Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1336

ตอนที่ 1336

วางแผนโจมตีเพื่อพบกันอีกครั้ง

ขุนเขาทะเลที่สี่ควบคุมวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ในขุนเขาทะเล คนทั้งหมดที่ตายอยู่ในอาณาจักรขุนเขาทะเล จะผ่านเข้าไปในน้ำพุเหลือง ซึ่งจะกลายเป็นแม่น้ำแห่งการเกิดใหม่ ที่นำไปสู่ขุนเขาทะเลที่สี่ ในที่แห่งนั้นวิญญาณที่มาถึงใหม่จะถูกนำตัวเข้าไปในวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ และในที่สุดพวกมันก็จะค้นพบที่อยู่แห่งใหม่ของตนเอง

มีความลับและตำนานมากมายที่เกี่ยวข้องกับขุนเขาทะเลที่สี่ มันเป็นสถานที่อันลี้ลับ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีทางจะเข้าใจได้อย่างแท้จริง คนส่วนมากรู้เพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นว่า ผู้แข็งแกร่งมากที่สุดของอาณาจักรขุนเขาทะเลอาศัยอยู่ในที่แห่งนั้น

นามของท่านก็คือ ตี้จ้าง!

ท่านคือราชันแห่งขุนเขาทะเลที่สี่ เป็นผู้ควบคุมนรกโลกันต์ และดูแลรับผิดชอบการถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ แม้แต่ในท่ามกลางราชันขุนเขาทะเลด้วยกันเอง ท่านก็อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น นั่นเป็นเพราะว่า…ท่านคือผู้ควบคุมชีวิตของคนทั้งหมดในอาณาจักรขุนเขาทะเล!

ขุนเขาทะเลที่สี่คือส่วนสำคัญที่จะช่วยให้อาณาจักรสามารถสร้างเป็นวัฏจักรที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้

นี่คือครั้งแรกของเมิ่งฮ่าวที่มายังขุนเขาทะเลที่สี่ และในทันทีที่ผ่านเข้าไป ก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตายที่เลือนลางแต่ก็บริสุทธิ์เป็นอย่างยิ่ง

หรือบางทีอาจจะดีกว่าถ้าจะกล่าวว่า มันไม่ใช่กลิ่นอายแห่งความตาย แต่เป็นกลิ่นอายหยิน

ด้วยการมองไปแค่แวบเดียวก็ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่ผิดปกติแม้แต่น้อย ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และอาณาเขตอันกว้างใหญ่นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นเหมือนกัน แต่ถ้ามองดูให้ละเอียดก็จะเห็นว่าทั่วทั้งโลกแห่งนี้เป็นสีเทาไป

เมิ่งฮ่าวมองไปรอบๆ อย่างเงียบๆ จากนั้นก็ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ให้กระจายออกไปปกคลุมทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่สี่ ตรงสถานที่แห่งนี้มีผู้แข็งแกร่งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างดุร้าย

นั่นคือบริเวณที่ตี้จ้างกำลังต่อสู้กับราชันจักรพรรดินอกคอก สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวไปกระตุ้นปฏิกิริยาของคนทั้งสองในทันที สำหรับราชันจักรพรรดินอกคอก ปฏิกิริยาของมันเต็มไปด้วยโทสะ เห็นได้ชัดว่าต้องการจะหลุดพ้นเป็นอิสระจากการต่อสู้ เพื่อมาสังหารเมิ่งฮ่าว

อย่างไรก็ตาม ตี้จ้างก็พยายามขัดขวางไว้ แต่กระนั้นมันก็ยังได้กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตนเองโดยสิ้นเชิง

“เจ้าคือเมิ่งฮ่าว!” คนนอกคอกกล่าว

“สหายเต๋าเมิ่ง เหล่าฟูจัดการกับคนนอกคอกผู้นี้ได้!” ตี้จ้างกล่าวขึ้น

เมิ่งฮ่าวยิ้มเล็กน้อย เมื่อเกิดสงครามขึ้น บุปผาก็เบ่งบานไปทั่ว ไม่ใช่แค่กิ่งก้านเดียวเท่านั้น

นอกจากนั้นลำพังแค่คนเดียวไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงภาพรวมของสงครามทั้งหมดได้ จำเป็นต้องใช้พลังแห่งมวลชน

