Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 339

ตอนที่ 339

ดำเนินการแก้แค้น

ทันใดนั้น เสียงฟ้าร้องก็ได้ยินมาจากภายในของกลุ่มเมฆสีดำที่พลุ่งพล่านปั่นป่วนยืดยาวออกไปหนึ่งหมื่นหลี่ มองเห็นสายฟ้าจำนวนมากมายเต้นระริกไปมาอยู่ด้านใน นอกจากนั้น กลิ่นอายอันน่ากลัวก็ปรากฎขึ้น มันเป็นกลิ่นอายที่ปรารถนาจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างไป เป็นกลิ่นอายที่ดูเหมือนต้องการจะกวาดล้างผู้คนในสวรรค์และปฐพีนี้ทั้งหมด

ถ้ามันต้องการจะทำลายพื้นดินแถบนี้ ทุกคนก็ต้องตาย!

เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไปยังกลุ่มเมฆลงทัณฑ์ที่พลุ่งพล่านปั่นป่วนขนาดใหญ่ด้านบน ไม่ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งเช่นไร ก็ดูเหมือนว่าสวรรค์ก็สามารถทำลายและสังหารทุกสิ่งทุกอย่างไปได้อย่างง่ายดาย!

แสงสีทองอันเข้มข้นสาดประกายอยู่ในดวงตาเมิ่งฮ่าว จากการได้ครอบครองแกนสีทองสมบูรณ์มีบางสิ่งที่แตกต่างมากไปกว่าตอนที่เขาได้พื้นฐานสมบูรณ์ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ภายในตัวเขา ราวกับว่าเต๋าอันยิ่งใหญ่ได้เปิดออกตรงเบื้องหน้าเขา

แต่ก่อนอื่น เขาจำเป็นต้องเอาชนะทัณฑ์สวรรค์ให้ได้ก่อน!

“บัดซบ, อู่เหยียพร้อมที่จะเสี่ยงแล้ว!” นกแก้วร้องออกมา

“ครั้งนี้แตกต่างไปจากครั้งอื่นๆ และข้าก็ไม่อาจจะโกหกหลอกลวงอีกต่อไป โชคชะตาของมันไม่อาจจะเทียบกับข้าได้ แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาข้าก็ยังไม่เคยเห็นใครโชคดีเท่านี้มาก่อน! มันคือหนึ่งเดียว เจ้าคือหนึ่งเดียว, เด็กน้อย! อู่เหยียกำลังพยายามอย่างเต็มที่! มาช่วยถ่วงเวลาทัณฑ์สวรรค์นี้ด้วยกัน!”

ดวงตานกแก้วเปลี่ยนเป็นสีแดง ขณะที่มันพุ่งตรงมาในทันที ในเวลาเดียวกันนั้น มันก็ยกกรงเล็บขึ้นมา และมีเศษผ้าสีดำพันอยู่รอบๆ ศีรษะ ปิดดวงตาข้างขวาไปหนึ่งข้าง

ขณะที่นกแก้วบินออกไป สายฟ้าที่ด้านบนก็เริ่มรวมตัวกัน จำนวนของมันมากมายเกินกว่าสายฟ้าจากทัณฑ์เม็ดยาอย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้น สายฟ้านี้ก็เป็นสีแดง

เส้นผมเมิ่งฮ่าวปลิวไปมาอย่างรวดเร็วรอบๆ ตัว และร่างก็สั่นอย่างรุนแรง ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับว่ามันจะถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ น้ำในทะเลสาบด้านล่างเดือดพล่าน กลายเป็นลูกประคำสีทองจำนวนมากมาย ซึ่งค่อยๆ เริ่มพุ่งขึ้นไปในอากาศ

“นกแก้ว!” เมิ่งฮ่าวแผดเสียง ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็เริ่มใช้วิชาที่นกแก้วได้สอนให้เพื่อควบคุมสติ เพียงชั่วพริบตา แสงสีทองในดวงตาเขาก็จางหายไป รวมถึงปราณทั้งหมดที่กระจายออกมา ร่างกายจู่ๆ ก็ดูเหมือนจะแห้งเหี่ยวลง และสีหน้าก็เริ่มซึมเซาลง

นกแก้วพุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศ และส่งเสียงตะโกนอย่างกราดเกรี้ยวออกมา “ปกปิดสวรรค์!”

