Skip to content

King of Gods 1580

King Of Gods

บทที่ 1580 ช่องทางร่ำรวยของจ้าวเฟิง

คิดไม่ถึงว่าอัจฉริยะฮั่วชิงเฟิงจากพรรคกระบี่ชิงเฉิงจะเรียกจ้าวเฟิงเป็นนาย ทำเอาในหัวซ่งถิงอวี้มีเสียงดังอื้ออึง มองฮั่วชิงเฟิงด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ

“เป็นข้าแซ่ฮั่วเอง!”

ฮั่วชิงเฟิงมองซ่งถิงอวี้แวบหนึ่ง ก่อนจะตอบเสียงเรียบ

ถึงแม้ซ่งถิงอวี้จะมีพรสวรรค์ดี พลังฝึกตนแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่ในสายตาเขาถือได้ว่าแค่พอใช้

เมื่อซ่งถิงอวี้เห็นว่าตนเองถูกอีกฝ่ายดูถูก ใจก็โกรธเกรี้ยวนัก ในสายตาของอีกฝ่ายตนเองกลับด้อยกว่าจ้าวเฟิงเสียอีก

ถึงแม้จะไม่พอใจ แต่ซ่งถิงอวี้ก็อดกลั้นเอาไว้

อาการบาดเจ็บของฮั่วชิงเฟิงดีขึ้นแล้ว แต่พลังฝึกตนยังต้องค่อยๆ เพิ่มขึ้น ตอนนี้เขาและซ่งถิงอวี้ต่างอยู่ในขอบเขตแปรจิตช่วงสุดยอด แต่หากพูดเรื่องพลังแท้จริงแล้ว ในฐานะที่ฮั่วชิงเฟิงเป็นยอดฝีมือศาสตร์กระบี่ที่แกร่งยิ่งกว่า อีกทั้งขอบเขตพลังอยู่ในขอบเขตอมตะ ซ่งถิงอวี้จึงยิ่งไม่สามารถเทียบเทียมได้

“เด็กน้อย เจ้าคิดจะทำอะไร?”

ซ่งถิงอวี้ไม่พอใจอย่างยิ่ง เอ่ยถามทันที

“ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้า นี่มันมารยาทแบบไหนกัน?”

จ้าวเฟิงซักถาม หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย

ในใจซ่งถิงอวี้ถูกจุดไฟโทสะขึ้นอีกครั้ง แต่ยามที่มองตาจ้าวเฟิง กลับไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงได้เลือกยอมแพ้

“เจ้าค่ะ อาจารย์!”

ซ่งถิงอวี้กัดฟันและเอ่ยปากถอนคำพูด

เมื่อลงเดิมพันก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ นางไม่อาจพูดอะไร ยิ่งไปกว่านั้น ข้างกายจ้าวเฟิงตอนนี้ยังมีผู้แข็งแกร่งที่ฝีมือไม่ด้อยไปกว่านางและเชื่อฟังคำสั่งของจ้าวเฟิงอย่างยิ่ง

อีกด้านหนึ่ง ฮั่วชิงเฟิงมองทั้งหมดนี้อยู่ตลอดเวลา เขาลอบตะลึงในใจ ‘ที่แท้สตรีขอบเขตแปรจิตนางนี้เป็นศิษย์ของเขา’

หากเป็นเช่นนี้แล้ว จ้าวเฟิงย่อมไม่ได้เป็นแบบที่เห็นภายนอกแน่นอน ฮั่วชิงเฟิงยิ่งมั่นใจจุดนี้

“ตอนนี้พวกเราจะไปหาเงินกัน!”

จ้าวเฟิงพยักหน้าและยิ้มน้อยๆ

“หาเงิน?”

ซ่งถิงอวี้และฮั่วชิงเฟิงชะงักไปพร้อมกัน รู้สึกว่าอ่านจ้าวเฟิงไม่ค่อยออกทันที

ในฐานะที่เป็นบุตรชายเจ้าเมือง สกุลจ้าวย่อมต้องมีอำนาจและอิทธิพลในเมืองหนานอวิ้น จ้าวเฟิงยังจำเป็นต้องหาหนทางร่ำรวยอื่นอยู่อีกหรือ?

