บทที่ 716 เผชิญหน้าอีกครั้ง
“คารวะจักรพรรดิราชาโจรสลัด!” บรรดาโจรสลัดจำนวนมากคุกเข่าลงคารวะ
ราชาเหมันต์จันทราออกมาจากมรดกจักรพรรดิราชาโจรสลัดแล้ว ผืนฟ้าที่ว่างเปล่าถูกแสงหนาวเหน็บสีเงินยวงของดวงจันทร์เข้ามาแทนที่ เหมือนว่าอยู่ในโลกของดวงดาวที่เวิ้งว้าง
แสงจันทราหนาวเหน็บไร้รูปร่าง เป็นประหนึ่งปรอทสีเงินที่แทรกซึมเข้าไปในทุกช่องว่างที่จะผ่านเข้าไปได้
บรรดาราชาโจรสลัดที่อยู่ในที่ดังกล่าวเกิดความรู้สึกเหมือนโดนมีดที่แหลมคมทะลวงผ่านร่างกายและจิตใจ
พลังเย็นยะเยือกกลุ่มนั้น เหมือนคมมีดเล็กๆ รูปจันทร์เสี้ยวจำนวนมากทะลวงผ่านไปยังขอบเขตดวงวิญญาณ ถ้าหากต้องการ เพียงห้วงความคิดหนึ่งก็สามารถฉีกแยกทุกสรรพสิ่งเป็นชิ้นๆ ได้
“ที่แท้แล้วนางก็ว่องไวขนาดนี้…” ราชาฉลามยักษ์นิ่งอึ้ง ความกลัวในแววตามีร่องรอยของความเคารพยำเกรงเข้ามาแทนที่
ว่ากันตามจริงแล้ว ราชาเหมันต์จันทราในวันนี้ต้องใช้คำว่า ‘จักรพรรดิเหมันต์จันทรา’ มาเรียกขานน่าจะถูกว่า
“ปราณเทวะที่สมบูรณ์! การเปลี่ยนแปลงทางดวงวิญญาณของนางมาจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบดั่งใจหวัง สว่างกระจ่างใสราวกระจก และสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกับฟ้าดิน ถือได้ว่าเป็นระดับขั้นสูงส่งที่ผู้คนคาดหวัง”
ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงมองการเปลี่ยนแปลงในระดับพลังของราชาเหมันต์จันทราอย่างทะลุปรุโปร่ง
เขตแดนมิติของจักรพรรดิเหมันต์จันทราได้หลอมรวมเป็นหนึ่งกับฟ้าดิน แนบสนิทไม่แยกจากกัน จนหารอยโหว่ไม่ได้แม้แต่นิด
นอกเหนือจากนี้ มงกุฏลึกลับเหนือศีรษะของจักรพรรดิเหมันต์จันทราก็ดึงดูดความสนใจของจ้าวเฟิงด้วย
มงกุฏลึกลับนี้เหมือนจะสอดประสานอย่างประหลาดกับยอดเขาสูงสุดที่อยู่ตรงกลางระหว่างยอดเขาเดี่ยวสิบแปดแห่ง
ราชาเหมันต์จันทราไม่เพียงแต่เพิ่มระดับขั้นเป็นจักรพรรดิ แต่มงกุฏลึกลับยังเสริมให้นางมีพลังคุ้มกันที่ไร้รูปร่างด้วย
“ท่านจักรพรรดิโจรสลัด!” ราชาโจรสลัดสิบแปดยอดคนใหม่พากันก้าวออกมาแสดงความจงรักภักดี และยอมสวามิภักดิ์ด้วย
มงกุฎลี้ลับที่จักรพรรดิเหมันต์จันทราสวมใส่อยู่สามารถสั่งตราคำสั่งราชาโจรสลัดแผ่นอื่นๆ ได้
“จักรพรรดิเหมันต์จันทรา ยินดีด้วย! ตั้งแต่นี้ไปท่านจะเป็นผู้ปกครองสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดแห่งนี้”
ราชาฉลามยักษ์เผยรอยยิ้มบนใบหน้า ค้อมกายลงน้อยๆ
เวลานี้ ผู้แข็งแกร่งขั้นราชันช่วงสุดยอดอย่างเขาก็ยังเป็นบริพารในจักรพรรดิเหมันต์จันทราด้วย
จักรพรรดิโจรสลัดสามารถสั่งราชาโจรสลัดแห่งหุบเขาสิบแปดยอด ปกครองทั่วทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด
นี่ก็คือกฎเกณฑ์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดโจรสลัดที่มีมายาวนานนับพันปี!