เมิ่งฮ่าวประสานมือและโค้งตัวลงให้กับตี้จ้าง จากนั้นก็ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ตรงไปยังสนามรบของผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่สี่และกลุ่มคนนอกคอก

มองเห็นกลุ่มคนนอกคอกนับล้านอยู่ที่นั่น เช่นเดียวกับผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่สี่ กำลังต่อสู้กันอยู่อย่างดุเดือดเป็นประวัติการณ์

เมิ่งฮ่าวมองเห็นสวี่ชิงอยู่ที่นั่น ถูกห้อมล้อมด้วยผู้พิทักษ์เป็นรูปวงกลม นางไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย กำลังส่งคำสั่งออกไปยังทุกส่วนของสนามรบอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเช่นนั้นทำให้ผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่สี่กำลังได้เปรียบอย่างชัดเจน

ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะอยู่ห่างจากสวี่ชิงเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเขามองไป นางก็สามารถจะรับรู้ได้ หันหน้ามองออกไปยังที่ห่างไกล และด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้สายตาของนางมาสบประสานกับสายตาของเมิ่งฮ่าว

ในตอนนั้นเอง ที่จิตใจเมิ่งฮ่าวต้องสั่นสะท้านขึ้นมา ขณะที่มองไปยังสวี่ชิง ความทรงจำนับไม่ถ้วนก็พุ่งขึ้นมา ทั้งช่วงเวลาที่อยู่บนภูเขาต้าชิง เมื่อคนทั้งสองพบกันเป็นครั้งแรก จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่อยู่ในสำนักเอกะเทวะ เมื่อเมิ่งฮ่าวมอบเม็ดยาคงโฉมให้กับนาง ในดินแดนสงบสุขโบราณแห่งสำนักชิงหลัว เมิ่งฮ่าวพบเห็นนางกำลังสั่นสะท้านอย่างที่ไม่อาจจะช่วยเหลือตนเองได้

ตรงด้านนอกของดินแดนสีดำ ซึ่งโฉ่วเหมินไถตกลงมาจากท้องฟ้า ตอนที่เมิ่งฮ่าวสังหารผู้ฝึกตนเสมือนลำดับขั้นตระกูลจี้ และเมื่อคนทั้งสองต้องแยกจากกัน หยดน้ำตาก็เอ่อล้นอยู่ในดวงตานาง

เมิ่งฮ่าวไม่เคยลืมเรื่องทั้งหมดเหล่านั้น

ในถ้ำกำเนิดใหม่ เมื่อเขากำลังจะตายไป สวี่ชิงคอยดูแล และยังได้ยอมเสียสละพลังชีวิตของตนเองให้เขาอีกด้วย ทำให้ตนเองมีโอกาสรอดชีวิตขึ้นมาใหม่ แม้ในขณะที่วิญญาณของนางกำลังจะแตกดับ นางก็ยินดีที่จะจ่ายค่าตอบแทนให้กับเขา ยอมถูกจับตัวอยู่ในสำนักชิงหลัว

ในช่วงงานวิวาห์โลหิตของคนทั้งสอง เมิ่งฮ่าวโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขน เฝ้ามองดูร่างนางเลือนลางหายไป ประคองนางไว้ขณะที่นางตกตายไป และตลอดช่วงเวลานั้น นางก็สนใจอยู่แค่อย่างเดียวเท่านั้นคือ ความฝันที่จะได้วิวาห์กับเมิ่งฮ่าว

จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน ขณะที่ความทรงจำพุ่งขึ้นมาราวกับเป็นสายลมและสายฟ้า ทำให้ต้องสั่นสะเทือนไปทั้งร่าง

เขามาเพื่อรักษาสัญญา เขามาแล้ว!

เขาสัญญาว่าจะค้นหานาง ถึงแม้ว่าจะต้องเดินทางออกไปในอาณาจักรขุนเขาทะเลที่ห่างไกลมากที่สุดก็ตาม ไม่ว่าจะต้องพบเจอกับอันตรายมากแค่ไหน เขาก็จะค้นหานางเพื่อไปยืนอยู่ที่ข้างกายนางอีกครั้ง

นางสัญญาว่าจะรอคอยเขา ถ้าช่วงเวลาในหนึ่งชีวิตไม่เพียงพอ นางก็จะรอคอยเมิ่งฮ่าวไปทุกช่วงเวลาของชีวิตทั้งหมด