ฮั่วชิงเฟิงกำลังคิดถึงคำพูดของจ้าวเฟิง คงจะไม่ง่ายดายแบบที่พูดแน่ น่าจะมีความนัยอื่นซ่อนอยู่

“ถูกต้อง ไปกันเถอะ!” จ้าวเฟิงเดินนำอยู่ด้านหน้า

หากเขาตั้งใจฝึกฝน ไม่นานก็ต้องกลับไปอยู่ในระดับสุดยอดได้แน่

ช่วงชีวิตก่อนเขามีเป้าหมาย มีอันตรายรอบด้าน จึงจำเป็นต้องทุ่มเทฝึกฝน

แต่ชาตินี้จ้าวเฟิงไม่เห็นความสำคัญของการฝึกตนนัก อีกทั้งจะเดินในเส้นทางเดิมซ้ำกันสองครั้งก็น่าเบื่อเหลือเกิน ดังนั้นเขาจึงคิดเดินหนทางอื่นแทน นั่นก็คือหนทางแห่งความมั่งคั่ง

พลังแท้จริงสำคัญที่สุด หากมีทรัพย์สมบัติก็จะยิ่งแข็งแกร่ง อีกทั้งอำนาจเงินก็สามารถกลายเป็นอำนาจได้เช่นกัน!

“ฮั่วชิงเฟิง ตอนนี้ข้าจะมอบหมายภารกิจให้เจ้า!”

ตอนที่เดินอยู่นั้น จ้าวเฟิงก็หารือกับฮั่วชิงเฟิง

“เชิญว่ามาได้เลย!”

ดวงตาของฮั่วชิงเฟิงเปล่งประกาย

“ข้าเตรียมจะจัดงานประมูลขึ้นครั้งหนึ่ง จะให้เจ้าออกหน้าเป็นผู้จัดงานประมูลครั้งนี้แทนข้า…”

จ้าวเฟิงค่อยๆ บอกแผนการของตนเอง

ช่องทางหาเงินอย่างแรกของเขาก็คืองานประมูล

ส่วนฮั่วชิงเฟิงเดิมเป็นบุคคลในรายชื่อผู้สืบทอดคนต่อไปของพรรคกระบี่ชิงเฉิง ความสามารถในการจัดการน่าจะไม่เลวนัก ยิ่งไปกว่านั้นฮั่วชิงเฟิงยังมีสัญญาจำกัด จึงอยู่ในการควบคุมของเขาโดยสิ้นเชิง

ฮั่วชิงเฟิงขมวดคิ้วมุ่น ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งศาสตร์กระบี่ เขามุ่งมั่นกับการฝึกกระบี่ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังแบกความแค้นเอาไว้ เขาจึงอยากจะแข็งแกร่งขึ้นโดยเร็ว แต่จ้าวเฟิงจะให้เขาไปจัดงานประมูล เขาเลยไม่ค่อยยินดีเท่าใดนัก

“เจ้าคิดว่าจะล้างแค้นด้วยตัวคนเดียวหรือ? รองานประมูลหาเงินได้มากพอ ถึงตอนนั้นเจ้ายังสามารถว่าจ้างผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่ง โอกาสล้างแค้นก็จะมีมากขึ้น…”

จ้าวเฟิงมองออกว่าฮั่วชิงเฟิงไม่ยินยอม จึงเอ่ยเสริมอีก

สีหน้าฮั่วชิงเฟิงผ่อนคลายลงทันใด เขาล้างแค้นคนเดียวก็ยากเกินไปจริงๆ อีกทั้งถ้าหากมีเงินทุน เขาจะสามารถซื้อหาทรัพยากรมาฝึกฝนเพิ่มพลังได้จำนวนมาก

สรุปโดยรวมคือ การเปิดงานประมูลกับเป้าหมายสุดท้ายของเขาเหมือนจะไม่สวนทางกัน

“แต่งานประมูลครั้งนี้ต้องใช้เวลานานมากถึงจะเป็นรูปเป็นร่างขั้นต้นได้!”

ฮั่วชิงเฟิงนึกถึงปัญหาอีกอย่าง

ร้านเล็กๆ ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงร้านหนึ่ง หากต้องการมีชื่อเสียงโด่งดังในเวลาอันสั้นก็ยากเกินไป

อีกทั้งเหมือนจ้าวเฟิงคิดจะเป็นผู้คอยควบคุมอยู่เบื้องหลัง หากเป็นเช่นนี้ย่อมไม่สามารถใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงของตระกูลจ้าวได้

“ข้ามีแผนของเข้า!” จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงเรียบ

ฮั่วชิงเฟิงเห็นจ้าวเฟิงคล้ายมีท่าทีมั่นใจยิ่งนัก จึงไม่ได้ถามอะไรมากมาย

ผ่านไปไม่นาน คนทั้งสามก็มาถึงเขตที่รุ่งเรืองที่สุดในเมืองหนานอวิ้น จากนั้นซื้อร้านขนาดใหญ่ร้านหนึ่ง