ตามมาด้วยเสียงตะโกนนั้น ร่างของมันระเบิดลำแสงหลากสีมากมายจนนับไม่ถ้วนออกมา ผู้ฝึกตนที่กำลังตัวสั่นอยู่ในบริเวณนั้น มีกลุ่มควันแห่งปราณกระจายออกมาจากด้านบนศีรษะของพวกมัน เส้นใยปราณลอยขึ้นไปในท้องฟ้าและรวมเข้าด้วยกันด้วยแสงนั้น เพื่อก่อตัวเป็นร่างแหขนาดใหญ่

ในท่ามกลางของร่างแหปราณนั้น สายฟ้าสีแดงจู่ๆ ก็ลังเล ราวกับว่ามันไม่อาจค้นหากลิ่นอายของเมิ่งฮ่าวได้

“สุดยอดความรำคาญ รีบมาช่วยเร็ว, บัดซบ!” นกแก้วแผดเสียง

ผีโต้งลังเลชั่วครู่ จากนั้น เสียงปะทุก็ได้ยินออกมา ขณะที่ร่างของมันจู่ๆ ก็กลายเป็นภาพภูติผีนับล้าน พุ่งขึ้นไปในอากาศเพื่อก่อตัวเป็นร่างแหปากที่สอง

เมฆลงทัณฑ์ในท้องฟ้าเดือดพล่าน และมีสายฟ้าบิดเบี้ยวไปมามากขึ้น กำลังค้นหากลิ่นอายของเมิ่งฮ่าว

“โชคดีที่เจ้าหลับอยู่ สวรรค์แห่งจี้!” นกแก้วร้องออกมาอย่างเย่อหยิ่ง

“มีเพียงเศษเสี้ยวแห่งเจตจำนงของเจ้าที่ยังคงอยู่ ข้าไม่อาจจะหลอกลวงตัวตนที่แท้จริงของเจ้าได้ แต่เจ้าคิดว่าข้าไม่อาจจะแหกตาเจตจำนงอันน้อยนิดของเจ้าได้? อู่เหยียคือผู้รอบรู้! แน่นอนว่าสิ่งที่ข้าต้องทำก็คือพยายามยืดเวลาให้ได้สามวัน และทัณฑ์สายฟ้านี่ก็จะถูกเลื่อนออกไปอย่างแน่นอน!”

ทันทีที่คำพูดดังออกมาจากปากของมัน สายฟ้าสีแดงก็ฟาดลงมา เมื่อไม่อาจจะค้นหากลิ่นอายของเมิ่งฮ่าวได้ มันก็พุ่งตรงมายังร่างแหปากแรกในทันที

เสียงระเบิดดังกึกก้องขณะที่ร่างแหภาพลวงตาแตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ผู้ฝึกตนนับร้อยที่อยู่รอบๆ เมิ่งฮ่าว พ่นโลหิตออกมา และจากนั้นร่างพวกมันทั้งหมด ยกเว้นสามปรมาจารย์…ระเบิดออกในทันที

สามปรมาจารย์กระอักโลหิตออกมา ร่างกายพวกมันหดตัวและเหี่ยวแห้งลง ด้านใน รอยแตกร้าวกระจายออกไปทั่วทั้งแกนปราณของพวกมัน ราวกับว่าจะพังทลายลงไปได้ทุกเมื่อ หลังจากนั้น ดวงตาพวกมันก็เริ่มแจ่มใสขึ้น และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและหวาดกลัว พวกมันหลบหนีไปด้วยความรวดเร็ว ขนลุกตั้งชี้ชัน มีเพียงสิ่งเดียวที่คิดได้ในตอนนี้ก็คือหนีจากไป!

“บัดซบ! ทำไมเจ้าไม่ค้นหาเจตจำนงที่ถูกต้อง!” นกแก้วมีโทสะ

“เจ้าแค่สุ่มมั่วไปเรื่อย! เจ้ามัน, เจ้ามัน, เจ้ามัน…เจ้ามันจอมหลอกลวง! ก็ดี, อู่เหยียก็ทำได้เช่นกัน! ข้าจะจัดการเจ้าจนตาย! เจ้าเมฆลงทัณฑ์จอมปลิ้นปล้น! อู่เหยียจะจัดการเจ้าจนตาย! สุดยอดความรำคาญ, มาช่วยข้า, บัดซบ! เปลี่ยนเมฆเหล่านั้นก็กลายเป็นเจ้าขนปุยที่ข้าชอบ!”