นอกจากบิดามารดาและพี่สาวแล้ว ก็ไม่มีใครในชีวิตที่เมิ่งฮ่าวจะกระทำให้อย่างมากมายเช่นนี้ ไม่มีหญิงสาวคนใดที่เขาจะวิตกกังวลได้อย่างมากมายเช่นนี้ และไม่มีใครสามารถจะครอบครองตำแหน่งในจิตใจเขาได้ตราบชั่วนิรันดร์เช่นนี้

เขาไม่เคยตระหนักว่าตอนที่อยู่บนภูเขาต้าชิง เมื่อพบเห็นนาง จิตใจก็ถูกกำหนดไว้อย่างแน่วแน่แล้วว่า…จะอยู่กับนางไปตราบชั่วนิรันดร์ ตลอดทั้งช่วงเวลาในชีวิตทั้งหมด

ศิษย์พี่หญิงสวี่…

นางไม่ได้งดงามอย่างไร้ที่เปรียบ แต่ในสายตาของเมิ่งฮ่าว นางคือสิ่งที่สวยงามมากที่สุดในสวรรค์และปฐพี นางไม่มีจิตใจที่ซับซ้อน และเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่ไม่ฉลาด แต่นางชอบสิ่งที่เรียบง่าย เช่นเดียวกับตนเอง เมื่อเขาเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าอย่างถึงที่สุด ก็สามารถจะพักพิงจิตวิญญาณของตนเองได้อย่างสงบและเรียบง่าย

รอยยิ้มของนาง เสียงของนาง สายตาของนาง ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับนาง หยั่งรากฝังลึกอยู่ในจิตใจเมิ่งฮ่าว และทำให้เขายิ้มออกมาได้

“ข้ามั่นใจว่าไม่ได้ตกหลุมรักความทรงจำเหล่านี้ แต่เป็นท่าน ทั้งก่อนหน้าความทรงจำ และหลังจากความทรงจำเหล่านี้ ข้ามั่นใจว่า ข้า…ชอบท่านอย่างแท้จริง”

เมิ่งฮ่าวพึมพำด้วยเสียงแผ่วเบา ก้าวเดินตรงไป

เมิ่งฮ่าวไม่รู้ว่าที่ด้านหลัง มีเงาร่างในชุดยาวสีดำปรากฏขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้เงาร่างนั้นกำลังมองดูเขาเดินห่างออกไปไกล

เงาร่างนั้นคือมือสังหารนั่นเอง

เมื่อมือสังหารเห็นเมิ่งฮ่าวมองดูสวี่ชิงเช่นนั้น แววตามันก็แวบประกายแห่งการหวนรำลึกขึ้นมา ราวกับว่ามันกำลังครุ่นคิดไปถึงเรื่องราวเมื่อในอดีต ราวกับว่ามันกำลังรำลึกนึกถึง…ตนเอง

เมื่อเมิ่งฮ่าวเดินตรงไป โลกก็หายไป ฟ้าดินเลือนรางลง กฎธรรมชาติแตกกระจายไป มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่คงอยู่ ภรรยาของตนเอง, สวี่ชิง

เขาเดินทางมาจากที่ห่างไกล ข้ามผ่านขุนเขาทะเลแต่ละแห่งมา เดินไปทีละก้าวในท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และในที่สุดก็มาถึงสนามรบแห่งนี้ กลุ่มคนนอกคอกมากมายยืนขวางทางอยู่ที่เบื้องหน้า ไม่ใช่ว่าพวกมันตั้งใจที่จะทำเช่นนี้ แต่เมิ่งฮ่าวเดินผ่านพวกมันเข้าไปในส่วนลึกของสนามรบเอง

พลังทำลายล้างที่กระจายออกมาอยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว ทำให้กลุ่มคนนอกคอกใดๆ ก็ตามที่อยู่ใกล้รัศมีหนึ่งหมื่นจ้าง ต้องแผดร้องและระเบิดขึ้นมาในทันที

เมิ่งฮ่าวไม่ให้ความสนใจต่อพวกมันแม้แต่น้อย เขาเดินต่อไปพร้อมกับเสียงร้องตะโกนขึ้นด้วยความประหลาดใจที่ดังก้องอยู่รอบๆ ตัว ขณะที่กลุ่มคนนอกคอกถอยร่นไปทางด้านหลัง เกิดเป็นภาพแปลกๆ ขึ้นอยู่ในสนามรบ

