ตอนที่ 1407
ข้าจะหลับตาลงได้อย่างไร?
บริเวณที่อยู่รอบๆ กระแสน้ำวนในความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต ตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายไปโดยสิ้นเชิง กลิ่นอายมากมายจากอาณาจักรเทพและอาณาจักรมารพุ่งกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง กองกำลังที่ปรากฏตัวขึ้นจากก่อนหน้านี้ของสองดินแดนอันกว้างใหญ่ที่ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่ง แต่จริงๆ แล้วก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของกองกำลังหลักพวกมันเท่านั้น
ในตอนนี้การระเบิดขึ้นมาของอาณาจักรขุนเขาทะเล ได้ปลดปล่อยเป็นระลอกคลื่นที่เห็นได้ชัดว่าสูงเกินกว่าระดับเก้าแก่นแท้ธรรมดาทั่วไป บังคับให้สองกองกำลังอันยิ่งใหญ่ต้องปลดปล่อยความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมา
กระแสแห่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากแผ่กระจายออกไป ไม่มีกระแสใดที่จะอ่อนแอไปกว่าชายชราที่เพิ่งจะฟาดฝ่ามือโจมตีออกมาจากอาณาจักรมาร!
เห็นได้ชัดว่าทรัพยากรของทั้งสองกองกำลังเหล่านี้มีความลึกล้ำจนยากที่จะคาดคิดได้ ด้วยพลังอันน่าตกใจเช่นนั้นคือสิ่งที่ทำให้พวกมันมีความน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง และเป็นเหตุผลที่ทำไมแม้แต่จิ่วเฟิงที่อยู่สูงเกินไปกว่าระดับเก้าแก่นแท้ไปครึ่งก้าว ก็ยังต้องตายไปในตอนนั้น
ถึงแม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย และกองกำลังที่มาโจมตีเมิ่งฮ่าวจะได้รับผลกระทบจากการระเบิดนี้ไปทั้งหมด แต่ก็ยังมีอีกสองคนที่ไม่ตกอยู่ในจุดศูนย์กลางของการระเบิด และมีพื้นฐานฝึกตนที่แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง สามารถที่จะพุ่งตรงมาเพื่อโจมตีเมิ่งฮ่าวได้
หนึ่งเป็นบุรุษที่ร่างกายกำยำดูป่าเถื่อนจากอาณาจักรมาร และอีกคนเป็นสตรีเย็นชาที่ถูกเมิ่งฮ่าวฉีกกัดเนื้อบนศีรษะออกมา คนทั้งสองมีความแข็งแกร่งกว่าอีกแปดคนเล็กน้อย ทำให้ตอนนี้สามารถจะพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างดุร้ายได้
แต่ในขณะที่พวกมันเข้ามาใกล้ด้วยความต้องการสังหาร ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็ตบลงไปยังถุงสมบัติ ดึงหญิงสาวผู้หนึ่งออกมาด้วยการคว้าจับไปที่ลำคอ และยกชูสูงขึ้นไปในอากาศ
“ถ้าพวกเจ้าเข้ามาใกล้กว่านี้ ข้าจะสังหารหญิงสาวนางนี้ไป!”
