บทที่ 1552 ขึ้นสู่ขั้นสาม
ศูนย์กลางอาณาจักรเทพมายา
บนท้องฟ้า คลื่นวนไอสวรรค์ที่ใหญ่มหึมาหมุนวนช้าๆ
ไอสวรรค์ฟ้าดินในอาณาจักรเทพมายามารวมตัวกันเองภายใต้ผลจากความคิดของจ้าวเฟิง
ข้างล่าง รอบกายจ้าวเฟิงแผ่ระลอกพลังบริสุทธิ์ที่แข็งแกร่งและกฎเกณฑ์มิติลึกล้ำ ทำให้ท้องฟ้าบิดเบี้ยว
ใบไม้มิติสีเงินที่อยู่บนต้นไม้มิติศักดิ์สิทธิ์ข้างเขาแห้งเหี่ยวไปแล้ว ส่วน ‘หยกศักดิ์สิทธิ์ฟ้าทมิฬ’ ที่อยู่ข้างๆ ก็หมองหม่นลงไปหลายส่วน กลายเป็นผลึกหยกธรรมดาๆ ก้อนหนึ่ง
ในกายของจ้าวเฟิง แท่นเทวะขั้นสามสร้างขึ้นสมบูรณ์แล้ว
พลังบริสุทธิ์ข้างในหมุนวนอย่างรวดเร็ว ทั้งยังกระตุ้นพลังบริสุทธิ์ที่อยู่ในแท่นเทวะทั้งสองชั้นข้างล่าง
ในพลังบริสุทธิ์กลุ่มนี้ มีพลังบริสุทธิ์ที่เดือดพล่านแข็งแกร่งและยากจะควบคุมปะปนอยู่ ซึ่งก็คือพลังบริสุทธิ์ระดับราชาเทพนั่นเอง แต่ปริมาณของพลังบริสุทธิ์กลุ่มนี้ค่อนข้างน้อย ถูกพลังเทพบริสุทธิ์มหาศาลของจ้าวเฟิงควบคุมอยู่ตลอด ทั้งยังค่อยๆ ศิโรราบและผสานเข้าไปจากการโคจรอยู่ทุกวัน
ในขณะเดียวกัน จ้าวเฟิงก็หยิบวัตถุดิบล้ำค่ามหาศาลอกมาดูดซับอย่างบ้าคลั่งพลังมหาศาลไม่ขาดสายทะลักเข้าไปในแท่นเทวะขั้นสาม
สิบวันหลังจากนั้น การโคจรพลังบริสุทธิ์ในกายของจ้าวเฟิงหยุดลง
และแท่นเทวะขั้นสามในกายของเขาก็ผสานเป็นหนึ่งเดียวแล้ว แข็งแกร่งมั่นคงยิ่งกว่าเดิม
ตอนนี้จ้าวเฟิงถึงขอบเขตจอมเทพขั้นสามแล้ว
การเพิ่มขึ้นของแท่นเทวะทุกชั้นจะทำให้ปริมาณของพลังบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นทบเท่า
ตอนนี้จ้าวเฟิงรู้สึกเหมือนตนมีพลังอันแข็งแกร่งมหาศาล ให้เขาใช้ได้อย่างไม่สิ้นสุด
นอกจากการแปรสภาพของแท่นเทวะและพลังเทพ ต่อมาก็คือการยกระดับกฎเกณฑ์มิติ
“กฎเกณฑ์มิติระดับสูง!”
จ้าวเฟิงสัมผัสกับกฎเกณฑ์กลุ่มนี้ ค่อยๆ หมุนโคจร ความเข้าใจต่ออาณาจักรเทพยิ่งลึกซึ้งไปอีกขั้น
จ้าวเฟิงพบว่าการยกระดับกฎเกณฑ์มิติยังทำให้อาณาจักรเทพของเขามั่นคงไปอีกขั้นหนึ่ง
แต่ว่าทันใดนั้น
ตุบๆ! ตุบๆ!
