Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 608

ตอนที่ 608

พวกท่านทำให้ข้าเจ็บปวดใจ

แม้ในขณะที่สีหน้าเขินอายปรากฏขึ้น มือขวาเมิ่งฮ่าวก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ ด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ จนทำให้บุรุษร่างกำยำแข็งแรงจากดินแดนทางเหนือ ไม่มีเวลาที่จะแสดงปฏิกิริยาใดๆ ก่อนที่ฝ่ามือนั้นจะตบลงไปที่ใบหน้าของมัน

เสียงตูมได้ยินมา และบุรุษร่างกำยำนั้น ก็รู้สึกราวกับว่าภูเขาทั้งลูก กำลังกระแทกลงมายังศีรษะของมัน จิตใจสั่นระรัว

เดิมทีพลังนั้นน่าจะทำให้มันลอยออกไป แต่สุดท้าย เมิ่งฮ่าวก็ลดมือลง คว้าจับไปที่ศีรษะของบุรุษผู้นั้น และกระแทกมันลงไปบนพื้น

ตอนแรกบุรุษร่างกำยำพุ่งขึ้นไปในอากาศ และต่อมาก็โขกศีรษะลงไปบนพื้น ทำให้เสียงกระหึ่มดังก้องออกไป สีหน้าเขินอายยังคงมีอยู่บนใบหน้า เมิ่งฮ่าวยกเท้าขวาขึ้นไปในอากาศ และเริ่มกระทืบลงไปบนร่างบุรุษผู้นั้น

ขณะที่เสียงกระทืบดังก้องออกไป บุรุษร่างกำยำก็เริ่มดิ้นรนอย่างมีโทสะ พื้นฐานฝึกตนของมันระเบิดพลังออกมา ขณะที่พยายามจะต่อสู้กลับไป แต่เพียงชั่วพริบตา พลังอันน่ากลัวของกายเนื้อเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้มันเริ่มแผดร้องอย่างโหยหวนออกมา มันหดตัวกลับลงไปบนพื้น ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าตกใจออกมา

เมิ่งฮ่าวจับศีรษะของมันไว้ และกระแทกลงไปบนพื้น ทำให้โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก

“พร้อมที่จะพูดจากันแล้วยัง!?” เมิ่งฮ่าวกล่าวอย่างมีโทสะ จับศีรษะมันกระแทกลงไปบนพื้นอีกครั้ง

“ข้าแสดงความยินดีต่อพวกเจ้า, อวยพรต่อพวกเจ้า! แต่เจ้ากลับต้องการสังหารข้า!?” เมิ่งฮ่าวกระแทกศีรษะมันลงไปบนพื้นอีกครั้ง เสียงแผดร้องของบุรุษร่างกำยำทั้งโศกเศร้าและโหยหวน ร่างกายมันสั่นระรัวพร้อมกับมีสีหน้าที่หวาดกลัว จิตใจตกอยู่ในความยุ่งเหยิงขณะที่มันถูกทุบตีอย่างไร้เหตุผล

“นั่นไม่ถูกต้อง! นั่นมันไร้ศีลธรรม!” เมิ่งฮ่าวกล่าว กระโดดขึ้นไปในอากาศ จากนั้นก็เริ่มกระทืบลงไปบนร่างมัน ทิ้งรอยเท้าไว้ทุกครั้งที่กระทืบลงไป

บุรุษร่างกำยำปกป้องศีรษะของมันด้วยสองมือ ส่งเสียงแผดร้องอยู่ภายใต้โทสะของเมิ่งฮ่าว

