Skip to content

King of Gods 991

King Of Gods

บทที่ 991 สายเลือดที่น่าหวาดเกรง

เบื้องหลังของจ้าวเฟิง เงาดำทะมึนหลายสิบสายลอยอยู่ กลิ่นอายชั่วร้ายอันน่ากริ่งเกรงรวมตัวกันราวกับวัตถุของจริง

“ท่านเจ้าลัทธิมาร คนเบื้องหน้าท่านผู้นี้คือศัตรูตัวฉกาจของพวกเรา!”

“ฆ่ามัน แล้วพวกเราจะสามารถยึดครองแผ่นดินใหญ่ได้ ทั่วทั้งแผ่นดินใหญ่จะสยบอยู่ใต้เท้าพวกเรา!”

ในใจของจ้าวเฟิงชัดแจ้ง เหตุการณ์ฉากนี้เขาเป็นตัวร้ายตัวสำคัญที่สุดของดินแดนเกาะแห่งหนึ่งซึ่งคิดวางแผนจะยึดครองทั้งแผ่นดินใหญ่

ส่วนหยูเทียนฮ่าวทีเผชิญหน้ากับเขา แน่นอนว่าต้องเป็นวีรบุรุษที่พิทักษ์แผ่นดิน

เบื้องหลังหยูเทียนฮ่าว เงาร่างที่มีแสงศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ลอยล่องหลายสายยืนอยู่

“ท่านราชานักรบ รีบสังหารเจ้ามารนี่เสียเถิด!”

“มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถช่วยสรรพสิ่งใต้หล้านี้ได้!”

ในดวงตาดำขลับลุ่มลึกของหยูเทียนฮ่าว จิตต่อสู้อันล้นพ้นปรากฏขึ้น

‘ฉากประลอง’ เช่นนี้ตรงกับใจเขาพอดี

อีกทั้งสภาพแวดล้อมของที่นี่เหมือนกับศึกสุดท้ายระหว่างเขากับจ้าวเฟิงที่ทวีปบุปผาครามในตอนนั้นเป็นอย่างมาก

หยูเทียนฮ่าวกระทั่งรู้สึกว่าเขาและจ้าวเฟิงกลับไปยังการประมือครั้งสุดท้ายที่ทวีปบุปผาครามในตอนนั้นอีกครั้ง แต่ในยามนี้ เขาและจ้าวเฟิงไม่ได้ห่างชั้นกันขนาดนั้น ทั้งสองล้วนเป็นขอบเขตพลังจักรพรรดิ

“จ้าวเฟิง ให้ข้าได้เห็นสายเลือดเพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์แบบหน่อย!”

สายเลือดในกายของหยูเทียนฮ่าว ภายใต้ผลกระทบจากจิตต่อสู้ มันเดือดพลุ่งพล่านอยู่ชั่วขณะ

วูบ~ เห็นเพียงแค่ ‘เงาเย็นเยือก’ ที่เก่าแก่ลึกลับปรากฏเป็นรูปร่างคน และซ้อนทับไปกับร่างของหยูเทียนฮ่าว

ในชั่วพริบตา ท่าทางของเทียนฮ่าวกับเงาเย็นเยือกด้านหลังเชื่อมประสานทั้งร่าง เหมือนกันทุกอย่าง ทุกการกระทำของเขาล้วนมีจิตต่อสู้อันน่าหวาดหวั่น โจมตีพลังที่มองไม่เห็นทั้งหมดรอบๆ ด้าน

เสี้ยววินาทีนั้น

หยูเทียนฮ่าวราวเทพแห่งสงครามประทับร่างก็ไม่ปาน ท้องฟ้ารอบด้านตกอยู่ในท่ามกลางประกายแสงสีส้มเจิดจ้าทรงพลัง พุ่งไปยังชั้นฟ้า

“ไร้พ่ายใต้ปฐพี!”