เนตรเทพเจ้ามายาของจ้าวเฟิงเต้นไม่หยุด ข้างในส่งข่าวที่มีอารมณ์ซับซ้อนมาให้
สัมผัสอยู่นาน จ้าวเฟิงก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง
“เนตรเทพเจ้า…สิ้นชีพ!” ใจของจ้าวเฟิงตื่นตะลึง ยากจะเชื่อได้
แต่เดิมเขาคิดว่าหลังจากทะลวงขั้นสามสำเร็จแล้ว หากศึกเนตรเทพวิถีฟ้ายังไม่จบแล้วละก็ เขาจะเข้าร่วมด้วยสักหน่อย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาเพิ่งจะทะลวงขั้นสามก็เกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้…เนตรเทพเจ้าดับดิ้น
อีกทั้งเขายังสัมผัสได้ว่า เนตรเทพวิถีฟ้าที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแปดเนตรเทพเจ้าแข็งแกร่งขึ้นกว่าก่อนหน้านี้
“ข้าสัมผัสถึงเนตรเทพวิถีฟ้าได้ด้วย?”
จ้าวเฟิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
เสี้ยววินาทีที่เนตรเทพเจ้าแตกดับ เขาก็พลันสัมผัสได้ถึงเนตรเทพวิถีฟ้า อีกทั้งพลังของมันเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย
“หรือว่า…”
ดวงตาของจ้าวเฟิงเบิกกว้าง ในใจนึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งขึ้นมา
คิดถึงตรงนี้เขาก็นั่งไม่ติดแล้ว
“ส่งวิญญาณ!” จ้าวเฟิงกระตุ้นพลังดั้งเดิมมายา สร้างห้วงฝันออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจินตนาการคิดถึงทิวทัศน์แห่งหนึ่งในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต
ฟุ่บ! ร่างของเขาหายวับไป
ในขณะเดียวกัน ทางตอนเหนือของดินแดนเทพรกร้าง
เมื่อได้รับข่าวนี้ สามนายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์ มิติ และชีวิตซึ่งกำลังมุ่งไปยังพื้นที่เป้าหมายตะลึงอยู่กับที่
“เมื่อครู่มีเนตรเทพเจ้าคนหนึ่งสิ้นชีพ!”
ใบหน้าของนายเหนือหัวเนตรชีวิตตื่นตกใจ
“เป็นไปได้อย่างไร? ใครจะมีพลังเช่นนั้น?”
สีหน้าของนายเหนือหัวทัณฑ์สวรรค์จริงจัง
หลังจากแปดเนตรเทพเจ้าถือกำเนิดขึ้นก็ไม่มีนายเหนือหัวล้มตาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหนึ่งในแปดเนตรเทพเจ้าดับดิ้นเลย
“แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ในการต่อสู้กับเจ้าสวรรค์ พวกเราหกเนตรเทพเจ้าโดนระเบิดถึงสองรอบ ทำลายไปถึงพลังดั้งเดิม…”
ดวงตาของนายเหนือหัวเนตรมิตินิ่งลึก
พลังดั้งเดิมถูกทำลายสาหัส ต่อให้ปิดด่านรักษาตัวยังต้องใช้เวลาหลายพันปี ดังนั้น พวกเขาในตอนนี้ไล่สังหารเจ้าสวรรค์ด้วยกายที่บาดเจ็บสาหัส หรือก็คือพวกเขาหกนายเหนือหัวในตอนนี้ อ่อนแอกว่านายเหนือหัวทั่วไปอยู่มาก