“เจ้าไม่รู้แม้แต่ว่าสิ่งใดดีสำหรับเจ้า! นั่นเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว? ข้ายินดีต่อเจ้า แต่จากนั้นเจ้าก็ตอบแทนความเมตตาของข้าด้วยการเป็นศัตรู!?” ภาพที่เมิ่งฮ่าวกระทืบลงไปบนร่างบุรุษผู้นั้นอย่างดุร้าย ทำให้ดวงตาหลิวจื่อช้วนสาดประกายด้วยความตื่นเต้น จิตใจมันเต้นรัวเต็มไปด้วยความตื่นเต้น นอกจากนี้ มันยังรู้สึกว่าการโชคร้ายเป็นกลุ่ม ยังดีกว่าการต้องโชคร้ายตามลำพังมากนัก

คนที่รู้สึกหวาดกลัวมากที่สุดก็คือ ผู้ฝึกตนจากดินแดนทางเหนืออีกคน ที่เพิ่งจะก้าวมาข้างหน้าเมื่อครู่นี้ รวมทั้งสมาชิกตระกูลจี้อีกคน ถึงแม้พวกมันจะพุ่งเข้าไปโจมตีด้วยกัน แต่เมื่อมองเห็นภาพที่กำลังเกิดขึ้นที่เบื้องหน้า ก็ทำให้หนังศีรษะพวกมันต้องด้านชา ขนลุกตั้งชี้ชัน

พวกมันกำลังจะถอยไปด้านหลัง แต่เมิ่งฮ่าวก็มองขึ้นไปยังพวกมัน ด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวดใจ“มีผู้คนเกลียดชังข้ามากมายจริงๆ?” เมิ่งฮ่าวกล่าว “ข้าปรารถนาดีต่อพวกเจ้าอย่างแท้จริง! ถ้าคนผู้นี้ไม่สำนึกบุญคุณเพียงแค่คนเดียว ก็ไม่เป็นไร แต่ดูเหมือนว่า…พวกเจ้าทั้งสองต่างก็ไม่พอใจในความเมตตาของข้าด้วยเช่นกัน!” เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าเสียใจมากขึ้นเรื่อยๆ หนังศีรษะของผู้ฝึกตนทั้งสองเริ่มชาด้านมากยิ่งขึ้น ขณะที่ถอยไปด้านหลัง แต่ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวยกมือขวาขึ้นมา และทำท่าคว้าจับ

“พวกเจ้าต้องชี้แจงให้ชัดเจน มิเช่นนั้น ก็ไปที่ไหนไม่ได้ทั้งสิ้น” คนทั้งสองตกตะลึง เมื่อพบว่าท่าคว้าจับของเมิ่งฮ่าว ทำให้พวกมันไม่อาจจะควบคุมร่างกายตัวเองได้ในทันที ถูกลากไปยังเมิ่งฮ่าว เขาตบหน้าพวกมันเต็มแรง หลังจากที่พวกมันกระแทกลงไปบนพื้น เขาก็ยังกระทืบลงไปยังพวกมันอย่างต่อเนื่อง

“ทำไม?!?!” เมิ่งฮ่าวแผดร้องออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเสียใจ เขาจับสมาชิกตระกูลจี้ไว้ และกระแทกมันลงไปบนพื้นเจ็ดถึงแปดครั้ง ผู้ฝึกตนตระกูลจี้มีโทสะ แต่ไม่ว่ามันจะมีพลังพื้นฐานฝึกตนมากมายเท่าใด หรือมีอาวุธเวทมากมายเพียงไหนที่มันพยายามจะใช้ออกมา การตบลงไปเพียงไม่กี่ครั้งของเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายลง ตอนนี้สมาชิกตระกูลจี้กำลังหอบหายใจด้วยความประหลาดใจ

ในท่ามกลางความประหลาดใจของมัน เมิ่งฮ่าวจับศีรษะมัน และกระแทกใบหน้ามันลงไปบนพื้นอีกครั้ง

ผู้ฝึกตนจากดินแดนทางเหนืออีกคนส่งเสียงแผดร้องออกมา มันมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ขณะที่สมาชิกตระกูลจี้และผู้ฝึกตนจากดินแดนทางเหนืออีกคน ราวกับเป็นลูกไก่ที่อยู่ในกำมือของเมิ่งฮ่าว ไร้พลังที่จะตอบโต้กลับไปโดยสิ้นเชิง บุรุษผู้นั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมากจนเริ่มร้องขอความเมตตา