จักรพรรดิเหมันต์จันทรา ไม่ว่าจะความสามารถหรือว่าอำนาจในตำแหน่งล้วนแต่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด
“จ้าวเฟิง! ความสำเร็จในครั้งนี้ได้ความช่วยเหลือจากเจ้า” นัยน์ตางามราวจันทร์เสี้ยวของจักรพรรดิเหมันต์จันทราปรากฏแววซาบซึ้งและขบขันที่หาได้ยากยิ่ง
พรึ่บ!
นางสาวเท้าเพียงก้าวเดียวก็ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างกายจ้าวเฟิง เหมือนว่าหายตัวไร้ร่องรอยได้เช่นนั้น
จ้าวเฟิงตกใจอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นจักรพรรดิก็ไม่น่าจะมีความสามารถที่เก่งกล้าเช่นนี้ สาวเท้าเพียงก้าวเดียวก็ข้ามผ่านทางเป็นพันลี้ได้อย่างสบายๆ
“ข้ากลายมาเป็นจักรพรรดิโจรสลัดคนใหม่ ได้รับความคุ้มครองจากพลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด ความสามารถเพิ่มขึ้นอย่างมาก มีระยะเวลาจำกัดสิบปี หนำซ้ำภายในสิบปีข้าไม่สามารถออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดสิบแปดยอดได้” ราชาเหมันต์จันทราอธิบาย
ถึงแม้ว่ามรดกจักรพรรดิโจรสลัดจะช่วยกลายเป็นจักรพรรดิได้อย่างรวดเร็ว แต่ใช่ว่าจักรพรรดิคนใหม่ทุกคนจะสามารถขึ้นไปถึงขั้นจักรพรรดิได้เร็วเช่นนั้น
คนที่เพิ่งจะกลายเป็นจักรพรรดิโจรสลัด จะได้รับโล่คุ้มครองจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด
ก่อนหน้านี้จักรพรรดิเหมันต์จันทราคือราชันในช่วงสุดยอด อีกทั้งยังแตะถึงขั้นจักรพรรดิปราณเทวะ ดังนั้นจึงสามารถผ่านไปได้อย่างราบรื่น ได้เลื่อนขั้นเป็นจักรพรรดิ
โล่มงกุฎของจักรพรรดิโจรสลัด ทำให้ภายในสิบปีนี้จักรพรรดิเหมันต์จันทราไม่จำเป็นต้องหวั่นเกรงจักรพรรดิในขอบเขตปราณเทวะหน้าไหนอีก
แล้วในเวลานี้เอง
วิ้ง~
แรงดึงดูดที่ไร้ร่องรอยปรากฏขึ้นจากใจกลางคลื่นน้ำวนยักษ์บนผิวน้ำทะเลละแวกใกล้เคียง
สิ่งมีชีวิตจากภายนอกไม่อาจต้านทานพละกำลังนั้นได้
“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มรดกจักรพรรดิโจรสลัดกำลังจะปิดตัวลง”
จักรพรรดิเหมันต์จันทราถ่ายทอดคำสั่ง ราชาโจรสลัดสิบแปดยอดนำกองกำลังโจรสลัดทั้งหมดเดินทางออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์
จ้าวเฟิงเก็บเรือหุ่นเชิดศพ แล้วนั่งเรือรบของจักรพรรดิเหมันต์จันทราเข้าไปในน้ำวนขนาดยักษ์
โลกภายนอก ใจกลางของหุบหุบเขาสิบแปดยอด
โครม โครม!
