ตอนที่ 180 ปลุกสภาวะพิเศษของจ้าวหย่า
ที่บ้านของจ้าวหย่า
เมื่อได้รับข่าวที่ลูกน้องส่งมา เหยาฮั่นก็ได้แต่ส่ายหน้าและยิ้มอย่างขมขื่น
ตอนที่จ้าวหย่าบอกเขาว่าอาจารย์จางเซวียนเป็นนักรบขั้นพี่เชวี่ย เขาก็อดสงสัยเรื่องการถูกลอบทำร้ายที่ผ่านมาไม่ได้ ดังนั้นจึงแอบสืบเสาะอย่างลับๆ และในที่สุดก็ติดตามการเคลื่อนไหวของอาจารย์ซั่งปิงจนพบว่าฝ่ายนั้นไม่ได้ออกจากหอพักในวันนั้น!
นั่นแปลว่า อาจารย์ซั่งปิงไม่ใช่คนที่ทำร้ายเขาหน้าหอพักของจางเซวียน
ด้วยข่าวนี้ ก็ไม่ยากที่จะหาตัวการ
ชัดเจนแล้วว่าผู้ที่โจมตีเขาคงจะต้องเป็นอาจารย์ของนายหญิงน้อย, อาจารย์จางนั่นเอง
“หมอนั่นมันจอมลวงโลก…”
จนกระทั่งเวลานี้ หวนรำลึกถึงเหตุการณ์วันนั้นครั้งใดเหยาฮั่นก็แทบกระอักเลือด ในฐานะอาจารย์ของโรงเรียน หมอนั่นก็ควรจะมีศีลธรรมและความชอบธรรมมิใช่หรือ?
แต่นี่กลับใช้วิธีโจมตีแบบลอบกัด แถมยังจัดฉากป้ายสีผู้อื่น… ช่างไร้ยางอายอะไรเช่นนี้
“ลืมมันเสียเถอะ อย่างน้อยที่สุด ได้มีอาจารย์แบบนั้นอย่างไรนายหญิงน้อยก็ไม่ถูกเอาเปรียบ”
แม้เขาจะไม่พอใจ แต่เมื่อหวนนึกถึงเรื่องที่อาจารย์จางเคยมีน้ำใจมอบหญ้าพญาตะวันหิมะซึ่งเป็นของล้ำค่าให้จ้าวหย่าโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากกล้ำกลืนความโกรธลงไปด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น
ด้วยการมีอาจารย์ที่ไม่ยอมพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ คงไม่ต้องห่วงว่านายหญิงน้อยจะถูกใครรังแก จะว่าไปก็ถือเป็นเรื่องดี
“พ่อบ้านเหยา…”
เขากำลังคิดจะส่งข้อความโดยไม่ให้นายหญิงน้อยรู้ ก็พอดีกับที่องครักษ์คนหนึ่งก้าวยาวๆเข้ามาและเอ่ยขึ้น “นายท่านส่งข่าวมา” จากนั้นก็ยื่นผลึกบันทึกให้
“อือ!” เหยาฮั่นพยักหน้า หยิบผลึกบันทึกขึ้นมาและถ่ายทอดพลังปราณเข้าไป ทันใดนั้นชายวัยกลางคนร่างสูงสง่าก็ปรากฏกาย
บิดาของจ้าวหย่า เจ้าเมืองไป๋หยู นามว่าจ้าวเฟิง!
“ฉันได้ข่าวเรื่องจ้าวหย่าแล้ว อีกสองสามวันฉันจะเข้าเมืองหลวงเพื่อไปพบอาจารย์จางเซวียนคนนี้” ในผลึกบันทึก สายตาของจ้าวเฟิงคมกริบ มีบุคลิกของความเป็นผู้นำแต่กำเนิด
“ปราณหยินบริสุทธิ์… เป็นสิ่งที่สืบทอดมาทางเชื้อสายทางฝ่ายมารดาของจ้าวหย่า ต้องใช้ทั้งเงินและโชคชะตาเพื่อปลุกมันขึ้นมา ฉันจะต้องหายาระดับ 3 ที่มีมูลค่าหลายสิบล้านมาให้จ้าวหย่าให้ได้…ยาปลดปล่อยพลังหยิน!”
