Skip to content

King of Gods 699

King Of Gods

บทที่ 699 เนรมิตเขตแดนมิติ

เมื่อเอ่ยถึง ‘จักรพรรดิโจรสลัด’ รุ่นแรก ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์สิบแปดยอด ไม่ว่าจะโจรสลัดคนไหนก็ต้องยกนิ้วให้ด้วยความนับถือจากใจจริง ไม่ว่าจะเป็นโจรสลัดที่ชั่วร้ายหรือราชาโจรสลัดที่มีอิทธิพลในช่วงขณะหนึ่งก็เป็นเหมือนกัน

เรื่องเกี่ยวกับจักรพรรดิโจรสลัดในแต่ละช่วงสมัยสามารถเขียนเป็นบันทึกโบราณได้อย่างแน่นอน

“จักรพรรดิโจรสลัด ไม่เพียงแต่เป็นจักรพรรดิชั้นยอดในขอบเขตปราณเทวะ เขายังเป็นปรมาจารย์ด้านกลไก ปรมาจารย์ค่ายกล เชี่ยวชาญในเคล็ดวิชามิติ เป็นปรมาจารย์ที่มีความสามารถในทุกด้านอย่างแท้จริง…”

บนใบหน้าของราชาเหมันต์จันทรามีสีหน้าของความนับถือที่หาได้ยากยิ่ง

ในยุคสมัยนั้น พลังของจักรพรรดิโจรสลัดอยู่เหนือคนทั้งมวล ซ้ำยังมีเสน่ห์เหนือคนทั่วไป

ว่ากันว่าภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฝูเมิ่ง บุตรสาวของตระกูลระดับสูงต่างหลงเสน่ห์เขากันหลายคน

จะต้องรู้ว่า บ้านสกุลใหญ่ๆ จำนวนมากเหล่านั้นมีพลังอำนาจใกล้เคียงกับสำนักสามดาว มีประวัติความเป็นมายาวนาน แล้วยังเคยมีเซียนในขอบเขตเทวาเร้นลับปรากฏขึ้นอีกด้วย

ทว่าเดิมทีจักรพรรดิโจรสลัดคนแรกไม่ใช่โจรสลัด แต่เป็นปรมาจารย์กลไกผู้หนึ่ง

หากจะพูดให้แน่ชัดคือเป็น ‘โจรปล้นสุสาน’ ผู้หนึ่งต่างหาก

จ้าวเฟิงสามารถคาดเดาได้ ปรมาจารย์กลไกผู้หนึ่งทำเรื่องปล้นสุสาน เช่นนั้นคงจะร่ำรวยรุ่งเรืองมากไม่ใช่หรือ

 

จักรพรรดิโจรสลัดมีโชคยิ่งนัก สามารถขุดหาสุสานโบราณได้เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงมรดกต่างๆ ส่วนหนึ่งด้วย

หลายสิบปีให้หลัง ความสามารถในการสร้างค่ายกลของเขาก็แตะถึงระดับปรมาจารย์ ทั้งยังเชี่ยวชาญในเคล็ดวิชามิติ สามารถค้นพบมิติลี้ลับที่โดนหลงลืมหรือโลกมิติส่วนตัว

ตามข่าวลือว่ากันว่า จักรพรรดิโจรสลัดยังค้นเจอมิติลึกลับของอารยธรรมที่ ‘เผ่าความลับสวรรค์’ ทิ้งไว้ด้วย

เผ่าความลับสวรรค์เป็นเผ่าพันธุ์ในตำนานอันดับที่สามของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ

ถ้าหากจะบอกว่าเผ่าพันธุ์โบราณมีสายเลือดที่สมบูรณ์แบบที่สุด และมีพลังที่สูงส่งไร้เทียมทานแล้วล่ะก็ เช่นนั้นเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ก็มีความรู้สูงส่งเป็นที่สุด

เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ จ้าวเฟิงก็ใจแข็งค้าง

หลังจากที่มั่งคั่งขึ้นจากการ ‘ปล้นสุสาน’ แล้ว พลังของจักรพรรดิโจรสลัดก็เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จนกลายมาเป็นปรมาจารย์ที่มากความสามารถในทุกด้าน

