Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 711

ตอนที่ 711

ไปยังทะเลสาบโบราณ

หนึ่งปี

ตลอดหนึ่งปีได้ผ่านไป ตั้งแต่เมิ่งฮ่าวได้เข้ามายังสำนักเซี่ยเยา ตลอดช่วงเวลานั้น เขาไม่ได้ก้าวเท้าออกไปที่ด้านนอกของหุบเขาเลยแม้แต่เพียงครึ่งก้าว และไม่มีใครมารบกวนเขาด้วยเช่นเดียวกัน ในหุบเขาที่สงบสุขนี้ เขาและสวี่ชิงมองดูดวงตะวันขึ้นและตกด้วยกัน ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงบ และคนทั้งสองก็ใช้เวลาอย่างมีความสุขด้วยความอบอุ่นและหวานชื่นด้วยกัน

ตลอดช่วงหนึ่งปีนั้น สวี่ชิงไม่ได้ฝึกฝนวิถีเซียน นางมีชีวิตอยู่เหมือนกับเป็นหญิงสาวธรรมดา อยู่เป็นเพื่อนกับเมิ่งฮ่าว เสียงหัวเราะของนางลอยออกไปจากภายในหุบเขาเป็นระยะ และศิษย์สำนักเซี่ยเยาที่คอยยืนเฝ้ายามอยู่ที่ด้านนอก ก็จะยิ้มและมองกลับเข้าไปในหุบเขา

นี่ก็คือเจ้าสำนักน้อยและคนรักเจ้าสำนักน้อยของพวกมัน

ตลอดช่วงหนึ่งปีนั้น ชื่อเสียงของเมิ่งฮ่าวในสำนักเซี่ยเยาไม่ได้ลดลงไปแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นในสำนักชิงหลัวก็เริ่มกระจายออกไป จากสำนักเซี่ยเยา เข้าไปในดินแดนด้านใต้ที่เหลือทั้งหมด ในที่สุด นามของเมิ่งฮ่าวก็เริ่มมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น

เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ, เป็นตานติ่งต้าซือ (เจ้าโอสถจอมกระถาง), เป็นเจ้าสำนักน้อยแห่งเซี่ยเยาจง และเคยทำศึกกับสำนักชิงหลัว เมื่อเรื่องราวเหล่านี้กระจายออกไป ในที่สุดนาม ‘เมิ่งฮ่าว’ ก็อยู่ในจิตใจของคนทั้งหมดในดินแดนด้านใต้

สำหรับเมิ่งฮ่าว เขาได้รู้เกี่ยวกับชะตากรรมอันน่าเศร้าของตระกูลหวัง และได้ข่าวเกี่ยวกับคนบ้าที่วิญญาณถูกทำลายไป ผู้ซึ่งชอบพูดเพ้อเจ้อเรื่องเซียนอมตะ และระหกระเหินเดินไปทั่ว สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป…

ตลอดช่วงหนึ่งปีนั้น เมิ่งฮ่าวไม่ได้ยกเลิกการฝึกฝนเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิต อย่างไรก็ตาม เขาก็รับรู้ได้เป็นระยะซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ไม่อาจจะบรรลุถึงระดับสามได้ ต้องมีอะไรที่ผิดพลาดไปสักอย่าง

เห็นได้ชัดว่าเขามาถึงทางตัน ปรมาจารย์อสูรโลหิตก็ไม่ได้ให้เคล็ดลับหรือคำแนะนำใดๆ อันที่จริงตลอดทั้งช่วงหนึ่งปีมานี้ มันไม่ได้พูดคุยกับเมิ่งฮ่าวเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่ามันจะส่งมอบสำนักเซี่ยเยาทั้งหมดให้อยู่ในกำมือเมิ่งฮ่าวไปแล้ว ตอนนี้เขามีสิทธิ์ที่จะกำหนดความเป็นตายของทุกคนในสำนัก