“เมื่อไปถึงเมืองหลวง ฉันตั้งใจจะร้องขอพระเมตตาต่อฮ่องเต้ ขอให้พระองค์ช่วยออกหน้าซื้อยาจากสมาคมนักปรุงยาให้ เธอก็ต้องเตรียมตัวล่วงหน้าเหมือนกันนะ ฉันจะให้คนนำเงินจำนวนแสนเหรียญไปส่ง ให้มอบเงินนี้ให้อาจารย์จางด้วย เพราะฉันไม่อาจปล่อยให้เขาใช้เงินตัวเองมาช่วยชีวิตลูกสาวของฉัน ฉันไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร และก็จะไม่ปล่อยให้ลูกถูกเอาเปรียบเช่นกัน!”
ในผลึกบันทึก ท่านเจ้าเมืองดูสง่างามและเปี่ยมอำนาจอย่างสุดๆ
เมืองไป๋หยูเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของอาณาจักรเทียนเซวียน เป็นที่เลื่องชื่อเรื่องการผลิตหยกขาว ในฐานะเจ้าเมือง จ้าวเฟิงครอบครองอำนาจเบ็ดเสร็จและดูแลความมั่งคั่งภายในเมืองทั้งหมด ก็เป็นธรรมดาที่เขาจะมีบุคลิกและท่วงท่าแบบผู้พิชิต
อาจารย์จางค้นพบสภาวะปราณหยินบริสุทธิ์ของจ้าวหย่าและยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ถือเป็นบุญคุณใหญ่หลวงนัก ในฐานะเจ้าเมืองไป๋หยูและข้าราชการผู้ทรงอำนาจ เขาจะปล่อยให้อาจารย์จางต้องควักกระเป๋าจ่ายค่ารักษาลูกสาวของเขาต่อไปได้อย่างไร?
ช่างเป็นการกระทำที่ไม่สมกับฐานะเจ้าเมืองเสียเลย!
“พ่อบ้านเหยา ท่านเจ้าเมืองให้ผมนำสิ่งนี้มา…” องครักษ์ผู้นำผลึกบันทึกมาให้ยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้เขา
“ท่านเจ้าเมืองยังกำชับผมให้บอกท่านว่า ให้ท่านเรียนอาจารย์จางว่าท่านเจ้าเมืองจะตอบแทนบุญคุณเรื่องการสอนนายหญิงน้อยในภายหน้า…” องครักษ์พูดต่อ
“เข้าใจแล้ว!” เหยาฮั่นพยักหน้า
“อย่าให้นายหญิงน้อยรู้เรื่องนี้ล่ะ!”
เหยาฮั่นกำลังจะสั่งงานต่อ ก็พอดีเห็นจ้าวหย่าเดินเข้ามา
“ลุงเหยา ดีเลยที่ลุงอยู่ที่นี่ ช่วยสั่งใครเตรียมถังไม้ให้หน่อย อ้อ, ลุงช่วยตรวจสอบราคายาปลดปล่อยพลังหยินด้วยได้ไหม? มันแพงกว่ายาเม็ดหลอมลมหายใจมากหรือเปล่า?”