จากนั้นเขาจึงเริ่มต้นเป็นโจรสลัด แล้วจึงกลายเป็นจักรพรรดิโจรสลัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงเวลาหนึ่ง

“ในช่วงเวลานั้น จักรพรรดิโจรสลัดก็เป็นเหมือนเทพที่ทำได้ทุกอย่าง อยู่เหนือคนทั้งโลก ซ้ำยังเคยกวาดล้างทำลายสำนักสองดาว ในนั้นยังรวมถึงสำนักสองดาวระดับสุดยอดอีกด้วย”

“จักรพรรดิโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่ผลักดันให้โจรสลัดแห่งทะเลความว่างเปล่าไปจนถึงยุครุ่งโรจน์”

“ทรัพย์สมบัติที่เขาสะสมไว้มีจำนวนหลายสิบเท่าของจักรพรรดิทั่วไป หรือกระทั่งมากกว่าร้อยเท่าเสียด้วยซ้ำ”

ภายในโถงใหญ่ ยอดฝีมือโจรสลัดจำนวนหนึ่งพูดกันน้อยคำ ทุกคนล้วนกระตือรือร้นกันมาก

จุดสำคัญที่ทุกคนสนใจก็คือทรัพย์สมบัติของจักรพรรดิโจรสลัด

กระทั่งมีคนพูดว่าทรัพย์สมบัติของจักรพรรดิโจรสลัดเทียบเท่าได้กับสำนักสามดาวของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฝูเมิ่ง

แต่ว่าทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นฝุ่นธุลีที่ซ่อนอยู่ในประวัติศาสตร์

มีเพียงยามช่วงชิงตำแหน่งจักรพรรดิโจรสลัดที่สามร้อยปีมีหนหนึ่ง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิโจรสลัดเปิดออก จึงจะสามารถมองเห็นได้เพียงเล็กน้อย

“จักรพรรดิโจรสลัดแข็งแกร่งเช่นนี้ เรียกได้ว่าไม่มีอะไรทำไม่ได้ เช่นนั้นแล้วเขาตายได้อย่างไรกัน?”

เสียงหนึ่งดังแทรกคำสรรเสริญเยินยอของบรรดาโจรสลัดทั้งหลายในฉับพลัน

เจ้าของเสียงนี้ก็คือจ้าวเฟิง

แล้วภายในโถงก็ตกลงสู่ความเงียบงัน

“จักรพรรดิโจรสลัดตายเพราะเซียนในขอบเขตเทวาเร้นลับของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฝูเมิ่ง”

กลุ่มโจรสลัดเห็นได้ชัดว่าตกอยู่ในสภาวะห่อเหี่ยว

เซียนในขอบเขตเทวาเร้นลับ!

นั่นเป็นระดับที่อยู่เหนือขั้นจักรพรรดิ ขาดอีกเพียงก้าวเดียวก็จะไปถึง ‘ขอบเขตเซียนสวรรค์’

ในดวงตาของเด็กน้อยครึ่งเซียนเป็นประกายแปลกประหลาด

ในสมองของเขาจดจำเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้เล็กน้อย

เซียนในขอบเขตเทวาเร้นลับผู้นั้น ถึงกระทั่งว่ารู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิโจรสลัด

แต่ว่าครึ่งเซียนคุนอวิ๋นในยามรุ่งโรจน์ยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเซียนทั่วไปเสียอีก เท้าข้างหนึ่งก้าวเข้าสู่ตำแหน่งเซียน จึงถูกขนานนามว่าครึ่งเซียน

“จากการตามล่าของเซียนในขอบเขตเทวาเร้นลับ จักรพรรดิโจรสลัดยุคหนึ่งได้รับบาดเจ็บถึงชีวิต สุดท้ายจึงหยิบยืมเอาอุปกรณ์ลึกลับในมรดกความลับสวรรค์หนีตายออกมา ก่อนที่จะตายก็ได้จัดแจงมรดกจักรพรรดิโจรสลัดของตนเองจนเรียบร้อย” ราชาเหมันต์จันทราเอ่ยพึมพำ

เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ จ้าวเฟิงอดทอดถอนใจไม่ได้ เซียนในขอบเขตเทวาเร้นลับมีฤทธิ์เดชมากจริงๆ

จักรพรรดิวายุอัสนีกับจักรพรรดิโจรสลัด มีคนใดบ้างไม่ใช่ผู้ที่โดดเด่นแห่งยุคสมัย

แต่สุดท้ายพวกเขาคุยโวโอ้อวดเกินไป จนเกิดเรื่องกับสำนักสามดาวของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เซียนในขอบเขตเทวาเร้นลับต้องลงมือด้วยตนเอง

ตามที่จ้าวเฟิงรู้มา เซียนในขอบเขตเทวาเร้นลับในทะเลชังไห่ล้วนแต่ปิดด่านฝึกตนเป็นเวลานาน เพื่อที่จะรับมือกับด่านเคราะห์อัสนีเทวะ

ถ้าหากไม่จำเป็น เซียนในขอบเขตเทวะเร้นลับจะไม่วุ่นวายเรื่องอื่นๆ ในโลก มีเพียงสิ่งเดียวที่พวกเขาสนใจก็คือขอบเขต ‘เซียน’หรือขอบเขตเซียนสวรรค์เท่านั้น

จ้าวเฟิงเคยอยู่ที่สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเจินช่วงเวลาหนึ่ง แต่ว่ายังไม่เคยเห็น ‘ผู้อาวุโสสูงสุด’ ในตำนานผู้นั้น

แน่นอนว่าจักรพรรดิวายุอัสนีหรือจักรพรรดิโจรสลัด จักรพรรดิชั้นยอดเหล่านี้สามารถยั่วยุให้เซียนในขอบเขตเทวาเร้นลับลงมือได้ เห็นได้เลยว่ากำลังรบที่น่ากลัวของพวกเขาในตอนนั้น คนที่อยู่ต่ำกว่าขั้นเซียนลงไปแทบจะไม่มีใครประมือด้วยได้

แต่ทว่า จ้าวเฟิงก็เกิดคำถามขึ้นอีกครั้ง

ทำไมจักรพรรดิคนอื่นๆ กลับไม่แบ่งมรดกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิโจรสลัด

เซียนในขอบเขตเทวาเร้นลับอาจจะมองข้ามไป แต่ว่าสำนักสองดาวและบรรดาจักรพรรดิส่วนหนึ่ง น่าจะสนใจ

“ตำแหน่งของจักรพรรดิโจรสลัดยิ่งใหญ่เกินจะเปรียบ เขาเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกล ปรมาจารย์กลไก แล้วยังได้รับมรดกของเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ มรดกที่เขาจัดการไว้มีเพียงโจรสลัดที่สามารถสืบทอดได้”

“จักรพรรดิที่มาจากภายนอก ถ้าหากทะลวงเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดจะต้องโดนต่อต้าน เมื่อพันปีก่อน จักรพรรดิผู้หนึ่งเกือบตายเพราะโดนแรงสะท้อนกลับนี้”

“ในทันทีที่สืบทอดพลังของจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่นี้ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิจะต้องสูญสลาย ต่อให้เป็นเซียนก็ยังต้องพรั่นพรึง”

คนจำนวนมากมายต่างพูดคุยถึงเหตุผลอย่างออกรส

สรุปแล้ว หลายหมื่นปีที่ผ่านมา มีเพียงบรรดาโจรสลัดของหุบเขาสิบแปดยอดถึงจะได้รับสมบัติหรือไม่ก็มรดกส่วนหนึ่งของจักรพรรดิโจรสลัด

อีกอย่างจากการล่มสลายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิโจรสลัด  บรรดายอดฝีมือของดินแดนจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้ว่างที่จะมาจัดแจงเรื่องพวกนี้

แล้วยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของมรดกจักรพรรดิโจรสลัด ในทุกครั้งที่เปิดออกก็จะพิจารณาหาผู้สืบทอดแล้วมอบรางวัลที่เหมาะสมให้ มรดกและทรัพยากรที่ปรากฏออกมามากพอจะเขย่าขวัญจักรพรรดิในระดับแนวหน้าหลายคน