ในทันทีที่บุรุษร่างกายกำยำมองเห็นหญิงสาวเยาว์วัย ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้น และหยุดชะงักนิ่งโดยที่ไม่ต้องขบคิดใดๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจหรือแม้แต่ไม่อยากจะเชื่อ
“เจ้า…”
หญิงสาวเยาว์วัยนางนั้นเป็นคนๆ เดียวกับที่เมิ่งฮ่าวจับตัวไว้เหมื่อหลายปีก่อน…ซูเยียน ในทันทีที่มองเห็นบุรุษร่างกำยาใช้เจ็ดก้าวเทพ เมิ่งฮ่าวก็คาดเดาได้ว่าซูเยียนต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับอาณาจักรมาร
แต่สตรีเย็นชาจากอาณาจักรเทพไม่หยุดชะงักแม้แต่น้อย ถ้าเมิ่งฮ่าวไม่หยุดนาง ก็สามารถจะคาดคิดได้ถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นในทันที กับผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลที่อยู่ภายในร่างผีเสื้อ
ผีเสื้อกำลังหายเข้าไปในหลุมดำ พุ่งผ่านรอยแตกแห่งแล้วแห่งเล่าเข้าไป เมื่อเป็นเช่นนั้นกลิ่นอายอันน่ากลัวของสตรีเย็นชาก็พุ่งขึ้นมา และเริ่มเรียกหัตถ์ยักษ์น้ำแข็งออกมาให้ไปคว้าจับผีเสื้อไว้
เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะทำอะไรเพื่อขัดขวางนางได้ และจริงๆ แล้วก็มีปัญหาอยู่บ้างถึงแม้ว่าจะตกอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบก็ตาม ม่านตาเริ่มพร่าเลือนและพลังชีวิตกำลังจางหายไปอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่มีปราณอสูรหลงเหลืออยู่บ้าง เขาคงจะถูกกำจัดไปเรียบร้อยแล้ว
ในห้วงอันตรายอันร้ายแรงนี้ เมิ่งฮ่าวหัวเราะหึๆ และพุ่งถอยไปทางด้านหลัง แสงแห่งความบ้าคลั่งสาดประกายขึ้นในดวงตา โดยไม่ต้องพูดจาหรือกล่าวเตือนใดๆ ตะเกียงวิญญาณก็ปรากฏขึ้นมาทั้งหมดในทันที
ยี่สิบดวงดับลงไป อีกสิบสามดวงยังคงลุกไหม้อยู่!
แต่ในตอนนี้สิ่งที่เมิ่งฮ่าวกำลังจะทำ ไม่ใช่การดับตะเกียง…แต่ต้องการระเบิดพวกมันไป
“ระเบิด!” เขาร้องตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง เต็มไปด้วยความดุร้ายถึงแม้ว่าจะอยู่ในสถานะที่อ่อนแอมากก็ตามในตอนนี้
เมื่อต่อสู้มาจนถึงจุดนี้ก็ทำให้พลังของเมิ่งฮ่าวเหือดแห้งหายไป เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อโจมตีออกไป ถึงแม้ว่าจะต่อสู้ได้ไม่นานนักก็ตาม แต่ช่วงเวลาสั้นๆ นั้นก็ช่างน่าตกใจจนแทบไม่อยากจะเชื่อ
เมิ่งฮ่าวทำลายสุดยอดสะพานและคันธนูแสงอาทิตย์ไป ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั้งหมดของตนเองไม่อาจจะทำอะไรกับฝ่ายตรงข้ามได้ จนต้องหลอมรวมเวทผนึก, ปลดปล่อยเวทผนึกสวรรค์ออกไป และในตอนนี้เวทเหล่านั้นทั้งหมดก็จางหายไปแล้ว เขายังได้ระเบิดอาณาจักรขุนเขาทะเลไปอีกด้วย การกระทำเหล่านั้นสามารถจะขัดขวางฝ่ายตรงข้ามได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ช่วยให้ผีเสื้อมุ่งหน้าเข้าไปในหลุมดำ ตรงไปยังโลงศพสีเขียว
อันที่จริงผีเสื้อแทบจะผ่านจุดที่ไม่อาจจะหวนกลับได้อีกแล้ว
ดังนั้นเมิ่งฮ่าวจะยอมให้ความพยายามที่แล้วมาทั้งหมดของตนเองต้องสูญเปล่าไปได้อย่างไร? ถึงแม้จะไม่รู้ว่าสตรีเย็นชานางนี้มีนามว่าอะไร แต่ก็รู้ดีว่า…ตนเองยินยอมตายดีกว่าที่จะให้นางพุ่งผ่านไป!
เมื่อเสียงของเมิ่งฮ่าวดังก้องขึ้น ตะเกียงวิญญาณที่ดับลงไปแล้วทั้งหมดก็ระเบิดออกมาในทันที!
การระเบิดตะเกียงวิญญาณก็เหมือนกับการระเบิดพื้นฐานฝึกตนของคนผู้หนึ่ง พลังอันมหาศาลกลายเป็นพลังการโจมตีที่ม้วนกวาดตรงไปยังสตรีเย็นชาเพื่อขัดขวางนางไว้ สีหน้านางเปลี่ยนไปและกัดฟันแน่น ปลดปล่อยความเย็นเยียบที่อยู่ภายในร่างออกมา เพื่อก่อตัวเป็นน้ำแข็งสีฟ้าชั้นแล้วชั้นเล่า ในทันทีที่ชั้นน้ำแข็งปรากฏขึ้น นางก็ส่งพวกมันให้พุ่งตรงไปยังพลังทำลายล้าง ที่ระเบิดออกมาจากตะเกียงวิญญาณทั้งยี่สิบดวงเหล่านั้น
ตูมมมมมมม!