ใจกลางน้ำวนของคลื่นยักษ์สูงพันจั้ง ปรากฏเรือสำเภาโจรสลัดในตำนานออกมาทีละลำ
กลิ่นอายราชันกับจักรพรรดิเผยออกมาทีละน้อยๆ
หลังจากที่ออกมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิโจรสลัด พลังของราชาโจรสลัดเหล่านี้ ส่วนมากแล้วเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเข้าไปในหุบเขาสิบแปดยอด จ้าวเฟิงรู้สึกได้ว่าการเชื่อมโยงระหว่างเรือหุ่นเชิดศพกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดได้ขาดสะบั้นลงแล้ว
ในตอนนี้ เขาก็จะไม่ถูกจำกัดใดๆ อีก สามารถใช้เรือหุ่นเชิดศพจากไปได้แล้ว
ไกลออกไปหลายพันลี้ ในส่วนลึกของทะเลความว่างเปล่า
เรือสำเภาแห่งความตายลำหนึ่งจมดิ่งลงในก้นบึ้งมหาสมุทรที่เงียบเหงาเวิ้งว้าง
“รายงานราชาจิตวิญญาณมรณะและองค์ชายสาม กองกำลังของโจรสลัด ออกมาจากด้านในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดแล้ว” องครักษ์แห่งความตายผู้หนึ่งนั่งคุกเข่าข้างหนึ่งบนพื้นเรือ
“จ้าวเฟิงคนนั้นออกมาแล้วหรือยัง?” บนใบหน้าอบอุ่นของเวินลั่วอันมีร่องรอยความคาดหวัง
พรึ่บ!
เวลานี้เอง มีองครักษ์แห่งความตายอีกคนปรากฏกายขึ้น
“รายงาน มีข่าวร้ายเรื่องหนึ่ง ในพันธมิตรโจรสลัดมีจักรพรรดิโจรสลัดคนใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว ทั้งยังกลายเป็นจักรพรรดิในขอบเขตปราณเทวะด้วย” องครักษ์แห่งความตายที่ตามมาทีหลังเอ่ย
จักรพรรดิโจรสลัด! จักรพรรดิปราณเทวะ!
ราชาอินหยางและราชาจิตวิญญาณมรณะที่เหลือหน้าเปลี่ยนสี
ฟากของพันธมิตรโจรสลัดมีบรรดาราชันปราณเทวะมากมาย แล้วยังมีจักรพรรดิโจรสลัดที่อยู่ในระดับจักรพรรดิอีก สถานการณ์ไม่เป็นใจอย่างยิ่ง
“จักรพรรดิโจรสลัดที่ถือกำเนิดใหม่ จะได้รับการปกป้องคุ้มครองจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด ยากที่จะเอาชนะได้”
หญิงสาวในชุดดำสีหน้าซีดเผือด รอบกายหมุนวนด้วยเพลิงประหลาดสีขาว ผิวหนังทั่วร่างล้วนซีดขาวประหนึ่งผีสาวตนหนึ่ง นางเองก็เป็นหนึ่งในราชาจิตวิญญาณมรณะเช่นกัน
ราชาจิตวิญญาณมรณะอีกคนเป็นชายหนุ่มตัวดำทะมึน ร่างกายเหมือนไร้น้ำหนัก ดวงตาสีเขียวเข้มคู่หนึ่งปรากฏขึ้นอย่างไร้ที่มา
“ราชาแม่มด ราชาวิญญาณมืด แจ้งบรรดาบริวารของเจ้าให้เก็บงำกลิ่นอายของตราคำสั่งมรณะ พวกองครักษ์แห่งความตายกระจายตัวกันไป” ราชาอินหยางเอ่ยกำชับ
“จู่ๆ ก็มีจักรพรรดิโจรสลัดโผล่ออกมา…” ใบหน้าของเวินลั่วอันมีความไม่พอใจปรากฏขึ้น
ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถตามล่าสังหารจ้าวเฟิง แถมยังต้องหลบอีกด้วย
