Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 516

ตอนที่ 516

ไม่ตัดวิญญาณจะผ่านพันปีได้อย่างไร?

เริ่มจากทิศเหนือ และจากนั้นก็ขยายไปยังทิศตะวันออกและตะวันตก ดินแดนอันกว้างใหญ่ของทะเลทรายตะวันตกค่อยๆ กลายเป็นทะเลสีม่วงไปอย่างช้าๆ ทะเลได้กระจายออกไปจนในที่สุดก็ปกคลุมไปถึงทางใต้ด้วยเช่นกัน ไปหยุดอยู่ที่ด้านนอกของโม่เหมิน ในตอนนี้ มันได้กลายเป็นทะเลอันไร้ขอบเขตไปแล้วอย่างแท้จริง

ในที่สุดโม่เหมินก็จมอยู่ใต้น้ำ หนึ่งหมื่นปีต่อมา หลังจากที่น้ำทะเลหายไป ก็เผยให้เห็นถึงพื้นดินใหม่อีกครั้ง

นั่นจะเป็นจุดจบที่แท้จริงของวันสิ้นโลกแห่งทะเลทรายตะวันตก น้ำทะเลจะหายสาบสูญไป และทะเลทรายตะวันตกก็จะปรากฏขึ้นใหม่อีกครั้ง

บางทีเมื่อถึงเวลานั้น ดินแดนนี้ก็อาจจะไม่เป็นที่คุ้นเคยของผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตก ที่พำนักอยู่ในดินแดนสีดำอีกต่อไป อย่างไรก็ตามคงต้องมีใครบางคน ปรารถนาจะเดินทางไปค้นหารากเหง้าของชนเผ่าพวกมัน จากเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนอย่างแน่นอน

ตอนนี้ ประตูแห่งโม่เหมินกำลังปิดตัวลง บ่งชี้ให้เห็นว่าการอพยพได้จบสิ้นแล้วอย่างเป็นทางการ…

เสียงหัวเราะของเมิ่งฮ่าวดังก้องออกมา ขณะที่เขาได้รับความรู้แจ้งที่เกี่ยวกับกรรม เขามองเห็นเส้นใยกรรม ด้วยการเหวี่ยงเบ็ดตกปลาออกไป เขาก็สามารถควบคุมของวิเศษนี้ราวกับเป็นสมาชิกของตระกูลจี้ สำหรับเมิ่งฮ่าว นี่เป็นผลกำไรอันยิ่งใหญ่อย่างคาดไม่ถึง

“กรรมได้อยู่ในตัวข้ามาโดยตลอด…” เขาพุ่งผ่านอากาศไป นกแก้วเกาะอยู่บนไหล่ ผีโต้งเกาะติดอยู่ที่ขาของนกแก้วเหมือนเช่นเคย หนึ่งคน หนึ่งนกแก้ว และหนึ่งผีโต้ง พุ่งผ่านฝนม่วงที่กำลังตกลงมาอย่างหนัก พวกเขาถูกห้อมล้อมไว้ด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง พลังลมปราณได้ถูกตัดขาดไปโดยสิ้นเชิง

หลังจากที่แยกออกมาจากเผ่าจินอู เมิ่งฮ่าวก็เลือกที่จะไม่เข้าไปในดินแดนสีดำ เขาได้เลือกเส้นทางที่แตกต่างกันออกไป เขาจะอยู่ในวันสิ้นโลกฝนม่วง เพื่อสร้างเป็นภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุน้ำ

สำหรับภาพศักดิ์สิทธิ์โลหิต นั่นไม่ใช่ภาพศักดิ์สิทธิ์ที่เมิ่งฮ่าวต้องการ เขาจะเข้าไปอยู่ในวันสิ้นโลกฝนม่วง เพื่อได้รับความรู้แจ้ง และเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของทะเลม่วง