ถึงแม้ว่าเขาไม่อาจจะทะลวงผ่านเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตไปได้ แต่ก็ยังได้รับความรู้แจ้งเกี่ยวกับการฝึกฝนผนึกร่างวิเศษสวรรค์ชั้นเก้า

วิชานี้ค่อนข้างหยาบและเรียบง่าย แต่ก็สามารถฝึกฝนให้ร่างกายแข็งแกร่งจนน่าเหลือเชื่อ โชคร้ายที่วิชานี้ต้องใช้สิ่งของเวทจำนวนมากมายเพื่อหลอมรวมเข้าไปในกายเนื้อ โดยหลักแล้ว…มันเป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถกลั่นสกัดร่างกายของผู้ฝึกฝนให้กลายเป็นอาวุธเวทได้

ผู้คนส่วนใหญ่ ถึงแม้จะได้รับความรู้แจ้ง ก็มักจะพบว่ายากที่จะฝึกฝน นอกจากนี้มันยังต้องใช้อาวุธเวทมากมาย เพียงแค่ฝึกฝนในขั้นแรกก็ต้องใช้อาวุธเวทขั้นตัดวิญญาณถึงหนึ่งหมื่นชิ้น

โชคดี ที่มันไม่ต้องใช้ของวิเศษแก่นแท้ชีวิตของตัดวิญญาณ ถ้าเป็นเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็คงต้องเลิกฝึกไปในทันที เขาไม่อาจจะฝึกฝนสิ่งที่เป็นเช่นนั้นได้

อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาฝึกฝนจนถึงขั้นแรกได้สำเร็จ ร่างกายเขาก็จะแข็งแกร่งเกินกว่าขั้นตัดวิญญาณ และจะบรรลุขั้นค้นหาเต๋า เมื่อกายเนื้อเขาบรรลุขั้นค้นหาเต๋า ปราณและโลหิตก็จะประกอบด้วยกฎธรรมชาติแห่งฟ้าดิน

ร่างกายเช่นนั้นก็คล้ายกับเป็นของวิเศษอันล้ำค่า

ถ้าฝึกฝนจนสำเร็จถึงขั้นสอง กายเนื้อก็จะทะลวงผ่านค้นหาเต๋า และจากนั้นก็จะประสบกับทัณฑ์เซียน ถ้าสามารถเอาชนะได้…ปราณและโลหิตก็จะบรรลุขั้นเซียนอมตะ

“วิชานี้มีทั้งหมดสี่ขั้น ถ้าข้าสามารถฝึกฝนถึงขั้นสูงสุด…” ดวงตาเขาสาดประกายด้วยแสงเจิดจ้าชั่วครู่ แต่ก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว สิ่งของที่ต้องใช้ในการฝึกฝนขั้นสี่ เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

“และยังมีเต๋าเดิมแท้เวทอสูรไฟมอดไหม้อีก!” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาสาดประกายด้วยแสงแปลกๆ ตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเขา ไม่เพียงแต่จะเกี่ยวข้องกับวิชาผนึกร่างวิเศษสวรรค์ชั้นเก้าเท่านั้น แต่ยังมีวิชาเต๋าเดิมแท้เวทอสูรไฟมอดไหม้อีกด้วย!

หลังจากที่ขบคิดอยู่นาน ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็มีความเข้าใจเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย จริงๆ แล้วมันเป็นวิชาที่ใช้ในการสร้างร่างจำแลง เวทร่างจำแลงไม่ค่อยแพร่หลายอยู่ในดินแดนด้านใต้ แต่ก็ไม่ได้หายากมากนัก ผู้ฝึกตนตัดวิญญาณส่วนใหญ่มักจะค้นพบวิธีในการสร้างร่างจำแลงขึ้นมาได้

นอกจากนี้ ถ้าร่างจำแลงตายไป ร่างจริงก็ยังคงมีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป ในทำนองเดียวกัน ถ้าร่างจริงตายไป ร่างจำแลงก็สามารถมีชีวิตต่อไปได้ด้วยเช่นกัน การสร้างร่างจำแลงเพิ่มขึ้นมา ก็เหมือนกับการสร้างชีวิตใหม่เพิ่มขึ้น

