Skip to content

King of Gods 563

King Of Gods

บทที่ 563 วายุอัสนีพิฆาตสีม่วง

กำลังพลทั้งสองฝั่ง เริ่มรบกันบนทะเลความว่างเปล่า

ฝั่งของโจรสลัดแห่งทะเลความว่างเปล่ามีข้อได้เปรียบในการจะล้มอีกฝ่าย กลุ่มโจรสลัดโหดเหี้ยมอำมหิต กระจายตัวล้อมรอบเรือรบ

โครม ตูม บึ้ม…

ผู้สูงศักดิ์ในขั้นแก่นก่อกำเนิดสองคนปะทะกันบนอากาศที่ทะเลหมอกเบาบางลง ไอสวรรค์ในฟ้าดินส่งเสียงสะเทือนเลือนลั่น พลังที่ไร้รูปร่างส่งผลให้คลื่นลมในทะเลปั่นป่วน กวาดเอาทุกอย่างในรัศมีกว่าสิบลี้ไป

วารีอัสนีไร้เทียมทาน!

บัณฑิตชุดฟ้าโบกมือก็เกิดลำแสงอัสนีวารีสว่างเจิดจ้า ความนุ่มนวลผสานความแข็งแกร่ง กลายมาเป็นม่านน้ำลายฟ้าคำรามยาวร้อยลี้

ตูม! โครม!

ผู้เฒ่าชุดหลากสีเรียกลำแสงฝ่ามือที่น่ากลัวออกมา แต่เมื่อเข้าใกล้ม่านน้ำนั้น มันกลับอ่อนแสง แตกกระจายลงในทันที เรียกได้ว่าโดนฝ่ายแรกดูดพลังบางส่วนไปเสียด้วยซ้ำ

ในวินาทีถัดมา ลวดลายของ ‘วารีอัสนีไร้เทียมทาน’ ก็สาดแสงเจิดจ้ากลายเป็นน้ำวน วารีอัสนีมีพลังทำลายล้างรุนแรงดุจอุทกภัย เกิดเป็นการโต้กลับที่รุนแรงเหลือประมาณ

ผัวะ!

กระบวนท่าที่ประมือกันส่งผลให้ผู้เฒ่าชุดหลากสีกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าว แล้วส่งเสียงฮึออกมา

 

“เหอะเหอะ ข่าวที่ข้าได้มาไม่ผิดจริงๆ! ตาแก่หวง เพียงแค่เจ้าที่ฝึกตนในขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำช่วงกลาง ต่อให้เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” หัวหน้าโจรสลัดชุดฟ้าเอ่ยอย่างสบายอารมณ์ แล้วเรียกเสวียนอ้าวของอัสนีวารีมาจำกัดผู้เฒ่าชุดหลากสีไว้อย่างแน่นหนา

ที่แท้ ผู้เฒ่าชุดหลากสีที่เป็นหัวหน้าของเรือรบ เดิมมีบาดแผลยังไม่ได้รักษา ทำให้ใช้พลังรบได้เพียงเจ็ดแปดส่วนเท่านั้น

“ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดแบ่งออกเป็น ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำและขอบเขตแขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูง ทั้งสองขั้นนี้ในแต่ละขั้นล้วนแต่มีช่วงระยะย่อยๆ คือช่วงต้น ช่วงกลาง กับช่วงปลาย”

สายตาจ้าวเฟิงกวาดสายตามองไปยังผู้สูงศักดิ์ขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดที่กำลังประลองกัน

ผู้สูงศักดิ์ชุดสีสดนั้นอยู่ในขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำช่วงกลาง ขั้นพลังพอๆ กันกับเจ้าหอโครงกระดูกในยามก่อน ส่วนหัวหน้าโจรสลัดในชุดสีฟ้าฝึกตนอยู่ในขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำช่วงปลาย

ไม่ว่าจะเป็นการฝึกตน หรือว่าความลึกล้ำของกลยุทธ์การรบ หัวหน้าโจรสลัดชุดฟ้าเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด

สิ่งที่ทำให้จ้าวเฟิงสนใจจริงๆ นั่นคือมรดกสายเลือด ‘วารีอัสนี’ ของหัวหน้าโจรสลัดชุดฟ้าผู้นั้น

‘วารีอัสนี’ ‘พฤกษาอัสนี’ ‘วายุอัสนี’… ทั้งมดนี้ล้วนแต่เป็นมรดกที่เกี่ยวโยงกับสายฟ้าทั้งสิ้น

มรดกวายุอัสนีของจ้าวเฟิงจะเน้นหนักไปที่การโจมตีและความเร็ว แต่ ‘มรดกวารีอัสนี’ ของโจรสลัดชุดฟ้าจะเน้นเรื่องความแข็งแกร่งและอ่อนโยน ทั้งป้องกันและโจมตีในเวลาเดียวกัน

หากพูดเรื่องการตั้งรับ มรดกวารีอัสนีของหัวหน้าโจรสลัดชุดฟ้าผู้นี้โดดเด่นกว่าหลายส่วน

“เจ้าหนุ่ม! อยู่ต่อหน้าข้ายังกล้าเหม่อลอยงั้นรึ?”

ชายหนุ่มผู้มีแผลเป็นนำโจรสลัดอีกสองคนมา ท่าทางดุดันน่ากลัว ตั้งใจมาด้วยเจตนาฆ่า

แต่ว่าคนหนุ่มตรงหน้าอยู่ในสภาวะเหม่อลอย เขายังพอมีเวลาว่างไปสนใจการประลองของคนในขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดทั้งสอง

“ฮ่าฮ่า เจ้าหนุ่มน้อย เกรงว่านี่คงเป็นครั้งแรกที่เจ้าเข้ามาในทะเลความว่างเปล่าสินะ จึงไม่เคยเห็นการประลองที่ตื่นตาตื่นใจแบบนี้” โจรสลัดในขั้นนายเหนือแท้ระดับสุดยอดอีกคนหนึ่งมองมาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย

ขวับ สวบ สวบ!

โจรสลัดทั้งสามรวมชายผู้มีแผลเป็นคนนั้น ตรงดิ่งเข้ารุมจ้าวเฟิงอย่างรวดเร็ว โจรสลัดในขั้นนายเหนือระดับสุดยอดในกลุ่มเรียกใช้แส้สีเงินแวววาว กลายเป็นเงาแส้มังกรเงินที่น่าเกรงขาม ตรงดิ่งจะเข้ามารัดจ้าวเฟิง

“อาวุธชั้นจิตวิญญาณ”

สีหน้าของจ้าวเฟิงมีแววประหลาดใจ พลังของโจรสลัดพวกนี้นับว่าอยู่เหนือกว่าที่เขาคาดไว้

ต้องรู้ไว้ว่า วงแหวนทมิฬที่รองจ้าวลัทธิโลหะเลือดใช้ ระดับถือว่าใกล้เคียงกับชั้นจิตวิญญาณ หรือไม่ก็สามารถปะทะกับชั้นจิตวิญญาณได้ แต่ว่าบนทะเลความว่างเปล่า โจรสลัดธรรมดาผู้หนึ่ง ทันทีที่ลงมือก็ใช้อาวุธชั้นจิตวิญญาณที่แข็งกล้าเสียแล้ว

แต่เมื่อลองย้อนคิดกลับไป ผู้ที่จะสัญจรไปมาบนทะเลความว่างเปล่า เงื่อนไขที่ต่ำที่สุดคือต้องอยู่ในขั้นนายเหนือแท้

บรรดาโจรสลัดแห่งทะเลความว่างเปล่าพวกนี้สามารถปล้นชิงคณะพ่อค้าที่สัญจรไปมา ล้วนต้องเป็นยอดฝีมือพลังกล้าแกร่งระดับต้นๆ ภายในดินแดนถิ่นเกิดอย่างแน่นอน!

