Skip to content

King of Gods 562

King Of Gods

บทที่ 562 กลุ่มโจรสลัดหลานเหลย

ฟิ้ว~

จ้าวเฟิงที่หนีออกจากวงล้อมได้ชั่วคราวรู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง

“นายท่าน พวกเราโดน ‘กลุ่มโจรสลัดแห่งทะเลความว่างเปล่า’ หมายหัวแล้ว”

เจ้าหอโครงกระดูกในประคำหมื่นวิญญาณเอ่ยปากบอก

โจรสลัดแห่งทะเลความว่างเปล่า?

เมื่อครู่จ้าวเฟิงมัวแต่จดจ่อกับการฝ่าวงล้อมจึงไม่ได้ใส่ใจ เขาสำรวมจิตในตอนนี้จึงสัมผัสได้

เหตุผลที่สำคัญคือ ภายในวิญญาณของจ้าวเฟิงมีกลิ่นอายของพลังมรณะอยู่ จึงไม่สามารถใช้เนตรเทพเจ้าได้โดยง่าย ถึงขนาดที่ว่าต้องปิดกั้นพลังของดวงตาเทพเจ้าโดยสิ้นเชิง

ต่อให้เป็นประสาทสัมผัสจิตวิญญาณ จ้าวเฟิงก็ไม่อาจใช้มันในขอบเขตที่กว้างขวางได้ เพราะพื้นฐานของประสาทสัมผัสนี้ก็มาจากดวงวิญญาณเช่นกัน

“โจรสลัดแห่งทะเลความว่างเปล่า คือโจรสลัดแข็งแกร่งลือชื่อซึ่งคอยปล้นอยู่ในทะเลความว่างเปล่า รวมตัวเป็นกลุ่มก้อนคอยปล้นโจมตีบรรดาพ่อค้าและคนที่สัญจรไปมา แต่ว่าดูๆ ไปแล้ว คนเหล่านี้คล้ายไม่ได้มีแผนจะลงมือโจมตีนายท่าน”

เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้ เจ้าหอโครงกระดูกอดประหลาดใจไม่ได้ เขาเชี่ยวชาญศาสตร์ด้านวิญญาณ ประสาทสัมผัสว่องไวนัก

บนเรือเหล็กสีเทานั้น สิ่งที่บรรดาโจรสลัดถกเถียงกันจึงไม่อาจเล็ดลอดการสอดแนมของเจ้าหอโครงกระดูกไปได้ ที่ทำให้เจ้าหอโครงกระดูกพูดไม่ออกบอกไม่ถูกก็คือ เจ้าโจรสลัดพวกนี้คิดว่าจ้าวเฟิงอัตคัดขัดสน ไม่มี ‘ทรัพย์สิน’ จนพวกมันขี้เกียจจะปล้น

เจ้าหอโครงกระดูกไม่รู้ว่าจะใช้คำใดมาบรรยายความรู้สึกของเขาในตอนนี้

สินทรัพย์ที่จ้าวเฟิงมีในตอนนี้ ขนาดผู้สูงศักดิ์ในขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดอย่างเขายังอิจฉาตาร้อน ไม่ต้องพูดถึงของล้ำค่ามหาศาลอย่างมรดกอาวุธชั้นพิภพ หรือประคำหมื่นวิญญาณ เพียงแค่ทรัพยากรทางวิญญาณที่จ้าวเฟิงมีครอบครอง ก็อาจจะล้ำหน้าพวกสำนักหนึ่งดาวธรรมดาไปแล้ว

แล้วก่อนที่จะแยกย้าย จ้าวเฟิงเก็บของล้ำค่าหายากในมิติซากปรักหักพังสือเฉิงมามากมาย เกือบจะกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของแหวนเหล็กโบราณ

โจรสลัดแห่งทะเลความว่างเปล่าเหล่านี้คิดไม่ถึงหรอกว่า ทรัพย์สินที่ชายหนุ่มอายุน้อยผู้นี้มี ต่อให้พวกเขาปล้นไปอีกหลายร้อยหลายพันปีก็ไม่มีทางหาได้มากมายเท่านี้

สวบ สวบ สวบ!

