Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1565

ตอนที่ 1565

เหมือนแต่ก็ไม่เหมือน

บุรุษวัยกลางคนขมวดคิ้ว ต้องโบกสะบัดมือออกไปอย่างไร้ทางเลือก ทำให้เส้นใยจากแส้ปัดทั้งสามพันเส้น กลายเป็นริ้วแสงสามพันสาย ริ้วแสงเหล่านั้นเปลี่ยนเป็นหุ่นเชิดไม้ที่สวมชุดเกราะสีขาวสามพันตัว พร้อมทั้งพลังการฝึกตนอันน่าตกใจ พุ่งตรงไปยังกองกำลังผู้ฝึกตนแห่งชางหมางพ่าย เพื่อชะลอการรุกคืบของพวกมันไว้ในทันที

เวลาเดียวกันนั้นอาณาจักรเทพก็กระจายเป็นเสียงกระหึ่มออกมา และสั่นสะเทือนอย่างเห็นได้ชัดเมื่อสิ่งของขนาดใหญ่จำนวนมากปรากฏขึ้น อย่างน่าตกใจยิ่งมันคือกลุ่มรถศึกสีดำสนิท!

รถศึกแต่ละคันมีความยาวถึงหนึ่งหมื่นจ้าง ปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้าขณะที่พุ่งตรงมาพร้อมกับเสียงกระหึ่มกึกก้อง ถูกฉุดลากด้วยวิญญาณอันดุร้ายนับไม่ถ้วน พร้อมกับเสียงที่กรีดร้องออกมาขณะที่พวกมันมุ่งหน้าตรงไป กระจายเป็นแสงสีดำในทั่วทุกที่ที่พวกมันพุ่งตรงไป แสงนั้นประกอบด้วยพลังที่สามารถจะทำลายสวรรค์หั่นเฉือนปฐพีให้แหลกสลายลงไปได้

ดูเหมือนว่ารถศึกเหล่านั้นจะพุ่งออกมาอย่างไม่มีวันจบสิ้น ถ้ามีใครลองนับดูก็จะพบว่ามีนับแสนคัน ยิ่งไปกว่านั้นก็เกิดเป็นลำแสงสีดำกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง คล้ายเป็นลูกธนูสีดำนับแสนที่พุ่งตรงไปยังกองกำลังแห่งชางหมางพ่าย

ภาพอันน่าเหลือเชื่อนี้ยากที่จะอธิบายออกมาได้ แสงสีดำและธนูสีดำพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว คล้ายกับเป็นเงาแห่งความตายที่พุ่งตรงไปยังกองกำลังแห่งชางหมางพ่าย!

กลิ่นอายอันน่ากลัวของพวกมันเย็นเยียบราวน้ำแข็ง ทำให้ผู้ฝึกตนในกองกำลังเหล่านั้นรู้สึกว่าตนเองกำลังจะถูกแช่แข็งไป บางคนที่มีพื้นฐานฝึกตนอยู่ในระดับต่ำก็ยังต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าไม่อาจจะขยับตัวเคลื่อนไหวได้

ราวกับว่าพวกมันกำลังจะตายไป!

ในช่วงวิกฤตนี้เองที่เจ้าสำนักแหงนหน้าขึ้นและแผดร้องคำรามออกมา กวาดมือออกไปทั้งสองข้าง ทำให้สายลมขนาดใหญ่พุ่งสูงขึ้นไปในทันที ฉับพลันนั้นกระดองเต่าก็ปรากฏขึ้นอยู่ในมือ!

มันคือของวิเศษอันล้ำค่าแห่งชางหมางพ่าย!

อย่างน่าตกใจยิ่งเจ้าสำนักได้นำของวิเศษนี้มาด้วย และตอนนี้ก็กำลังใช้ออกมาในการต่อสู้นี้ ขณะที่สายลมกรีดร้องระงม กระดองเต่าก็ขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ปกคลุมผู้ฝึกตนชางหมางพ่ายไว้ภายในทั้งหมด

เจตจำนงอันน่ากลัวสีดำสนิทกระแทกลงไปยังกระดองเต่า และถูกขัดขวางไว้โดยสิ้นเชิง เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกมา ทำให้ทุกสรรพสิ่ง

ในช่วงวิกฤตนี้เองที่เจ้าสำนักแหงนหน้าขึ้นและแผดร้องคำรามออกมา กวาดมือออกไปทั้งสองข้าง ทำให้สายลมขนาดใหญ่พุ่งสูงขึ้นไปในทันที ฉับพลันนั้นกระดองเต่าก็ปรากฏขึ้นอยู่ในมือ!

มันคือของวิเศษอันล้ำค่าแห่งชางหมางพ่าย!

