Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1459

ตอนที่ 1459

เจ้าคือฟางมู่

สามารถจะกล่าวได้ว่าในช่วงเวลาชั่วธูปไหม้หมดไปหนึ่งดอก ตี้จิ่วจงก็ถูกปกคลุมไปด้วยเสียงระฆังที่ดังก้องขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้ทั่วทั้งสำนักมีเพียงเสียงเดียวเท่านั้นก็คือเสียงระฆัง!

เหง่ง หง่าง เหง่ง หง่าง…เหง่ง หง่าง เหง่ง หง่าง…เหง่ง หง่าง เหง่ง หง่าง…เสียงระฆังดังก้องกังวาน เป็นตัวแทนของความศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง เป็นเสียงแห่งความชื่นชม ในตอนนี้ดูเหมือนว่ามนุษย์ธรรมดากำลังเคาะสิ่งของธรรมดาทั่วไป ราวกับว่า…ยิ่งเคาะมาก ก็ยิ่งได้ยินมากขึ้น

การได้ยินเสียงระฆังดังก้องออกมาเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของตี้จิ่วจง ตลอดหลายปีที่ผ่านมาทั้งหมด ไม่เคยมีเสียงดังออกมาหลายครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้มาก่อน…

“นี่…นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? มีกี่คนที่ทำให้ระฆังดังขึ้นมาหลายครั้งเช่นนี้?”

“แต่…แต่ทำไมถึงดูเหมือนว่าจริงๆ แล้วก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ทำให้เกิดขึ้นเช่นนี้? มิเช่นนั้นมันก็เป็นเรื่องบังเอิญมากเกินไปแล้ว…แต่ถ้าเป็นแค่คนๆ เดียว ก็เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจได้ ข้าคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า ที่จะมีสาเหตุมาจากคนแค่คนเดียว”

ตี้จิ่วจงตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายโดยสิ้นเชิงต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ เห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกตนของสำนักทั้งหมดกำลังบินตรงไปยังภูเขา ไม่ว่าพวกมันจะอยู่ในอาณาจักรเซียน หรือแม้แต่อาณาจักรโบราณก็ตามที

กลุ่มฝูงชนกระจายไปทั่ว มีอยู่นับล้าน หรือแม้แต่หลายสิบล้าน พวกมันมาจากทั่วทุกทิศทาง มารวมตัวกันอยู่รอบๆ ชางหมางไถ บางคนก็ไม่ได้บินมาด้วยตนเอง แต่ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกมาตรึงแน่นอยู่บนภูเขา

สูงขึ้นไปในกลางอากาศ เยียนเอ๋อร์มองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง นางได้ยินเสียงระฆัง และมองเห็นผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนกำลังบินขึ้นมาในอากาศ ทำให้ต้องผงะไปเล็กน้อย แทบไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มีสาเหตุมาจากอาจารย์ของตนเอง

ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นสำหรับคนทั้งหมดก็คือ ผู้ฝึกตนที่อยู่ตรงขั้นบันไดซึ่งต่ำกว่าหนึ่งหมื่นขั้นเพื่อทำการทดสอบ พวกมันต่างก็รู้สึกประหลาดใจไปโดยสิ้นเชิง ขณะที่จ้องมองขึ้นไปบนยอดเขา เสียงระฆังดังก้องอยู่ในสองหู จิตใจเต็มไปด้วยความงุนงง และคำถามเดียวกันกำลังส่งเสียงหึ่งๆ อยู่ภายในใจคนทั้งหมด

“คนผู้นี้คือใครกัน?!”

“ช่างดูคุ้นตานัก แต่ก็นึกไม่ออกว่ามันคือใคร!”