มีวิชาเวทมากมายที่สามารถใช้ฝึกฝนร่างจำแลง และทั้งหมดนั้นก็มีวิธีการพิเศษเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป สำหรับเต๋าเดิมแท้เวทอสูรไฟมอดไหม้ เป็นหนึ่งในเวทแห่งเต๋าที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดในสำนักเซียนอสูรโบราณ มันเป็นเวทแห่งเต๋าแก่นแท้ชีวิตของอสูรไฟมอดไหม้ หนึ่งในสามอสูรผู้ยิ่งใหญ่ ที่อยู่ใต้การปกครองโดยตรงของราชันหลี่

ในแง่ความแข็งแกร่งของมัน ไม่มีวิชาใดมีชื่อเสียงมากไปกว่านี้อีกแล้ว ทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่เก้าแห่งนี้

“สำหรับเวทร่างจำแลงอื่นๆ มักจะต้องดึงเส้นใยจากวิญญาณของผู้ฝึกออกมา จากนั้นก็ใส่เข้าไปในเลือดเนื้อของร่างจำแลง หรืออาจจะเป็นร่างวิญญาณ ส่วนทางเลือกอื่นก็ต้องใช้สิ่งของเวทบางอย่างเพื่อสร้างเป็นร่างกาย จากนั้นก็เชื่อมต่อเข้ากับร่างจริง”

“เหล่านั้นเป็นวิธีที่ปลอดภัยมากที่สุด และไร้ปัญหาใดๆ ซึ่งสามารถสร้างเป็นร่างจำแลงที่น่ารังเกียจขึ้นมาได้”

“แต่วิชาเต๋าเดิมแท้เวทอสูรไฟมอดไหม้ สามารถสร้างร่างจำแลงที่คล้ายคลึงกัน ร่างจำแลงนี้ก็ต้องใช้เส้นใยแห่งวิญญาณด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้เอามาจากวิญญาณของเจ้าของ แต่เป็นวิญญาณจากคนภายนอก”

“ยิ่งวิญญาณมีความแข็งแกร่งมากเท่าใด ร่างจำแลงก็ยิ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น! จริงๆ แล้ว สามารถใช้วิญญาณมากกว่าหนึ่งดวง หลอมรวมเข้าไป ซึ่งจะทำให้ร่างจำแลงมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น!”

“ร่างจำแลงนั้นไม่ต้องใช้วิญญาณในการควบคุม แต่เป็นการใช้ร่างจำแลงเพื่อควบคุมวิญญาณ, วิญญาณนั้นจะแห้งเหี่ยวไป กลายเป็นเปลวไฟที่ช่วยหล่อเลี้ยงร่างจำแลง นี่ไม่ใช่วิชาเต๋า แต่เป็นเวทอสูร เมื่อไหร่ที่ร่างจำแลงถูกสร้างขึ้นมา กายเนื้อก็จะกลายเป็นร่างจริง วิญญาณของร่างจำแลงจะถูกสะกดไว้และกลายเป็นร่างเต๋าที่แท้จริง”

“ร่างกายนั้นก็จะคล้ายกับเป็นฝักกระบี่ และวิญญาณก็คือกระบี่ สิ่งสำคัญทั้งหมดของมันก็คือการควบคุมกระบี่อันแหลมคมนั้น!”

“วิชานี้ช่างแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง!”

“เต๋าเดิมแท้เวทอสูรไฟมอดไหม้!”

“สิ่งที่ฝึกฝนเวทนี้จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ร่างจำแลง แต่เป็นร่างที่สองจริงๆ! เป็นร่างจริงที่ทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ!”