หากนายเหนือหัวสองถึงสามคนมีแผนล่าสังหาร จะมีโอกาสสังหารพวกเขาหนึ่งในหกเนตรเทพเจ้าได้จริงๆ
“ไม่สนแล้ว สังหารเจ้าสวรรค์สำคัญกว่า!” เนตรเทพทัณฑ์สวรรค์พูดขึ้นทันที อีกสองคนที่เหลือก็เห็นด้วย ออกเดินทางต่อไป
พวกเขาสามเนตรเทพเจ้าอยู่ด้วยกัน ต่อให้กายบาดเจ็บสาหัสก็ไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใด
ทางเหนือของดินแดนเทพรกร้าง ณ พื้นที่การต่อสู้ของเจ้าสวรรค์กับเนตรเทพสังสารวัฏ ท่ามกลางฟ้าดินแหลกลาญปั่นป่วน เหลือเพียงเจ้าสวรรค์คนเดียวยืนอยู่กลางท้องฟ้า
ดวงตาของเขาปิดลงเล็กน้อย แต่เนตรเทพวิถีฟ้าที่อยู่หว่างคิ้วกลับเบิกกว้าง รับพลังของนายเหนือหัวแข็งแกร่งไร้พ่ายที่มาจากมิติจักรวาล…
ทันใดนั้น ดวงตาที่อยู่กลางคิ้วของเจ้าสวรรค์พลันสั่นสะท้านรุนแรง พลังข้างในเหมือนจะยกระดับขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
การสั่นสะเทือนกลุ่มนี้แผ่ออกไปไม่หยุดตามฟ้าดินและมิติ สั่นสะเทือนดินแดนเทพรกร้าง
“พลังของเนตรเทพสังสารวัฏ พลังควบคุมสังสารวัฏอย่างเด็ดขาด!”
เจ้าสวรรค์กางแขนทั้งสองออก ท่าทางมีความสุขอย่างยิ่ง
เสี้ยวขณะนี้ พลังของเนตรเทพสังสารวัฏย้ายมายังร่างของเขาโดยสมบูรณ์แล้ว อีกทั้งพลังของของเนตรเทพสังสารวัฏยังหยิบยืมพลังเนตรเทพวิถีฟ้าสามารถสำแดงพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าออกมา นอกจากนั้น ตัวเนตรเทพวิถีฟ้าเองก็พัฒนาขึ้นไม่น้อย
“ข้าในตอนนี้แกร่งกว่านายเหนือหัวแล้ว แต่นี่ยังไม่พอ…”
เจ้าสวรรค์หลังจากยิ้มอย่างพอใจแล้วสีหน้าก็เคร่งขรึม
ถึงแม้เขาจะมีพลังที่ล้ำหน้านายเหนือหัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไร้พ่าย และเป้าหมายของเขาคือผสานต้นกำเนิดดวงตาวิถีฟ้า ได้รับพลังที่แข็งแกร่งสมบูรณ์แบบ
“ช่างเป็นพวกโง่เง่าจริงๆ!” เจ้าสวรรค์หัวเราะเหยียดหยาม
ถึงแม้เขาจะมีความมั่นใจในการสังหารนายเหนือหัวเนตรชีวิต แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแน่นอน เรื่องใดๆ ล้วนแต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งนั้น ผลลัพธ์เป็นดังที่เขาคาดไว้ สงครามเกิดการเปลี่ยนแปลง หลุดจากการควบคุมของเขา
เขาไม่อาจสังหารเนตรเทพเจ้าคนใดได้เลย กระทั่งมีสิทธิ์จะโดนเนตรเทพเจ้าสังหารเอาด้วยซ้ำ แต่เขาจะยอมแพ้เช่นนี้ได้อย่างไร หากอยากได้ชัยชนะ ก็ต้องสู้ตายหลังชนฝาสักตั้ง
ในการต่อสู้นี้ เขาสูญเสียอาวุธบรรพชนประเภทโจมตีที่สมบูรณ์ไปชิ้นหนึ่ง พลังอำนาจของพวกฝืนชะตาที่สะสมมานานไม่รู้ต่อกี่ปี และ ‘ร่างแยก’ ของเขาอีกร่างหนึ่งด้วย