แน่นอนว่าที่มรดกจักรพรรดิโจรสลัดดึงดูดโจรสลัดจำนวนมาก ยังมีเหตุผลอีกข้อหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง

นั่นก็คือ คนที่ได้รับสืบทอดมรดกของจักรพรรดิโจรสลัดทุกคนล้วนแต่ ‘กลายเป็น’ จักรพรรดิในขอบเขตปราณเทวะอย่างรวดเร็วภายในเวลาสิบปี

ถ้าหากเป็นจักรพรรดิธรรมดา จะสามารถกลายเป็นจักรพรรดิชั้นยอด ในจุดนี้สำหรับราชาโจรสลัดทุกผู้แล้วมีความเย้ายวนยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น

“น่าสนใจเสียจริง” จ้าวเฟิงอดจะสนใจในมรดกจักรพรรดิโจรสลัดบ้างไม่ได้

การช่วงชิงตำแหน่งของจักรพรรดิโจรสลัดมีกฎเกณฑ์กติกา อย่างน้อยๆ จะต้องสะสมตราคำสั่งราชาโจรสลัดให้ครบเก้าแผ่น หรือก็คือจำนวนครึ่งหนึ่งของตราคำสั่ง จึงจะสามารถเปิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิโจรสลัดได้

ตราคำสั่งไม่สามารถนำออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดสิบแปดยอด นี่คือการวางหมากของจักรพรรดิโจรสลัด ทันทีที่ขัดขืนก็เท่ากับว่าต่อต้านกับพลังในฟ้าดินของหุบเขาสิบแปดยอด

อีกทั้งมีเพียงเรือในตำนานของสิบแปดยอดราชาโจรสลัดเท่านั้น ถึงจะเข้าไปภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิได้

จ้าวเฟิงอดจะคิดถึงเรือหุ่นเชิดศพของตนที่หลอมรวมเข้ากับกลิ่นอายของตราคำสั่งราชาโจรสลัดไม่ได้  มันไม่อาจออกไปจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดสิบแปดยอด

นี่เป็นเพราะสาเหตุในเรื่องนี้จริงๆ

เช่นนั้นแล้วเขาจึงจำเป็นต้องเข้าร่วมการแย่งชิงบัลลังก์จักรพรรดิโจรสลัด

“จ้าวเฟิง เจ้าทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมแถวนี้ก่อน เพื่อให้เรือของเจ้าคุ้นชินกับเรือรบของพวกเรา” ราชาเหมันต์จันทราเอ่ยกำชับ

จ้าวเฟิงผงกศีรษะน้อยๆ แล้วออกจากห้องโถงกลับไปยังเรือหุ่นเชิดศพ

ในตอนนี้เขายังไม่ต้องเข้าร่วมการต่อสู้ เพียงแค่ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมโดยรอบเสียก่อน เพื่อจะได้กลมกลืนเข้ากับกองทัพของราชาเหมันต์จันทรา

พวกของราชาเหมันต์จันทรารวมไปถึงตัวนางเองมีราชันทั้งหมดสี่คน เมื่อรวมจ้าวเฟิงอยู่ในนั้นด้วย จะมีตราคำสั่งราชาโจรสลัดสามแผ่น แต่ว่ายังไม่เพียงพอ อย่างน้อยๆ จะต้องรวบรวมป้ายตราคำสั่งได้เก้าแผ่นถึงจะสามารถเปิดผนึก แล้วเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์มรดกของจักรพรรดิโจรสลัด

ดังนั้นการช่วงชิงตำแหน่งจักรพรรดิโจรสลัด จะต้องเป็นการต่อสู้จนหยาดฝนตกลงเป็นสายเลือดอย่างแน่นอน

บนเรือหุ่นเชิดศพ

จ้าวเฟิงเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องให้เจ้าหอโครงกระดูกฟัง