แต่มันก็ไม่อาจจะหลบเลี่ยงการลงโทษจากเมิ่งฮ่าวได้ ทุกครั้งที่เมิ่งฮ่าวกระโดดขึ้นไป บุรุษทั้งสามก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา โลหิตสาดกระจายออกไปทั่วบริเวณนั้น…

“พวกเจ้าทำให้ข้าต้องเจ็บปวดใจ!!”

“แค่ยิ้มออกมา ก็ไม่อาจจะขอโทษในความปรารถนาดีของข้าได้!!” ภาพที่เมิ่งฮ่าวกำลังเตะต่อยอยู่นี้ ทำให้พวกที่มองดูอยู่สั่นสะท้านไปทั้งร่าง สมาชิกตระกูลจี้ รวมทั้งผู้ฝึกตนจากดินแดนทางเหนืออีกสองคน ต่างก็หอบหายใจอย่างเร่งร้อน สีหน้าตกตะลึงจนถึงที่สุด

พวกมันต่างก็รู้สึกยินดีในโชคของตนเอง ที่ไม่ได้ขยับตัวเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนผู้หนึ่งซึ่งเกือบจะก้าวออกไปเมื่อครู่นี้ พวกมันรู้สึกราวกับว่า เพิ่งจะหลบเลี่ยงหายนะอันยิ่งใหญ่มาได้

ดวงตาพวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าว เป็นความหวาดกลัวที่ทำให้พวกมันรู้สึกเสียใจมากกว่าตอนที่อยู่ในอาณาจักรที่สอง นั่นเป็นเพราะว่าฉับพลันนั้นพวกมันก็พบว่า…อาจจะถูกฝังอยู่ในอาณาจักรที่สามแห่งนี้ด้วยเช่นกัน!

ดวงตาจี้เซี่ยวเซี่ยวเบิกกว้าง และนางกำลังหอบหายใจด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่ากำลังมองไปยังคนบ้าผู้หนึ่ง

ขณะที่ความรู้สึกนี้ปรากฏขึ้น ก็มีความหวาดกลัวเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ราวกับว่าเมิ่งฮ่าวที่นางรู้จักจากอาณาจักรที่สอง ได้มาอยู่ในอาณาจักรที่สามนี้อย่างสมบูรณ์

หลิวจื่อช้วนยืนอยู่ในกลุ่ม สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ตะโกนอยู่ภายในใจว่า “จัดการมัน! สังหารมันเลย!”

จิตใจมันเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและไม่พอใจ เมิ่งฮ่าวจัดการคนทั้งสามอย่างต่อเนื่อง สมาชิกอีกสองคนจากตระกูลจี้ นอกจากจี้เซี่ยวเซี่ยวแล้วก็มีท่าทางลังเล หนึ่งในพวกมันเป็นชายชรา กัดฟันแน่นและกล่าวว่า “พี่เมิ่ง…แน่นอนว่าพวกมันทำไม่ถูก แต่…เมื่อคิดว่านี่เป็นความผิดพลาดครั้งแรกของพวกมัน…”

“ใช่แล้ว” ผู้ฝึกตนจากดินแดนทางเหนืออีกคนกล่าว “พี่เมิ่ง ถ้าท่านยังทุบตีต่อไป พวกมันก็คงต้องตายไป…”

เป็นเช่นดังที่คนผู้นั้นกล่าว คนทั้งสามที่นอนอยู่บนพื้นข้างกายเมิ่งฮ่าว ต่างก็ชุ่มโชกไปด้วยโลหิต หอบหายใจออกมา มากกว่าที่จะหายใจเข้าไป ถึงแม้พวกมันจะเป็นผู้ฝึกตน แต่ก็ถูกทุบตีจนแทบจะตายไปอย่างแท้จริง