ในเวลานี้เอง สัตว์ทะเลตัวเล็กตัวน้อยกรูเข้ามาหาจ้าวเฟิงจากทั่วทุกทิศทาง

ถึงแม้ว่าจ้าวเฟิงจะสังหารทะลวงวงล้อมออกมา แต่ว่าก็ยังไม่อาจหนีรอดได้จริงๆ

“ไป!” เขาไม่กล้ารั้งอยู่นาน จึงบินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

ภูมิศาสตร์ของดินแดนหมู่เกาะเทียนหลูปรากฎขึ้นในหัวของเขาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง

“พื้นที่แห่งนี้ล้วนแต่เป็นส่วนหนึ่งของ ‘เขาปาฮวง’ สายตาของจ้าวเฟิงทอดมองออกไปเบื้องหน้า

เสียดายที่ดวงตาซ้ายของเขากลับมาเป็นสีดำตามปกติ จึงไม่สามารถมองทะลุผ่านหมอกควันได้ แล้วยิ่งไม่อาจมองไปยังที่ห่างไกลได้ด้วย

ฟิ้ว สวบ~

ในทะเลหมอกด้านหลัง เรือเหล็กสีเทาลำนั้นค่อยๆ ลอยล่องมาอย่างเงียบสนิท

เรือเหล็กสีเทาทั้งลำหุ้มเกราะ วัสดุก็แข็งแกร่งไม่เหมือนทั่วไป การโจมตีของสัตว์ทะเลธรรมดาไม่อาจทิ้งแม้แต่รอยขีดข่วนใดๆ บนเรือลำนี้ ภายในเรือเหล็กที่ประกอบขึ้นเอง อย่างน้อยๆ มีห้องราวสิบกว่า ส่วนตรงกลางเรือเป็นห้องโถงสำหรับหารือ

“พี่ใหญ่ เจ้าหนุ่มคนนี้บินในทิศทางเดียวกับเรา จะทำให้แผนการของเราวุ่นวายหรือไม่?” ชายหนุ่มผู้มีรอยแผลเป็นน่าเกลียดบนหน้าเอ่ยถามอย่างขึงขัง

“เหอะ เขาไม่รู้จักดีร้ายเช่นนี้ ให้พี่ทั้งสองไปสอยเขาให้ร่วงเถอะ แมลงวันต่อให้ผอมอย่างไรก็ถือว่าเป็นเนื้อ[1]” โจรสลัดทะเลความว่างเปล่าเหมือนจะทนไม่ไหว

ในเวลานั้นเอง จ้าวเฟิงที่บินอยู่เบื้องหน้าก็ดึงความสนใจจากโจรสลัดกลุ่มนี้

ไม่ว่าจะเส้นทางการบินของจ้าวเฟิง รวมไปถึงความเร็ว ล้วนแต่ใกล้เคียงกับเรือเหล็กเป็นอย่างมาก

“อดทนก่อนสักหน่อย” ชายผู้นั่งบนที่สูงสุดเป็นบัณฑิตหนุ่มในชุดสีฟ้า หน้าตาหล่อเหลา  ไม่เหมาะจะเป็นหัวหน้าโจรสลัดที่มีภาพลักษณ์น่ารังเกียจเลยแม้แต่น้อย

หัวหน้าโจรสลัดชุดสีฟ้า บนใบหน้ามีวี่แววของความกังวลใจ

“สัตว์ทะเลในละแวกนี้มีมากมาย เมื่อไม่นานมานี้ยังมีกลิ่นอายสัตว์อสูรในขั้นผู้สูงศักดิ์ด้วย ถ้าหากเจ้าหนุ่มทะเล่อทะล่าคนนี้ส่งผลกระทบต่อแผนทั้งหมดของเรา ลงมือสังหารเขาสักหมื่นครั้งก็ยังไม่สาสม”

เมื่อเอ่ยจบ บรรดาโจรสลัดก็มองข้ามการดำรงอยู่ของจ้าวเฟิง กระวนกระวายใจ จะฆ่าก็ไม่ได้ จะปล่อยไว้ก็กังวลใจ

แซ่ด พรึ่บ!

จ้าวเฟิงรีบบินไปเบื้องหน้าตามแผนที่ในหัวของเขา สิ่งที่ทำให้เขาหมดคำพูดคือกลุ่มโจรสลัดข้างหลังที่จับจ้องเขาแต่ไม่ลงมือทำอะไร

เจ้าหอโครงกระดูกก็ประหลาดใจจนไม่รู้จะเอ่ยอะไร

ในเวลานี้เอง บรรดาโจรสลัดทั้งหลายล้วนแต่เข้าไปภายในเรือเหล็ก เขาเองก็ไม่กล้าชะล่าใจ ลอบเข้าไปสอดแนมอย่างลับๆ

บินไปหลายหมื่นลี้ บนอากาศสูงที่ไกลออกไป ค่อยๆ ปรากฏทิวเขามหึมาตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลความว่างเปล่า

ในทะเลความว่างเปล่า ยิ่งสูงขึ้นหมอกก็ยิ่งเบาบางลง จนสุดท้ายปลอดโปร่งทั้งหมด ด้วยเหตุนี้จึงมองเห็นทิวเขาขนาดใหญ่นั้นได้อย่างชัดเจนจากระยะไกลๆ

“นั่นก็คือ เขาปาฮวง!”

