บทที่ 836 รากบัวหิมะหลอมกายา
“พวกมนุษย์โง่เง่า! ต่อให้พวกเจ้าชิงเศษขยะผุผังมาอีกมากเท่าไหร่ หากทำภารกิจไม่สำเร็จภายในหนึ่งเดือน พวกเจ้าก็จะตายตกกันสิ้น!”
เสียงของมังกรวารีล้างโลกา ยังผลให้เหล่ายอดฝีมืออัจฉริยะที่กำลังเก็บ ตัด และขุดค้นทั้งหลายตื่นตกใจ
เสียงนั้นเหมือนน้ำเย็นยะเยือกสาดจากหัวลงเท้า
ยอดฝีมือส่วนหนึ่งหยุดมือ ในใจเกิดความรู้สึกถึงภยันอันตรายอย่างแรงกล้า
ไม่นานก่อนหน้านี้ คนทั้งหลายเพิ่งรอดพ้นจากการคุกคามของมังกรวารีล้างโลกา โชคดีมีชีวิตต่อไปได้ ทว่าช่วงเวลารอดชีวิตนี้มีจำกัดเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น
“เศษขยะผุผัง?”
ใบหน้าหนานกงเซิ่งที่กำลังตัด ‘ไผ่เสียงสวรรค์’ กระตุกรุนแรง
ยอดฝีมือที่เหลือซึ่งกำลังตัดต้นไผ่พากันแข็งทื่อ ความรู้สึกบีบคั้นอันตรายปรากฏขึ้นลึกๆ ในใจ
เมี้ยว~ เจ้าแมวขโมยตัวน้อยเก็บ ‘กริชจักรพรรดิเงาสังหาร’ ไปด้วยท่าทีไม่ค่อยสมัครใจ ก่อนกลับขึ้นไปบนบ่าจ้าวเฟิง
“พวกเราไม่อาจเสียเวลาเปล่าอยู่ด้านนอกคฤหาสน์”
จ้าวเฟิงยืนอยู่บนต้นไผ่สูงใหญ่
หลังจากการสังเกตเมื่อครู่ เขาพอจะเข้าใจสภาพการณ์ของคฤหาสน์เสียหยางอย่างคร่าวๆ แล้ว
ฟังจากคำพูดของมังวารีทมิฬ ก็ได้ข้อมูลบางอย่างมาไม่ยาก ส่วนลึกของคฤหาสน์มีโอกาสที่ดีเยี่ยมยิ่งกว่า
ไม่ว่าอย่างไร ราคาชีวิตตนเองต่างหากที่เป็นอันดับหนึ่ง ถึงฉกชิงสมบัติทรัพยากรไปมากมาย หากรักษาชีวิตไว้ไม่ได้ก็เสียแรงเปล่า
“ไป” จ้าวเฟิงกับหนานกงเซิ่งหายวับตรงไปทางส่วนลึกของคฤหาสน์
ตอนเข้ามาภายใน มังกรวารีล้างโลกามอบลักษณะพื้นที่โดยรวมของคฤหาสน์ให้
คฤหาสน์เสียหยาง แม้ฟังดูเป็นเพียงเรือนพักหลังหนึ่ง ทว่าภายในคืออาณาเขตส่วนตัวที่เป็นเอกเทศ มีกฎเกณฑ์หลายอย่าง
พื้นที่สำคัญบางส่วนในคฤหาสน์ล้วนอยู่ใต้การปกปักคุ้มครองของค่ายกลเทพคุ้มกัน
“เข้าไปส่วนสำคัญของคฤหาสน์ก่อน เช่นนี้จึงจะมีโอกาสหากุญแจ ‘โซ่ผนึกวิญญาณ’ รวมทั้งแกนกลางของค่ายกลพบ”
นัยน์ตาจ้าวเฟิงมีประกายวาบผ่าน
ยามมังกรวารีทมิฬบีบบังคับผู้คนให้ทำภารกิจ จ้าวเฟิงคิดแผนการหนึ่งได้รางๆ แล้ว
