร่างเมิ่งฮ่าวที่ถูกครอบครองโดยตันหลางก็พุ่งไปโจมตีอย่างรวดเร็ว

“บัดซบ เจ้ากล้าหลบหนีไปได้อย่างไร!?” คำพูดที่คลุ้มคลั่งของตันหลางค่อนข้างจะไร้เหตุผล แต่ในใจมันรู้สึกหงุดหงิดและหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง…หวาดกลัวว่าพลังชีวิตของมันจะถูกดูดซับออกไปจนหมดสิ้น และผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋านี้จะเป็นผู้ที่ตายแทนมันไป

เมื่อเห็นว่าตัวแทนของมันกำลังหลบหนีจากไป ก็ทำให้ตันหลางมีโทสะขึ้นมา เพิ่มความเร็วขึ้น ทำให้ผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าไม่อาจจะหลบหนีจากไปได้ เมื่อเห็นเช่นนี้ผู้ฝึกตนนั้นก็หมุนตัวกลับมาในทันที พร้อมกับขยับมือร่ายเวท ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันดุร้าย

“สายฟ้า!” มันร้องตวาดขึ้น ทำให้สายฟ้าสีแดงจำนวนมากพุ่งออกมาจากผิวกายของมันในทันที สายฟ้าเหล่านั้นรวมตัวเข้าด้วยกันเพื่อกลายเป็นภาพของสายฟ้าขนาดใหญ่ จากนั้นก็ระเบิดออกไป กลายเป็นลูกทรงกลมสายฟ้าที่ขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ชายชราผู้นี้เป็นคนที่เด็ดเดี่ยว ดังนั้นมันจึงกัดลงไปที่ปลายลิ้นอย่างรวดเร็วและพ่นโลหิตออกมาหนึ่งคำ

“น้ำ!” มันแผดร้อง กลุ่มหมอกสีแดงกระจายออกมาจากโลหิต ราวกับว่าโลหิตและน้ำกำลังถูกแยกออกจากกัน สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือหยดน้ำเท่านั้น ซึ่งเป็นแก่นแท้ที่ก่อตัวขึ้นมาจากพลังชีวิตของชายชราผู้นี้

หยดน้ำนั้นประกอบด้วยโลกทั้งหมด และขณะที่สายฟ้าพุ่งลงมา ก็เริ่มกลายเป็นแสงเจ็ดสี ภายในนั้นมองเห็นพื้นดินอยู่จำนวนมาก แสงเหล่านั้นพุ่งตรงไปยังตันหลางในทันที

ประกายสายฟ้าหมุนวนอยู่รอบๆ หยดน้ำ และจากนั้นก็พุ่งตรงไปยังตันหลางด้วยเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ถ้าเมิ่งฮ่าวไปต่อสู้กับสายฟ้าและแก่นแท้น้ำของชายชราผู้นี้ เขาคงจะปลดปล่อยสุดยอดสะพานออกมาอย่างแน่นอน แต่เมิ่งฮ่าวที่ถูกตันหลางยึดร่างแค่ยิ้มออกมาเท่านั้น

จากนั้น…มันก็อ้าปากขึ้นและกลืนกินหยดน้ำนั้นเข้าไป!

ขณะที่มันกลืนหยดน้ำนั้นลงไป เสียงกึกก้องก็ดังเต็มอยู่ภายในร่างเมิ่งฮ่าว สำหรับสายฟ้าอันไร้ขอบเขตเหล่านั้น มันก็ดูดซับเข้าไปด้วยเช่นกัน!

คาดไม่ถึงว่ามันไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ทำให้ดวงตาของชายชราต้องเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ มันกำลังจะหลบหนีจากไป แต่ตันหลางที่ยึดร่างเมิ่งฮ่าวไว้ก็หัวเราะอย่างชั่วร้ายออกมา

“ตอนนี้ ถึงคราวข้าแล้ว…สุนัขป่าท่องทั่วหล้า!” ตันหลางกล่าวขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวอย่างแปลกๆ พุ่งทะยานตรงไปยังทิศทางของชายชรา อ้าปากกว้างขึ้น

ขณะที่มันสูดลมหายใจเข้าไป ก็ไม่มีพลังของการดูดซับปรากฏขึ้น แต่ชายชราก็ส่งเสียงร้องอย่างน่ากลัวออกมา เกิดเป็นเสียงกระหึ่มขึ้นขณะที่กลุ่มหมอกสีขาวไหลออกมาจากร่างมัน ตรงมายังตันหลางซึ่งทำการดูดซับเข้าไปอย่างรวดเร็ว

ช่างเป็นภาพที่แปลกประหลาดนัก ชายชราแผดร้องออกมาขณะที่ร่างกายมันเริ่มแห้งเหี่ยวลงไป ในชั่วพริบตาก็กลายเป็นซากศพที่แห้งกรัง จากนั้นก็สลายกลายเป็นเถ้าธุลีไป

พลังชีวิตของมันถูกตันหลางดูดกลืนเข้าไปจนหมดสิ้น!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version