ทุกย่างก้าวที่เมิ่งฮ่าวเดินไป เกิดเป็นช่องว่างเปิดกว้างขึ้นอยู่รอบตัว ขณะที่กลุ่มคนนอกคอกรีบหลบหนีถอยห่างออกไป

ผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่สี่เฝ้ามองมาด้วยความระมัดระวังตัว ถึงแม้ว่าการมาถึงของเมิ่งฮ่าวจะทำให้กลุ่มคนนอกคอกตกตายไปอยู่รอบๆ กาย แต่พวกมันก็ยังคงวิตกกังวล

มีเพียงสองคนเท่านั้นที่มีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันออกไป หนึ่งคือผู้ฝึกตนลำดับขั้นแห่งขุนเขาทะเลที่สี่, หลินชง และอีกคนก็แน่นอนว่าเป็นสวี่ชิง

หลินชงยืนอยู่ในกลุ่มฝูงชน สวมใส่ชุดยาวสีเทา ขณะที่คิดย้อนไปยังเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยู่ในอาณาจักรสายลม ก็ถอนหายใจและฝืนยิ้มออกมา แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน

“ในที่สุดมันก็มาแล้ว”

สวี่ชิงกำลังยิ้มอย่างสดใส ยืนอยู่ในท่ามกลางกลุ่มกองกำลังของขุนเขาทะเลที่สี่ อยู่ภายในกระโจมบัญชาการ กำลังมองไปยังเมิ่งฮ่าวขณะที่ใกล้เข้ามา นางจดจำได้ถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับเมิ่งฮ่าว ความทรงจำเหล่านั้นไม่ได้ถูกลบไปอันเนื่องมาจากการเกิดใหม่

นางมักจะเชื่อว่าสักวันหนึ่ง คนรักของนาง สามีของนาง จะมาจากขุนเขาทะเลที่เก้าอันห่างไกล เพื่อมาค้นหานาง ไม่ว่าเขาจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน หรือห่างไกลมากเพียงใด ไม่ว่าจะเกิดสงครามขึ้นหรือไม่ก็ตาม ไม่มีอะไรที่จะหยุดเขาได้

เขาจะต้องมาอย่างแน่นอน

และตอนนี้ เขาก็มาแล้ว

สวี่ชิงกัดริมฝีปาก และก้าวเดินออกไป ทำให้กลุ่มผู้ฝึกตนจากขุนเขาทะเลที่สี่ซึ่งอยู่รอบๆ บริเวณนั้นเต็มไปด้วยความตกใจ บางคนต้องการจะเข้าไปขัดขวาง แต่ขณะที่เมิ่งฮ่าวเข้ามาใกล้ พวกมันก็สูญเสียความสามารถที่จะควบคุมพื้นฐานฝึกตนไปในทันที

สนามรบเงียบกริบไป ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวและสวี่ชิงอยู่ที่นั่น มองดูซึ่งกันและกัน ค่อยๆ เข้ามาใกล้อย่างช้าๆ

ดูเหมือนว่าเวลาจะเดินช้าลง กลุ่มคนนอกคอกและผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่สี่ ต่างก็เฝ้ามองไปขณะที่เมิ่งฮ่าวเข้าไปใกล้ สวี่ชิงเดินออกมาจากกระโจมบัญชาการ และในที่สุดคนทั้งสอง…ก็มายืนอยู่ด้วยกัน

“ข้ามาแล้ว” เมิ่งฮ่าวกล่าว ยื่นมือออกไปคว้าจับมือนาง นี่คือภรรยา และเป็นคนรักในชั่วชีวิตนี้ของเขา

“อืม” นางกล่าวตอบ ใบหน้าแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย ต้องใช้ความกล้าหาญอยู่บ้างเพื่อไม่ให้ก้มศีรษะลงไป รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง มองเข้าไปในดวงตาเมิ่งฮ่าวและยิ้มออกมา นี่คือรอยยิ้มที่มีความสุขมากที่สุด หลังจากที่นางถือกำเนิดใหม่ขึ้นมา

เมื่อเมิ่งฮ่าวมองเห็นรอยยิ้มของสวี่ชิง ก็อดที่จะยิ้มขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ กุมมือแน่นไปรอบๆ มือนาง และมือของสวี่ชิงก็กุมแน่นตอบกลับมา ราวกับว่าไม่ต้องการจะแยกจากกันอีกต่อไปแล้ว