จ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงการหมุนเวียนของไอสวรรค์จากฟ้าและดิน ถึงแม้จะไม่อาจเทียบเท่าทวีปบุปผาคราม แต่เมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นของทะเลความว่างเปล่าแล้วเข้มข้นกว่าหลายเท่า

ตามที่แผนที่แสดง เขาปาฮวงเป็นพื้นที่หนึ่งเดียวในอาณาบริเวณกว่าหมื่นลี้ ที่เหมาะเป็น ‘พื้นที่พักฟื้น’ ให้มนุษย์อาศัย

ในทะเลความว่างเปล่านี้ นอกจากจะมี ‘ดินแดนเกาะ’ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับทวีปบุปผาคราม ยังมีพื้นที่ที่แตกเป็นเศษเล็กเศษน้อย ไม่ใช่ผืนแผ่นดินที่แท้จริง

ภูมิศาสตร์เหล่านี้ยังรวมไปถึง ทะเลทราย หุบเขา บึงน้ำ และทะเลสาบ

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ภูมิศาสตร์แปลกประหลาดอีกนับพันเกาะ ลักษณะพิสดารเกินกว่าจะคาดคิดถึง

‘เขาปาฮวง’ ที่อยู่เบื้องหน้า หากพูดถึงพื้นที่ น่าจะมีขนาดพอๆ กับ ‘แคว้นเมฆา’ ส่วนใหญ่จะเป็นแนวทิวเขาทอดยาว

ในเวลาเดียวกัน

 

“พี่ใหญ่ เป้าหมายของเราปรากฏตัวแล้ว!” บรรดาโจรสลัดบนเรือเหล็กสีเทาด้านหลังตื่นเต้น

หัวหน้าโจรสลัดในชุดสีฟ้าผงกศีรษะ “เข้าใกล้กว่านี้อีกหน่อยจึงจะลงมือได้”

“เหอะ อีกสักครู่พอลงมือ ก็จัดการเจ้าหนุ่มนั่นไปด้วยกันเสียเลย” ชายที่มีรอยแผลเป็นเลียริมฝีปากเล็กน้อย

ฟิ้ว ฟุ่บ~

เรือเหล็กสีเทาเร่งความเร็วขึ้นเล็กน้อย

หืม?

จ้าวเฟิงที่บินอยู่เบื้องหน้าสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ไม่เพียงแต่เรือโจรสลัดเบื้องหลังของเขา

สวบ….

ในทะเลหมอกเบื้องหน้ามีเรือรบสีน้ำเงินเข้มแล่นสวนมา เรือรบลำนั้นมีขนาดเท่าหอสามชั้น ลอยล่องบนคลื่นของทะเลความว่างเปล่าจนบนพื้นผิวล้อมรอบด้วยคลื่นลมสีน้ำเงิน

ทันทีที่จ้าวเฟิงเข้าไปใกล้ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแข็งแกร่งมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดทั้งสิ้น กลิ่นอายพลังทั้งหลายแหวกอากาศตรงดิ่งมาที่จ้าวเฟิงราวเป็นสัญญาณเตือน

จ้าวเฟิงอยู่ต่างที่เพียงลำพัง แน่นอนว่าต้องไม่อยากหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว จึงเตรียมหลีกหนีอ้อมไปอีกทาง

“ฮ่าฮ่า….อยู่แค่ขั้นนายเหนือแท้ระดับสูง แต่กล้าเดินทางโดยลำพังในทะเลความว่างเปล่า”

“พ่อหนุ่มนี่คงไม่ใช่คุณชายตระกูลไหนหนีออกจากบ้านมากระมัง?”

บนเรือสีน้ำเงินเข้มนั้นปรากฏเงาจำนวนหนึ่ง เมื่อมองเห็นเงาร่างของจ้าวเฟิง แต่ละคนล้วนแต่มีแววนึกสนุก จึงเอ่ยล้อเลียน

เห็นได้เลยว่า การฝึกตนอยู่ในขั้นนายเหนือแท้แล้วเดินทางคนเดียวในทะเลความว่างเปล่าเป็นเรื่องที่เห็นได้ยากยิ่ง

บนเรือรบสีน้ำเงินเข้ม ผู้นำเป็นผู้เฒ่าในชุดหลากสี กลิ่นอายเงียบสงบ ยืนเอามือไขว้หลัง คนข้างกายหลายคนล้วนแต่เป็นคนในขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิด

“ผู้สูงศักดิ์ขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิด!”