เหตุที่เจ้าสวรรค์สามารถทำท่าทีอ่อนแอหลอกเนตรเทพเจ้าก็เพราะร่างแยกร่างนี้ หรือจะพูดว่าเป็น ‘ตัวแทน’ ก็ได้
ในยามที่อาวุธบรรพชน ‘อาญาสวรรค์’ ระเบิด เจ้าสวรรค์สลับตัวกับร่างแยก
เนื่องจากพลังสยบของการระเบิดอาวุธบรรพชน การระเบิดส่งผลกระทบต่อการแยกแยะของพวกเนตรเทพเจ้าได้สำเร็จ
ต่อมา การระเบิดครั้งที่สองเกิดขึ้น ครั้งนี้เป็น ‘ตัวแทน’ ที่รับบาดเจ็บแทนเจ้าสวรรค์
ส่วนสิ่งที่พวกเนตรเทพเจ้าเกือบจับได้ก็เป็นแค่กลิ่นอายอ่อนล้าของร่างแยกเท่านั้น แท้ที่จริงแล้ว เจ้าสวรรค์แค่โดนระลอกคลื่นจากระเบิดครั้งแรก อาการบาดเจ็บเบากว่าเนตรเทพเจ้าทั้งหกเสียอีก
แน่นอนที่ร่างแยกสามารถรบกวนเนตรเทพเจ้าทั้งหกได้ หนึ่งคือร่างแยกร่างนี้สร้างขึ้นโดยลอกเลียนแบบสายเลือดของแมวความลับสวรรค์ สองคือเจ้าสวรรค์เตรียมการทุกอย่างนี้เอาไว้นานแล้ว ทุกด้านของร่างแยกเหมือนกับตนทุกประการ ทั้งยังแฝงไว้ด้วยพลังดั้งเดิมของเขา หากไม่สังเกตให้ละเอียดก็ยากที่จะแยกแยะได้
รวมกับการสยบและรบกวนจากการระเบิดส่งผลต่อการแยกแยะของเนตรเทพเจ้าทั้งหกด้วย
จึงทำให้แผนการในขั้นแรกสำเร็จ!
อีกด้านหนึ่ง เจ้าสวรรค์ก็ตั้งใจกระจายข่าวที่สามารถชิงเนตรเทพวิถีฟ้าออกไป และแยกการร่วมมือกันของพวกเนตรเทพเจ้า
ผสมผสานการใช้แผนลวงแกล้งจนตรอก การระเบิดสองครั้ง และการใช้ร่างแยก กระจายข่าวแยกกลุ่มเนตรเทพเจ้าออกจากกัน แกล้งเสแสร้งทำเป็นอ่อนแอ ล่อให้เนตรเทพเจ้ามาโจมตีเพียงลำพัง…
แผนการต่างๆ นานาทำให้เขาสามารถสังหารเนตรเทพเจ้าคนหนึ่งได้สำเร็จ ทำให้แผนการ ‘ต้นกำเนิดดวงตาวิถีฟ้า’ บรรลุในขั้นแรกแล้ว
“ต่อไปได้แต่ต้องสู้กันซึ่งหน้าแล้ว!”
เจ้าสวรรค์ย่อมรู้ว่าสงครามยังไม่จบ
จากศึกของพวกฝืนชะตาและแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต มาจนถึงศึกของนายเหนือหัว จากนั้นก็เป็นศึกชิงเนตรเทพวิถีฟ้า ระหว่างนี้ยังไม่ได้เว้นระยะเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ศึกชิงเนตรเทพวิถีฟ้าได้จบลงไปแล้ว แต่ศึกที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่ากำลังจะมาถึง
การต่อสู้ของเจ้าสวรรค์เมื่อครู่กับนายเหนือหัวสังสารวัฏพูดได้ว่าสะเทือนไปทั่วฟ้าดิน
ขอแค่อยู่ในบริเวณนี้ต่างถูกดึงดูดมากันทั้งนั้น
รวมกับร่องรอยของเจ้าสวรรค์แตกนานแล้ว ในอาณาบริเวณนี้มีผู้แข็งแกร่งรวมตัวกันอยู่จำนวนมหาศาล
ฟุ่บ ฟุ่บ~
ผู้แข็งแกร่งหลายสิบคนตามมาจากทั่วทุกสารทิศ พวกเขาล้วนถูกเสียงกัมปนาทของการต่อสู้ก่อนหน้านี้ดึงดูดมา
“เป็นไปได้อย่างไร? พลังและรัศมีอำนาจกลุ่มนี้!”
