Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 166

ตอนที่ 166

สุดยอดความรำคาญผูกมัดเจ้านาย!

“จากบันทึกโบราณ นี่คือสุดยอดความรำคาญ” ปรมาจารย์จื่อหลัวพูดขึ้น “มันไม่เคยมีเจ้านาย, มันรักเสียงฟ้าคำราม และชอบกินสายฟ้า แต่สิ่งที่มันชอบมากที่สุดไม่ใช่สายฟ้า แต่เป็นประจุไฟฟ้าที่อยู่ในร่างคน!”

“ประจุไฟฟ้าที่อยู่ในเสาแห่งเต๋าของผู้ฝึกตนหลายร้อยคน และพลังของพื้นฐานการฝึกตนของพวกมัน ได้รวมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นหอคอยร้อยวิญญาณ เจ้าสิ่งนี้ยังไม่เคยได้พบเจอกับสิ่งที่มีกลิ่นอายอันทรงพลังมากมาย ซึ่งกระจายออกมาจากหอคอยเช่นนี้มาก่อน!” มันจ้องไปยังสุดยอดความรำคาญ ซึ่งได้ถอยกลับไปที่ด้านหลังอย่างช้าๆ ในตอนนี้

ด้านข้างของปรมาจารย์จื่อหลัว สตรีวัยกลางคนที่สวยงามก็จ้องไปยังสุดยอดความรำคาญด้วยเช่นกัน คนทั้งสองโคจรพลังลมปราณของพวกมัน เตรียมพร้อมที่จะกระทำการใดๆ ได้ทุกเมื่อ

ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า ปรมาจารย์จื่อหลัวใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ ติดต่อกับสตรีผู้สวยงามนั้น “รออีกสักครู่ ของสิ่งนี้รวดเร็วมาก ถ้ามันต้องการจะหลบหนีไป แม้แต่ท่านปรมาจารย์ของสำนัก ก็ยังไม่อาจจับมันแบบเป็นๆ ได้ มันมีพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ และถ้าไปจับมัน, มันก็อาจจะระเบิดตัวเอง และไปรอกำเนิดใหม่ ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกกี่พันปี ก่อนที่มันก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง…”

“ท่านต้องรอให้มันกินหอคอยร้อยวิญญาณเข้าไปก่อน ด้านในมีผนึกอยู่ ซึ่งได้เชื่อมต่อกับเวทอาคมของปรมาจารย์ทั้งสามท่านที่อยู่ด้านนอก ซึ่งจะช่วยปิดกั้นการระเบิดตัวเองของมันไป จากนั้น พวกเราก็จะสามารถจับตัวเป็นๆ ของมันได้!!”

เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้วขณะที่เขามองไปยังผีโต้ง ในความเห็นของเขา มันเป็นสิ่งของอัปมงคล ที่ด้านในของกระถาง มันทำให้หลายคนต้องตายไป ในตอนท้าย มันยังพูดได้อีกด้วย ซึ่งทำให้เมิ่งฮ่าวเกิดความรู้สึกแปลกๆ มากยิ่งขึ้น เขาไม่ชอบของสิ่งนี้อย่างแท้จริง

“มันเป็นสิ่งที่สำนักชิงหลัวมาที่นี่เพื่อค้นหามัน” เขาครุ่นคิดอย่างเคลิบเคลิ้มอยู่หลายอึดใจ เครื่องรางนำโชคเกือบจะใช้งานได้แล้ว และมันก็อาจจะไม่สามารถใช้ได้อยู่ทุกเมื่อ สีหน้าเมิ่งฮ่าวเรียบสงบขณะที่เขาสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ในความคิด เขาพร้อมที่จะจากไปเกือบจะในทันที