เรื่องที่เกี่ยวกับเรือโจรสลัดและเรื่องที่จะเป็นพวกเดียวกับราชาเหมันต์จันทรา จึงมอบให้เจ้าหอโครงกระดูกจัดการ

เพื่อการนั้นจ้าวเฟิงจึงเพิ่มทรัพยากรที่มอบให้กับเจ้าหอโครงกระดูก ช่วยเขาเพิ่มพลังฝึกตนให้แข็งแกร่ง เพื่อเสริมให้สภาวะโครงกระดูกแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้นหนึ่ง

ไม่นานนี้เพิ่งจะสังหารราชันในระดับลึกซึ้งผู้หนึ่ง ผลประโยชน์ที่จ้าวเฟิงได้มามากมายมหาศาล นับได้ว่าใจกว้างไม่น้อย

ในห้องหัวหน้าเรือ

จ้าวเฟิงนั่งขัดสมาธิ ย้อนระลึกถึงเรื่องวันนี้ในขณะที่ประลองกับราชาเหมันต์จันทราและราชาอสรพิษดำ

ที่เขาเอาชนะราชาอสรพิษดำที่เป็นราชันในระดับลึกซึ้งได้เป็นเพราะความช่วยเหลือจากเด็กน้อยครึ่งเซียนด้วย เพราะอย่างไรจ้าวเฟิงก็ไม่สามารถใช้สายเลือดดวงตาได้

“ในสถานการณ์ที่ไม่ใช้สายเลือดดวงตาแล้วประมือตัวต่อตัวกับราชันในระดับลึกซึ้ง ข้ารับรองได้เลยว่าความน่าจะเป็นที่จะเอาชนะได้มีน้อยนิดนัก” จ้าวเฟิงได้ข้อสรุป

ถ้าหากเป็นราชันในระดับสุดยอด ต่อให้ใช้สายเลือดดวงตา ความเป็นไปได้ที่จะเอาชนะก็มีไม่มากนัก

ความคิดของจ้าวเฟิงล่องลอยไปมา

ความต่างของเขากับราชันในระดับลึกซึ้งอยู่ที่เขตแดนมิติ

“ถึงจะเป็นเช่นนั้น…ข้าเองก็สามารถสร้างเขตแดนมิติได้” สายตาของจ้าวเฟิงเป็นประกาย

เขามีความเข้าใจในเขตแดนมิติ แล้วยังเคยเข้าไปภายในโลกมิติส่วนตัวของตวนมู่ชิง

โลกมิติส่วนตัวของตวนมู่ชิงเป็นมิติที่เป็นรูปธรรมและมีระดับขั้นที่สูงกว่า

ด้วยความช่วยเหลือของตวนมู่ชิง

ขนาดจ้าวหยูเฟยที่สืบทอดซากปรักหักพังสือเฉิง  ยังหลอมสร้างโลกมิติส่วนตัวได้ก่อนโดยมีเศษเสี้ยววิญญาณสือเฉิงเป็นแก่นกลาง

“เขตแดนมิติที่สร้างขึ้นโดยราชันธรรมดาจะไม่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ นี่น่าจะไม่ยากนักสำหรับข้า”

จ้าวเฟิงเชื่อมั่นอย่างยิ่ง ด้วยเพราะพรสวรรค์ของเขาเป็นแขนงวิญญาณ ทั้งยังชำนาญวิชาลวงตาศาสตร์วิญญาณอีกด้วย

 

เนิ่นนานก่อนหน้านี้เขาเคยสร้าง ‘เมืองวงกตมายา’ ซึ่งเป็นวิชาลวงตาในลักษณะอาณาเขต อีกทั้งเขตแดนมิติประเภทนี้จะต้องผสานสำนึกรู้มิติของตนเองเข้าไปจนกระทั่งเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

“แต่ทว่าจะหลอมรวมสำนึกรู้ใดเข้ากับพื้นที่มิติเล่า?” จ้าวเฟิงตกลงไปในห้วงภวังค์ความคิด