เพียะ โครม…

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เงาแส้มังกรเงินยาวออกมาปิดทางหนีทีไล่ของจ้าวเฟิงจนหมด

ผู้ที่ลงมือเป็นเพียงแค่หนึ่งในโจรสลัดแห่งทะเลความว่างเปล่าเท่านั้น ส่วนอีกสองคนกลับมองดูราวเป็นเรื่องสนุก เห็นได้ชัดเจนว่า พวกเขาคิดว่าเพียงคนเดียวก็สามารถสังหารจ้าวเฟิงได้ ฉะนั้นที่ใช้คนถึงสามคนลงมือก็เพราะกังวลในความรวดเร็วของจ้าวเฟิงเท่านั้น

“ไสหัวไป!”

เมื่อเงาแส้มังกรเงินดิ่งเข้ามาหาเขา จ้าวเฟิงไม่หลบหลีกเลยแม้แต่น้อย แล้วจึงเรียกลำแสงวายุอัสนีสีเขียวม่วงออกมาที่ใจกลางฝ่ามือ กลิ่นอายระลอกวายุอัสนีที่แข็งแกร่งแผ่ไปในรัศมีร้อยจั้ง

อ๊าก~

โจรสลัดที่เป็นคนลงมือร้องเสียงหลง ร่างกายแข็งทื่อ

โครม แซ่ด!

เขายังไม่ทันได้โต้กลับ ลำแสงวายุอัสนีเจิดจ้าก็พุ่งตรงดิ่งด้วยความรวดเร็วจนไม่ทันตั้งรับ ตัดผ่านร่างของเขาในทันที

“อ๊าก…” โจรสลัดในขั้นนายเหนือแท้ระดับสุดยอดผู้นั้นกรีดร้องโหยหวนแล้วตายคาที่

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้ชายหนุ่มผู้มีแผลเป็นกับโจรสลัดในขั้นนายเหนือแท้ระดับสุดยอดอีกคนใจเต้นแรง

รวดเร็วเหลือเกิน!

คนทั้งสองยืนตัวแข็งทื่อ มึนงงเล็กน้อย

เดิมคิดว่าเพียงคนเดียวก็สามารถสังหาร ‘เจ้าหนุ่มน่าโง่’ ได้ กลับกลายเป็นว่าเพียงแค่พริบตาเดียว เจ้าหนุ่มนั่นก็สังหารเพื่อนโจรสลัดของเขาไปคนหนึ่ง

“ระวัง! มรดกวายุอัสนีของเจ้าหนุ่มนี่ลึกล้ำยิ่งนัก”

แววตาของชายผู้มีแผลเป็นน่าเกลียดเป็นประกาย แล้วปลดปล่อยพลังแข็งกล้าของขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดออกไป

โจรสลัดที่เหลืออีกสองคนเริ่มระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ไม่กล้าชะล่าใจอีกแม้แต่นิดเดียว ต่อให้เป็นชายผู้มีแผลเป็นในขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิด ก็ไม่อาจสังหารเพื่อนโจรสลัดขั้นนายเหนือแท้ระดับสุดยอดด้วยกระบวนท่าเดียว

“ฆ่า!” ชายผู้มีแผลเป็นและพรรคพวกสบตากัน จากนั้นร่วมมือกันหวังสังหารจ้าวเฟิง

กระบวนท่าที่แข็งแกร่งรุนแรงของขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดกับนายเหนือแท้ระดับสุดยอด หอบเอาลำแสงเจิดจ้าและลมพัดรุนแรงปกคลุมจ้าวเฟิง พลังในระดับนี้สังหารนายเหนือแท้ธรรมดาได้ง่ายราวพลิกฝ่ามือ

เฮ้อ!