จอมเทพขั้นสองคนหนึ่งสัมผัสได้ถึงพลังที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงตรงใจกลางฟ้าดินปั่นป่วนอันไกลโพ้น ในใจสั่นสะท้าน
รายงานบอกว่าพลังของเจ้าสวรรค์ลดลงมาถึงระดับราชาเทพไม่ใช่หรือ?
“ในเมื่อมาแล้ว ก็จงกลายเป็นทหารผู้ภักดีของข้าเสียเถอะ!” เสียงของเจ้าสวรรค์จากใจกลางฟ้าดินไกลโพ้น สะท้อนก้องไปในใจของทุกคน
“หนี!” ในใจของทุกคนเหลือเพียงแค่ความคิดนี้เท่านั้น
แต่ต่อหน้าเจ้าสวรรค์ พวกเขาไร้ซึ่งทางหนี!
ครืน ฟู่~
พลังบรรพกาลที่น่ากลัวทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือนส่งเสียงก้องกัมปนาท
พลังสายเลือดบรรพกาลที่สะเทือนเลื่อนลั่นทั่วฟ้า เป็นใหญ่เหนือหมื่นเผ่าพันธุ์ ทำให้สรรพชีวิตทั่วบริเวณสิบล้านลี้ต่างพากันสั่นงันงก หมอบคลานไปกับพื้น
ในยามที่แปดเนตรเทพเจ้ายังไม่ถือกำเนิด เผ่าบรรพกาลเป็นใหญ่เหนือหมื่นเผ่าพันธุ์
หากทั้งสองอยู่ในยุคเดียวกัน เกรงว่าบรรพบุรุษเผ่าบรรพกาลก็มีความสามารถจะกดเนตรเทพเจ้าเอาไว้ได้
“สลาย!” เจ้าสวรรค์กระตุ้นเนตรเทพวิถีฟ้า พลังกฎเกณฑ์ต่างๆเกิดขึ้นทั่วทั้งฟ้าดิน
วายุ เพลิง และอัสนีโหมกวาดไปอย่างบ้าคลั่ง สั่งหารทุกสรรพสิ่งอย่างเหี้ยมโหด
ภายใต้พลังนายเหนือหัวที่แข็งแกร่งสุดยอดกลุ่มนี้ คนขั้นต่ำกว่าราชาเทพไร้ซึ่งพลังต้านทาน!
ในยามที่ฟ้าดินสงบลง ทุกสิ่งในครรลองสายตาของเนตรเทพวิถีฟ้าหายไปสิ้น
“ออกมาเถอะ!”
เจ้าสวรรค์กระตุ้นเนตรเทพวิถีฟ้าที่อยู่หว่างคิ้ว
ก่อนหน้าที่จะสังหารคนพวกนั้นเจ้าสวรรค์ก็ลงตราประทับวัฏสังสารเอาไว้บนร่างของทุกคน ดังนั้น วิญญาณของคนพวกนี้ถูกเขาควบคุมอย่างสมบูรณ์
ฟู่ ฟู่~
หมอกนรกหนักหน่วงมืดหม่นลอยออกมาจากหว่างคิ้วของเจ้าสวรรค์ ข้างในค่อยๆ ปรากฏเงาคนทีละร่าง
“ต่อไปยังมีสงครามครั้งใหญ่อีก ตอนนี้ควรจะ ‘รวมกำลังพล’ ได้แล้ว!”