ดูเหมือนมันจะรู้สึกว่าศักดิ์ศรีของมันกำลังถูกท้าทายอย่างรุนแรง พร้อมเสียงแผดร้องอย่างมีโทสะ มันกัดลงไปบนขนหลากสีเส้นหนึ่ง จากนั้นก็สะบัดศีรษะและโยนขนเส้นนั้นออกไป ดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ร่างของมันจู่ๆ ก็ขยายขนาดใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ และพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า

มันบินไปด้วยความรวดเร็วสูงสุดตรงไปยังเมฆลงทัณฑ์!

ในเวลาเดียวกันนั้น ลำแสงก็พุ่งออกมาจากร่างแหผีโต้ง ดูเหมือนจะมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อย ลำแสงนั้นพุ่งเข้าไปในเมฆลงทัณฑ์ และกระจายออกไปปกคลุมกลุ่มเมฆนั้นไว้ทั้งหมด ทันใดนั้น กลุ่มเมฆก็เริ่มบิดเบี้ยวไปมา เมิ่งฮ่าวอ้าปากค้างขณะที่มองเห็นเมฆลงทัณฑ์เริ่มเปลี่ยนรูปร่าง

พวกมันเปลี่ยนเป็น…สัตว์รูปร่างอวบขนาดใหญ่โตมโหฬาร ปกคลุมไปด้วยขนสีขาว

ขนที่งอกงามออกมาของสัตว์ตัวนี้ยากที่จะอธิบายออกมาได้ ขนของมันปกคลุมไปทั่วร่างที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งยืดยาวออกไปหลายพันหลี่ทั่วทุกทิศทาง ใหญ่โตจนไม่อาจจะมองเห็นจุดสิ้นสุดได้

ขณะที่เจ้านกแก้ว แสดงท่าทางตื่นเต้นออกมา เมื่อมันพุ่งเข้าไปในกลุ่มขน มันโผล่ออกมาอีกครั้งในชั่วอึดใจ ไม่ได้แสดงท่าทีเหน็ดเหนื่อย แต่พุ่งกลับเข้าไปในมุมที่แตกต่างกันด้วยความกระตือรือร้น ทำขั้นตอนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกครั้ง

ขณะที่เมิ่งฮ่าวมองไป ด้วยจิตใจที่งุนงง เขาไม่เคยคาดคิดว่าเมฆลงทัณฑ์จะถูกเปลี่ยนเป็นรูปร่างเช่นนี้มาก่อน…

สิ่งที่ก่อนหน้านี้ดูเคร่งขรึมน่ากลัวและอันตรายเป็นอย่างยิ่ง จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นดูค่อนข้างตลก…

เมิ่งฮ่าวส่ายหน้า ทันใดนั้น เมฆลงทัณฑ์ที่ขนดกก็ส่งเสียงกระหึ่มกึกก้องออกมา สายฟ้ามากมายนับไม่ถ้วนกระจายหายไปทั่วทุกทิศทาง มองเห็นนกแก้วอยู่ภายในกลุ่มเมฆ ร่างของมันหมองคล้ำ แต่ก็ยังคงยืนกรานอย่างดื้อรั้น

“เจ้าขนปุย, ข้าจะจัดการเจ้าจนตาย! ข้าต้องจัดการเจ้าให้ตายอย่างแน่นอน!” เจ้านกแก้วที่กำลังตื่นเต้นดูเหมือนมันไม่ต้องการจะหยุดลงแม้แต่น้อย

แต่สายฟ้ามากมายในพื้นที่แถบนั้นเริ่มจะฟาดลงมา พร้อมกับเสียงฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหว พวกมันพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว ดูเหมือนจะไม่ใช่จำนวนน้อยๆ แต่มีเป็นนับพันนับหมื่น เมิ่งฮ่าวขนลุกตั้งชี้ชัน ทัณฑ์สวรรค์ที่เคยพบเห็นตอนที่เขาสร้างพื้นฐานสมบูรณ์ ดูเหมือนจะใหญ่โตน่ากลัวพร้อมที่จะทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งหมดไป

แต่นี่…สายฟ้ามากมายจนนับไม่ถ้วนดูเหมือนจะปล่อยกลิ่นอายที่ทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกกระวนกระวายใจออกมา ดูเหมือนว่าทัณฑ์สายฟ้าที่ต่อต้านแกนสีทองสมบูรณ์ของเขาได้เปลี่ยนไปด้วยเหตุผลบางอย่าง ต้องขอบคุณสำหรับการเข้ามาสอดแทรกของนกแก้ว