ขณะที่เขาพุ่งฝ่าอากาศไป จู่ๆ ดวงตาก็สาดประกาย

“ตอนที่ข้าออกมาจากพื้นที่ราบด้านนอกของดินแดนสีดำ” เขาพึมพำ “ผู้ที่ต้องการไล่ตามมา น่าจะมองเห็นแล้ว…” ทันใดนั้นเขาก็หยุดอยู่กลางอากาศ หันกลับไปมองยังด้านหลัง

“ข้าน่าจะถูกติดตามมา ไม่ใช่จากขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง แต่เป็น…ตัดวิญญาณ!!” ดวงตาเขาสาดประกายเจิดจ้า ขณะที่มองไปรอบๆ และยิ้มออกมา

เวลานานผ่านไป ก่อนที่สายตาเขาจะไปหยุดนิ่งอยู่ที่จุดแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไม่ไกลออกไปมากนัก“ต้องเป็นตัดวิญญาณอย่างแน่นอน หลังจากการแสดงออกของข้าที่โม่เหมิน ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งธรรมดาทั่วไป คงไม่ต้องการจะมาหาเรื่องข้า” ขณะที่เมิ่งฮ่าวคิดเกี่ยวกับขั้นตัดวิญญาณ ฉับพลันนั้น ดวงตาเขาก็เต็มไปด้วยความหลงใหลที่ลุกไหม้ขึ้นมา

ตัดวิญญาณ…เป็นขั้นที่แข็งแกร่งอย่างไม่อาจจะอธิบายออกมาได้!

เป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนเสาะแสวงหาด้วยความหลงใหล รองลงมาจากเซียนอมตะเท่านั้น!

ความลี้ลับของตัดวิญญาณ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสามารถศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แต่เป็นการปรากฏขึ้นของอาณาจักรแห่งเต๋า แต่ละการตัดวิญญาณทั้งสามครั้ง ก็เป็นตัวอย่างของการใช้อาณาจักรแห่งเต๋า

มีแต่พลังฝึกตนของผู้ที่อยู่ในขั้นตัดวิญญาณเท่านั้น ถึงจะมีคุณสมบัติที่ถูกเรียกว่า…เต๋า!

การฝึกตนของขั้นตัดวิญญาณ เม็ดยาเป็นแค่ส่วนรอง สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ…ความรู้แจ้งที่เกี่ยวกับอาณาจักรแห่งเต๋า

ปรมาจารย์ตัดวิญญาณทุกคน มีอาณาจักรแห่งเต๋าที่แตกต่างกัน ขึ้นกับประสบการณ์ในชีวิตที่แตกต่างกันของพวกมัน อาณาจักรแห่งเต๋าซึ่งถูกเลือกโดยผู้ฝึกตน จะกลายเป็นคมมีดที่ใช้ตัด การตัดครั้งแรกเป็นขั้นต้น ตัดครั้งที่สองเป็นขั้นกลาง การตัดครั้งที่สามคือขั้นสุดท้าย!

แต่ละการตัดเหล่านี้ จะทำให้พื้นฐานฝึกตนพุ่งขึ้นไปยังอาณาจักรแห่งเต๋าใหม่ๆ เมื่อการตัดทั้งสามครั้งเสร็จสิ้นสมบูรณ์ วงจรอันยิ่งใหญ่ของการตัดวิญญาณก็จะสมบูรณ์แบบ หลังจากนั้น ก็มีเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้นที่จะต้องเดินต่อไป…และนั่นก็คือค้นหาเต๋า

เหตุผลที่ทำไมถึงถูกเรียกว่าค้นหาเต๋า ก็เพราะว่าร่างกายของผู้ฝึกตนจะประกอบไปด้วยเต๋า ภายในการตัดทั้งสามครั้งของขั้นตัดวิญญาณ แต่ละคนจะค้นพบเต๋าของตัวเอง จากนั้นก็จะมีคำถามเกิดขึ้น…เมื่อใดที่เต๋าตกผลึก คนผู้นั้นก็จะมีคุณสมบัติเป็นเซียนอมตะ