บนร่างของหยูเทียนฮ่าวทะลักเจตจำนงตั้งมั่นที่แข็งแกร่งเหนือสิ่งอื่นใด แล้วลงมือทันที เห็นเพียงแค่ลำแสงฝ่ามืออันวิจิตร ดูคล้ายแสงลึกลับที่ทะลวงไปทั่วทุกทิศ พวยพุ่งออกมาจากฝ่ามือของหยูเทียนฮ่าว

ครืน ตูม ตูม! ลำแสงฝ่ามือนี้บดขยี้ทุกสรรพสิ่ง พุ่งมายังเบื้องหน้าจ้าวเฟิงในพริบตาแล้วจู่โจมลงบนร่าง

โครม! ลมพายุทะเลทรายสีเหลืองหม่นปรากฏเป็นวงกลม แผ่กระจายไปทั่วทุกทิศ

ตูม! ประกายแสงสีแดงเจิดจ้าสะเทือนฟ้าดิน พลันสาดส่องออกมาจากข้างใน

ฟู่ ฟู่! พายุทะเลทรายทั้งลูกถูกแก่นแท้กายสายฟ้าอาทิตย์เพลิงฉีกทำลายออก

เห็นเพียงใจกลางพายุทะเลทราย จ้าวเฟิงยืนตระหง่านเหมือนดั่งจอมมารอัสนีโลหิต พลังระเบิดอัสนีเพลิงอันน่าหวาดหวั่นทำลายทุกสรรพสิ่ง

พลังศักดิ์สิทธิ์จากแก่นแท้ร่างกายที่เผาไหม้รุนแรง และจิตต่อสู้สะเทือนฟ้าดินที่ก่อตัวสมจริง ปะทะเข้าหากัน

ครืน ฟุ่บ ฟุ่บ! แสงสีส้มระเบิดประกายเจิดจ้าระหว่างทั้งสอง

“สมกับเป็นสายเลือดเพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์ เป็นสายเลือดวิถีราชาชั้นยอดในระดับเดียวกับสวรรค์ไร้เทียมทาน”

หยูเทียนฮ่าวสัมผัสได้ว่าสายเลือดของตนกระตุ้นขึ้นเองจนถึงขีดสูงสุด

ความมุ่งมั่นและจิตต่อสู้อันน่าพรั่นพรึงโอบล้อมเขาเอาไว้ หยูเทียนฮ่าวรู้สึกว่าตัวเองแปรเปลี่ยนเป็นเงายักษ์ลี้ลับดึกดำบรรพ์ พลังทั่วทั้งร่างไต่ถึงระดับสูงสุด หมายที่จะพวยพุ่งออกมา

เงาลึกลับเบื้องหลังของเขาขยายใหญ่หลายเท่าทันใด เเละยิ่งผนึกรวมกันมากขึ้น

“กำลังรบเพิ่มขึ้นรวดเร็วถึงเพียงนี้เชียว!”

สีหน้าของจ้าวเฟิงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สำหรับสายเลือดของหยูเทียนฮ่าว จ้าวเฟิงพอจะเข้าใจมันระดับหนึ่ง

นี่คือสายเลือดที่ยิ่งสู้ยิ่งแข็งแกร่ง เป็นสายเลือดน่าหวาดหวั่นที่สามารถยกระดับกำลังรบได้อย่างต่อเนื่อง แต่ในยามนี้ ทั้งสองเพิ่งจะปะทะกันเพียงครั้งเดียว ระดับจิตกระหายการต่อสู้ของหยูเทียนฮ่าวก็ไต่มาถึงขั้นที่น่ากลัว กำลังรบของเขาเทียบได้กับขั้นเซียนแล้ว

“มาเถอะ!”

ร่างเพลิงโลหิตวาววับของจ้าวเฟิงพลันปะทุเสียงระเบิดของเปลวเพลิงอาทิตย์

ตูม! จ้าวเฟิงทิ้งรอยเงาเพลิงโลหิตไว้กลุ่มหนึ่ง ร่างก็เข้าไปใกล้หยูเทียนฮ่าวแล้ว หมัดหนึ่งพลันโจมตีออกไป

อัสนีเพลิงโลหิตอันทรงพลังพร้อมด้วยอานุภาพแก่นแท้กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์บดขยี้ไปทันใด

ตูม! ฝ่ามือของหยูเทียนฮ่าวฟันฉับลง ประกายสีส้มราวอาทิตย์ทองระยิบระยับ ฝ่ามือนั้นทะลวงไปทั่วผืนฟ้าและปฐพี พลังที่เหนี่ยวนำมาไม่ด้อยกว่าเพลิงมารโลหิตที่เชี่ยวชาญการระเบิดปะทุเลย

ฉัวะ ฟู่! เปลวเพลิงแวววับพลันแทรกเข้าไปบนเงาเย็นเยือกของหยูเทียนฮ่าว ก่อนลุกไหม้อย่างบ้าคลั่ง

“เผาไหม้ กัดกิน และดูดเลือดคืนปราณ!”

หยูเทียนฮ่าวตื่นตกใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นพลังสายเลือดเพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์ มันมีจุดที่น่าเกรงกลัวจริงๆ

“เคล็ดวิชาไร้เทียมทาน วสันต์ศารทเริงระบำ!”