ภายในประคำหมื่นวิญญาณมีเสียงถอนหายใจลอดออกมา

เจ้าหอโครงกระดูกแอบไว้อาลัยให้กับโจรสลัดพวกนี้ ผู้สูงศักดิ์ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดที่ตายในเงื้อมมือจ้าวเฟิงมีเพียงแค่หนึ่งสองคนเสียเมื่อไหร่ นับประสาอะไรกับมดปลวกพวกนี้

ต่อให้จ้าวเฟิงไม่สามารถใช้สายเลือดดวงตาได้ตามอำเภอใจ เขาก็ยังคงมองข้ามผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิดไปได้เลย

เชว้ง แซ่ด!

การโจมตีของสองโจรสลัดพุ่งเข้ามาจนแทบไม่เห็นเงาวายุอัสนีตรงที่เดิม

“อ๊าก…” โจรสลัดในขั้นนายเหนือแท้ระดับสุดยอดอีกคนกรีดร้องโหยหวน เมื่อโดนคมแสงวายุอัสนีหมุนโค้งตัดร่างออกเป็นสองท่อน

พรวด!

ชายผู้มีแผลเป็นที่เหลืออยู่คนเดียวอดตกใจไม่ได้ คนหนุ่มตรงหน้าผู้นี้ ความเร็วของท่าร่างขนาดขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดยังยากจะตามทัน  เขาสังหารโจรสลัดขั้นนายเหนือแท้อย่างง่ายดายราวหั่นผัก

“เรื่องอะไรกัน!” เพื่อนโจรสลัดตายไปสองคนติดกันด้วยเงื้อมมือของจ้าวเฟิง ทำให้โจรสลัดคนอื่นเกิดสนใจขึ้นมา

กระทั่งหัวหน้าโจรสลัดที่กำลังต่อสู้ แววตาของเขายังจับจ้องมาทางแห่งนี้

แต่ทว่า ไม่ต้องรอให้โจรสลัดคนอื่นๆ เข้าใจสถานการณ์ จ้าวเฟิงกำลังจะลงมือครั้งที่สามกับชายผู้มีแผลเป็นตรงหน้าเขา

โครม แซ่ด แซ่ด!

ยังคงเป็นคมแสงแสงวายุอัสนี แต่ว่ามีวายุอัสนีสีม่วงเส้นเล็กผุดขึ้น ทำให้สิ่งมีชีวิตมากมายในที่นั้นว้าวุ่นไม่เป็นสุข

“หมัดแปดมรณะผนึกสวรรค์!”

ชายผู้มีแผลเป็นพยายามรวมแรงทั้งหมด เรียกเคล็ดวิชาลับเป็นแสงหมัดแปดเส้น สาดกระจายกลิ่นอายโบราณ ค่อยๆ ปิดผนึกและครอบคลุมทั่วท้องฟ้าทีละชั้น

จำต้องยอมรับว่า พลังที่ชายมีแผลเป็นผู้นี้ปลดปล่อยออกมาเลิศล้ำกว่าชายผมแดงเถี่ยหมัว และเกินไปกว่าคนในขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดที่ทวีปบุปผาครามากมาย

แต่ว่าคมดาบแฝงด้วยวายุอัสนีพิฆาตสีม่วงที่ฟาดลงไป ได้ทำลายวิชาอันกล้าแกร่งของชายผู้มีแผลเป็นลงในดาบเดียว

“อ๊าก…” ร่างกายของชายผู้มีแผลเป็นขาดเป็นสองท่อน ทิ้งรอยไหม้ทั่วไว้แขนขา

ภาพนี้ทำให้คนฝั่งเรือรบและโจรสลัดใจสั่นระรัว

“ชายหนุ่มคนนี้มีพลังรบที่น่ากลัวเหลือเกิน!” แววตาของกำลังพลทั้งสองฝั่งมีความเคารพยำเกรง ถึงขั้นหวาดกลัวเสียด้วยซ้ำ

เพียงชั่วครู่

คนในขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดหนึ่งคน และขั้นนายเหนือแท้อีกสองคน โดนคนหนุ่มผู้นี้สังหารอย่างรวดเร็ว

“เจ้าหนุ่มนี่ไม่ธรรมดาเสียแล้ว ข้าอยู่ที่เขาปาฮวงพบแต่อัจฉริยะชั้นยอด แต่เมื่อเปรียบกับเขาแล้วแทบจะเทียบกันไม่ติด”