……

ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านไปนั้น มีหลายสิ่งได้เกิดขึ้นอยู่ที่โลกภายนอก หนึ่งในเหตุการณ์ที่น่าตกใจมากที่สุดไม่ใช่การปรากฏกายขึ้นใหม่ของเมิ่งฮ่าว แต่เป็นหนึ่งในสามเขตอันตรายของดินแดนด้านใต้, ทะเลสาบเต๋าโบราณที่เริ่มปะทุขึ้นมา

ยิ่งไปกว่านั้น การปะทุนั้นก็กำลังเพิ่มความถี่มากขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกก็ถูกจำกัดอยู่ที่น้ำพุเต๋าซึ่งอยู่บริเวณรอบนอกของทะเลสาบเต๋า แต่ในที่สุด แม้แต่ทะเลสาบเต๋าก็เริ่มปะทุขึ้นมาเอง

“ทะเลสาบเต๋าโบราณกำลังปะทุขึ้นมาอีกครั้ง!”

“ข้าได้ข่าวว่าเมื่อเดือนที่แล้ว หนึ่งในทะเลสาบเต๋าที่เล็กกว่าได้ปะทุขึ้นมา และอาวุธเวทตัดวิญญาณได้ปรากฏขึ้น!”

“เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดถึงทะเลสาบเต๋าก็ได้ น้ำพุเต๋าก็ปะทุขึ้นมาด้วยเช่นกัน ผู้ฝึกตนกำลังไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่น และข้าก็ได้ยินมาว่ามีผู้คนมากมายกำลังได้รับความรู้แจ้ง”

เสียงพูดคุยเช่นนั้นได้ยินอยู่บ่อยครั้งในสำนักเซี่ยเยาเมื่อไม่กี่วันมานี้ ศิษย์ไม่น้อยได้ออกไปจากสำนัก และเดินทางไปยังทะเลสาบเต๋าเพื่อค้นหาความโชคดีและวาสนาบางอย่าง

ขณะที่เวลาได้ผ่านไป ก็เริ่มมีศิษย์ให้ความสนใจต่อทะเลสาบเต๋านี้มากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่า ตอนแรกก็เป็นแค่ผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณขึ้นไปจนถึงขั้นกลางวิญญาณแรกก่อตั้ง ที่ให้ความสนใจมากที่สุด

แต่อีกหนึ่งเดือนต่อมา ผู้ฝึกตนขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่วิญญาณแรกก่อตั้งจากสำนักอีเจี้ยน ได้รับความรู้แจ้ง และทะลวงผ่านเข้าไปในขั้นตัดวิญญาณได้ ทำให้ดินแดนด้านใต้สั่นสะเทือนไปทั่ว และทำให้ผู้ฝึกตนขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่วิญญาณแรกก่อตั้ง ที่ติดอยู่ใต้ขั้นตัดวิญญาณทั้งหมด ได้มุ่งหน้าไปยังทะเลสาบเต๋าโบราณในทันทีเพื่อค้นหาโชควาสนา

ในที่สุด พวกที่มีส่วนรู้เห็นก็ได้กระจายข่าวของทะเลสาบเต๋าโบราณที่มีการปะทุนี้ออกไป เห็นได้ชัดว่ามันมีพลังอันน่าเหลือเชื่อ ที่จะช่วยให้ผู้ฝึกตนตัดวิญญาณ ได้รับความรู้แจ้งเกี่ยวกับเต๋าอันยิ่งใหญ่

ข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้คล้ายกับเป็นพายุขนาดใหญ่ ที่ม้วนกวาดออกไปทั่วทั้งดินแดนด้านใต้ ปรมาจารย์ตัดวิญญาณจากทุกสำนักและทุกตระกูล ต่างก็แทบจะคลุ้มคลั่งด้วยความอยากได้

แม้แต่สำนักเซี่ยเยาก็ไม่ได้รับการยกเว้น

หลังจากที่ได้รับการอนุญาตจากเมิ่งฮ่าว สองผู้เฒ่าอสูรโลหิตเหล็ก, ผู้เฒ่าอสูรสวรรค์ลี้ลับ และสามผู้เฒ่าไฟอสูร ก็เข้ามาในหุบเขา เข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าวซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ด้านนอกกระท่อมไม้ มีขวดน้ำเต้าสุราวางอยู่ที่ด้านหน้า