“ตอนนี้พวกเราจับตามองจ้าวเฟิงไปก่อน การฟื้นฟูพลังของท่านอาจารย์น่าจะเสร็จสิ้นลงในเร็วๆ นี้ รออีกหลายวัน ทั้งหมดก็จะสิ้นสุดลง” ราชาอินหยางเอ่ยเสียงแหบต่ำ ให้ความรู้สึกทับซ้อนไปมา
ในราชาจิตวิญญาณมรณะทั้งสี่ ราชาอินหยางเป็นราชันในช่วงสุดยอด และพลังก็ยังแข็งแกร่งที่สุดด้วย
“ข้าจะต้องล้างแค้นให้ได้ ‘ราชาอเวจี’ เคยตายเพื่อข้าครั้งหนึ่ง จนตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้นฟู…”
มือสองข้างของเวินลั่วอันกำแน่น ในแววตาปรากฏแววเหี้ยมโหด
ที่จริงแล้วในขณะที่เข้าไปภายในอุทยานครึ่งเซียน เวินลั่วอันใช้วิธีการพิเศษนำราชาจิตวิญญาณมรณะเข้าไปด้วย
แต่ว่ากฎเกณฑ์ของอุทยานครึ่งเซียนเข้มงวดมาก อีกทั้ง ‘พลังจากภายนอก’ อื่นๆ จะไม่สามารถออกมาได้
ในการระเบิดตัวเองครั้งสุดท้าย ‘ราชาอเวจี’ ที่เขาพาไปด้วยแบกรับแรงดูดกลืนของแกนกลางพลังต้องห้ามเข้าไป จึงสูญสลายไปในทันที
เวลาดังกล่าว ระดับขั้นในการฝึกตนของเวินลั่วอันเองก็ตกลงไปหลายขั้นเพราะเรื่องนี้
ส่วนราชาอเวจี ถึงแม้ว่าจะเก็บรักษาเศษเสี้ยวดวงวิญญาณเอาไว้ได้ แต่ว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถฟื้นคืนมา
ด้วยเหตุนี้ การตามล่าสังหารในครั้งนี้จึงมีราชาจิตวิญญาณมรณะลงมือแค่สามคนเท่านั้น
“ลั่วอัน เจ้าทนเอาสักหน่อย รอให้จ้าวเฟิงออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิโจรสลัด หรือไม่ก็รอจักรพรรดิมาถึง ทุกอย่างก็จะจบสิ้นสักที” ราชาแม่มดผิวขาวซีดเกลี้ยกล่อม
ใจกลางของหุบเขาสิบแปดยอด
“จ้าวเฟิง เจ้าจะไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงของข้าจริงหรือ? ข้ายังติดหนี้บุญคุณเจ้าอยู่ ยังไม่ทันได้ตอบแทนเลยนะ”
จักรพรรดิเหมันต์จันทราเอ่ยยิ้มๆ
มีเพียงตอนสายตาของนางหยุดลงบนร่างของจ้าวเฟิงเท่านั้น แววตาสังหารของนางถึงจะฉายแวววยิ้มแย้มที่หาดูได้ยากยิ่งออกมา
สีหน้าของนางในตอนนี้ดูกระเซ้าเย้าแหย่ เหมือนกำลังมองน้องชายตัวน้อยๆ อย่างนั้น
“จักรพรรดิโจรสลัดผู้สูงส่ง กระหม่อมมีเรื่องด่วน ไม่อาจจะรั้งอยู่ได้นาน ขอโปรดอภัยด้วย” จ้าวเฟิงเอ่ยหยอกเย้า
ถึงแม้ว่าจะใช้คำพูดยกย่อง แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ได้มีน้ำเสียงเคารพอย่างที่ควรมีแม้แต่น้อย
จากการสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่ ผ่านความเป็นความตายมาพร้อมกันในช่วงที่ต่อสู้ช่วงชิงตำแหน่งจักรพรรดิโจรสลัด ทำให้คนทั้งสองมีมิตรภาพอย่างหนึ่งเกิดขึ้น
“ก็ได้ ข้าจะไม่บังคับเจ้า ในวันหน้าหากเจ้ามีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอะไร สามารถมาหาข้าได้ทุกเมื่อ ในระยะเวลายี่สิบปีนี้ ข้าน่าจะไม่สามารถออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดสิบแปดยอดได้”