ผมดำขลับของหยูเทียนฮ่าวปลิวสยาย แสงระยิบระยับที่ปกคลุมทั่วร่างตกผลึกส่องประกาย ราวกับเสื้อเกราะของเทพสงคราม

ทันใดนั้น เงารูปร่างคนด้านหลังก็เหมือนจะสวมเสื้อเกราะเทพสงครามเช่นกัน

ผลการเผาไหม้ของเพลิงมารโลหิตถูกยับยั้งไว้ในระดับหนึ่ง ไม่นานเท่าไหร่ เพลิงโลหิตที่ลุกไหม้ก็ค่อยๆ หายไป

ปึง โครม!

ในชั่วขณะที่หมัดของหยูเทียนฮ่าวโจมตีออกไป เงาฝ่ามือแสงหมัดขนาดมหึมาแต่ละสาย อานุภาพการโจมตีทรงพลังยิ่งนัก ทุกฝ่ามือทุกหมัดมีจิตกระหายต่อสู้ไร้เทียมทาน บดขยี้ทุกสรรพสิ่งแหลกเป็นชิ้น

จ้าวเฟิงก็ยิ่งสู้ยิ่งแข็งแกร่ง เพลิงอาทิตย์ทั่วร่างลุกไหม้อย่างบ้าคลั่ง ทั่วทั้งร่างของเขาเป็นสีแดงโปร่งแสงดุจแก้วล้ำค่า บนนั้นยังมีสายฟ้าแปลบปลาบเป็นครั้งคราว

พลังวิญญาณของจ้าวเฟิงถึงขั้นเซียน เมื่อรวมกับการป้องกันอันแข็งแกร่งของกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่เกรงกลัวการโจมตีของหยูเทียนฮ่าวในตอนนี้แม้แต่น้อย

อีกทั้งในการต่อสู้ ผลการดูดเลือดคืนปราณผ่านเพลิงมารโลหิตของเขาก็ยังมีผลพอสมควรเช่นเคย

ปึง ครืน! ขณะที่หมัดทั้งสองของจ้าวเฟิงกวัดแกว่ง พลังระเบิดของเพลิงอัสนีมหาศาลเปรียบดั่งภูเขาไฟระเบิด การโจมตีทุกครั้งมีการปะทุน่าพรั่นพรึงอย่างที่ไม่มีอะไรเทียบได้

จากการสู้กับเถี่ยหลิงอวิ๋นในครั้งที่แล้ว การควบคุมเพลิงมารโลหิตของจ้าวเฟิงราบรื่นคล่องมือ

จ้าวเฟิงจัดการกดการผลาญพลังเพลิงมารโลหิตให้ลดต่ำที่สุด ทว่าระหว่างลงมือกลับสามารถระเบิดออกได้ในพริบตา แต่เขาก็ต้องยอมรับว่า หยูเทียนฮ่าวในยามนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการโจมตีหรือว่าการป้องกัน ก็ยกระดับถึงขั้นที่ชวนให้คนกริ่งเกรง

การระเบิดปะทุของจ้าวเฟิงไม่มีทางสร้างอาการบาดเจ็บหนักให้กับหยูเทียนฮ่าวได้เลย

บึ้ม! เสียงการต่อสู้ของทั้งสองสะเทือนไปทั่วฟ้า เห็นเพียงในใจกลางพายุลูกมหึมา มีแสงจ้าสีส้มสาดส่องออกมาไม่หยุด

“จ้าวเฟิง เอาจริงสักทีเถอะ!”

หยูเทียนฮ่าวเหมือนกับเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ ทั่วร่างและเงาเย็นเยือกด้านหลังเปล่งแสงสว่างงดงามขึ้นชั้นหนึ่งมีพลานุภาพมหาศาลคล้ายจะกลืนกินทั้งปฐพี

จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้บนร่างเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง เกินกว่าขั้นเซียนทั่วไปมากนัก

“ก็ดี ในเมื่อเวลาเหลืออีกไม่เท่าไหร่แล้ว!”

จ้าวเฟิงถอยหลังไปนับหลายสิบจั้ง ทิ้งรอยเพลิงโลหิตร้อนผะผ่าวไว้เป็นทาง

“มารโลหิตโจมตี!”