ด้านบนขึ้นไป ผีโต้ง ทันใดนั้นก็ส่งเสียงกู่ร้องที่น่ากลัวออกมาอีก หอคอยร้อยวิญญาณสั่นสะเทือน ราวกับว่ามันกำลังจะพังทะลายลง ประจุไฟฟ้ามากมายปะทุออกมา เมื่อเป็นเช่นนั้น กลิ่นอายของกับดักที่ผู้ฝึกตนไม่อาจสัมผัสได้ แต่ผีโต้งสามารถ จมูกของมันขยับไปมา และดวงตาก็เบิกโพลง ปรมาจารย์จื่อหลัวมองดูด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มันพุ่งตรงมา เข้าไปใกล้หอคอยร้อยวิญญาณ ปากของมันอ้ากว้างขึ้น และกัดลงไปคำใหญ่

ขณะที่มันกัดลงไปอีก ใบหน้าเวทที่อยู่บนร่างของผีโต้งก็ดูมีความสุขเป็นอย่างมาก จนถึงกับเริ่มส่งเสียงครวญเพลงออกมาเบาๆ มันกลืนกินลงไปคำแล้วคำเล่า และในที่สุดหอคอยร้อยวิญญาณก็ถูกกินไปมากกว่าครึ่ง ทันใดนั้นหอคอยที่เหลืออยู่ก็ระเบิดออกมา!

เสียงระเบิดดังกึกก้องขณะที่หอคอยแตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ และจากนั้นก็พุ่งตรงไปยังผีโต้ง เห็นได้ชัดว่าผีโต้งตกใจกลัวแทบตาย หอคอยที่แตกสลายไปนั้น ได้กลายเป็นโซ่ขนาดใหญ่ พุ่งออกไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ขณะที่มันพันไปรอบๆ ตัวผีโต้ง

ผีโต้งส่งเสียงกรีดร้องอย่างตกใจออกมา มันรีบกระโดดถอยออกไปในอากาศทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ราวกับว่ามันกำลังจะถูกดึงลงไป ณ ตอนนี้ ที่ด้านนอกของดินแดนสงบสุข ใกล้ๆ กับประตูสีดำ รูปปั้นที่ถูกนำมายังสถานที่แห่งนี้โดยสำนักชิงหลัว ก็เริ่มส่งแสงอันลี้ลับออกมา ภายในแสงสีดำนั้น มีเงาร่างสามสายนั่งขัดสมาธิเข้าฌาณอยู่ด้านบน กำลังควบคุมมันอยู่

ภายในดินแดนสงบสุข เสียงร้องแหลมเล็กที่แสบแก้วหูก็ดังกระจายออกไปทั่ว เมิ่งฮ่าวมองไปยังผีโต้งที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศ ถูกรัดไว้ด้วยสายโซ่ ใบหน้าเวทของมันตื่นตระหนกด้วยความหวาดกลัว มันต้องการจะหลบหนี แต่ก็ถูกรัดไว้อย่างแน่นหนาด้วยสายโซ่ ขณะที่มันพยายามจะกระโดดออกไป สายโซ่ก็ยืดออกมาจากด้านหลังราวกับเป็นหางยาวๆ ของมัน

ในเวลาเดียวกันนั้น ดวงตาปรมาจารย์จื่อหลัวก็แวบแสงขึ้น มันก้าวเท้าไปข้างหน้า จากนั้นร่างของมันก็หายวับไป ปรากฎขึ้นที่ด้านข้างของผีโต้ง มันยกมือขึ้นไปคว้าจับผีโต้งไว้

ในเวลาเดียวกันนั้น สตรีสวยงามนั้นก็ขยับตัวเช่นเดียวกัน ปรากฎขึ้นที่อีกด้านของผีโต้ง

ความหวาดกลัวบนใบหน้าเวทของผีโต้งรุนแรงมากขึ้น และมันก็ส่งเสียงร้องอย่างน่าสังเวชใจออกมา ร่างของมันทันใดนั้นก็เริ่มสั่นสะท้าน และสายฟ้าก็ปะทุออกมาจากคลื่นการสั่นของมัน สวรรค์และปฐพีสะเทือน และใบหน้าของปรมาจารย์จื่อหลัวก็เปลี่ยนไป มันล่าถอยไปด้านหลัง ดวงตาสตรีสวยงามหรี่เล็กลง และนางก็ล่าถอยไปด้วยเช่นกัน ไม่กล้าจะไปแตะต้องสายฟ้านั้น