“พวกท่านต้องการจะตอบแทนความเมตตา ด้วยการเป็นศัตรูเช่นเดียวกัน?” เมิ่งฮ่าวถาม มองขึ้นไปยังผู้ฝึกตนตระกูลจี้ ผู้ซึ่งกล่าวขึ้นมาก่อน

สายตานั้นทำให้สมาชิกชราตระกูลจี้เริ่มสั่นสะท้าน มันรีบถอยไปด้านหลังสองสามก้าวอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กล่าวอย่างมีโทสะว่า “คนทั้งสามนี้ทำเกินไป! สิ่งที่ข้าเกลียดมากที่สุดในชีวิตก็คือ คนที่ตอบแทนความเมตตาด้วยความเป็นศัตรู! พี่เมิ่ง โปรดกระทำต่อไปตามสบาย ไม่ต้องสนใจข้า”

สำหรับผู้ฝึกตนจากดินแดนทางเหนืออีกคน ผู้ซึ่งกล่าวออกมาเป็นคนที่สอง ตอนนี้มันมีความกังวลใจเพิ่มมากขึ้น เริ่มเสียขวัญขณะที่มองเห็นว่า เมิ่งฮ่าวค่อยๆ มองมาที่มันอย่างช้าๆ ทันใดนั้นมันก็ร้องตะโกนขึ้น “พี่เมิ่ง! จัดการพวกคนเลวและช่วยปกป้องคนดีด้วย! ข้าก็เกลียดคนแบบนี้ด้วยเช่นกัน ท่านช่างมีทัศนคติที่สูงส่งอย่างน่าเหลือเชื่อนัก!”

ที่ห่างออกไปด้านข้าง จิตใจหลิวจื่อช้วนเต็มไปด้วยการดูถูก มันยังคงรู้สึกว่าตนเองมีความแข็งแกร่งกว่าบุคคลเหล่านี้มากนัก

สีหน้าเขินอายปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมิ่งฮ่าวอีกครั้ง เท้าขวายกขึ้นไปในอากาศ กำลังจะกระทืบลงไปอีกครั้ง ที่พื้นด้านล่าง สมาชิกตระกูลจี้ ซึ่งกำลังปกปิดศีรษะของมันด้วยสองมือ จู่ๆ ก็รู้สึกราวกับว่าความโชคดีกำลังมาถึงแล้ว

“สหายเต๋าเมิ่งโปรดฟังข้า สิ่ง…สิ่งที่ข้าได้ครอบครอง ท่านจะได้ไปหกในสิบส่วน!”

ทันทีที่เมิ่งฮ่าวได้ยินเช่นนี้ เท้าก็หยุดชะงักค้างนิ่ง เห็นได้ชัดว่าถูกจูงใจโดยคำพูดของมัน ก้มกายลงและตบไปที่ไหล่ของบุรุษผู้นั้นอย่างเขินอาย

“พี่น้อง, เป็นพี่น้องที่ดีจริงๆ” เมิ่งฮ่าวกล่าว “ข้าเกลียดที่จะต้องพูดเช่นนี้ แต่ท่านก็รู้ดีว่า ข้าก็มีหลักการของข้า แปดในสิบส่วนเป็นอย่างไร? ไม่ได้? ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร…”

“อา?” ใบหน้าของสมาชิกตระกูลจี้ ปกคลุมไปด้วยคราบโลหิตและมีท่าทางตกตะลึง มันกำลังจะกล่าวบางอย่างออกมา แต่หนึ่งในผู้ฝึกตนจากดินแดนทางเหนือก็ตะโกนออกมา

“แปดในสิบส่วน! พี่เมิ่ง, แปดในสิบส่วนที่ข้าได้ครอบครองจะเป็นของท่าน!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เมิ่งฮ่าวก็ผลักสมาชิกตระกูลจี้กลับลงไปที่พื้นในทันที จากนั้นก็ช่วยพยุงร่างผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือขึ้นมายืน ตอนนี้เขาดูเขินอายมากขึ้นกว่าเดิม และมีสีหน้าขอโทษเป็นอย่างยิ่งกล่าวว่า