“แผนนี้บรรลุเมื่อใด ไม่เพียงแต่จะรักษาความปลอดภัยของทุกคนไว้ แต่ยังมีหวังตอบโต้มังกรวารี…”
จ้าวเฟิงวาดแผนการในใจเงียบๆ
จริงอยู่ที่มังกรวารีทมิฬมีพละกำลังที่ไม่อาจต่อกรเหนือคนทุกผู้
ทว่าคฤหาสน์หลังนี้เป็นที่พำนักของเทพ ถ้าใช้ประโยชน์จากเวลาและสถานที่ให้ดี ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสพลิกผันสถานการณ์
พรึ่บ! จ้าวเฟิงและหนานกงเซิ่งพุ่งทะยานสู่ส่วนลึกของคฤหาสน์
หนานกงเซิ่งไม่รู้เลยว่า เด็กหนุ่มผมม่วงข้างกายมีเค้าโครงแผนการที่หาญกล้าคานอำนาจมังกรแล้ว
โบยบินมาหลายสิบลี้ ทั้งสองจึงหยุดลง
ในครรลองสายตา บนเส้นทางซึ่งมีศาลาและแปลงดอกไม้ ฝังหินกรวดที่เปล่งแสงประหลาดวูบไหวแวววาวไว้หลายก้อน
“โมราเหยากวง[1]!”
จ้าวเฟิงมองส่วนประกอบของกรวดเปล่งแสงพิลึกออกทันที
โมราเหยากวงเป็นถึงวัตถุชั้นยอดที่ใช้หลอมอาวุธวิเศษ เพิ่มอานุภาพให้อาวุธได้ ที่โลกภายนอกหายากยิ่งนัก แม้แต่อาวุธชั้นพิภพระดับสุดยอดส่วนหนึ่งก็จำเป็นต้องใช้โมราเหยากวง ทว่า วัตถุชนิดนี้กลับถูกใช้ปูเป็นทางเดินหินกรวดในคฤหาสน์
“ไป!”
จ้าวเฟิงอดกลั้นต่อแรงเย้ายวนใจ นำหนานกงเซิ่งตรงไปยังส่วนลึกของคฤหาสน์ต่อ
ระหว่างทาง คนทั้งคู่พบเจอโอกาสที่ช่างยั่วยวนใจมากมาย หลายครั้งแทบอดใจไม่ไหว อยากหยุดแล้วฉกชิง ไม่ก็ตัดโค่นขุดค้นเอามา
“อย่าเพิ่งรีบร้อน ในคฤหาสน์เสียหยางต้องมีโอกาสที่ดียิ่งกว่าแน่”
จ้าวเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึก
ถึงอย่างไร สิ่งที่ทุกคนผ่านเข้ามาก็เป็นถึง ‘ค่ายกลเทพคุ้มกัน’ ส่วนของเหล่านี้เป็นแค่จำพวกระดับต่ำสุดเท่านั้น
จ้าวเฟิงเชื่ออยู่ลึกๆ ว่า สมบัติที่แท้จริงต้องอยู่ข้างหน้าเป็นแน่
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
เวลาเดียวกัน กลุ่มยอดฝีมือทั้งหมดเคลื่อนขบวนลึกเข้าไปในคฤหาสน์
เพียงแต่ พลังจากกฎเกณฑ์ในการคงอยู่ของที่นี่แก่กล้ายิ่ง ขนาดราชันปราณเทวะยังทำได้แค่โผทะยาน ไม่อาจบินได้จริงๆ
ดังนั้นความเร็วจริงของการเดินทางจึงไม่มากเท่าไหร่นัก
ครึ่งวันต่อมา
“หืม?”