“เจ้าสำนักน้อย, ทะเลสาบเต๋ากำลังปะทุขึ้นมา ท่านปรมาจารย์อยู่ในช่วงการเข้าฌาณตามลำพัง และไม่ได้สนใจเกี่ยวกับกิจการของสำนักทั้งหมด สำนักเซี่ยเยาจะเข้าไปร่วมค้นหาโชควาสนาในทะเลสาบเต๋าได้หรือไม่?”

“ใช่แล้ว เจ้าสำนักน้อย, สำนักและตระกูลอื่นๆ ต่างก็เริ่มวุ่นวายกัน อันที่จริง เมื่อไม่กี่วันก่อนสำนักอีเจี้ยนได้ส่งผู้ฝึกตนกลุ่มใหญ่ไปยังทะเลสาบเต๋าโบราณ โดยมีปรมาจารย์ตัดวิญญาณเป็นผู้นำไป”

“น้ำพุเต๋าที่อยู่ในเขตรอบนอกของทะเลสาบเต๋าโบราณ ไม่ได้ปะทุขึ้นมาเนื่องจากรูปแบบใดๆ แต่ทะเลสาบเล็กๆ ที่อยู่ในเขตชั้นในจะมีการปะทุขึ้นมาทุกๆ สองพันปี สำหรับทะเลสาบหลัก จะปะทุขึ้นทุกๆ หนึ่งหมื่นปี”

“จากการคิดคำนวน ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ทะเลสาบเต๋าจะเริ่มปะทุขึ้นมา!”

สวี่ชิงยืนอยู่ที่ด้านข้างอย่างเงียบๆ ผู้เฒ่าทั้งหลายปฏิบัติต่อนางด้วยความสุภาพเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การที่เมิ่งฮ่าวได้ต่อสู้ตามลำพังกับทั้งสำนักชิงหลัวอันเนื่องมาจากนาง ก็แสดงให้เห็นว่านางมีความสำคัญต่อเขามากมายเช่นไร

เมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้น และแสงอันลึกล้ำก็มองเห็นได้อยู่ในดวงตาคู่นั้น รวมทั้งความโหดเหี้ยมอันยากจะปกปิดไว้ได้ เป็นความเข้มข้นที่ไม่อาจจะขจัดออกไปได้ ทันทีที่เขาลืมตาขึ้น จิตใจของผู้เฒ่าตัดวิญญาณทั้งหกก็เต้นระรัว และพวกมันก็ก้มศีรษะลงด้วยความเคารพในทันที

“ทะเลสาบเต๋าโบราณ…” เมิ่งฮ่าวพึมพำ พื้นฐานฝึกตนของเขาในตอนนี้ติดขัดอยู่ที่จุดตีบตัน ถึงแม้ว่าเขาจะมีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับการตัดครั้งที่สาม แต่ก็ยังไม่ค่อยจะชัดเจนมากนัก ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่การนั่งเข้าฌาณตามลำพังก็ไม่อาจจะช่วยให้เขามีความก้าวหน้าในวิชาเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตได้

เมิ่งฮ่าวหันหน้าไปมองยังสวี่ชิง

“ข้าไม่เป็นไร ข้าจะรอท่านอยู่ที่นี่…ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโอกาสดีสำหรับท่านที่จะได้รับโชควาสนาบางอย่าง, ใช่หรือไม่?” นางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม สายตาเต็มไปด้วยความอบอุ่น ขณะที่มองมาที่เขา ตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา นางมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการฝึกตน หรือชีวิตที่ซับซ้อนใดๆ เมื่อนางอยู่กับเมิ่งฮ่าวก็แทบจะรู้สึกว่า ได้มีชีวิตที่เรียบง่ายอยู่ในสำนักเอกะเทวะ