อย่างไรก็ตามทั้งคู่ต่างก็รู้ว่ามีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยมาก ถึงแม้ว่าจะจับมือให้แน่นมากไปกว่านี้ แต่ก็มีช่วงเวลาที่ต้องแยกจากกัน สวี่ชิงมีหน้าที่ของนาง

และเมิ่งฮ่าวก็มีภารกิจที่ต้องรับผิดชอบของตนเองด้วยเช่นกัน

นี่คือช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่าคนทั้งสองจะพบกันอีกครั้งก็ตาม ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นได้ ถ้าไม่มีสงครามอยู่ในขุนเขาทะเล…

เมิ่งฮ่าวถอนหายใจ

สวี่ชิงมองไปรอบๆ ยังกลุ่มผู้ฝึกตนจากขุนเขาทะเลที่สี่ และกลุ่มคนนอกคอกทั้งหมด ค่อยๆ ปล่อยมือออกไปอย่างช้าๆ “ตอนนี้ข้าไม่อาจจะไปกับท่านได้…”

“รอข้าด้วย…ถ้าสงครามจบลงในสักวันหนึ่ง พวกเรา…ค่อยกลับบ้านไปด้วยกัน” สวี่ชิงก้าวเดินไปข้างหน้าและโอบกอดไปรอบร่างเมิ่งฮ่าว ซุกหน้าลงไปบนหน้าอกเพื่อรับฟังเสียงเต้นหัวใจของเขา

หลังจากที่ผ่านไปนานชั่วขณะ นางก็มองขึ้นไปยังเมิ่งฮ่าวและกล่าวว่า “ข้าจะรอคอยท่าน และท่านก็รอข้า พวกเราจะเฝ้ามองดูซึ่งกันและกัน”

สวี่ชิงกัดริมฝีปาก จากนั้นก็ผละออกมาจากอ้อมอกเมิ่งฮ่าว และเดินกลับเข้าไปในกระโจมบัญชาการ

ขณะที่เมิ่งฮ่าวมองไปยังสวี่ชิง ก็ตระหนักว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้นางแตกต่างไปจากเดิม เช่นเดียวกับตนเอง…นางเติบโตขึ้นแล้ว กลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว

จิตใจเมิ่งฮ่าวสงบนิ่งเยือกเย็น สวี่ชิงมีหน้าที่ของนาง และตนเอง…ก็มีภารกิจด้วยเช่นกัน หลังจากที่มองไปยังนางอย่างลึกซึ้งเป็นครั้งสุดท้าย ก็โบกสะบัดมือออกไป ส่งเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ไปหมุนวนอยู่รอบๆ ร่างนางบางส่วน จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ มองขึ้นไปในท้องฟ้าตรงดินแดนอันกว้างใหญ่ที่ด้านบน ซึ่งก็คือสวรรค์ชั้นแรก

ความอบอุ่นในแววตาค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ ถูกแทนที่ด้วยความเย็นเยียบราวน้ำแข็ง!

อากาศรอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าวเริ่มหนาวเย็นลง กลิ่นอายของเขาเริ่มแหลมคมและดุร้ายขึ้น

“มีบางสิ่งที่ข้าต้องไปทำ เป็นบางสิ่งที่จะช่วย…ยกระดับจิตวิญญาณของคนทั้งหมดในอาณาจักรขุนเขาทะเล!” เมิ่งฮ่าวพึมพำ เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่จู่ๆ เขาก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ ทิ้งสนามรบไว้ทางด้านหลัง กลายเป็นริ้วแสงที่คล้ายกับดาวตก พุ่งออกไปจากขุนเขาทะเลที่สี่ สูงขึ้นไปยังดินแดนอันกว้างใหญ่ที่ด้านบน ตอนนี้เขากำลังมุ่งหน้าตรงไปยังสวรรค์ชั้นแรก ซึ่งมาแทนที่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล

เขากำลังจะไปทำลายสวรรค์ชั้นแรก!

น้อยคนนักที่จะสังเกตเห็นว่าเขากำลังบินสูงขึ้นไปในท้องฟ้า แต่ก็แน่นอนว่าในที่สุด…อาณาจักรขุนเขาทะเล จะต้องมีพายุที่ทำให้ฟ้าสะท้านดินสะเทือนปรากฏขึ้น!

และพายุนั้นก็สืบเนื่องมาจาก…เมิ่งฮ่าวนั่นเอง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version