ยกเว้นว่า…ในช่วงการค้นหาเต๋ายังคงมีความสงสัยอยู่ จากนั้นเต๋าได้หายไป และร่างกายก็ดับสูญ ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นความว่างเปล่า

สามารถกล่าวได้ว่าเมื่อไหร่ที่เกิดความรู้แจ้ง บางคนอาจจะตายไปอย่างมีความสุข นั่นก็คือวิธีการอธิบายขั้นค้นหาเต๋าของใครบางคน เมื่อไหร่ที่ได้รับความรู้แจ้ง และเต๋าของคนผู้นั้นตกผลึก ถึงแม้จะต้องตายไปก็ยังสามารถยิ้มได้

ตัดวิญญาณ, ค้นหาเต๋า, เซียนอมตะ!

เหล่านี้เป็นการแสวงหาขั้นสูงสุดของผู้ฝึกตน ในดินแดนอันกว้างใหญ่ของดาวหนานเทียน ทั้งสามขั้นนี้ แต่ละขั้นสามารถนำไปสู่ความตายได้ แต่เมื่อบรรลุถึงเป้าหมายสุดท้ายแห่งการเป็นเซียนอมตะ ผู้ฝึกตนก็จะมีคุณสมบัติที่จะออกไปจากดาวหนานเทียน และท่องเที่ยวไปทั่วระหว่างดวงดาว ที่นั่นเต๋าส่วนตัวของแต่ละคนจะยิ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และเบ่งบานราวกับเป็นบุปผาอันงดงาม

เมื่อบุปผาอันงดงามเช่นนั้นเบ่งบานขึ้น คนผู้นั้นก็พร้อมที่จะตายไป พร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะเย้ยต่อสวรรค์ หรือจะมีชีวิตอยู่อย่างทรนง!

นั่นก็คือเส้นทางแห่งเซียนอมตะ!

วิถีของเมิ่งฮ่าว เส้นทางของสวี่ชิง วิถีทางของฉู่อวี้เยียน เฉินฟ่าน, เจ้าอ้วน และคนอื่นๆ ทั้งหมด ต่างก็ก้าวเดินไปตามเส้นทางเช่นนี้…

ถ้าให้พูดอย่างเป็นกลางก็คือ ไม่ว่าจะมองไปยังทะเลทรายตะวันตก หรือดินแดนด้านใต้ ผู้เชี่ยวชาญค้นหาเต๋าเป็นสิ่งที่หาได้ยากเย็น ราวกับเป็นขนหงส์และเขากิเลน…แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณก็ไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้ตามธรรมดา กล่าวโดยทั่วไป แม้แต่ชนเผ่าอันยิ่งใหญ่ในทะเลทรายตะวันตก ก็มีปรมาจารย์ตัดวิญญาณเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ทำไมพวกมันถึงได้ดูแลเอาใจใส่ต่อทายาทของพวกมันมาโดยตลอด เพื่อให้กลายเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

เช่นเดียวกับในดินแดนด้านใต้ ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณก็ไม่อาจจะพบเห็นได้โดยทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนใหญ่…ยังคงอยู่ภายในการตัดครั้งแรก คนที่บรรลุถึงการตัดครั้งที่สองก็ยิ่งพบเห็นได้น้อยลง และสำหรับการตัดครั้งที่สาม…พวกมันก็ยิ่งหายากมากขึ้นไปอีก

นั่นเป็นเพราะว่า…ในการตัดแต่ละครั้งอาจจะทำให้ถึงตายได้ ถ้าไม่สำเร็จ…ก็หมายความว่าต้องตายไปอย่างแน่นอน อันที่จริง ผู้ฝึกตนมากมายได้กลายมาเป็นปรมาจารย์ตัดวิญญาณ…ซึ่งเลือกที่จะไม่ทำการตัดครั้งต่อไป

ล้มเหลว…หมายถึงตกตายไป!