ในสายตาจ้าวเฟิงปรากฏสระน้ำซึ่งขับแสงหมอกเรืองรอง
กลางสระเปล่งแสงเขียวกระเพื่อมขึ้นลง มีมวลดอกบัวสีขาวกับรากบัวที่ปะปนอยู่
ยังไม่ทันเข้าใกล้ คลื่นไอสวรรค์บริสุทธิ์ก็ล่องลอยมากระทบหน้า
‘ปทุมขาว’ เหล่านั้นชัดเจนว่าไม่ธรรมดา กลีบดอกบัวที่เบ่งบานส่วนหนึ่ง มีชั้นแสงขาวกระจ่างที่เย็นสดชื่นและอ่อนโยนไหลวน ใบบัวเขียวขจีขับให้โดดเด่น ผุดระลอกแสงสุกสกาว แผ่กลิ่นอายชีวิตมหาศาล
รากบัวกลางสระน้ำโปร่งใสแวววาวราวหยก ประหนึ่งท่อนแขนของหญิงงาม ให้ความรู้สึกว่ามีเนื้อหนังจริง จนอยากจะขบกัดสักครั้ง
“บัวฟ้าวารีคราม! ที่แท้เป็นบัวล้ำค่าในตำนาน”
ยามนั้นเอง คนกลุ่มหนึ่งทะยานมา
ผู้นำคือบุรุษหัวล้านสวมชุดนักรบสีดำ คือจิวอู่จี้แห่งวังเก้านิรยนั่นเอง
“บัวฟ้าวารีคราม!”
จ้าวเฟิงกับหนานกงเซิ่งสบตากัน อาการดูตกตะลึงเล็กน้อย
หากกล่าวเรื่องคุณค่าและระดับขั้น ‘บัวฟ้าวารีคราม’ เทียบกับ ‘บัวแก้วเวหา’ ก่อนหน้านี้ได้ ถึงขั้นเป็นเลิศกว่าครึ่งหนึ่งในด้านประสิทธิผลบางอย่าง
ทว่า ไม่ง่ายเลยกว่าจ้าวเฟิงจะได้บัวแก้วเวหาในมิติเทพลวงตามาต้นหนึ่ง
ส่วน ‘บัวฟ้าวารีคราม’ ในตอนนี้มีเต็มสระ งอกงามขึ้นผืนใหญ่ อย่างน้อยมีหลายร้อยต้น
เท่ากับว่า ที่แห่งนี้มี ‘บัวแก้วเวหา’ ราวหลายร้อยต้น
ฮู่! ทุกคนตรงนั้นอดสูดหายใจลึกไม่ได้
“กลีบบัวฟ้าวารีครามมีคุณประโยชน์หลายอย่างนัก สามารถชะล้างร่างกายจิตใจ มีผลขจัดโรคภัยแอบแฝงและพิษร้าย รวมทั้งเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับขั้นชีวิต…”
“ ‘เม็ดบัว’ ของบัวฟ้าช่วยขัดเกลาพลังวิญญาณ มีประสิทธิพลของข้างดีต่อราชันในขอบเขตปราณเทวะ ส่วนใบบัวทำได้กระทั่งเยียวยาอาการบาดเจ็บ ผลลัพธ์ดีเยี่ยม”
คนของวังเก้านิรยพูดคุยอย่างตื่นเต้น หัวใจเต้นรัวเร็ว
ประโยชน์ของบัวฟ้าวารีครามมิใช่เยอะแค่ธรรมดา
กลีบดอก เม็ดบัว ใบบัว ล้วนให้ผลไม่ธรรมดา คุณค่ารวมกันแล้วยังเหนือกว่า ‘บัวแก้วเวหา’
“บัวฟ้าวารีครามช่วยเสริมให้พลังของพวกเรามั่นคงในระดับหนึ่ง”
จ้าวเฟิงตัดสินใจรั้งอยู่ก่อน หากเป็นทรัพยากรทั่วไป ขอเพียงมีมูลค่าไม่สูงเกินกว่าปกติ จ้าวเฟิงไม่คิดจะหยุดรั้งรอ แต่บัวฟ้าวารีครามมีประโยชน์เสริมให้พลังของจ้าวเฟิงและหนานกงเซิ่งมั่นคงพอสมควร
โดยเฉพาะ ‘เม็ดบัว’ ของดอกบัวฟ้าที่ช่วยให้ ‘พลังจักรพรรดิ’ ซึ่งฟื้นฟูขั้นต้นของจ้าวเฟิงมีเสถียรภาพ
ขณะเดียวกัน เม็ดบัวยังทำให้หนานกงเซิ่งหล่อหลอมพลังวิญญาณให้บริสุทธิ์ได้ด้วย
กลีบดอกบัวยังช่วยเขาขจัดพลังชั่วร้ายของผลึกปีศาจ ชะล้างร่างกายและจิตใจ
ควรรู้ว่า อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น หนานกงเซิ่งก็จะถึงขอบเขตปราณเทวะช่วงปลายแล้ว
“รากบัวนั่นคืออะไร?”