ผู้เฒ่าตัดวิญญาณทั้งหมดมองอย่างมุ่งหวังไปยังเมิ่งฮ่าว รอคอยคำตอบจากเขา

ในตอนนี้เองที่เยาหมิง ผู้แข็งแกร่งตัดวิญญาณครั้งที่สอง จากสามผู้เฒ่าไฟอสูร จู่ๆ ก็ดูเหมือนว่าจะสังเกตเห็นบางสิ่ง มันมองลงไปยังถุงสมบัติและจากนั้นก็หยิบเอาแผ่นหยกที่เรืองแสงขึ้นมา มองไปอย่างลึกซึ้งชั่วขณะ สีหน้าก็เปลี่ยนไป

“เจ้าสำนักน้อย พวกเราไม่อาจจะลังเลนานไป ตอนนี้สำนักอีเจี้ยนได้เริ่มดำเนินการแล้ว, สำนักจินหาน, สำนักจื่อยิ่น, สำนักชิงหลัว, ตระกูลซ่ง และตระกูลหลี่กำลังติดตามไป ทั้งหมดได้ส่งกองกำลังที่นำโดยผู้แข็งแกร่งตัดวิญญาณไปยังทะเลสาบเต๋าโบราณแล้ว” ด้วยเช่นนั้น มันก็ยื่นส่งแผ่นหยกไปยังเมิ่งฮ่าว

เมื่อเมิ่งฮ่าวได้ยินคำว่า ‘สำนักชิงหลัว’ เขาก็เห็นสีหน้าที่หมองคล้ำลงของสวี่ชิง รังสีสังหารแวบขึ้นมาในดวงตา ขณะที่เขารับแผ่นหยกมา หลังจากที่ตรวจสอบดู เขาก็เงยหน้าขึ้น และดวงตาก็สาดประกายด้วยความมุ่งมั่น

“ไปกันเถอะ!” เขากล่าว ลุกขึ้นมายืนและก้าวเท้าตรงไป สีหน้าของผู้เฒ่าตัดวิญญาณทั้งหกเจิดจ้าขึ้น เมื่อพิจารณาถึงระดับพื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าว การที่มีเขาเป็นผู้นำ สำนักเซี่ยเยาต้องสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากมายอย่างแน่นอน

เมิ่งฮ่าวเดินออกไปจากหุบเขา ติดตามมาด้วยคนทั้งหก มีศิษย์นับหมื่นได้รวมตัวกันอยู่ที่ด้านนอกเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความมุ่งหวัง

เมิ่งฮ่าวมองไปยังพวกมัน

“ยอดเขาทั้งหมด เลือกศิษย์มาหนึ่งหมื่นคนไปพร้อมกับข้า ยังทะเลสาบเต๋าโบราณ!”

“ขอรับ เจ้าสำนักน้อย!”

“ขอรับ เจ้าสำนักน้อย!” เสียงร้องตะโกนอย่างตื่นเต้น ทันใดนั้นก็ดังออกมาทั่วทั้งสำนักเซี่ยเยา ภายใต้คำสั่งของผู้เฒ่าตัดวิญญาณทั้งหก ก็เตรียมการได้เสร็จสิ้น ในที่สุดกลุ่มคนหนึ่งหมื่นลำแสงก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ ติดตามเมิ่งฮ่าวไป

หลี่ซือฉีก็อยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้น แต่สำหรับหวังโหย่วฉาย มันยังคงอยู่ที่สำนักเพื่อคอยเฝ้ายามนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ด้านนอกหุบเขาของเมิ่งฮ่าว

ในเวลาเดียวกับที่เมิ่งฮ่าวนำเหล่าศิษย์บินจากไป ปรมาจารย์อสูรโลหิตที่นั่งอยู่ในสระโลหิตบนยอดเขาอสูรโลหิต ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ

“เพื่อตัดจิตมาร คนผู้นั้นต้องทนรับความทุกข์ทรมานก่อน จิตมารของมันยังไม่ลึกล้ำเพียงพอ…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version