คนส่วนใหญ่ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง แต่ก็มีบางคนในตี้จิ่วจงที่ไม่มีปฏิกิริยามากเท่าใดนัก แน่นอนว่าผู้อาวุโสและผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าต่างก็ไม่รู้สึกประหลาดใจใดๆ และยังมีอีกกลุ่มที่มีความรู้สึกเช่นเดียวกันนี้ พวกมันคือดวงตะวันอันเจิดจ้าแห่งตี้จิ่วจง คนที่อ่อนแอมากที่สุดในกลุ่มคนเหล่านี้ มีอันดับอยู่ในหนึ่งหมื่นรายชื่อแรกบนชางหมางไถ

พวกมันไม่สนใจความปั่นป่วนวุ่นวายนี้แม้แต่น้อย จนกว่าจะรู้สึกได้ถึงภัยคุกคามจากฟางมู่ สำหรับพวกมันแล้วเรื่องทั้งหมดนี้เป็นแค่ความปั่นป่วนวุ่นวายเท่านั้น

“ไม่ว่าจะเป็นแค่คนเดียวหรือหลายคน ก็ไม่สำคัญจนกว่าพวกมันจะผ่านขั้นบันไดที่ห้าหมื่นไปได้ มิเช่นนั้นเรื่องนี้ก็แทบจะไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง”

“ใครก็ตามที่ผ่านห้าหมื่นขั้น ก็จะมีรายนามอยู่ในหนึ่งหมื่นคนแรก เช่นเดียวกับขั้นที่เจ็ดหมื่น ก็จะทำให้อยู่ในอันดับที่สามพันคนแรก”

“ภูเขาไร้สิ้นสุดไม่นับว่าเป็นอย่างไรได้ มีแต่บรรลุถึงชางหมางไถเท่านั้น ถึงจะถือว่าเป็นผู้ถูกเลือกที่แท้จริง และจะอยู่ในอันดับหนึ่งร้อยคนแรก!” กลุ่มคนเหล่านี้มีพรสวรรค์ที่น่าเหลือเชื่อ ย้อนกลับไปในตอนที่พวกมันท้าทายชางหมางไถ

ก็ทำให้เกิดเป็นความปั่นป่วนวุ่นวายอย่างใหญ่โตขึ้นมา ด้วยเช่นนั้นพวกมันจึงไม่ให้ความสนใจต่อเรื่องนี้มากนัก และจริงๆ แล้วก็ไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย

แต่ก็มีบางคนในกลุ่มพวกมันที่อยากรู้อยากเห็นอยู่บ้าง ดังนั้นจึงบินออกไปยังด้านบนของภูเขา อันที่จริงก็มีอยู่ไม่กี่พันคนที่กระทำเช่นนี้ เป้าหมายของพวกมันไม่ได้ไปท้าทายชางหมางไถ แต่ไปดูว่าใครเป็นคนทำให้ระฆังดังก้องขึ้นมากันแน่ เกิดขึ้นจากหลายคน หรือว่าเป็นแค่…คนๆ เดียว!?

ถ้ามีหลายคนมาเกี่ยวข้อง ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญมากนัก แต่ถ้าเป็นแค่คนเดียว เรื่องราวก็จะแตกต่างกันออกไป…

ผู้คนมากมายที่เพิ่งจะเดินไปบนเส้นทางนี้ เคยบรรลุถึงตำแหน่งที่อยู่ต่ำกว่าขั้นบันไดที่ห้าหมื่นมาก่อนหน้านี้แล้ว ในความคิดของพวกมัน การไล่ตามกลุ่มคนเหล่านั้นหรือคนๆ เดียวนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง

ตอนนี้เมิ่งฮ่าวกำลังยืนอยู่บนขั้นบันไดที่หนึ่งหมื่น หลับตาลง ขณะที่เสียงระฆังดังก้องออกมา เขาก็พบเจอกับการชำระล้าง สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาบ้าง แต่สำหรับเขาแล้ว ก็ใช้เวลาเพียงแค่สิบอึดใจเท่านั้น

เนื่องจากว่าร่างกายเมิ่งฮ่าวอยู่ในจุดสูงสุดอยู่แล้ว ดังนั้นการชำระล้างนี้แทบจะคล้ายกับเป็นการปักดอกไม้เพิ่มลงไปบนผ้าแพรไหมที่สวยงามแล้วเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะดี แต่ก็ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าใดนัก

“นับว่าไม่เลว ดูเหมือนว่าข้าจะเริ่มเข้าใจชางหมางไถนี้แล้ว” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งหวัง อันเนื่องมาจากการดังขึ้นของระฆัง

“ถ้าเช่นนั้น ข้าน่าจะเคลื่อนที่ให้เร็วขึ้นกว่านี้สักเล็กน้อย” เมิ่งฮ่าวยิ้มออกมา ขยับร่างเคลื่อนไหว ครั้งนี้แต่ละก้าวที่เดินไป ก็พุ่งผ่านบันไดไป…หนึ่งร้อยขั้น!!