คนของวังเก้านิรยยืนอยู่ริมสระ สายตามองไปยังรากบัวในนั้น
แสงวาววับบนรากบัวราวกับผิวขาวผ่องของเซียนผู้งดงาม เพียงมองก็ชวนให้ลุ่มหลง
สวบ สวบ!
ตอนนั้นเอง คนอีกคณะทะยานมา ผู้นำคือสตรีผมม่วงที่เลอโฉมเหนือใคร
แค่เห็นจ้าวเฟิงก็จำได้ นางคือจีหลานจากตระกูลจีซึ่งเป็นหนึ่งในแปดตระกูลชนชั้นสูง
สองนัยน์ตาของจีหลานประกายแสงดาวสีม่วงเบาบาง เมื่อกวาดมองสระน้ำ เรือนร่างอรชรสั่นเล็กน้อย
“บัวฟ้าวารีครามนี่เอง!”
“รากบัวดุจผิวหิมะเนื้อหยกนั่นขึ้นพร้อมกับบัวฟ้าวารีคราม หรือว่าจะเป็น ‘รากบัวหิมะหลอมกายา’ ในตำนาน”
จีหลานเพ่งสายตามอง ก่อนเปลี่ยนสีหน้าอีกครั้ง
รากบัวหิมะหลอมกายา!
คนทั้งหลายได้ยินดังนั้น ไม่กี่คนที่นึกออกจิตใจสั่นสะท้าน “รากบัวหิมะ…รากบัวหิมะหลอมกายาในตำนานที่สามารถสร้างร่างกายชั้นยอดได้?”
“ในตำราโบราณว่าไว้ ผู้ทรงพลังในยุคโบราณส่วนหนึ่งสรรสร้างร่างกายสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าด้วย ‘รากบัวหิมะหลอมกายา’ และคาดไม่ถึงว่าจะใช้วิชาลับประเภทเปลี่ยนร่างฝึกฝนใหม่บนพื้นฐานนี้ เพื่อทะลวงลำดับขั้นที่สูงขึ้น…”
“ว่ากันว่า ร่างกายที่รังสรรค์โดย ‘รากบัวหิมะหลอมกายา’ ทำให้ความเป็นไปได้ในการทะลวงถึงขั้นเซียนขอบเขตเทวาเร้นลับมีมากกว่าร่างกายทั่วไปถึงสองเท่า”
ทุกคนตรงนั้นถกกันขณะตกตะลึง
รากบัวหิมะหลอมกายาช่วยให้พลังของผู้ฝึกบำเพ็ญก้าวหน้าขึ้น บางทีอาจไม่มีผลลัพธ์เด่นชัดใดๆ
แต่ประโยชน์ของรากบัวหิมะนี้พิเศษเป็นอย่างยิ่ง สามารถสร้างกายชั้นยอดซึ่งแข็งแกร่งกว่าร่างธรรมดาของมนุษย์มากนัก
“ต้องเอา ‘รากบัวหิมะหลอมกายา’ มาให้ได้!”
ดวงตาจ้าวเฟิงมีแสงวาบผ่าน
รากบัวชนิดนี้อาจมีคุณประโยชน์สำหรับเขาอย่างใหญ่หลวง และไม่จำกัดว่าจะใช้แค่ด้านการฝึกฝนใหม่ของร่างที่สร้างขึ้นด้วย
……………………………………..
[1] เหยากวง คือ ชื่อดาวดวงหนึ่งในเจ็ดดวงของกลุ่มดาวหมีใหญ่ หรือกลุ่มดาวกระบวยใหญ่