พลังของขั้นตัดวิญญาณถูกวางอยู่ในอาณาจักรแห่งเต๋า มีอิทธิพลต่อความสามารถศักดิ์สิทธิ์ สามารถเปลี่ยนแปลงกฎแห่งธรรมชาติ สามารถทำได้ตามที่จิตใจต้องการ จากมุมมองของผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้ง ขั้นตัดวิญญาณสามารถทำสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นจริงขึ้นมาได้

ยกตัวอย่างเช่นปรมาจารย์เอกะเทวะ การที่มันสามารถนำแคว้นจ้าวจากไปพร้อมกับมัน ก็เป็นสิ่งที่ต้องทำกับพื้นฐานฝึกตนนี้ อย่างไรก็ตามการกระทำเช่นนั้น จริงๆ แล้วก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถของขั้นตัดวิญญาณ!

ตัวอย่างอื่นก็คือ ปรมาจารย์แห่งตระกูลหานเสวี่ย ด้วยพลังของมันเอง มันสามารถทำให้ทุกสรรพสิ่งในบริเวณนั้นสั่นสะเทือนได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อไหร่ที่พื้นฐานฝึกตนของมันตกลงไป มันก็จะตกเป็นเป้าการโจมตีจากผู้อื่น

ถ้ามีใครบางคนปรารถนาจะเข้าไปอยู่ในขั้นตัดวิญญาณ ก้าวแรกก็คือตัดครั้งแรก ซึ่งไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้

มันเป็นอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ ที่ผู้ฝึกตนซึ่งปรารถนาจะบรรลุให้ไกลเกินกว่าขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งต้องข้ามไปให้ได้ อันที่จริงก็เป็นอุปสรรคที่ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งมากมายไม่อาจจะก้าวผ่านไปได้ เนื่องจากเช่นนั้น พวกมันจึงหยุดอยู่ที่ขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่วิญญาณแรกก่อตั้ง จนกระทั่งอายุขัยอันยืนยาวของพวกมันสิ้นสุดลง ครั้นแล้วพวกมันก็กลายเป็นโครงกระดูกและเถ้าธุลี

ถ้าใครก็ตามไม่อาจจะมีชีวิตผ่านพ้นหนึ่งพันปี และไม่อาจจะต่อต้านสวรรค์ แล้วคนผู้นั้นจะอยู่ในขั้นตัดวิญญาณได้อย่างไร?

อายุขัยอันยืนยาวของขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งอยู่ที่หนึ่งพันปี แม้จะใช้เม็ดยามหัศจรรย์ช่วยเพิ่มอายุขัยให้ยืนยาวก็ตามที คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีอายุมากกว่าหนึ่งพันปี นั่นก็คือหนึ่งในกฎของสวรรค์และปฐพี หนึ่งพันปีเป็นขีดจำกัดสำหรับชีวิตอันยืนยาวของผู้ฝึกตน

อย่างไรก็ตาม ด้วยการตัดครั้งแรกของขั้นตัดวิญญาณ อายุขัยห้าร้อยถึงหนึ่งพันปีสามารถที่จะกลั่นสกัดออกมาได้ สำหรับจำนวนปีที่แน่นอน ก็ขึ้นกับอาณาจักรแห่งเต๋าของแต่ละคน…โดยทั่วไป ก็จะมีอายุขัยยืนยาวมากกว่าหนึ่งพันปีขึ้นไปอย่างแน่นอน!

เมื่อก้าวผ่านหนึ่งพันปีขึ้นไป ก็เป็นการขัดขืนสวรรค์!

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมขั้นตัดวิญญาณถึงได้ยากเย็นเป็นยิ่งนัก มันยากลำบาก…จนถึงระดับสูงสุด!

เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ความดื้อรั้นและความปรารถนาสาดประกายอยู่ในแววตา และตกผลึกอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ เขาจะเดินไปบนเส้นทางนี้จนกระทั่งถึงขั้นเซียนอมตะ…เป็นวิถีทางที่เขาไม่เคยกระทำมาก่อน นั่นเป็นความมุ่งมั่นในจิตใจเมิ่งฮ่าว

วิญญาณแรกก่อตั้งห้าสีเป็นเพียงแค่ก้าวแรกเท่านั้น!