“พี่ท่านให้ความรักความเมตตาต่อข้าอย่างลึกล้ำเช่นนี้ เมิ่งฮ่าวช่างรู้สึกละอายใจนัก ก็ดี เมื่อท่านกล่าวเช่นนี้ ข้าก็ขออวยพรให้ท่านรวบรวมของวิเศษ จากในที่แห่งนี้ได้เป็นจำนวนมาก…”

ผู้ฝึกตนจากดินแดนทางเหนืออยากจะร้องไห้ออกมา แต่ก็ไร้น้ำตาให้ไหลหลั่ง มันมองไปยังเมิ่งฮ่าว และพยักหน้าอย่างแข็งขัน

สมาชิกตระกูลจี้ผู้ซึ่งถูกผลักกลับลงไปที่พื้นเมื่อครู่นี้ ฉับพลันนั้นก็ตะโกนออกมา “แปดในสิบส่วน! ข้าจะให้ท่านแปดในสิบส่วนด้วยเช่นกัน!”

อีกคนที่เหลือ กัดฟันแน่น และตะโกนเช่นเดียวกันออกมา

เมิ่งฮ่าวมีท่าทางกระตือรือร้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ช่วยพวกมันให้ลุกขึ้นมายืน

“สหายเต๋า, ข้ารู้สึกเป็นหนี้ต่อความรักอันลึกล้ำของพวกท่านทั้งสามอย่างแท้จริง” เขากล่าวพร้อมกับถอนหายใจด้วยอารมณ์ความรู้สึกออกมา “เมิ่งฮ่าวรู้สึกละอายใจจริงๆ แต่เมื่อพวกท่านยืนกรานเช่นนี้ ก็ไม่เป็นไร ข้าคงต้องยอมรับเท่านั้น” จากแววตาของเขา ดูเหมือนเมิ่งฮ่าวจะรู้สึกว่ายังมีคนดีอยู่ในทุกที่ภายใต้สวรรค์แห่งนี้อย่างแท้จริง

ผู้ฝึกตนทั้งสามแทบจะยืนอยู่ที่นั่นอย่างไม่มั่นคง มองไปยังเมิ่งฮ่าว ถึงแม้ภายในใจพวกมันกำลังก่นด่าสาปแช่งเขาจนถึงที่สุด แต่พวกมันก็ไม่กล้าจะแสดงออกมาทางสีหน้า ในตอนนี้พวกมันต่างก็หวาดกลัวเมิ่งฮ่าวอย่างแท้จริง

ทุกคนเพียงแค่มองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ แต่บุคคลทั้งสามนี้ประสบพบเจอด้วยตนเอง ทุกครั้งที่เมิ่งฮ่าวทุบตีลงไป เขาไม่ได้ใช้พลังจากวิชาเวทแม้แต่น้อย แต่ประกอบด้วยพลังทั้งหมดจากกายเนื้อของเขาเท่านั้น

เมิ่งฮ่าวใช้เพียงแค่พลังจากกายเนื้อ ก็ทำให้พวกมันไม่มีโอกาสแม้แต่น้อยที่จะต่อสู้กลับมาได้ ที่แปลกมากไปกว่านั้นก็คือ หมัดและเท้าของเขาจริงๆ แล้ว ก็ทำให้วิชาเวทของพวกมันกระจัดกระจายไปโดยสิ้นเชิง

ด้วยความน่ากลัวของกายเนื้อเช่นนั้น ก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความสิ้นหวัง ท่าทางเขินอายที่พวกมันมองเห็นบนใบหน้าเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ จะกลายเป็นฝันร้ายอันน่ากลัวของพวกมันในวันข้างหน้า