ขณะที่คนทั้งสองล่าถอย ผีโต้งที่ถูกรัดไว้ด้วยสายโซ่ก็พุ่งตรงออกไป ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและทำอะไรไม่ได้ ด้วยโซ่ซึ่งติดอยู่ที่ตัวมัน มันไม่อาจเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็ว ด้านหลังมัน ดวงตาปรมาจารย์จื่อหลัวส่องประกายความดุร้ายออกมา และมันก็ส่งเสียงแค่นอย่างเย็นชาอยู่ในลำคอ

“เจ้าไม่อาจหนีรอด” มันกล่าว เสียงดังก้องอยู่ในอากาศ “วันนี้ สำนักชิงหลัวได้มาหาเจ้าโดยเฉพาะ!” มันก้าวเท้าไปข้างหน้า ยื่นมืออกไป สตรีสวยงามแค่นเสียงเย็นชาออกมา และยกมือขึ้นไปเช่นกัน เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของนางก็ดูเหมือนจะล้อมรอบไปด้วยดวงดาว ซึ่งจากนั้นก็กลายเป็นลำแสงหลากสี พุ่งไปรายล้อมอยู่รอบตัวผีโต้งทุกทิศทาง

ผีโต้งสั่นสะท้าน และลอยตรงไป ใบหน้าเวทของมันพูดออกมาด้วยเสียงโบราณ ราวกับเสียงของชายชรา “พวกเจ้าไม่อาจทำเช่นนี้…”

เมื่อพวกมันได้ยินคำพูดนี้ ความตกใจก็เต็มอยู่บนใบหน้าของศิษย์สำนักชิงหลัวนับพันคนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น พวกมันไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า ของสิ่งนี้จะสามารถพูดด้วยเสียงของมนุษย์ออกมา

“งั้นเจ้าก็เป็นสุดยอดความรำคาญอย่างแท้จริง” ปรมาจารย์ชิงหลัวพูดออกมาพร้อมหัวเราะ มันพุ่งตรงไปติดตามมาด้วยสตรีสวยงาม ดวงตาของพวกมันเปล่งแสงอันลี้ลับ ขณะที่ร่างกลายเป็นลำแสงไปล้อมผีโต้งไว้

ถ้าเป็นเช่นนั้นทั้งหมด ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด แต่จากนั้น ผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณทั้งแปด ก็ส่งเสียงตะโกนออกมา ศิษย์ที่เหลือทั้งหมดก็เริ่มส่งเสียงสวดคัมภีร์ขึ้นพร้อมกัน

เวลาเดียวกับที่เสียงสวดคัมภีร์ดังออกมาจากปากของศิษย์ทั้งพันคน ไกลออกไปในดินแดนด้านใต้ ศิษย์สำนักชิงหลัวนับหมื่นก็นั่งขัดสมาธิ ท่องสวดคัมภีร์ด้วยเช่นกัน ด้านบนของหมื่นภูเขาของสำนักชิงหลัว กระแสน้ำวนขนาดใหญ่มหึมา หมุนวนอยู่ในอากาศ มันดูดเสียงสวดคัมภีร์ที่เกิดจากศิษย์นับหมื่นคนขึ้นไป และส่งต่อไปยังดินแดนสงบสุข โดยผ่านทางปากของศิษยนับพันซึ่งนั่งอยู่ที่นั่น พลังของคัมภีร์ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน

ความกังวลปรากฎขึ้นบนใบหน้าเวทของผีโต้ง “พวกเจ้ามันไร้ศีลธรรม น่าจะไปเปลี่ยนเจ้านกนั่น เจ้าไม่ควรจะมาพยายามเปลี่ยนแปลงข้า…” เสียงของมันฟังดูเหมือนกำลังตกใจกลัว และมันก็ส่งเสียงร้องแหลมเล็กออกมาอีก ทันใดนั้น กลิ่นอายสีน้ำเงินอ่อนอันมากมายมหาศาล ก็เริ่มกระจายออกมาจากตัวมัน