สิบก้าวก็เป็นหนึ่งพันขั้นบันได ในที่สุดเขาก็บรรลุถึงขั้นที่หนึ่งหมื่นหนึ่งพัน, หนึ่งหมื่นสามพัน, หนึ่งหมื่นห้าพัน, หนึ่งหมื่นแปดพัน และจากนั้นก็เป็น…สองหมื่นขั้น!

สำหรับเมิ่งฮ่าวแล้ว หนึ่งหมื่นขั้นบันไดก็แค่เดินไปหนึ่งร้อยก้าวเท่านั้น แต่สำหรับผู้ฝึกตนที่กำลังเข้าร่วมในการทดสอบนี้ ก็เหมือนกับมีสายลมพัดผ่านพวกมันไป…

เมื่อเมิ่งฮ่าวเหยียบย่างลงไปบนบันไดขั้นที่สองหมื่น เสียงระฆังสองครั้งก็ได้ยินมา แต่ก็แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ ฟังดูลึกล้ำ เก่าแก่โบราณ และน่าตกใจกว่ามากนัก!

ในทันทีที่เสียงระฆังดังก้องออกมา กลุ่มคนที่อยู่ด้านนอกภูเขาต่างก็รู้สึกประหลาดใจ

จากกลุ่มคนที่กำลังพุ่งขึ้นไปบนภูเขา ซึ่งพยายามไล่ตามไปเพื่อดูว่าคนที่ทำให้ระฆังดังก้องขึ้นมาเป็นใคร ผู้ที่มีความรวดเร็วมากที่สุดก็ยังคงอยู่ห่างจากเมิ่งฮ่าวหนึ่งหมื่นขั้น คนทั้งหมดเหล่านั้นสั่นสะท้าน และดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“สอง…สองหมื่นขั้น!!”

“มันรวดเร็วกว่าธูปไหม้หมดไปหนึ่งดอกซะอีก! แค่…แค่ไม่กี่สิบลมหายใจเท่านั้น ระฆังขั้นที่สองหมื่นดังขึ้นมาได้อย่างไรกัน!?!?!?”

เสียงร้องตะโกนเช่นนี้ดังขึ้นมาจากกลุ่มฝูงชนที่อยู่ด้านนอกภูเขาเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นเสียงพุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง

สำหรับเมิ่งฮ่าว เขากำลังสั่นสะท้านเล็กน้อย อันเนื่องมาจากการชำระล้างจากเสียงระฆัง ดวงตากำลังสาดประกายขึ้น เมื่อรู้สึกได้ว่าพื้นฐานฝึกตนแทบจะทะลวงผ่านไปได้ทุกเมื่อแล้ว

เขายิ้มออกมา ก้าวเดินขึ้นไปอีกครั้ง สองหมื่นสามพันขั้น, สองหมื่นเจ็ดพันขั้น ในที่สุด…ก็สามหมื่นขั้น!!

เสียงระฆังดังก้องขึ้น ทำให้ความประหลาดใจและตกตะลึงแผ่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง

“เกิด…เกิดอะไรขึ้นในวันนี้? มีผู้คนกำลังจะทะลวงผ่านอยู่มากมาย! ฮา ฮา ฮา…ช่างน่าแปลกใจจริงๆ…”

ในที่สุดเสียงพูดคุยและร้องตะโกนก็สงบลง จนกระทั่งความเงียบปกคลุมไปทั่วทั้งกลุ่มผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนที่กำลังมองดูอยู่

พวกมันจะโง่เขลาจนไม่รู้ว่าในตอนนี้ไม่ใช่ใครหลายคนที่กำลังกระทำเรื่องนี้ แต่เป็น…คนเพียงคนเดียวเท่านั้น!!