ถึงแม้จ้าวเฟิงจะเป็นบุตรชายเจ้าเมือง แต่ไม่ได้มีผลึกเริ่มต้นมากนัก โชคดีที่ช่วงนี้ได้เจ้าแมวขโมยมาให้เขาไม่น้อย

เมี้ยว เมี้ยว~

เจ้าแมวขโมยยิ้มเจ้าเล่ห์ มันยื่นกรงเล็บแมวออกมาแปะกับฝ่ามือของจ้าวเฟิง

ซ่งถิงอวี้ด้านข้างมองคนกับแมวอย่างหมดคำพูด

หลังจากได้ร้านค้ามาแล้ว สามคนหนึ่งแมวก็ช่วยกันตกแต่งร้าน จากนั้นจ้าวเฟิงจึงใช้ผลึกเริ่มต้นจำนวนน้อยนิดจ้างผู้ฝึกตนขั้นต่ำมากลุ่มหนึ่ง

เมื่อเป็นเช่นนี้ ร้านประมูลจึงถูกก่อตั้งขึ้นภายใต้ชื่อ ‘ร้านประมูลซิงเฟิง’

“อาจารย์ สถานที่จัดงานประมูลมีแล้ว แต่ไม่มีใครมาฝากประมูลนี่?”

ซ่งถิงอวี้เอ่ยถามอย่างเยาะเย้ยเล็กน้อย

“อาจารย์มีของเล่นอยู่ส่วนหนึ่ง!”

จ้าวเฟิงหัวเราะอย่างมีเลศนัย เมื่อโบกมือจึงปรากฏของกองใหญ่กองหนึ่งบนโต๊ะด้านข้าง

ภายในนั้นมีหุ่นเชิด มียา มีอาวุธเทพต่างๆ และอุปกรณ์ค่ายกล อีกทั้งระดับของสิ่งของทุกชนิดยังไม่ธรรมดาด้วย…

“ไม่นึกว่าเจ้าจะมีหุ่นเชิดขอบเขตก่อเกิดดารากับขอบเขตแปรจิตมากขนาดนี้? ยังมีโอสถชะล้างวิญญาณแรก โอสถวิญญาณเพลิงโลหิต กับโอสถอาทิตย์ทองด้วย…”

วงหน้างามของซ่งถิงอวี้ถอดสี ตื่นตะลึงในใจ ก่อนจะมองประเมินสิ่งของเหล่านั้นอย่างละเอียด

ตอนนี้นางยิ่งมั่นใจได้ว่าจ้าวเฟิงไม่ใช่แค่เด็กธรรมดาแน่

เด็กน้อยจะมีสมบัติล้ำค่ามากขนาดนี้ได้อย่างไร? ต่อให้เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมือง แต่จ้าวเฟิงเพิ่งมีอายุสิบกว่าขวบปีเท่านั้น เจ้าเมืองจะยกทรัพยากรจำนวนมากขนาดนี้ให้ได้อย่างไรกัน

ซ่งถิงอวี้จ้องอย่างละเอียดอยู่หลายคราว หุ่นเชิดแต่ละตัววิจิตรงดงาม ใช้พลังน้อยมาก เป็นงานที่ละเอียดละออ คิดไม่ถึงว่ายาจำนวนมากจะเป็นยาระดับสุดยอด ยาระดับสมบูรณ์แบบก็มีส่วนหนึ่ง

ฮั่วชิงเฟิงตกตะลึงอย่างมากเช่นกัน เขาพอรู้ว่าจ้าวเฟิงเป็นปรมาจารย์ศาสตร์ยา ยาพวกนี้จ้าวเฟิงน่าจะเป็นผู้หลอมออกมา แต่พวกหุ่นเชิด ค่ายกล และอาวุธพวกนี้ เขาก็เป็นคนทำด้วยหรือ?

จ้าวเฟิงไม่พูดอะไรมากมาย เป็นคนต้องรู้จักถ่อมตนไว้

“ร้านประมูลจะดึงดูดใจคนได้ก็เพราะสิ่งของที่ประมูล หากมีของพวกนี้ ชื่อเสียงของร้านประมูลของพวกเราจะโด่งดังไปทั่วเมืองหนานอวิ้นอย่างรวดเร็ว!”