จ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายจิตวิญญาณลึกลับจากร่างของผู้สูงวัยในชุดหลากสี แววตาของผู้สูงวัยกวาดมองจ้าวเฟิงปราดหนึ่ง ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก

“ดินแดนเกาะที่ใกล้ที่สุดไกลนับพันนับหมื่นลี้ พลังฝึกตนของเขาพอๆ กับข้า แต่กลับข้ามผ่านทะเลความว่างเปล่าได้ ช่างเก่งกาจเสียจริง!” เสียงนุ่มนวลของอิสตรีเอ่ยขึ้น

ข้างกายของผู้เฒ่าชุดหลากสี มีสตรีดวงหน้าธรรมดา ดวงตาเป็นประกายที่จับจ้องจ้าวเฟิงมีแววของความนับถือ

ทันทีที่เอ่ยจบ เงาของผู้คนที่หัวเราะอยู่ก็พลันชะงักค้างไป

เป็นเพียงแค่นายเหนือแท้ระดับสุดยอด แต่สามารถข้ามทะเลความว่างเปล่าอันกว้างใหญ่โดยสวัสดิภาพเพียงลำพัง นับได้ว่าเหลือเชื่อ

“เจ้าหนุ่มคนนี้จะต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ!” เหล่ายอดฝีมือสูงวัยในเรือสีน้ำเงินเข้มแววตาเป็นประกาย สีหน้าเต็มไปด้วยความคลางแคลงใจ และอยู่ในลักษณะเตรียมพร้อม

จ้าวเฟิงที่กำลังเตรียมจะหลบจากเรือรบลำนั้น เมื่อได้ยินสิ่งที่ถกเถียงกันและรับรู้สายตา ‘หวาดระแวง’ ของคนเหล่านั้น ก็แทบจะกลอกตาขึ้น

ในเวลานี้เอง ไอจิตสังหารพวยพุ่งมาจากทะเลหมอกด้านหลัง

สวบ…

เรือเหล็กสีเทาเพิ่มความเร็วขึ้นและแล่นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

หืม?

ผู้สูงศักดิ์ชุดหลากสีที่เป็นผู้นำ เกิดความรู้สึกผิดปกติกับตัวตนของจ้าวเฟิง จึงใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบดู

“ทุกคนระวัง! แถวนี้มีการซุ่มโจมตีของกลุ่มโจรสลัดแห่งทะเลความว่างเปล่า!”

เขาใช้ประสาทสัมผัสกวาดผ่าน แล้วหน้าก็เปลี่ยนสี

ทันใดนั้น เงาร่างหลายสิบเงาบนเรือรบสีน้ำเงินเข้มก็ตึงเครียดขึ้น

“ข้าบอกแล้วว่าเจ้านี่มีปัญหาแน่!”

“เกรงว่าเจ้าหนุ่มนี่น่าจะเป็นสายให้กับ ‘กลุ่มโจรสลัดแห่งทะเลความว่างเปล่า’ ” ยอดฝีมือสูงวัยหลายคนบนเรือกับผู้สูงศักดิ์ในชุดหลากสี ต่างจ้องถมึงทึงมาที่

จ้าวเฟิงด้วยแววตาเย็นชาและไม่เป็นมิตร

แต่ว่าในตอนนี้ ประเด็นสำคัญไม่ใช่จ้าวเฟิงอีกต่อไปแล้ว

บนเรือเหล็กสีเทาลำนั้นมีกลิ่นอายอำมหิตโหดเหี้ยมแผ่ทะลวงอากาศมา

ในฐานะที่เป็นผู้นำของโจรสลัด บัณฑิตในชุดสีฟ้ามาพร้อมไอสวรรค์ยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจบรรยาย แล้วเรียกระลอกน้ำอัสนีสีฟ้าอ่อนออกมา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโจรสลัดในชุดสีฟ้าผู้นี้อยู่ในขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดแล้ว

“แย่แล้ว! นั่นมันกลุ่มโจรสลัดหลานเหลย!” ใจของผู้เฒ่าในอาภรณ์หลากสีพลันหนักอึ้ง สายตาที่ทอดมองไปยัง ‘บัณฑิตชุดฟ้า’ มีแววตากังวลและหวาดกลัว

 