มีตัวเลือกหลายข้อวางเรียงให้เขาเลือก

ข้อแรกคือสายเลือดดวงตา ใช้เมืองวงกตมายาเป็นต้นฉบับ น่าจะสำเร็จอย่างรวดเร็ว

ข้อสองคือใช้อาณาเขตวายุอัสนี ตัวเลือกนี้จะนำเอาสำนึกรู้วายุอัสนีมาสรรสร้างให้เป็นพื้นที่มิติที่สมจริง

จ้าวเฟิงคาดการณ์ว่านี่น่าจะเปลืองเวลาอยู่บ้าง

ข้อที่สามคือสายเลือดเหมันต์วารี จะสร้างเขตแดนมิติแห่งหนึ่งจากพื้นฐานของพลังสายเลือด

จ้าวเฟิงคาดว่าสายเลือดเหมันต์วารีของตนเองถนัดการควบคุมป้องกันมากกว่าถ้าหากสร้างเป็นพื้นที่มิติย่อมต้องถนัดตามนั้นไปด้วย

เมื่อครุ่นคิดแล้ว จ้าวเฟิงจึงตัดสินใจเลือกสร้างพื้นที่มิติตามแบบ ‘เมืองวงกตมายา’

“พื้นที่มิติแห่งนี้สามารถปลดปล่อยข้อได้เปรียบของชั้นวิญญาณข้าได้ แล้วที่สำคัญก็คือเพิ่มพลังของข้าได้ในระยะเวลาอันสั้น” จ้าวเฟิงลอบผงกศีรษะน้อยๆ

สองวันถัดมา จ้าวเฟิงปิดผนึกฝึกตนเพื่อจะจัดการให้โครงสร้างของ ‘เมืองวงกตมายา’ สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

ทะเลวิญญาณสีม่วง

ห้วงความคิดของจ้าวเฟิงแบ่งออกเป็นสิบกลุ่ม บินคาดคะเนและเลียนแบบอย่างว่องไว

รูปร่างของเมืองวงกตมายาที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันปรากฏขึ้นในหัว

สภาพทั้งหมดของเมืองวงกตมายาถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันเป็นรัศมีหลายร้อยลี้ หมอกควันขมุกขมัวให้ความรู้สึกลวงตาน่าดึงดูดใจ ทำให้สรรพชีวิตต่างๆ ตกหลุมพรางจนยากจะถอนตัว

วิ้ง!

จ้าวเฟิงเพิ่มพลังวิญญาณเข้าไปภายใน เพื่อให้เค้าโครงของเมืองวงกตมายายิ่งชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น

เมืองวงกตมายาในอดีตเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้มันค่อยๆ ปรากฏภาพเสมือนจริงขึ้นมาชั้นหนึ่ง

เมืองวงกตมายาใช้เจตจำนงของจ้าวเฟิงเป็นแกนหลัก สามารถหลอมรวมเข้ากับฟ้าดิน ทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นอีกขั้นท่ามกลางอานุภาพของฟ้าและดิน

ในวินาทีใดวินาทีหนึ่งนั้นเอง

ภายนอกของเรือหุ่นเชิดศพปรากฏเงาสมจริงของเมืองหมอกควันเลือนราง

ในตอนแรกเงานั้นสั่นไหวไม่ชัดเจน แต่ต่อมาเหมือนกับว่าหล่อหลอมเข้ากับธรรมชาติแล้ว จึงทะลักพลังมหาศาลของราชันออกมา

“นี่มันเรื่องอะไรกัน…”

เจ้าหอโครงกระดูกค้นพบว่าตนเองตกเข้าไปอยู่ภายในเมืองหมอกมายากึ่งจริงกึ่งลวงตา

“นี่ไวเกินไปแล้ว” เด็กน้อยครึ่งเซียนเบิกตากว้าง จ้าวเฟิงสามารถสร้างเขตแดนมิติในแขนงวิญญาณได้รวดเร็วเหลือเกิน

“นี่ก็คือพรสวรรค์อย่างไรเล่า”

จ้าวเฟิงเองก็รู้สึกแปลกใจไม่ต่างกัน การสร้างพื้นที่มิติในแขนงดวงวิญญาณ ดูเหมือนจะเป็นความสามารถดั้งเดิมของเขาไปแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version