เมิ่งฮ่าวมองออกไปในอากาศ แต่ก็มองเห็นแค่ฝนม่วงที่กำลังตกลงมา ทุกสิ่งทุกอย่างวิเวกวังเวง มองไม่เห็นใครยกเว้นตัวเอง เมิ่งฮ่าวเงียบไปนานสักพัก หลังจากสูดลมหายใจเข้าออกผ่านไปสิบครั้ง ทันใดนั้น เงาร่างโปร่งแสงก็ค่อยๆ เริ่มปรากฏขึ้นในกลางอากาศ อยู่ห่างจากเบื้องหน้าเมิ่งฮ่าวไปหลายพันจ้าง

ขณะที่เงาร่างนั้นเริ่มมองเห็นได้ พลังที่มองไม่เห็นแปลกๆ ดูเหมือนจะมีผลกระทบต่อฝนม่วงในบริเวณนั้น ฝนม่วงถูกผลักออกไปด้านข้าง ไม่มีแม้แต่หยดเดียวที่จะตกลงไปบนเงาร่างนั้น

สีหน้าเมิ่งฮ่าวยังคงสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ราวกับว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เองที่นกแก้วได้ลืมตาอันเบิกกว้างของมันขึ้น เส้นขนหลากสีทั้งหมดบนร่างมันลุกตั้งชี้ชัน ระฆังผีโต้งบนขาของมันเริ่มตัวสั่นสะท้าน ทำให้เกิดเป็นเสียงติงติงตังตังดังก้องออกไป

“บัดซบ, ตัดวิญญาณ!” นกแก้วกล่าว อ้าปากค้าง ยากที่จะบอกว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ มันมองลงไปอย่างดุร้ายยังระฆังผีโต้ง และกล่าวว่า “หุบปาก! หยุดสั่นได้แล้ว! การสั่นของเจ้าทำให้อู่เหยียรำคาญเป็นอย่างมาก!” เพื่อเป็นการตอบโต้ การสั่นของระฆังผีโต้งก็เริ่มรุนแรงมากขึ้น

เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย เขาได้คาดคิดไว้นานแล้วว่า หลังจากที่เผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในดินแดนสีดำ และส่งมอบวิญญาณอสูรไป ความจริงที่ว่าพวกเขามีวิญญาณอสูรชิ้นที่สองก็จะถูกพบเห็นอย่างรวดเร็ว

เมื่อคิดได้ว่าพันธมิตรศาลสวรรค์ต้องการวิญญาณอสูร ก็เป็นไปได้ว่าเผ่าอันยิ่งใหญ่อื่นๆ ที่มีปรมาจารย์ตัดวิญญาณอยู่ด้วยก็จะเกิดความละโมบขึ้น นั่นก็หมายความว่ามีความเสี่ยงสูงที่พวกมัน…จะพยายามไล่ตามมาและสังหารเขา

สภาพการณ์เช่นนั้นจะยิ่งหลีกเลี่ยงได้ยากมากขึ้น ถ้าเขาเข้าไปในดินแดนสีดำ ยิ่งไปกว่านั้น ก็จะทำให้เผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ต้องติดร่างแหไปด้วย ทางเลือกเพียงหนึ่งเดียวก็คือต้องจากไป…แม้จะจากไปแล้ว ก็ยังคงมีผู้คนไล่ติดตามมา