เห็นเพียงเพลิงโลหิตทั่วร่างจ้าวเฟิงโหมปะทุ เผาไหม้เดือดพล่าน ส่งเสียงเปลวเพลิงแตกกระจายออกมาเป็นระยะ ด้านหลังของเขา เงาอาทิตย์ร้อนแรงสีแดงสดค่อยๆ ปรากฏขึ้น ลวดลายเกลียววนในนั้นบิดโค้งหมุนรอบ

ครืน ฉัวะ! เงาร่างของจ้าวเฟิงกะพริบแล้วหายวับไป ทิ้งเสี้ยวประกายแสงเอาไว้ ย้ายมายังเบื้องหน้าของหยูเทียนฮ่าว

เปรี้ยง! หมัดของจ้าวเฟิงโจมตีออกไปทันใด ในชั่วเสี้ยววินาทีนั้น ราวกับพลังเพลิงโลหิตทั่วทั้งร่างหลั่งไหลเข้าไป ระเบิดทำลาย เหมือนหินหนืดที่พวยพุ่งออกในชั่ววินาที แสงอัสนีเพลิงโลหิตที่ร้อนผ่าวน่าหวั่นเกรง กลืนกินหยูเทียนฮ่าวและเงาเย็นเยือกเบื้องหลังเขาไปจนมิด

พรึ่บ! ผลของการเผาไหม้และกัดกินของเพลิงมารโลหิตพลันถูกกระตุ้น

หยูเทียนฮ่าวพร้อมทั้งเงาเบื้องหลังลุกไหม้ขึ้นทันที จนดูราวกับภูเขาเพลิง

“เทพสงครามไร้เทียมทาน!”

หยูเทียนฮ่าวที่ทั่วทั้งร่างถูกโลหิตเพลิงเผาไหม้เปล่งเสียงเบาๆ ออกมา

วู้ม! เงาเย็นเยือกเบื้องหลังของเขา ทั่วทุกชุ่นเปล่งประกายสีส้มวาววับ

ตัวหยูเทียนฮ่าวคล้ายดวงอาทิตย์เจิดจ้าสีส้ม กระแสคลื่นเบาบางทั่วทุกกระเบียดนิ้วเชื่อมต่อกับเงาเย็นเยือกอย่างแนบชิด

วู้ม! ทันใดนั้น เงาเย็นเยือกนั่นปรากฏดวงตาสีส้มแสดคู่หนึ่ง จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่น่าสะพรึงปะทุออกมา

ในเสี้ยววินาทีนั้น หยูเทียนฮ่าวกลายเป็นเงาเยือกเย็นมหึมาอย่างสิ้นเชิง ดวงตาทั้งสองมีจิตหมายต่อสู้ การโจมตีไร้รูปร่างที่ก่อตัวขึ้นล้วนสามารถโจมตีจิตใจของเซียนให้ทลายลงได้

วูบ! ภายใต้การเพิ่มพลังที่แข็งแกร่งสุดยอด เพลิงอาทิตย์สีเลือดบนพื้นผิวเงามหึมาถูกทำลายลงในชั่วพริบตา

“ขวานเทพทมิฬ!”

ดวงตาของหยูเทียนฮ่าวดุจดั่งดวงดารามืดมิด ยกมือขึ้นเหวี่ยง ในท้องฟ้าส่งเสียงครืนครานสนั่นหวั่นไหว มองเห็นขวานยักษ์ประกายสีส้มได้เลือนราง แรงโทสะแหวกผ่านท้องฟ้าดุจเส้นสายรุ้ง ฟาดฟันออกไปทันใด

“เป็นกำลังรบที่น่ากลัวนัก!”

ขณะนี้ แม้กระทั่งจ้าวเฟิงยังเหมือนเผชิญหน้ากับภูเขายักษ์ แบกรับการโจมตีจากสำนึกรู้ต่อสู้มหาศาล อีกทั้งการโจมตีอันหนักหน่วงที่ราวกับเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่นี้ จ้าวเฟิงไม่กล้าเข้าประจันหน้าด้วย

“จ้าวเฟิง สถานการณ์ไม่ดีแล้ว จำนวนชัยชนะถูกองค์ชายสิบสามนำหน้าไปแล้ว!”

ในยามนี้ เสียงขององค์ชายเก้าดังขึ้นเบาๆ

องค์ชายเก้าก็รู้ถึงสถานการณ์ของจ้าวเฟิงในยามนี้ แต่เขาต้องบอกข่าวนี้แก่จ้าวเฟิง

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้!”