อย่างน่าตกใจยิ่งเจ้าสำนักได้นำของวิเศษนี้มาด้วย และตอนนี้ก็กำลังใช้ออกมาในการต่อสู้นี้ ขณะที่สายลมกรีดร้องระงม กระดองเต่าก็ขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ปกคลุมผู้ฝึกตนชางหมางพ่ายไว้ภายในทั้งหมด

เจตจำนงอันน่ากลัวสีดำสนิทกระแทกลงไปยังกระดองเต่า และถูกขัดขวางไว้โดยสิ้นเชิง เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกมา ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือนไปทั่ว ทำให้จิตใจหมุนคว้าง และกฎธรรมชาติก็ถูกทำลายไป

กระดองเต่าสั่นไหวไปมาแต่ก็ยังคงแข็งแกร่ง สัญลักษณ์เวทนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนพื้นผิว กระจายเป็นกลิ่นอายอันเก่าแก่โบราณอย่างลึกล้ำออกมา เป็นกลิ่นอายที่เต็มไปด้วยความลี้ลับอย่างถึงที่สุด

ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ราวกับว่าห้วงกาลเวลากำลังเคลื่อนที่ช้าลงเป็นอย่างมาก ในที่สุดกระดองเต่าก็หายไป และเจ้าสำนักก็ถอยหลังไปพร้อมกับใบหน้าที่ซีดขาว ผู้แข็งแกร่งเก้าแก่นแท้คนอื่นๆ ที่ส่งพลังช่วยมันก็กระอักโลหิตออกมาด้วยเช่นกัน รังสีสังหารแวบประกายขึ้นมาในแววตาเจ้าสำนัก

“ต้องไม่ยอมให้พวกมันปลดปล่อยระลอกคลื่นของรถศึกเหล่านั้นออกมาอีก!” เจ้าสำนักแผดร้องตะโกนขึ้น ทันใดนั้นไป๋อู้เฉินและผู้แข็งแกร่งเก้าแก่นแท้คนอื่นๆ ก็บินออกไป และเริ่มต่อสู้ตรงไปยังอาณาจักรเทพ

ตลอดช่วงเวลานั้นเมิ่งฮ่าวไม่ขยับตัวเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย แต่เหตุการณ์ของรถศึกนี้ก็ทำให้เข้าใจถึงขุมกำลังของอาณาจักรเทพได้มากขึ้นกว่าเดิม

ในขณะที่เจ้าสำนักและคนอื่นๆ เริ่มบินตรงไป สามลำแสงก็พุ่งทะยานออกมาจากดินแดนกว้างใหญ่ ผู้ที่นำอยู่ด้านหน้าเป็นหญิงชราเส้นผมสีเงินยวง แววตาสาดประกายขึ้นด้วยความดุร้าย และพื้นฐานฝึกตนก็เต็มไปด้วยพลังที่ระเบิดออกมา ขณะที่เริ่มบินตรงมายังเจ้าสำนักและคนอื่นๆ

เวลาเดียวกันนั้นลำแสงสีดำของรถศึกก็เริ่มรวมตัวกันอีกครั้ง เมื่อเกิดขึ้นเช่นนี้เมิ่งฮ่าวก็สามารถจะตรวจจับได้ว่าอาณาจักรเทพเริ่มหดตัวลงไปเล็กน้อย

เมิ่งฮ่าวหันหน้าไปยังศีรษะยักษ์ที่ลอยตัวอยู่ด้านข้าง กล่าวขึ้นด้วยเสียงราบเรียบว่า “เจ้าไป!”

ทันใดนั้นศีรษะยักษ์ก็หายวับไป เมื่อปรากฏขึ้นอีกครั้งก็ไปอยู่ตรงด้านบนอาณาจักรเทพ กระจายเป็นแรงกดดันอันไร้ขอบเขตออกมาในทันที กฎธรรมชาติแห่งอาณาจักรเทพเกิดปฏิกิริยาขึ้นด้วยพลังขับไล่ที่พุ่งออกมาจากทั่วทุกมุมของดินแดนกว้างใหญ่

“ดินแดนอันกระจ้อยร่อย เจ้าไม่คู่ควรที่จะมาขับไล่ข้า!” ใบหน้าของศีรษะยักษ์ปรากฏเป็นแววดุร้ายขึ้นมา ขณะที่ส่งเสียงแผดร้องอันทรงพลังออกมา ทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นม้วนกวาดออกไปทั่วทั้งโลกแห่งนั้น พื้นดินสั่นสะเทือน ยอดเขากลายเป็นเถ้าธุลี รอยแตกขนาดใหญ่เกิดขึ้นบนพื้นที่ราบ

รถศึกเริ่มสั่นสะท้าน และจากนั้นรอยแตกร้าวก็พุ่งกระจายออกไปทั่วทั้งพื้นผิวของพวกมัน

“บังอาจ!!” เสียงคำรามดังก้องออกไปทั่วทั้งอาณาจักรเทพ กระแสปราณกระบี่พุ่งตรงมายังศีรษะยักษ์