จักรพรรดิเหมันต์จันทราดูผิดหวังเล็กน้อย
จักรพรรดิโจรสลัดโดยทั่วไป หลังจากทะลวงขึ้นเป็นจักรพรรดิในขอบเขตปราณเทวะ ระดับขั้นก็จะไม่เหมือนเดิม ย่อมไม่อาจเป็นจักรพรรดิโจรสลัดไปชั่วชีวิตได้
เมื่ออยู่ในขั้นจักรพรรดิแล้ว สิ่งที่ไขว่คว้าคือความเป็นยอดในวิถีที่ยิ่งใหญ่ หรือความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิตเป็นนิรันดร์
ขอบเขตเซียนสวรรค์ถึงจะเป็นเป้าหมายที่พวกเขาไขว่คว้ากัน
ความเย้ายวนใจของผลประโยชน์และการรบราฆ่าฟันของขั้วอำนาจโจรสลัด สำหรับจักรพรรดิแล้วจะลดลงไปทุกที
แน่นอนว่าการยอมข้อผูกมัดของมงกุฎจักรพรรดิโจรสลัด จักรพรรดิเหมันต์จันทราต้องอยู่ที่นี่สิบปีเป็นอย่างน้อย
จักรพรรดิราชาเหมันต์จันทรามีความรักต่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด ต้องอยู่ที่นี่สิบยี่สิบปีถึงจะสามารถจากไปแสวงหาการทะลวงข้ามผ่านที่สูงส่งขึ้น
“ขอตัว” จ้าวเฟิงไม่คิดจะอยู่นาน
สวบ!
เรือหุ่นเชิดศพทะลวงแหวกอากาศ แล้วจึงหายไปจากครรลองสายตาของราชาโจรสลัดจำนวนมาก
“จ้าวเฟิงผู้นี้มองอย่างไรก็มองไม่ทะลุปรุโปร่งเสียที ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเขาไม่ไยดีตำแหน่งจักรพรรดิโจรสลัดหรือราชาโจรสลัดเลย” ชายหนุ่มผมทองและชายมีหนวดวัยกลางคนมองส่งเรือหุ่นเชิดศพจนลับสายตา
“พวกเจ้ามองไม่ทะลุปรุโปร่ง ข้าเองก็เช่นกัน รวมไปถึงเด็กน้อยผิวสีทองและเจ้าแมวตัวเล็กลึกลับนั่นด้วย”
จักรพรรดิเหมันต์จันทราเอ่ยพึมพำ
จ้าวเฟิงไม่ได้มาแค่เพียงร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับนาง แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของนางไปอย่างสิ้นเชิง
เลื่อนขั้นเป็นจักรพรรดิปราณเทวะ กลายเป็นจักรพรรดิโจรสลัดคนใหม่ ชีวิตของนางไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
หนึ่งวันถัดมา เรืองหุ่นเชิดศพบินมาได้ระยะหนึ่ง จนมาถึงขอบชายแดนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หุบเขาสิบแปดยอด
“นายท่าน ค่ายกลหุ่นเชิดศพใหม่สร้างสำเร็จลุล่วงแล้ว” เจ้าหอโครงกระดูกรายงานข่าวดี
ห้องหัวหน้าเรือ
จ้าวเฟิงนั่งขัดสมาธิ แต่คิ้วกลับขมวดมุ่น ใบหน้าตึงเครียด
“คุนอวิ๋นน้อย เจ้าสัมผัสได้หรือยัง?” จู่ๆ จ้าวเฟิงก็เอ่ยปากขึ้น
“ไม่ผิด พวกเราโดนจับตาแล้ว ในตอนแรกข้ายังคิดว่าเป็นความสนใจจากพวกโจรสลัดพวกนั้นเสียอีก แต่ว่าในตอนนี้ก็ออกมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์สิบแปดยอดแล้ว” เด็กน้อยครึ่งเซียนผงกศีรษะแล้วเอ่ย
เมี้ยว เมี้ยว!