สีหน้าของจ้าวเฟิงพลันสงบลง

ถึงแม้การต่อสู้ระหว่างเขากับซินอู๋เหินและหยูเทียนฮ่าว เป็นการสนองความต้องการของตัวเอง

แต่เขาก็รู้ว่าเป้าหมายที่สำคัญที่สุดคืออะไร

ครืน! ข้างหลังของจ้าวเฟิง พลังอัสนีวายุคลั่งดึกดำบรรพ์หลั่งไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง ค่อยๆ หลอมรวมเข้าไปในท้องฟ้า ทั่วทั้งบริเวณเกือบร้อยจั้งพลันแปรเปลี่ยนเป็นมิติมืดมิดที่มีพายุกระหน่ำซัด เสวียนอ้าวกฎเกณฑ์ของเศษซากมิติบรรพกาลถูกจ้าวเฟิงควบคุมเอาไว้จำนวนหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน ร่างสีชาดวาววับของจ้าวเฟิงก็ส่องประกายอัสนีสีทองเจิดจ้า ผิวกายของเขาปรากฏเพลิงอัสนีสีโลหิตโบราณขึ้นชั้นหนึ่ง

จ้าวเฟิงไม่รอให้การโจมตีที่หนักหน่วงจากหยูเทียนฮ่าวมาถึง เช่นนั่นละก็ จากการรวบรวมพลังช่วงหนึ่ง พลังการโจมตีนี้ก็จะเพิ่มความน่าหวาดเกรงขึ้น

บึ้ม! จ้าวเฟิงบินทะยานขึ้นทันที ฝ่ามือทั้งสองซัดออก นำแก่นแท้กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์และพลังอัสนีโบราณ หลอมรวมไว้ที่ปราณสายฟ้าป้องกันร่าง

เวลาเดียวกัน พลังวายุอัสนีของโลกมิติส่วนตัวพลันรวมตัวอยู่บนร่างของจ้าวเฟิง

ในเสี้ยววินาทีนั้น จ้าวเฟิงราวกับเทพสงครามสายฟ้าแห่งโลกวายุอัสนี แสงอัสนีสีชาดหุ้มล้อมทั่วทั้งร่าง เหี้ยมโหดน่าหวาดเกรง

บึ้ม ครืน! อัสนีสีชาดและแสงสีส้มน่าหวาดกลัวปะทะเข้าด้วยกัน

มิติของ ‘ฉากประลอง’ ทั้งใบพลันสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง พายุทรายพัดตลบไปทั่วราวกับโลกาวินาศ

ฟิ้ว! ชั่วขณะต่อมา เส้นโค้งสายฟ้าสีชาดแฉลบผ่านไปอย่างบ้าคลั่ง มายังเบื้องหน้าของหยูเทียนฮ่าว

“เนตรเทพแยกส่วน!”

จ้าวเฟิงกระตุ้นวิชาสายเลือดดวงตาของพลังความสามารถใหม่ที่ตาซ้าย!

มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น จึงจะสามารถต้านทานกำลังรบที่เพิ่มขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัดของหยูเทียนฮ่าวได้

ครืน ฟู่ ฟู่!

เมื่อพายุทรายสงบลง หยูเทียนฮ่าวนอนอยู่บนพื้น เลือดและเหงื่อไหลโซมทั่วร่าง

“ผู้ชนะ จ้าวเฟิง!”

ชั่ววินาทีต่อมา ทั้งคู่กลับมายังในเขาวงกต

จ้าวเฟิงกินวัตถุดิบยาล้ำค่าบางอย่าง เบิกพลังดวงตาซ้ายมองหาศัตรู

“จ้าวเฟิง เมื่อครู่เจ้าชนะหยูเทียนฮ่าว พวกเรากับองค์ชายสิบสาม จำนวนชัยชนะกลับมาเท่ากันอีกครั้ง!”

เสียงขององค์ชายเก้าดังขึ้น

“รับทราบ!” จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง

เขาตั้งมั่นอยู่กับการต่อสู่กับหยูเทียนฮ่าวมากเกินไป ไม่ได้แยกจิตไปช่วยจิงข่าย ทำให้จำนวนชัยชนะของกลุ่มช้าลงและถูกนำหน้า ถึงอย่างไรกลุ่มองค์ชายเก้าก็มีสามคนอยู่ในเขาวงกตเคลื่อนที่ เหลือเพียงเวลาช่วงสุดท้ายแค่นิดหน่อยเท่านั้น!

จ้าวเฟิงจะไม่ยอมให้จำนวนชัยชนะขององค์ชายสิบสามล้ำหน้าองค์ชายเก้าไปได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version