แต่ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรต้องไปเกี่ยวข้องกับเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์อีก ภาพที่เมิ่งฮ่าวได้ออกไปจากโม่เหมิน มีผู้คนมากมายมองเห็นเป็นสักขีพยาน จากเหตุการณ์นั้น ก็ประหนึ่งว่าเมิ่งฮ่าวได้ตัดกรรมของเขากับเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้าถึงมาอยู่ที่นี่?” เงาร่างโปร่งแสงนั้นถามออกมา ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ ตาที่กำลังลืมขึ้นมาของมัน ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณนั้นจู่ๆ ก็เปลี่ยนไป ราวกับว่ามีกฎแห่งพลังที่มองไม่เห็นอันยากจะอธิบายออกมา ได้ปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่แถบนั้น เงาร่างนั้นไม่ได้อ้าปากพูด แต่เสียงของมันดังก้องอยู่ในจิตใจเมิ่งฮ่าวราวกับเป็นเสียงฟ้าร้อง

กลิ่นอายอันเข้มข้นทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกราวกับว่า เขากำลังหายใจไม่ออก เพียงความคิดส่วนหนึ่งของเงาร่างนั้น ก็ทำให้ฝนม่วงในพื้นที่บริเวณนั้นหยุดนิ่งชะงักอยู่กลางอากาศ ภาพของหยดน้ำลอยอยู่ที่นั่นในกลางอากาศ ช่างน่าตกใจอย่างแท้จริง

นี่เป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งไม่อาจจะทำได้ นี่ไม่ใช่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นคำสั่งแห่งกฎ นี่ก็คือ…อาณาจักรแห่งเต๋า!

มีเพียงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเท่านั้น ถึงจะได้ครอบครองอาณาจักรแห่งเต๋า!

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกาย ขณะที่มองไปยังเงาร่างโปร่งแสงนั้น “ข้าถูกไล่ตามมา ไม่ใช่จากผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้ง แต่เป็นใครบางคนที่อยู่ในขั้นตัดวิญญาณ!”

“ส่งวิญญาณอสูรมา” เงาร่างโปร่งแสงกล่าว จ้องมองมายังเมิ่งฮ่าว “เจ้าก็จากไปได้” สีหน้าของมันไม่ใช่ทั้งความยินดีหรือมีโทสะ มันยืนอยู่ที่นั่นต่อไป ปากมันปิดอยู่แต่เสียงของมันก็ดังก้องอยู่ในจิตใจเมิ่งฮ่าว

“รอสักครู่!” นกแก้วรีบร้องตะโกนออกมา ทันใดนั้นมันก็บินขึ้นไปในอากาศ เวลาเดียวกันนั้น ผีโต้งที่อยู่บนข้อเท้าของมันก็พร่ำบ่นเรื่องไร้สาระออกมาอย่างต่อเนื่อง

นกแก้วกระพือปีกขึ้นลงอย่างรวดเร็ว กล่าวต่อไป “ฮิ ฮิ พี่ใหญ่ท่านนี้ อู่เหยียไม่ได้อยู่ฝ่ายเจ้าเด็กน้อยนี้นะ ไอ้หยา ข้าเพิ่งนึกได้ว่า อ้ายเฟยกำลังรอข้ากลับบ้าน แล้วเจอกันใหม่!”

“พี่ใหญ่” ผีโต้งพรั่งพรูออกมา “ซานเหยียก็ไม่ได้เป็นพวกเดียวกับเจ้าเด็กผู้นี้…”

สีหน้าเมิ่งฮ่าวดูน่าเกลียดขึ้น ขณะที่จ้องมองไปยังนกแก้วและผีโต้ง “นั่นก็คือวิญญาณอสูร!” ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้น ชี้นิ้วไปยังนกแก้ว

ฉับพลันนั้น เงาร่างกึ่งโปร่งแสง ก็มองไปยังนกแก้ว

“เมิ่งฮ่าว พวกเราอยู่ฝ่ายเดียวกันนะ สารเลว! เจ้า, เจ้า, เจ้า…” นกแก้วเริ่มตัวสั่นสะท้าน รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที

“นี่ไม่ถูกต้อง” ผีโต้งแผดร้องออกมา “นี่มันผิดศีลธรรม! นี่กำลังจะไปตอแยทัณฑ์สวรรค์ เจ้า…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version