บุคคลทั้งสามไม่มีทางเลือก ได้แต่ประสานมือด้วยความเคารพต่อเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็ถูกคนอื่นๆ จากในกลุ่มพวกมันช่วยพยุงตัวจากไป เดินกะเผลกกลับไปยังตำแหน่งเดิมของพวกมัน เมิ่งฮ่าวมองไปยังจี้เซี่ยวเซี่ยวด้วยสีหน้าลึกล้ำ แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างนาง ทันใดนั้นนางก็เริ่มมีความวิตกกังวลมากขึ้น ไม่มีใครจะเข้าใจได้ แต่จี้เซี่ยวเซี่ยวตระหนักดีว่า เมิ่งฮ่าวเพิ่งจะเตือนนาง ถึงคำสัญญาที่จะนำเขาไปยังซากศพของจี้หมิงเฟิง

ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงัด ทุกคนยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ หมดความสนใจในเวทป้องกันที่อยู่ด้านข้างไปโดยสิ้นเชิง พวกมันทั้งหมดมองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความวิตกกังวล

สำหรับเมิ่งฮ่าว เขามองไปยังเวทป้องกันชั่วครู่ จากนั้นก็สำรวจดูบ้านหลังนั้น รวมถึงซากศพ จู่ๆ เขาก็ตระหนักว่าซากศพนั้นช่างดูคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง

เมิ่งฮ่าวเงียบไปชั่วครู่ ขณะที่มองไปยังซากศพ จากนั้นก็จดจำได้ว่ามันคือใคร และสีหน้าเขาก็เริ่มเศร้าหมองลงเล็กน้อย ชายชราที่คงอยู่ในความทรงจำของเมิ่งฮ่าวผู้นี้เป็นบุรุษหนุ่ม ซึ่งถ้าย้อนกลับไปในอาณาจักรที่สอง มันก็คือหนึ่งในสหายผู้ถูกตามใจของเขา ศิษย์สำนักเซียนอสูรที่มีสองปีกอยู่บนหลัง

เมิ่งฮ่าวจำได้ว่านามของมันก็คือ อี้เชียนจื่อ

หลังจากที่ครุ่นคิดอย่างเงียบๆ ชั่วครู่ เมิ่งฮ่าวก็ประสานมือและโค้งตัวลงต่ำให้กับซากศพนั้น “สหายเต๋าอี้เชียนจื่อ บางทีท่านอาจจะจำข้าไม่ได้ แต่ในความทรงจำของข้า พวกเราก็คือสหาย…ถ้าวิญญาณของท่านอยู่ในปรโลก ก็ได้โปรดเปิดเวทป้องกันนี้ ข้าจะฝังร่างท่าน เพื่อให้ท่านพักผ่อนอย่างสงบ”

ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวไม่ได้คิดเกี่ยวกับของวิเศษใดๆ เขาพูดแต่ความจริง เขาต้องการจะฝังสหายจากอาณาจักรที่สอง เพื่อให้มันสามารถพักผ่อนอย่างสงบสุข

หลังจากที่เวลานานผ่านไป เมิ่งฮ่าวก้าวเดินไป เขาไม่ได้ตรวจสอบเพื่อดูว่าเวทป้องกันได้เปลี่ยนไปแล้วหรือไม่ โดยไม่พูดจา เขาหันหลังและจากไป แต่ในตอนนี้เองที่ด้านหลัง เวทป้องกันทันใดนั้นก็เริ่มส่องประกายและสาดแสงออกมา มองเห็นเป็นแสงหลากสีขณะที่รอยแยกปรากฏขึ้น เปิดออกอย่างไร้เสียง!

เปิดออกเพื่อเมิ่งฮ่าว!

แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่าง ขณะที่เมิ่งฮ่าวมองกลับไปด้านหลัง

ทุกคนที่มองดูอยู่ ดวงตาเบิกกว้าง จิตใจเต็มไปด้วยความตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version