ทั่วทั้งบริเวณนั้นตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย อันเนื่องมาจากการระเบิดขึ้นของอาณาจักรขุนเขาทะเล ในตอนนี้เมื่อพลังการระเบิดของตะเกียงวิญญาณ กระแทกลงไปยังชั้นน้ำแข็งที่สตรีเย็นชาโจมตีมา ก็ทำให้เกิดเป็นเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทาง
ชั้นน้ำแข็งแตกกระจายไป และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากของสตรีนางนั้น แต่นางก็แข็งแกร่งพอที่จะต่อต้านพลังการระเบิดของตะเกียงวิญญาณเมิ่งฮ่าวได้ และพุ่งตรงไปอีกครั้ง
“ข้ายังระเบิดไม่เสร็จ เจ้าไม่มีทางผ่านข้าไปได้!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น สายตากำลังพร่าเลือน แต่มุมปากก็บิดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ทั้งหัวเราะและร้องไห้อย่างแปลกๆ ดวงตาลุกโชนขึ้นด้วยวิญญาณแห่งไฟที่ดูเหมือนว่าจะมีผลกระทบอย่างลี้ลับกับเปลวไฟสีม่วงน้ำเงินของตะเกียงวิญญาณที่เหลืออีกสิบสามดวงเหล่านั้น
“ระเบิด!”
ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวอ้าปากขึ้น ตะเกียงวิญญาณที่ลุกไหม้อยู่ก็เริ่มระเบิดออกไป ตะเกียงดวงแรก, ดวงที่สอง, ดวงที่สาม, ดวงที่สี่…จนถึงดวงที่หกระเบิดขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
ตะเกียงวิญญาณที่ยังไม่ดับลงไปเหล่านี้ปลดปล่อยเป็นพลังที่น่าตกใจกว่าดวงอื่นๆ ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยความปั่นป่วนวุ่นวายและความบ้าคลั่งมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นการทำลายล้างของพวกมันก็ทำให้เมิ่งฮ่าวได้รับความเสียหายอย่างลึกล้ำ
แต่เขาก็ไม่สนใจ ในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เขาใส่ใจก็คือผีเสื้ออาณาจักรขุนเขาทะเล
ตูมมมมมมม!
สีหน้าของสตรีเย็นชาสลดลง และจากนั้นโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปาก รีบขยับมือร่ายเวทอย่างรวดเร็ว ความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทม้วนกวาดออกไปในทั่วทุกทิศทาง เพื่อต่อสู้กลับไปยังแรงระเบิดของตะเกียงวิญญาณเมิ่งฮ่าว ดวงที่เจ็ด, ดวงที่แปด และจากนั้นดวงที่เก้าก็ระเบิดออก!
ขณะที่เกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โลหิตสีดำก็ไหลซึมออกมาจากมุมปากเมิ่งฮ่าว จากสองหู, จมูกและดวงตาด้วยเช่นกัน ในตอนนี้อวัยวะภายในแหลกละเอียดไป และพลังชีวิตก็ถูกทำลายไป เหลือเพียงแค่ปราณอสูรอยู่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังคงบังคับให้ตนเองต้องลืมตาขึ้นมา!