แต่ไม่มีใครกล้าที่จะคิดไปถึงความเป็นไปได้ของเรื่องนี้ ถ้าระฆังดังก้องขึ้นมาเนื่องจากคนเพียงคนเดียวจริงๆ แล้วละก็ เรื่องนี้…คงจะน่ากลัวจนไม่อาจจะสรรหาคำใดๆ มาอธิบายได้อีกแล้ว

จากเริ่มต้นจวบจนกระทั่งถึงตอนนี้ เวลาผ่านไปแค่ธูปไหม้หมดไปเพียงไม่กี่ดอกเท่านั้น ถ้าเป็นเพียงคนเดียว ก็คงจะต้องใช้เวลามากกว่านี้ในการก้าวเดินไปตั้งแต่ก้าวแรกจนกระทั่งถึง…ก้าวที่สามหมื่น! ถ้ามีคนพูดถึงเรื่องนี้ออกมาดังๆ ก็แทบจะไม่มีใครเชื่ออย่างแน่นอน ในประวัติศาสตร์ของตี้จิ่วจง เรื่องเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“บางที คงเป็นเรื่องเข้าใจผิด หรือภูเขานี้…อาจจะมีอะไรที่ผิดพลาดเกิดขึ้น?”

“มันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น คงไม่ได้เกิดขึ้นจากคนๆ เดียว…”

กลุ่มที่มองดูอยู่ไม่ต้องรอคอยนานนักก่อนที่เสียงระฆังครั้งที่สี่จะได้ยินมา คนทั้งหมดรู้สึกประหลาดใจและเสียงระฆังก็ทำให้พวกมันสั่นสะท้านอย่างแท้จริง แสงแปลกๆ สาดประกายขึ้นมาในแววตาพวกมัน และจิตใจก็หมุนคว้าง ในที่สุดเยียนเอ๋อร์ก็มาถึงเขตภูเขา ดวงตานางเบิกกว้างขึ้นและจิตใจกำลังเต้นรัว

เสียงระฆังสำหรับบันไดขั้นที่สี่หมื่นดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทาง กลุ่มคนที่เดินขึ้นไปด้วยความหวังว่าจะไล่ตามไปให้ทัน ต่างก็ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิงและยกเลิกความคิดนี้ไป ในตอนนี้คำถามของพวกมันได้รับคำตอบเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังมีหนึ่งคนในท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านั้นที่ไม่ยอมแพ้! กัดฟันแน่น บังคับตัวเองให้มุ่งหน้าต่อไป

การเคลื่อนที่ของมันจริงๆ แล้วก็รวดเร็วกว่าเมิ่งฮ่าวเล็กน้อย ในตอนที่เมิ่งฮ่าวบรรลุถึงขั้นที่สี่หมื่นห้าพัน มันก็ก้าวไปถึงขั้นที่สี่หมื่น มันกำลังหอบหายใจออกมา เนื่องจากขีดจำกัดของมันอยู่ระหว่างขั้นที่สี่หมื่นห้าพันและสี่หมื่นแปดพัน ดังนั้นการพุ่งขึ้นไปสี่หมื่นขั้นติดต่อกันอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องยากอย่างไร้ที่เปรียบสำหรับมัน

ในตอนนี้มันสามารถจะมองเห็นภาพของ…คนผู้หนึ่งอยู่เบื้องหน้าขึ้นไปห้าพันขั้นอย่างเลือนลาง ซึ่งเป็นการยืนยันว่าไม่ใช่ใครหลายคนที่กำลังทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น!

เมื่อมองเห็นว่าเป็นแค่คนๆ เดียวจริงๆ มันก็อ้าปากค้าง และจิตใจก็หมุนคว้าง ถึงแม้ว่าตนเอง และคนอื่นๆ อีกหลายคนที่กำลังวิ่งขึ้นมาบนภูเขา ได้สอบถามสหายร่วมสำนักมาตลอดเส้นทาง และได้ทราบความจริงมาแล้ว มันก็ยังคงสั่นสะท้านอยู่ดี

เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยสองตาตนเอง ทำให้จิตใจมันถูกบดขยี้ด้วยคลื่นแห่งความตกใจ แม้ในขณะที่มันพยายามเข้าไปใกล้เพื่อมองดูให้ละเอียดมากขึ้น เมิ่งฮ่าวก็ผ่านขั้นบันไดที่สี่หมื่นเจ็ดพันไปแล้ว อีกแค่สิบก้าวเขาก็จะไปถึงขั้นที่สี่หมื่นแปดพัน และอีกสิบก้าวก็จะไปอยู่ที่ขั้นสี่หมื่นเก้าพัน