ผีโต้งกรีดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา พุ่งตรงไป สีหน้าแสดงถึงความสิ้นหวัง มันต้องการหลบหนีไป ในตอนนี้ เสียงกระหึ่มกึกก้องดังไปทั่วท้องฟ้า ด้านบนขึ้นไป กรงขนาดใหญ่โตมโหฬารปรากฎขึ้นในกลางอากาศ

มันประกอบไปด้วยลูกกรงเหล็กสีดำสนิท ซึ่งสลักไว้ด้วยเครื่องหมายเวทผนึกมากมายจนนับไม่ถ้วน กระจายแรงกดดันอันน่าตกใจออกมา ทำให้พื้นดินด้านล่างแยกออกเป็นรอยแตกขนาดใหญ่จำนวนมากมาย

กรงนั้นเปล่งประกายออกมา ขณะที่มันพุ่งตรงไปยังผีโต้ง พร้อมที่จะจับมันแบบเป็นๆ และขังมันไว้อย่างแน่นหนา แสงสีดำกระจายออกมาจากลูกกรงแต่ละซี่ ซึ่งสามารถมองเห็นใบหน้านับไม่ถ้วนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความโลภ

ทั้งหมดนี้ใช้เวลาอธิบายอย่างยาวนาน แต่จริงๆ แล้ว มันเกิดขึ้นในทันใด เมิ่งฮ่าวไม่ได้อยู่ใกล้มาก แต่ก็ยังสั่นสะท้านไปถึงแก่นกาย เครื่องรางนำโชคเกือบจะใช้งานได้แล้ว ถึงแม้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นน่าตกใจ แต่จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ได้สนใจมันมากมายนัก เพียงมุ่งไปที่การออกไปจากที่นี่เพียงเท่านั้น

แต่…ทันใดนั้น, เขาก็กระโดดขึ้นมา และเริ่มพุ่งถอยไปด้านหลัง

“เจ้าผีโต้งอันบัดซบ ทำไมมันถึงได้ตรงมาหาข้า?” เขาล่าถอยไปอย่างไม่รั้งรอ ดวงตาก็จ้องไปที่ผีโต้ง ขณะที่มันเปลี่ยนทิศทางโดยไม่ทราบสาเหตุ พุ่งตรงมาที่เขา

เมิ่งฮ่าวไม่อยากจะเชื่อว่า ผีโต้งนั้นจะเพียงแค่พุ่งผ่านเขาไป หลังจากที่ได้เห็นการทำลายล้างของมันภายในกระถางนั้น เขาก็แน่ใจได้ว่า เจ้าสิ่งนี้กำลังตรงมาที่เขาอย่างแน่นอน

จิตใจเมิ่งฮ่าวหมุนเคว้งคว้าง เขาคิดเกี่ยวกับผู้พิสดารวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งสองคน คิดไปถึงเสียงสวดมนต์จากคัมภีร์ที่แปลกประหลาด และเกี่ยวกับกรงขนาดใหญ่ที่ตกลงมาจากด้านบน เขาก็รู้สึกว่าเจ้าผีโต้งนี้น่ารำคาญมากยิ่งขึ้น

แต่เขาเป็นเพียงผู้ฝึกตนขั้นเริ่มต้นของพื้นฐานลมปราณ ไม่ว่าเขาจะเคลื่อนที่ได้รวดเร็วเพียงใด ก็ไม่มีทางที่เขาจะหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่ตอนนี้ กำลังถูกไล่ตามมาโดยสองผู้พิสดารวิญญาณแรกก่อตั้งได้ ในความเป็นจริง ตลอดทั้งสำนักชิงหลัว ผีโต้งได้ถูกล่ามโซ่ไว้ แต่ความรวดเร็วของมันก็ยังคงยากที่จะอธิบายออกมาได้ หนึ่งลมหายใจ มันยังอยู่ในที่ห่างไกล แต่ลมหายใจต่อมา มันก็มาอยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าว มันค่อยๆ ตกลงไปบนศีรษะเขาอย่างช้าๆ