ใบหน้าศีรษะยักษ์ยิ้มอย่างดุร้าย ก่อนที่ปราณกระบี่จะทันได้บรรลุถึง มันก็อ้าปากขึ้นและพ่นเปลวไฟสีเทาออกไป ทำให้ดินแดนกว้างใหญ่ลุกไหม้ขึ้นมา

รถศึกก็ลุกไหม้ขึ้นด้วยเช่นกัน จากนั้นก็เริ่มพังทลายกลายเป็นเศษซากปรักหักพังไป

เปลวไฟนี้ไม่ใช่เปลวไฟธรรมดาทั่วไป เป็นเปลวไฟที่ถูกปลดปล่อยออกมาโดยผู้แข็งแกร่งทรงพลังที่อยู่ในขั้นสูงสุดวงจรอันยิ่งใหญ่แห่งเก้าแก่นแท้ เป็นเปลวไฟวิญญาณที่ใช้พลังชีวิตของมันเป็นเชื้อเพลิง…

ในตอนนี้เองที่รูปปั้นบรรพชนตรงจุดศูนย์กลางของอาณาจักรเทพ ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกับผู้อยู่เหนือสูงสุดโบราณ จู่ๆ ก็เริ่มเรืองแสงขึ้นมา ทำให้เกิดเป็นแสงอันเจิดจ้าพุ่งกระจายออกปกคลุมไปทั่วทั้งอาณาจักรเทพ ทำให้เปลวไฟจากศีรษะยักษ์ดับลง และช่วยเพิ่มพลังการขับไล่ให้มากขึ้นเป็นหลายเท่าตัวด้วยเช่นกัน

ศีรษะยักษ์ลอยละลิ่วหมุนคว้าง ถูกบังคับให้ออกไปจากอาณาจักรเทพโดยสิ้นเชิง

อย่างน่าตกใจยิ่งที่ศีรษะยักษ์มีท่าทางหวาดกลัว ในขณะที่มันถูกขับไล่ออกมา และก่อนที่จะทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ ปราณกระบี่ก็พุ่งตรงมาและแทงลงไปบนหน้าผากมัน

เสียงแตกร้าวกระจายออกมา ขณะที่หน้าผากของศีรษะยักษ์เริ่มแตกออก เวลาเดียวกันนั้นบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ด้านล่าง กระจายเป็นกลิ่นอายอันน่ากลัวออกมา ขณะที่บินขึ้นมาพร้อมกับกระบี่สัมฤทธิ์

ปราณกระบี่นั้นเคลื่อนที่มาด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ พุ่งตรงไปยังศีรษะยักษ์ในชั่วพริบตา เมื่อดูเหมือนว่ากำลังจะแทงทะลุศีรษะยักษ์ไป ดวงตาอันแดงก่ำของศีรษะยักษ์ก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงอันลึกล้ำ จากนั้นพื้นที่รอบๆ บริเวณนั้นก็บิดเบี้ยวไปมา เกิดเป็นระลอกคลื่นพุ่งกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง แก่นแท้แห่งกาลเวลาปรากฏขึ้น

กลัว ในขณะที่มันถูกขับไล่ออกมา และก่อนที่จะทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ ปราณกระบี่ก็พุ่งตรงมาและแทงลงไปบนหน้าผากมัน

เสียงแตกร้าวกระจายออกมา ขณะที่หน้าผากของศีรษะยักษ์เริ่มแตกออก เวลาเดียวกันนั้นบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ด้านล่าง กระจายเป็นกลิ่นอายอันน่ากลัวออกมา ขณะที่บินขึ้นมาพร้อมกับกระบี่สัมฤทธิ์

ปราณกระบี่นั้นเคลื่อนที่มาด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ พุ่งตรงไปยังศีรษะยักษ์ในชั่วพริบตา เมื่อดูเหมือนว่ากำลังจะแทงทะลุศีรษะยักษ์ไป ดวงตาอันแดงก่ำของศีรษะยักษ์ก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงอันลึกล้ำ จากนั้นพื้นที่รอบๆ บริเวณนั้นก็บิดเบี้ยวไปมา เกิดเป็นระลอกคลื่นพุ่งกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง แก่นแท้แห่งกาลเวลาปรากฏขึ้น และปราณกระบี่ก็ถูกบดขยี้ไปราวกับว่าไปปะทะเข้ากับก้อนศิลา กลายเป็นประกายไฟนับไม่ถ้วนพุ่งกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง

บุรุษที่อยู่บนกระบี่บินมองมาด้วยสายตาอันเย็นเยียบ ขยับมือร่ายเวทอย่างรวดเร็ว เริ่มต่อสู้กับศีรษะยักษ์ในทันที

เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องไปทั่วทั้งอาณาจักรเทพ จนดูเหมือนว่าโลกแห่งนี้กำลังจะพังทลายลงไปในไม่ช้านี้แล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version