ขณะที่สายฟ้าฟาดลงมายังเมิ่งฮ่าว ตาข่ายผีโต้งก็ส่งเสียงกู่ร้องด้วยความไม่พอใจออกมา และเคลื่อนที่ไปบดบังอยู่ด้านบนเมิ่งฮ่าว เสียงระเบิดดังกระหึ่มกึกก้องออกมาจนทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน สายฟ้าฟาดลงไปยังผีโต้ง ทำให้เมิ่งฮ่าวตัวสั่นด้วยความกังวลใจ

แสงเจิดจ้าเต็มอยู่ในดวงตา ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัว หลังจากเวลานานผ่านไป ฟ้าร้องและฟ้าแลบก็ค่อยๆ จางหายไป เมิ่งฮ่าวมองกลับขึ้นไปก็พบว่า กลุ่มก้อนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยขนในท้องฟ้าได้หายไป

ดวงตาเขาเบิกกว้าง และสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ทุกสิ่งทุกอย่างดูเงียบสงบ แต่เมิ่งฮ่าวก็รู้ว่าเมฆลงทัณฑ์ที่มีจำนวนมากมายเช่นนั้น คงไม่หายไปเช่นนี้อย่างแน่นอน เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายเนื่องจากทัณฑ์สวรรค์ยังไม่ได้หมดไป

นกแก้วสีดำสนิทตกลงมาบนพื้นด้วยเสียงดังตุบ มันตะเกียกตะกายดิ้นรนลุกขึ้นมายืน และจากนั้นก็ตบไปที่หน้าอกของตัวเองอย่างลวกๆ

 

มันกำลังหอบหายใจ สีหน้าค่อนข้างซึมเซาและดูท่าทางอ่อนแอ แต่เสียงของมันก็ยังคงหยิ่งผยองเหมือนเช่นเคย ขณะที่กล่าวว่า “อู่เหยียสุดยอดหรือไม่? ทัณฑ์สวรรค์ได้ถูกเลื่อนไปแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าต้องขอบคุณข้าอย่างงามๆ แล้ว ถ้าไม่ได้อู่เหยีย ถึงแม้เจ้าจะมีสุดยอดความรำคาญอยู่ด้วย ทัณฑ์สวรรค์ก็จะดำเนินต่อไปจนกระทั่งเจ้าถูกบดขยี้จนกลายเป็นชิ้นๆ”

“ไม่ต้องตื่นเต้นมากไป ข้าทำทั้งหมดนี้เพื่อถ่วงเวลาทัณฑ์สวรรค์ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะถ่วงได้นานเท่าใด เจ้าจำเป็นต้องได้ครอบครองรูปแบบชีวิตที่อยู่เหนือทัณฑ์สวรรค์มาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เอาละ ถึงเวลาที่อู่เหยียต้องพักผ่อนแล้ว เจ้าก็ไม่ต้องซาบซึ้งใจมากเกินไป แต่อย่าได้ลืมค้นหาตัวที่มีขนดกหนามาให้ข้าด้วย” ด้วยเช่นนั้น ใบหน้ามันตกลงไปแนบกับลำตัว ร่างกลายเป็นเถ้าธุลีสีเทา ลอยกระจายออกไปในสายลม แต่พร้อมกับเถ้าธุลีนั้นก็มีแสงหลากสีบินเข้าไปในถุงสมบัติเมิ่งฮ๋าว

จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน เขารีบตรวจสอบกระจกทองแดงที่อยู่ภายในถุงสมบัติอย่างรวดเร็ว นกแก้วชอบโอ้อวด และเชื่อถือไม่ค่อยได้ แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่เคยลืมว่าเมื่อครู่นี้มันได้ช่วยเขาไว้มากมายเพียงใด

การขับไล่เมฆลงทัณฑ์ให้กระจายออกไปดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายดาย แต่เมื่อได้เห็นนกแก้วอยู่ในสภาวะเมื่อครู่นี้ เมิ่งฮ่าวก็รู้ว่ามันต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างใหญ่หลวงต่อการกระทำนั้น

“ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบมัน” ผีโต้งกล่าวด้วยเสียงอ่อนแรง ร่างของมันขาดรุ่งริ่งและดูหงอยเหงา “มันยังไม่ตาย หลังจากพักผ่อนเพียงไม่กี่วัน มันก็จะดีขึ้น แต่ข้าสิแย่มาก มักจะต้องปะทะกับสายฟ้า ข้าชอบกินมัน แต่บางครั้งก็รู้สึกอิ่มมาก” มันกลายร่างเป็นหมวกไปสวมอยู่บนศีรษะเมิ่งฮ่าว