ความตกใจปกคลุมไปทั้งใบหน้าเมิ่งฮ่าว เขายกมือขึ้น คว้าจับมันไว้ และโยนมันออกไปเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทันทีที่มันถูกโยนออกไป มันก็กระโดดกลับตรงมายังเมิ่งฮ่าว อ้าปากขึ้นและกัดลงไปที่แขนของเขา

“ถ้าข้าไม่อาจหลบหนี” มันคร่ำครวญออกมา “เจ้าก็เช่นกัน, เจ้าคนไร้ศีลธรรม…”

ปรมาจารย์จื่อหลัว และสตรีสวยงามไล่ติดตามใกล้เข้ามา และเมื่อพวกมันเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ดวงตาของพวกมันก็เบิกกว้าง และมีโทสะขึ้นอย่างรุนแรง

“บังอาจนัก!” ปรมาจารย์จื่อหลัวส่งเสียงคำรามด้วยโทสะ จนเสียงพุ่งขึ้นไปถึงสวรรค์ และพื้นดินทั้งหมดบริเวณนั้นก็เริ่มสั่นสะเทือน มันมีความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ภายในพริบตา มันก็มาอยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าว ใบหน้าเต็มไปด้วยโทสะอย่างที่สุดจะพรรณนา มันฟาดฝ่ามือลงไปยังเมิ่งฮ่าว

ตูม!

ขณะที่เสียงระเบิดดังออกมา ประกายวิบวับของเกราะเวทก็อยู่รายล้อมรอบตัวเมิ่งฮ่าว มันไม่ได้เกิดจากเมิ่งฮ่าว แต่เป็นผีโต้ง ยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่เมิ่งฮ่าวพุ่งถอยไป มันก็ไม่ได้เกิดจากพลังของเขาเอง แต่เป็นเพราะผีโต้งได้ดึงแขนเขาไป

แขนของเขาได้ถูกคีบไว้โดยปากของมัน ซึ่งทำให้โลหิตไหลซึมออกมา ร่างของมันสั่นสะท้าน และไม่ได้โปร่งแสงอีกต่อไป ตอนนี้มันดูคล้ายกับดินโคลน

“น่าสะอิดสะเอียด, น่าขยะแขยง, น่ารังเกียจยิ่ง…เลว, เลว, เลว…” มันร้องออกมา ปรมาจารย์จื่อหลัว และสตรีสวยงามยืนอยู่ที่นั่น สีหน้าของพวกมันมีทั้งโทสะและความไม่อยากจะเชื่อ

“ผูกมัด…มัน…มันกำลังผูกมัดกับเจ้านาย?”

“ข้าได้ผูกมัดเจ้านายไว้แล้ว” ผีโต้งร้องออกมา กระโดดขึ้นไปบนศีรษะของเมิ่งฮ่าว และกลายเป็นหมวก “ข้าได้ผูกมัดคนผู้นี้ให้เป็นเจ้านายของข้า ไร้ประโยชน์! มันไร้ประโยชน์ที่จะจับข้าแล้วในตอนนี้ เจ้าพวกไร้ศีลธรรม ข้าได้ผูกมัดเจ้านายเรียบร้อยแล้ว! ข้าไม่มีพลังที่จะต่อสู้ และไม่มีเกราะป้องกันอีกแล้ว ข้ากำลังเป็นง่อย ข้ากำลังจะตาย! เจ้าพวกโง่, เจ้าพวกปีศาจร้าย! ข้า, ข้า, ข้า, ข้า…” ทันใดนั้นมันก็เปลี่ยนมาทำให้เมิ่งฮ่าวตกใจ “เฮ, ทำไมเจ้าถึงไม่เคลื่อนย้ายทางไกลซะที?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version