“นี่…นี่…” ผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านหลังเมิ่งฮ่าวอ้าปากค้าง ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง เมื่อคิดไปถึงความรวดเร็วของเขา และท่าทางที่ดูเหมือนว่าสบายๆ เช่นนั้น ก็ทำให้มันมีลางสังหรณ์อย่างเข้มข้นว่า…ตี้จิ่วจงคงจะมีผู้ถูกเลือกที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนปรากฏขึ้นอย่างแน่นอน!

“เจ้าเป็นใคร?!?!” มันร้องตะโกนขึ้นไปจนสุดเสียง

เมิ่งฮ่าวหยุดชะงักนิ่งและมองกลับไปทางด้านหลัง ด้วยสีหน้าแปลกๆ ถึงแม้ว่าจะไม่พูดอะไรออกมา แต่ผู้ฝึกตนนั้นก็มองเห็นใบหน้าเขาได้อย่างชัดเจน

เมื่อเกิดขึ้นเช่นนั้น แรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่างมัน ถึงแม้ว่าคนอื่นๆ จะไม่ค่อยรู้สึกประทับใจมากนักเกี่ยวกับฟางมู่ แต่บุรุษผู้นี้เคยมองไปในตอนที่เขาเอาชนะทัณฑ์ของตัวเองมาก่อน และด้วยเช่นนั้นมันจึงจดจำเขาได้อย่างแม่นยำ

“ฟางมู่…เจ้าคือฟางมู่!!” มันรู้สึกตกตะลึงขึ้นอย่างรุนแรงจนจิตใจต้องสั่นสะท้าน และพื้นฐานฝึกตนก็เริ่มไม่มั่นคง ไม่อาจจะขยับตัวเคลื่อนไหวได้อีก และเสียงกระหึ่มก็ดังก้องขึ้น เมื่อมันถูกเคลื่อนย้ายทางไกลออกไปจากภูเขา

ในทันทีที่มันปรากฏกายขึ้นที่ด้านนอก ก็ร้องตะโกนออกไปด้วยเสียงที่ดังก้องเท่าที่สามารถจะทำได้ ทำให้ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนที่อยู่ตรงด้านนอกภูเขาสามารถจะได้ยินกันถ้วนทั่วทุกตัวคน

“ข้าเห็นมันแล้ว แค่คนเดียวเท่านั้น ไม่ใช่หลายคน มันคือ…ฟางมู่! คนที่ใช้เวลาสิบปีเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดากลายเป็นเซียน…ฟางมู่! มันคือคนที่เดินไปก้าวแรกจนกระทั่งถึงก้าวที่ห้าหมื่น โดยที่แทบไม่ต้องใช้เวลามากเท่าใดนัก!”

เสียงของมันดังก้องออกมาจนคนทั้งหมดได้ยินกันทั่ว

คนทั้งหมดแทบจะเงียบกริบไปด้วยความตกตะลึง แม้แต่เยียนเอ๋อร์ ในตอนนี้ทุกคนกำลังคิดไปอักษรสองตัว ฟางมู่

เสียงหอบหายใจนับไม่ถ้วนได้ยินมา หลังจากผ่านไปชั่วขณะ เสียงวุ่นวายขนาดใหญ่ก็ดังก้องขึ้น ในตอนนั้นเองที่…เสียงระฆังครั้งที่ห้าก็ดังขึ้นมา!!

เหง่ง หง่าง เหง่ง หง่าง เหง่ง…

เป็นเสียงที่เก่าแก่โบราณ ดังก้องกังวานอย่างไร้ที่เปรียบ ดังขึ้นมาอย่างน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะที่มันดังก้องอยู่ในสำนัก และดังเข้าไปในจิตใจของคนทั้งหมด ก็รวมเข้ากับนามที่พวกมันกำลังคิดถึงกันอยู่ จนกลายเป็นเสียงที่ยากจะลืมเลือนไปได้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version