เจ้าแมวขโมยตัวน้อยก็โผล่ออกมา โยนเหรียญทองแดงโบราณหลายเหรียญเสียงดังกรุ๊งกริ๊งเพื่อทำนาย
เด็กน้อยครึ่งเซียนเงียบแล้วมองเจ้าแมวขโมยตัวน้อยให้มากขึ้นอีก
เจ้าแมวขโมยตัวนี้ ยามที่อยู่ในเมืองใต้สมุทรของเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ ถูกทดสอบจนได้นามมาว่า ‘แมวความลับสวรรค์’ แต่ว่าไม่เคยได้ยินชื่อเช่นนี้ในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์หรือว่าในสายเลือดรุ่นหลังๆ ที่มีชื่อเสียงเลย
“ในเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์แบ่งเป็นพวกฝืนชะตาฟ้าและพวกผู้ทรงภูมิ เจ้าแมวตัวนี้สามารถทำนายโชคดีและโชคร้ายได้ จะเกี่ยวข้องกับพวกผู้ทรงภูมิหรือไม่?”
เด็กน้อยครึ่งเซียนเอ่ยพึมพำ
ในเวลานี้เอง ได้ยินจ้าวเฟิงพ่นลมหายใจออกมา แล้วร่างกายก็หายไปจากเรือหุ่นเชิดศพ
พรึ่บ!
จ้าวเฟิงยืนอยู่บนหอสังเกตการณ์ สายตาทอดมองออกไปยังพันลี้เบื้องหน้าอันเป็นส่วนลึกของทะเลความว่างเปล่า
ในเวลาสั้นๆ
“ไม่ได้การ โดนจับได้แล้ว!” ร่างองครักษ์แห่งความตายที่เหมือนเงาดำมืด โฉบผ่านไปในทะเลความว่างเปล่าราวกับเงาเส้นหนึ่ง
ฟุ่บ!
องครักษ์แห่งความตายผู้นั้นเห็นว่าร่องรอยการเดินทางของตนถูกเปิดเผย จึงกลายเป็นเส้นลำแสงของเงามืดมิดทะลวงผ่านทะเลหมอกความว่างเปล่า
“ความเร็วสูงที่สุดของข้าเทียบเท่ากับคนในขั้นราชันได้ในเวลาสั้นๆ ยังพอมีความหวัง ที่จะถ่วงเวลารอการมาถึงของกองหนุน”
องครักษ์แห่งความตายผู้นี้อยู่ในสิบลำดับแรกของทั้งสามสิบหกคน
เขาใช้ตรามรณะในมือส่งข่าวพลางบินไปพร้อมกัน
หลังจากบินเป็นระยะทางเกือบหมื่นลี้อย่างรวดเร็ว เขาจึงถอนหายใจโล่งอก
“ในที่สุดก็หลุดพ้นสักที ตามข่าวคราวที่ได้มา เป้าหมายสังหารผู้นั้นมีบันทึกว่าสามารถสังหารราชันในระดับลึกซึ้ง และถึงขั้นลอบทำร้ายจักรพรรดิได้…” องครักษ์แห่งความตายพึมพำโดยที่ยังไม่หายกลัว
แต่ในเวลานี้เอง
หมอกควันด้านหน้าก็ปรากฏวายุอัสนีสีชาด หมุนวนรอบกายของบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งด้านหลังมีปีกอัสนี ใบหน้าติดรอยยิ้มเยาะ
“เป็นไปได้อย่างไร! เป็นเจ้า…” องค์รักษ์แห่งความตายผู้นี้หน้าถอดสีในทันที
ที่แท้เป้าหมายสังหารมีความเร็วได้ถึงระดับขั้นนี้ ซ้ำยังทำท่าทางคล้ายกับรอเขาอยู่ด้านหน้ามานานแล้ว