“กลุ่มโจรสลัดหลานเหลย! หนึ่งในสิบโจรสลัดกลุ่มใหญ่ในละแวกเขาปาฮวง” บนเรือรบสีน้ำเงินเข้มเกิดตื่นตระหนกขึ้น

สวบ เพียะ เพียะ เพียะ…

กลุ่มโจรสลัดหลานเหลยหลายสิบเงา ในบรรดาหน่วยรบเป็นนายเหนือแท้ระดับสุดยอดเป็นอย่างต่ำ มีขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดอีกห้าหกคน

คนหลายสิบคนบนเรือรบ สร้างค่ายกลตั้งรับราวกับเจอศัตรูที่ยิ่งใหญ่

ไม่ว่าจะจำนวนคน หรือว่าคุณสมบัติของเหล่ายอดฝีมือ กลุ่มโจรสลัดหลานเหลยล้วนได้เปรียบกว่าทั้งสิ้น

“อ๊าก อ๊าก…” กำลังพลของทั้งสองฝั่งเผชิญหน้ากัน เกิดเสียงร้องโหยหวนขึ้นจากฝั่งบนเรือรบ

“โจรสลัดหลานเหลย…หยุดมือ! เรือเก่าลำนี้ไม่มีของมีค่าอะไร เจ้าต้องการเงินทองหรืออะไรค่อยๆ เจรจาก็ได้ เหตุใดจึงต้องรบราฆ่าฟันกันเล่า” ผู้เฒ่าในชุดหลากสีรีบขัดขวาง

ปกติโจรสลัดแห่งทะเลความว่างเปล่าล้วนทำเพื่อของมีค่า เดิมทีก็เป็นการปล้นเอาทรัพย์สินเงินทอง ในบางครั้งกลุ่มพ่อค้ายินยอมจ่ายค่าผ่านทางหรือไม่ก็ค่าไถ่เพื่อรักษาให้คนในเรือให้ปลอดภัย

“เหอะเหอะ ตาแก่หวง ข้าไม่ต้องการค่าไถ่อะไรทั้งนั้น ขอแค่เจ้ามอบ ‘แม่นางโหลวหลาน’ มา ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า” บัณฑิตชุดฟ้ายิ้มเย็น

“แม่นางโหลวหลาน? พวกเจ้ารู้ได้อย่างไร…”

ผู้เฒ่าชุดหลากสีมีสีหน้าตื่นตกใจ ในใจหนักอึ้งด้วยยากที่จะเชื่อได้

บัณฑิตชุดฟ้าหยุดการโจมตีชั่วคราว เขาเผยรอยยิ้มที่เหมือนไม่ใช่ยิ้ม แล้วทอดสายตาไปยังสตรีนัยน์ตาใสสกาวหน้าตาธรรมดาข้างกายผู้เฒ่า

“ไม่มีทาง!” ผู้เฒ่าในชุดหลากสีเอ่ยเสียงเย็น

“ต่อให้ต้องเอาชีวิตเข้าแลก ข้าก็จะต้องพาแม่นางโหลวหลานส่งให้ถึง ‘สำนักจิตวิญญาณจันทร์กระจ่าง’ ให้ได้ นางได้แบกรับสกุลโหลวหลานไว้….”

“สังหารคนทั้งหมดให้สิ้น! จับเป็นโหลวหลานจื๋อสุ่ย!” บัณฑิตชุดฟ้าสั่งเสียงเยือกเย็น

ในพริบตา คนทั้งสองฝ่ายก็ต่อสู้กันพัลวันบนดาดฟ้าของเรือรบ

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”

จ้าวเฟิงเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ว่าทำไมกลุ่มโจรสลัดแห่งทะเลความว่างเปล่าพวกนี้ถึงไม่ลงมือทำร้ายเขา แต่ว่าเรื่องเหล่านี้ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลย

จ้าวเฟิงเตรียมจะหลบหลีกไปอย่างเงียบๆ

“เหอะเหอะ…เจ้าหนุ่ม! อยู่ต่อหน้าโจรสลัดหลานเหลยคิดว่าจะหลบหนีไปได้งั้นรึ?”

ชายหนุ่มผู้มีแผลเป็นนำโจรสลัดในขั้นนายเหนือแท้ระดับสุดยอดที่เต็มไปด้วยจิตสังหารสองคน บินตรงดิ่งมาที่จ้าวเฟิง

 

………………………………….

 

[1] แมลงวันต่อให้มีเนื้อน้อยก็ยังมีเนื้อ เงินมีน้อยอย่างไรก็ยังถือเป็นเงิน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version