ฟากเรือรบ ‘โหลวหลานจื๋อสุ่ย’ เจ้าของนัยน์ตาสุกใสตกใจจนแทบจะกัดลิ้นตนเอง ใช้เวลานานกว่าจะเรียกสติกลับคืนมาได้

สังหารโจรสลัดมือดีสามคนติดต่อกัน เรื่องราวในฟากนี้ดึงดูดความสนใจของ ‘หัวหน้าโจรสลัดชุดฟ้า’ เสียแล้ว

“หืม? วิชาของเจ้าคนนี้ หรือว่าจะเป็น…” ‘หัวหน้าโจรสลัดชุดฟ้า’สังเกตเห็นเรื่องราวของทางฟากนี้แล้วอดตกใจไม่ได้

ไม่เพียงแต่พลังของจ้าวเฟิง เสวียนอ้าววิชาลับวายุอัสนีของเขาก็ดึงดูดความสนใจของ ‘โจรสลัดชุดฟ้า’ เป็นอย่างมาก วิชาที่ ‘หัวหน้าโจรสลัดชุดฟ้า’ ฝึกฝนคือวิชามรดกสายวารีอัสนี แต่ว่าในความคิดของเขา วิชามรดกของตนไม่อาจจะเปรียบเทียบกับมรดกวายุอัสนีของจ้าวเฟิงได้

 

“หงซาน เจียวซื่อ!” โจรสลัดชุดฟ้าสะบัดมือซัดผู้เฒ่าชุดหลากสีจนกระอักเลือด แล้วออกคำสั่งอย่างเข้มงวดให้คนที่พอจะใช้ได้สองคนไปจัดการ

“พี่ใหญ่ พวกเราจะจับเจ้านี่เอง!” คนที่กำลังโจมตีเรือรบสองคนปล่อยกลิ่นอายแข็งกล้าสองสายออกมา แบ่งเป็นชายชราหน้าผากบวมถือไม้เท้า ส่วนอีกคนเป็นชายอัปลักษณ์สวมเกล็ดปลาประหลาด

คนทั้งสองอยู่ในขั้นขอบเขตแก่นก่อกำเนิด แต่ว่ากลิ่นอายบนร่างแข็งแกร่งกว่าชายผู้มีแผลเป็นอยู่หนึ่งถึงสองส่วน

“เจ้าหนุ่มน้อย! เจ้ากล้าสังหารพี่น้องข้า ข้าจะแล่หนังเจ้าออกทีละชั้น…”

ชายอัปลักษณ์สวมเกล็ดปลาหัวเราะอย่างโหดเหี้ยม ในมือปรากฏใบมีดสีแดงคล้ำผุพัง

ใบมีดสีแดงคล้ำนั้นสาดกลิ่นอายพลังที่น่าเกรงขามของอาวุธชั้นพิภพ สิ่งมีชีวิตในทะเลความว่างเปล่าละแวกนั้นล้วนแต่อึดอัดจนหายใจยากลำบาก

เศษเสี้ยวอาวุธชั้นพิภพ!

แววตาของจ้าวเฟิงแข็งทื่อ

ชายชราอีกคนที่ถือไม้เท้า ไม้เท้าในมือพิเศษยิ่งกว่า กลิ่นอายที่ปล่อยออกมาอยู่ระหว่างชั้นจิตวิญญาณและชั้นพิภพ

“อาวุธชั้นพิภพเทียม!” เจ้าหอโครงกระดูกในประคำหมื่นวิญญาณเอ่ยเสียงต่ำ

จ้าวเฟิงเคยได้ยินเรื่องอาวุธชั้นพิภพเทียมมาก่อน ใช้ ‘เศษเสี้ยวอาวุธชั้นพิภพ’ เป็นหัวใจสำคัญของวัตถุดิบ แล้วจึงหลอมรวมกับวัสดุอาวุธชั้นจิตวิญญาณ สร้างออกมาเป็นอาวุธวิเศษที่สมบูรณ์

ถึงแม้พลังของอาวุธชั้นพิภพเทียมจะไม่สามารถเทียบอาวุธชั้นพิภพที่แท้จริงได้ แต่ว่าเมื่อเทียบกับเศษเสี้ยวอาวุชั้นพิภพแล้วสมบูรณ์กว่ามาก

“เจ้าหนุ่ม รอก่อน!”