“ถ้าอาณาจักรขุนเขาทะเลและผีเสื้อยังไม่ปลอดภัย แล้วข้าจะหลับตาลงได้อย่างไร?” เมิ่งฮ่าวพ่นโลหิตออกมาจากปาก และจากนั้นก็เริ่มหัวเราะขึ้นมา
เสียงระเบิดดังก้องขึ้นขณะที่ตะเกียงวิญญาณดวงที่สิบ, สิบเอ็ด และสิบสองระเบิดออกไป สตรีเย็นชาแผดร้องคำรามด้วยโทสะ เมื่อถูกขัดขวางอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากมองไปยังผีเสื้อที่หายลับเข้าไปในหลุมดำ ในที่สุดผีเสื้อก็พุ่งผ่านจุดที่ไม่อาจจะหวนกลับออกมาได้แล้ว เป็นจุดที่ไม่มีใครจะสามารถยื่นมือออกไปคว้าจับมันและฉุดลากออกมาได้อีก
“รากฐานเซียนต้องถูกกำจัดไป!!” สตรีเย็นชาแผดร้องออกมา โลหิตพลุ่งพล่านไปทั่วร่าง และใบหน้าก็กลายเป็นสีม่วง ขณะที่ทุ่มพลังออกไปจนสุดตัวเพื่อสะกดข่มพลังการระเบิดของตะเกียงวิญญาณเมิ่งฮ่าว และเดินตรงไปได้อีกหนึ่งก้าว
เมิ่งฮ่าวยังคงหัวเราะอยู่ ในตอนนี้เขาเหลือตะเกียงวิญญาณอีกแค่หนึ่งดวงเท่านั้น!
นั่นคือ…ตะเกียงผู้ยิ่งใหญ่ของตนเอง ซึ่งมีความสำคัญมากที่สุดในตะเกียงทั้งหมด ตะเกียงผู้ยิ่งใหญ่คือตะเกียงวิญญาณที่ไม่อาจจะปฏิบัติด้วยความฉาบฉวยได้ ถ้าผู้ฝึกตนกระทำกับมันด้วยความผิดพลาด ผลลัพธ์ก็จะเกิดเป็นหายนะอันน่ากลัว
อันที่จริงสามารถจะกล่าวได้ว่า ตราบใดที่ตะเกียงผู้ยิ่งใหญ่ยังคงอยู่ แม้ว่าตะเกียงดวงอื่นๆ จะถูกทำลายไปทั้งหมดก็ไม่เป็นไร นอกจากนี้ตะเกียงผู้ยิ่งใหญ่ก็เป็นทั้งรากฐานและเมล็ดพันธุ์ของทุกสรรพสิ่ง!
เสียงหัวเราะของเมิ่งฮ่าวดังก้องขึ้น และสตรีเย็นชาก็หัวเราะออกมาด้วยเช่นกัน
ขณะที่พยายามก้าวเดินตรงไป จากนั้นประกายความดุร้ายก็แวบขึ้นมาในแววตาเมิ่งฮ่าว ขณะที่…ตัดสินใจทำลายตะเกียงผู้ยิ่งใหญ่ของตนเองไป!!
เมิ่งฮ่าวระเบิดตะเกียงผู้ยิ่งใหญ่!!
ผลของการระเบิดนั้น ทำให้การระเบิดของตะเกียงวิญญาณดวงอื่นๆ ไร้ความหมายไปโดยสิ้นเชิง พลังอันมหาศาลม้วนกวาดออกไปในความว่างเปล่า กลายเป็นพลังที่สามารถทำลายสวรรค์หั่นเฉือนปฐพี ปกคลุมไปทั่วร่างสตรีเย็นชาโดยสิ้นเชิง
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังก้องออกมา เมื่อร่างกายนางถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ จนตายไป วิญญาณลอยออกมา และดูเหมือนว่าแทบจะถูกกำจัดไปแล้วด้วยเช่นกัน แต่ก็มีลำแสงสายหนึ่งพุ่งออกมาจากอาณาจักรเทพ และม้วนพันไปรอบๆ เพื่อปกป้องวิญญาณนั้นจนปลอดภัย ตอนนี้วิญญาณของสตรีเย็นชาจ้องมองกลับมายังเมิ่งฮ่าว
และพบว่าตนเองกำลังจ้องมองเข้าไปในดวงตาที่น่ากลัว ถึงแม้ว่ากำลังจะจางหายไปก็ตามที
โลหิตไหลออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว ตะเกียงวิญญาณที่ถูกทำลายไปทั้งหมด บ่งบอกว่าพื้นฐานฝึกตนและพลังชีวิตถูกกำจัดไปแล้ว แต่ก็ยังคงยิ้มออกมา เหตุผลก็คือว่าผีเสื้อได้พุ่งผ่านจุดที่ไม่อาจจะหวนกลับในหลุมดำนั้นไปแล้ว