เจ้าสวรรค์หัวเราะหึๆ แล้วเริ่มลงมือ
อย่างน้อย ข่าวที่เขาสังหารเนตรเทพสังสารวัฏยังไม่ได้แพร่ออกไปอย่างสมบูรณ์ ยังมีผู้แข็งแกร่งจำนวนไม่น้อยกำลังหาร่องรอยของเขา
ห่างจากที่นี่ไม่ไกลนัก
ฟิ้ว! แสงประกายสีทองพร่างพรายพาดผ่านมาอย่างรวดเร็ว ทุกที่ที่พุ่งผ่าน สรรพสิ่งสลายกลายเป็นฝุ่น
คนนี้คือนายเหนือหัวเนตรดับสูญ
“เนตรเทพเจ้าสิ้นชีพ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
จิตใจของนายเหนือหัวเนตรดับสูญยากจะสงบลงได้ แต่ก็ยังตามไปยังจุดที่ข่าวรายงานอย่างรวดเร็ว
ไม่นานนักเขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแข็งแกร่งที่คุ้นเคย
“กลิ่นอายกลุ่มนี้…เป็นเจ้าสวรรค์!” สีหน้าของนายเหนือหัวเนตรดับสูญตื่นตะลึง
ไยกลิ่นอายของเขาจึงแข็งแกร่งเช่นนี้?
ในตอนนั้น เขาสัมผัสได้อย่างแน่ชัดว่าเจ้าสวรรค์ที่หลบหนีไปมีกลิ่นอายค่อนข้างอ่อนกำลัง บาดแผลสาหัสกว่าพวกเขา เพราะเจ้าสวรรค์ก็ได้รับแรงระเบิดสองครั้ง ทั้งยังเผาผลาญพลังดั้งเดิมของตัวเอง
มิฉะนั้น นายเหนือหัวทั้งหกคงไม่โดนจัดการจนน่าอนาถขนาดนั้น!
แต่เสี้ยวขณะนี้ เจ้าสวรรค์ทำให้เขารู้สึกเหมือนอีกฝ่ายไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรนัก
“ท่าทางไม่เหมือนบาดเจ็บหนัก หากเป็นจริงละก็…สู้กันเพียงลำพังข้าไม่ใช่คู่มือของเขา!”
นายเหนือหัวเนตรดับสูญครุ่นคิดในใจ รักษาระยะห่างกับจ้าสวรรค์ เตรียมหาทางหนีทีไล่
“คิดไม่ถึงว่าเพียงไม่นานก็มีนายเหนือหัวเนตรเทพเจ้ามาอีกสองคน พวกเราสู้กันต่อจากก่อนหน้านี้เถอะ!”
เจ้าสวรรค์เหยียดยิ้ม มาพร้อมด้วยจิตกระหายต่อสู้อันแข็งแกร่ง
“สองคน?” สายตาของนายเหนือหัวเนตรดับสูญส่องประกาย
เห็นเพียงร่างเงาดำมืดค่อยๆ ปรากฏขึ้นเยื้องเจ้าสวรรค์ไปอีกฝั่งหนึ่ง นั่นคือนายเหนือหัวเนตรมรณะนั่นเอง
“ดับสูญ คิดไม่เลยว่าเจ้าจะตามมาเร็วเช่นนี้!”
นายเหนือหัวเนตรมรณะยิ้มเยือกเย็นน่าขนลุก
ก่อนหน้านี้ พวกเขาแตกคอกันไปชั่วคราวเพราะการช่วงชิงเนตรเทพวิถีฟ้า
แต่ตอนนี้ เมื่อทั้งสองสังเกตเห็นว่าเจ้าสวรรค์เหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งสองจึงแอบติดต่อร่วมมือกัน