ชายชราถือไม้เท้าและชายเกล็ดปลาอัปลักษณ์ลงมือพร้อมกัน ในอากาศเกิดเป็นเงาพลังสองสายของอาวุธชั้นพิภพ ค่อยๆ ปลดปล่อยพลังที่ยิ่งใหญ่ที่เหมือนจะเหนือกว่าใครในใต้หล้า

จ้าวเฟิงมีสีหน้าตื่นตระหนก เมื่อตกอยู่ในวงล้อมของกลิ่นอายอาวุธชั้นพิภพทั้งสอง

“คนทั้งสองร่วมมือกัน ถึงจะเผชิญหน้ากับผู้สูงศักดิ์ธรรมดา ก็สามารถประมือได้ช่วงเวลาหนึ่ง” ลำแสงวายุอัสนีบนร่างของจ้าวเฟิงสว่างเจิดจ้า เกิดเป็นกลิ่นอายวายุอัสนีพิฆาตสีม่วงที่เห็นได้ชัดขึ้น

แซ่ด เชว้ง!

ความเร็วท่าร่างของจ้าวเฟิงรวมไปถึงพลังที่ใช้โจมตีได้พัฒนาไปถึงขีดขั้นใหม่

พรึ่บ! โครม!

ลำแสงวายุอัสนีกลายเป็นพายุขนาดใหญ่ สาดกลิ่นอายทำลายล้างจากแหล่งกำเนิดวิญญาณออกมา

ชายชราถือไม้เท้าและชายเกล็ดปลาอัปลักษณ์ก็ไม่ได้มีทีท่าหวาดกลัวแต่อย่างใด ร่วมมือกันทำลายลำแสงพายุอัสนีในเป็นจุณ

แต่ว่าในเวลาเดียวกันนั้น เงาลำแสงสายลมและสายฟ้าที่สว่างเจิดจ้ายังคงพุ่งผ่านสองมือสังหาร แล้วย้อนกลับมาโจมตีอีกครั้ง

“รัศมีม่วงพิฆาต แส้วายุอัสนี!” ในมือของจ้าวเฟิงปรากฏแส้วายุอัสนีสีเขียวม่วงยาวหลายสิบจั้ง ปั่นป่วนพลังไอสวรรค์วายุอัสนีในฟ้าดิน

เปี๊ยะ เปรี๊ยะ! โครม ตูม!

‘รัศมีม่วงพิฆาต แส้วายุอัสนี’ หมุนคว้างร่ายระบำ วายุอัสนีซึ่งระเบิดออกเต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้าง เข้าต่อสู้พัวพันกับโจรสลัดทั้งสองคน

“เจ้าหนุ่มนี่มันฝึกวิชามรดกอะไรกัน? พลังรบจึงน่ากลัวขนาดนี้!”

โจรสลัดทั้งสองคนมีอาวุธชั้นพิภพและอาวุธชั้นพิภพเทียม แต่กลับไม่ได้เปรียบกว่าแม้แต่น้อย ในใจจึงมีคลื่นความหวั่นเกรงถาโถม

“วายุอัสนีพิฆาติสีม่วงงั้นรึ? หรือว่าจะเป็นมรดกของ ‘จักรพรรดิวายุอัสนี’ ในตำนานผู้นั้น?” หัวหน้าโจรสลัดชุดฟ้าในขั้นผู้สูงศักดิ์ที่สังหารอยู่อีกฟากใจสั่นระรัว เขาโดนสถานการณ์ทางนี้ดึงดูดความสนใจไปจนหมดสิ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version