“เจ้าต้องระวังตัวให้มาก” มันกล่าวต่อ ด้วยน้ำเสียงอ่อนแอมากกว่าเดิม

“ครั้งหนึ่งเจ้านกแก้วชั่วร้ายและข้าเคยช่วยหญิงสาวนางหนึ่งในการถ่วงเวลาทัณฑ์สวรรค์ หลังจากนั้นนางก็มีโทสะและพยายามจะสังหารพวกเรา นางไล่ล่าพวกเราปีแล้วปีเล่า ตอบแทนความเมตตาด้วยความเป็นปฏิปักษ์ ข้าเกลียดคนเช่นนั้นจริงๆ” ในที่สุดมันค่อยๆ กลายเป็นเสียงบ่นอู้อี้ และจากนั้นก็เงียบไป

เมิ่งฮ่าวนั่งครุ่นคิดอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน มองไปรอบๆ จากนั้นก็โบกสะบัดมือ ทำให้ยามากกว่าร้อยเม็ดลอยออกไป พวกมันแตกกระจายออกกลางอากาศ ขณะที่พุ่งตรงไปยังผู้ฝึกตนที่หมดสติไป ซึ่งนกแก้วและผีโต้งได้ช่วยกันปกป้องไว้ หลังจากที่ตัวยาผ่านเข้าไปในร่างของพวกมัน ผู้ฝึกตนเหล่านั้นก็สั่นสะท้าน และจากนั้นก็ค่อยๆ เริ่มลืมตาขึ้นมา

หลังจากได้สติกลับคืนมา พวกมันก็ดูค่อนข้างสับสน แต่ไม่นานนักก็ตั้งสติได้ และเริ่มมองไปรอบๆ

ภูเขา และทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นหายไป บึงยาน้ำก็หายไปด้วย และบ้านเรือนที่พวกมันได้ปลูกสร้างไว้ ตอนนี้ก็กลายเป็นซากปรักหักพัง ทะเลสาบที่ก่อตัวขึ้นมาก็หายไปเช่นกัน เหลือไว้แต่เพียงหลุมขนาดใหญ่

พวกมันมองไปยังทั้งหมดอย่างเงียบๆ ความรู้สึกขมขื่นเติมเต็มอยู่ในจิตใจ ปัญหามากมายของพวกมันได้หายไปเมื่อมาอาศัยอยู่ในสถานที่อันปลอดภัยแห่งนี้ พวกมันได้พบกับสถานที่ซึ่งสามารถฝึกฝนวิถีเซียนได้อย่างเหมาะสม แต่ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้หายไป

“ถ้ำแห่งเซียนหายไปแล้ว” เมิ่งฮ่าวกล่าว “แต่ข้าสามารถหาให้พวกท่านได้ใหม่อีกแห่งหนึ่ง!” ผู้ฝึกตนมากกว่าร้อยคนเงยหน้าขึ้นมองมาที่เขา

“บึงยาน้ำหายไป แต่ข้าสามารถสร้างให้พวกท่านได้ใหม่!”

ประโยคที่สองนี้ทำให้แสงเจิดจ้าปรากฎขึ้นในดวงตาของพวกมัน ดูเหมือนกำลังใจของพวกมันได้ถูกจุดประกายขึ้นมา

“ถ้าพวกท่านต้องการ” เมิ่งฮ่าวกล่าว ด้วยเสียงที่ดังกังวาน

“ติดตามข้ามา! มีความแค้นที่ต้องชำระ! ถึงเวลาที่ต้องสังหารกันแล้ว!”

เขาโบกสะบัดแขนเสื้อ และพุ่งขึ้นไปในอากาศ ด้านหลังติดตามด้วยผู้ฝึกตนมากกว่าหนึ่งร้อยคน ดวงตาพวกมันแวบแสงด้วยรังสีสังหารอันเข้มข้น คนเหล่านี้เป็นผู้ฝึกตนดินแดนสีดำ และพวกมันก็เข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่าล้างแค้น!

จิตสัมผัสของเมิ่งฮ่าวกระจายออกไป ค้นหาปรมาจารย์จากสามสำนักใหญ่ที่กำลังหลบหนีไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version