ฮั่วชิงเฟิงหัวเราะขึ้นอย่างอดไม่ได้

ในวันนั้น ‘ร้านประมูลซิงเฟิงซิงเฟิง’ ที่เพิ่งเปิดใหม่ นอกจากจะแขวนป้ายร้านขนาดใหญ่แล้ว ด้านบนยังจดรายการสิ่งของหลายชิ้นที่จะนำมาประมูล ส่องประกายสะกดสายตาผู้คน

และสิ่งของหลายชิ้นนั้นยังเป็นสิ่งของที่ผู้ฝึกจำนวนมากต้องการอย่างยิ่ง

คนไม่น้อยต่างสังเกตเห็นป้ายร้านอย่างรวดเร็ว

ถึงแม้มีบางคนไม่เชื่อว่าร้านประมูลที่เพิ่งเปิดจะมีสมบัติจำนวนมาก แต่ถึงจะถูกหลอกก็ไม่อาจพลาดโอกาสนี้ไปได้!

อย่างไรเสีย ร้านที่เพิ่งเปิดก็มีคนรู้จักน้อย การแข่งขันก็น้อยตามไปด้วย

วันที่สอง ร้านประมูลซิงเฟิงเริ่มเปิดประมูลเป็นครั้งแรก

ถึงแม้คนที่มาจะไม่มาก แต่ทั้งหมดก็ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

วันนั้นชื่อเสียงของร้านประมูลซิงเฟิงโด่งดังไปทั่ว อย่างไรเสียสิ่งของที่นี่ก็มีระดับสูงนัก อีกทั้งราคายังต่ำด้วย

วันที่สามคนจึงเต็มร้านประมูลซิงเฟิง!

วันที่สี่คนล้นร้าน!

ต่อมา ถึงแม้ความล้ำค่าของสิ่งของในร้านประมูลซิงเฟิงจะลดลงไป แต่เมื่อชื่อเสียงขจรขจายไปแล้ว จึงไม่ได้ส่งผลอะไรมากนัก

จากชื่อเสียงที่โด่งดัง ทำให้มีคนจำนวนมากมาฝากประมูล อย่างไรเสียหากคนมาก ราคาที่ประมูลขายได้ก็ยิ่งสูงตามไปด้วย

ฮั่วชิงเฟิงและซ่งถิงอวี้เห็นร้านโด่งดัง แววตาตื่นเต้นเกินจะเปรียบ

ในตอนแรกพวกเขาและจ้าวเฟิงลงนามสัญญา เข้าร่วมกิจการร้านประมูลก็ได้ส่วนแบ่งจากกำไร ดังนั้นเมื่อร้านประมูลมีชื่อเสียงโด่งดัง พวกเขาย่อมเบิกบานใจอยู่แล้ว

“หืม?” และในเวลานี้เอง ฮั่วชิงเฟิงสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ จึงหมุนกายจากไป

ในห้องลับแห่งหนึ่งด้านหลังร้านประมูล

“นี่เป็นของเจ้า!”

“นี่คือซ่งถิงอวี้และฮั่วชิงเฟิง!”

“ส่วนนี่ของข้า!”

จ้าวเฟิงกำลังแบ่งผลกำไร

เมี้ยว เมี้ยว~

เจ้าแมวขโมยน้อยมีท่าทีไม่ยอมแพ้ คิดว่าจ้าวเฟิงเอามากจนเกินไป

ต้องรู้ก่อนว่า เงินทุนหมุนเวียนในร้านประมูลล้วนได้เจ้าแมวขโมยเสี่ยงอันตรายขโมยมา

ด้านนอกที่มืดสนิท มีเงาร่างหนึ่งโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน

คนผู้นี้ก็คือนักฆ่าที่จ้าวป้าหลงส่งมา ให้ขอบเขตแปรจิตช่วงสุดยอดสังหารขอบเขตสามปราณคนหนึ่ง นับว่าเหลือเฟือมากนัก

‘เจ้าเด็กนี่…ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!’

เงาดำพึมพำในใจ

ข้างกายจ้าวเฟิงมีซ่งถิงอวี้และฮั่วชิงเฟิงคอยติดตาม ดังนั้นเขาจึงได้แต่สังเกตจากที่ไกลๆ จึงไม่รู้เรื่องละเอียดนัก แต่เขาก็พอจะมองเห็นเบื้องลึกเบื้องหลังออก รู้สึกได้ว่าจ้าวเฟิงไม่ธรรมดา กระทั่งเขายังสนอกสนใจในจ้าวเฟิงมาก

เขาเตรียมจะจับจ้าวเฟิงเพื่อสืบวิญญาณ หลังจากล่วงรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วค่อยสังหารอีกฝ่าย

หลังจากสอดแนมมาหลายวัน เขาก็อาศัยโอกาสตอนที่ฮั่วชิงเฟิงและซ่งถิงอวี้เข้าใกล้จ้าวเฟิงเพื่อลงมือ

“เหอะๆ หนุ่มน้อย วันตายของเจ้ามาถึงแล้ว!”