เมิ่งฮ่าวไม่มั่นใจว่าสิ่งที่กำลังมองเห็นอยู่นั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ก็รู้สึกราวกับว่ากำลังมองดู ขณะที่ผีเสื้อไปเกาะอยู่ตรงด้านบนของโลงศพสีเขียว พร้อมกับสหายและคนในครอบครัวทั้งหมด…จากนั้นพลังแห่งกาลเวลาก็กระจายออกไปทั่วปกคลุมมันไว้ และสีสันมากมายก็แวบขึ้นมา
ในที่สุดรอยยิ้มของเมิ่งฮ่าวก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนและอบอุ่น เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อย เหน็ดเหนื่อยจนไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะลืมตาได้อีกต่อไป ดวงตาทั้งคู่เริ่มหลับลงไปอย่างช้าๆ
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องอยู่รอบๆ ตัว เสียงร้องตะโกนด้วยโทสะ ค่อยๆ จางหายห่างออกไปไกล…
แต่จากนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องแหลมเล็ก สิ้นหวังและโทสะ ดังก้องอยู่ในหู และภายในความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตรอบๆ ตัว ในตอนนั้นเองที่เมิ่งฮ่าวตระหนักว่า…มันคือเสียงของนกแก้ว แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่าง ความโศกเศร้าเสียใจที่อยู่ภายในเสียงร้องนั้นทำให้เมิ่งฮ่าวต้องสั่นสะท้าน และถึงแม้ว่าม่านตาจะพร่าเลือน ก็ยังมองเห็นนกแก้วอยู่จริงๆ
เท่าที่ตนเองจำได้ เขาไม่เคยเห็นนกแก้วกระทำตัวเช่นนี้มาก่อน มีท่าทางเสียใจเป็นอย่างยิ่ง…
เส้นขนทั่วร่างของมันกำลังลุกขึ้นตั้งชี้ชัน และสีหน้าก็โศกเศร้า หยดน้ำตาโลหิตไหลออกมาจากดวงตา และเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดใจก็ดังก้องขึ้นมาอย่างชัดเจนในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
ดูเหมือนว่ามันจะตกอยู่ในสภาวะที่สิ้นหวัง, ในความบ้าคลั่งจากความเสียใจ
ยากที่จะบอกได้ว่านกแก้วบินออกมาจากถุงสมบัติเมื่อไหร่ แต่มันก็บินออกมาพร้อมกับกระจกทองแดง อยู่ในท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว แทบจะในทันใดนั้นผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังจากทั้งอาณาจักรเทพและอาณาจักรมารก็สังเกตเห็นในทันที
เมื่อพวกมันมองเห็นกระจกทองแดงและนกแก้ว ดวงตาก็เริ่มสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ
เวลาเดียวกันนั้น ผีโต้งก็ปรากฏกายขึ้น ร้องไห้ออกมา แปลงร่างกายเป็นชุดเกราะห่อหุ้มไปรอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว เริ่มส่งพลังชีวิตของตนเองเข้าไปในร่างเมิ่งฮ่าวโดยไม่ลังเลใดๆ
“อย่าตายนะ เมิ่งฮ่าว! เจ้าต้องไม่ตาย! ข้ายังไม่ได้เล่าเรื่องอีกมากมายให้เจ้าฟัง มีอีกหลายเรื่องที่ข้าอยากจะพูดกับเจ้า! เจ้าทำเช่นนี้มันไม่ถูกต้อง, มันผิดศีลธรรม, มันไม่ถูก…”
อ๋าวเฉี่ยนได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แต่ก็ปรากฏขึ้นด้วยเช่นกัน ใช้ร่างกายของมันประคองเมิ่งฮ่าวไว้ ถึงแม้ว่าพลังชีวิตของมันกำลังจางหายไปด้วยเช่นกัน แต่ดวงตาก็ยังคงเพ่งนิ่งไป ถึงแม้ว่ามันจะตายไป แต่ก็ไม่ยอมให้เจ้านายต้องได้รับบาดเจ็บอีกต่อไป
อ๋าวเฉี่ยนรู้สึกเช่นนั้น ผีโต้งรู้สึกเช่นนั้น และนกแก้วก็รู้สึกเช่นนั้น!