เงาดำกระจายออกมากลายเป็นเงาคนผู้หนึ่ง ในมือปรากฏกริชสีเทาเข้มเล่มหนึ่งขึ้น สาดซัดไอหนาวเหน็บที่รุนแรงถึงชีวิตออกมา

เปรี๊ยะ~ แสงสีดำสว่างวาบ เงาคนเข้าไปในห้อง ตรงดิ่งไปหาจ้าวเฟิง

“ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏกายแล้วหรือ?”

จ้าวเฟิงเงยหน้ามองเงาคน ก่อนจะระบายยิ้มบางๆ

แต่ในสายตาเงาคนร่างนั้น รอยยิ้มนี้ประหลาดอย่างยิ่ง

เจ้าแมวขโมยที่อยู่ด้านข้างก็มีรอยยิ้มประหลาดเช่นกัน เงาคนสังเกตเห็นถึงสิ่งผิดปกติ แมวตัวหนึ่งและผู้แข็งแกร่งในขอบเขตสามปราณคนหนึ่ง เผชิญหน้ากับการลอบสังหารจากขอบเขตแปรจิต คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่ลนลานหวาดกลัว ซ้ำยังยิ้มให้เขาอีกด้วย เหมือนกับรู้เรื่องนี้มานานมากแล้ว

แต่ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? คนกับแมวสังเกตเห็นเขา แต่ถึงสังเกตเห็น พวกเขาจะมีวิธีไหนรอดชีวิตไปจากเงื้อมมือเขาได้

ทันใดนั้นเอง ดวงตาหุ่นเชิดที่มุมห้องเปล่งแสงสีแดง

หุ่นเชิดสะบัดมือไป แสงสีขาวขนาดใหญ่ประมาณแขนพุ่งออกมา และในตอนที่เขาได้สติกลับมา แสงนั้นก็มาปรากฏเบื้องหน้าเขา

แสงสีขาวไม่มีพลานุภาพอะไรมากนัก แต่ในชั่วขณะที่สัมผัสกับเงาคนกลับระเบิดพลังที่ทำลายทุกสรรพสิ่งออกมา กลายเป็นลูกแสงทรงกลมสีขาวที่กลืนกินทุกสรรพสิ่ง

“ขอบเขตอมตะ…”

เงาคนเบิกตากว้าง จากนั้นหายตัวไปท่ามกลางความหวาดกลัวและตื่นตะลึง

ช่วงนี้จ้าวเฟิงหาเงินได้ไม่น้อย ลอบซื้อทรัพยากรล้ำค่าส่วนหนึ่งมา หุ่นเชิดนี้เป็นขอบเขตอมตะที่เขาเพิ่งสร้างขึ้นในช่วงนี้

และในตอนนี้เอง ฮั่วชิงเฟิงผลักประตูเข้ามา

เขามองด้วยความตื่นตกใจ ร่างเงาคนถูกกลุ่มแสงสีขาวกลืนกิน จากนั้นกลุ่มแสงสีขาวก็หายวับไป

“ชิงเฟิงมาช้า ขอให้นายท่านโปรดอภัยด้วย!”

ฮั่วชิงเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึก ค้อมกายลงทันที

ในชั่วขณะที่เขาเข้ามา เงาดำนั้นก็ตายเสียแล้ว แต่เขารู้สึกได้ว่าพลังฝึกตนของเงาดำผู้นี้อยู่ในขอบเขตแปรจิตช่วงสุดยอดเหมือนกับเขา

อีกฝ่ายเป็นมือสังหารที่ชำนาญการพรางตัว พลังที่ฝ่ายตรงข้ามระเบิดออกมาอย่างกะทันหันต่อให้เป็นฮั่วชิงเฟิงก็ยังสู้ไม่ได้

ทว่าผู้แข็งแกร่งเช่นนี้กลับตายต่อหน้าต่อตาเขา

เขาไม่เห็นจ้าวเฟิงลงมือ และเขาก็ไม่รู้ว่านักฆ่าขอบเขตแปรจิตช่วงสุดยอดผู้นี้ตายอย่างไรกันแน่

“เจ้าทำธุระของเจ้าไปเถอะ ทำงานให้หนักกว่าเดิมก็พอแล้ว!”

จ้าวเฟิงเอ่ยกำชับ จากนั้นจึงโยนมิติเก็บของสองอันออกมา “ของเจ้ากับซ่งถิงอวี้ คนละชิ้น!”

“ขอบพระคุณนายท่าน!”

ฮั่วชิงเฟิงมีสีหน้าเคารพนับถือ ค่อยๆ ถอยไปด้วยความตกตะลึง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version