เมื่อเข้ามาถึง จ้าวหย่าก็สั่งการทันที
อาจารย์จางมอบยาให้เธอ แม้เธอจะไม่มีเงินมากพอจะใช้คืนเขาตอนนี้แต่อย่างน้อยก็ควรรู้ราคาของมัน ด้วยวิธีนี้ อย่างน้อยที่สุดเธอก็จะได้รู้ว่าอาจารย์จางลงทุนลงแรงไปแค่ไหน
“ยาปลดปล่อยพลังหยินหรือ? ใช่ยาที่อาจารย์จางเคยบอกนายหญิงน้อยหรือเปล่า?” เมื่อได้ยินนายหญิงน้อยพูดถึงยาที่ท่านเจ้าเมืองเพิ่งเอ่ยถึง เหยาฮั่นชะงักและรู้สึกยำเกรงในตัวฝ่ายนั้น
แม้อาจารย์จางจะใช้เล่ห์เพทุบายหลอกลวงผู้อื่น แต่ความรู้ของเขานั้นน่าประทับใจนัก เขารู้ในสิ่งที่ท่านเจ้าเมืองกำลังจะใช้เงินมหาศาลเพื่อเสาะหามัน
ด้วยความประทับใจ เหยาฮั่นยิ้มและเอ่ย “ยาปลดปล่อยพลังหยินนั้นมีประโยชน์มากต่อปราณหยินบริสุทธิ์ วางใจเถิดนายหญิงน้อย ท่านเจ้าเมืองกำลังจะไปซื้อมาให้ในอีกสองสามวันนี้…”
ยาระดับ 3 นั้นไม่เพียงแต่จะมีราคาแพง แต่ยังต้องใช้เส้นสายในการซื้อหาด้วย คนธรรมดาทั่วไปจะซื้อไม่ได้เลยแม้ว่าจะมีเงินมากพอ
นี่คือเหตุผลที่ท่านเจ้าเมืองจ้าวเฟิงต้องเดินทางไปขอพระเมตตาจากฮ่องเต้เป็นการส่วนตัว ให้พระองค์ออกหน้าซื้อยาจากสมาคมนักปรุงยาให้ มิฉะนั้น แม้แต่เจ้าเมืองซึ่งมีสถานภาพสูงส่งในอาณาจักรเทียนเซวียนก็ยังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ
สมาคมนักปรุงยาเป็นองค์กรทรงอำนาจ สาขาที่อยู่ในอาณาจักรเทียนเซวียนเป็นเพียงสาขาเล็กๆ เมื่อเปรียบเทียบกับสาขาอื่นอีกนับไม่ถ้วนที่กระจายกันอยู่ทั่วโลก ด้วยการที่มีอำนาจหนุนหลังเช่นนี้ แม้ฮ่องเต้เซินจุยก็มิทรงกล้ายื่นมือเข้าก้าวก่ายกิจการของสมาคม ป่วยการจะพูดถึงเจ้าเมืองเล็กๆอย่างจ้าวเฟิง
เหยาฮั่นกำลังชั่งใจว่าจะบอกนายหญิงน้อยถึงข่าวที่ท่านเจ้าเมืองส่งมาดีหรือไม่ ก็พอดีเห็นเธอหยิบขวดใบหนึ่งออกมา “ไม่ต้องหรอก อาจารย์จางให้ยามาแล้ว ยังบอกให้ฉันฝึกวรยุทธให้ดีในสองสามวันนี้ด้วย!”
“ให้ยามาแล้วหรือ?” นัยน์ตาของเหยาฮั่นเบิกโพลงอย่างตกตะลึง
ท่านเจ้าเมืองเพิ่งพูดว่ายาระดับ 3 นั้นมีมูลค่าหลายสิบล้าน
แม้เมืองไป๋หยูทั้งเมืองก็จะต้องขาดแคลนงบประมาณไปหลายปีหากต้องใช้จ่ายเงินมากขนาดนั้นในคราวเดียว…
อาจารย์จาง…มอบให้นายหญิงน้อย…ง่ายๆแบบนี้เลย?
เหยาฮั่นรู้สึกเหมือนหัวสมองจะระเบิด
เคยเห็นคนใจกว้างมาก็มาก แต่…ไม่เคยเห็นใครใจกว้างขนาดนี้!
จะว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องความใจกว้างแล้ว…
มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อแบบสุดๆต่างหาก
“นายหญิงน้อย ขอผมดูยาหน่อยได้ไหม?” เหยาฮั่นข่มความตะลึงไว้และกลับเข้าเรื่อง
“นี่!” จ้าวหย่ายื่นขวดให้
เหยาฮั่นเปิดฝาขวด
ฟึ่บ!
กลิ่นที่อัดแน่นอยู่พวยพุ่งออกมาทันที สูดเพียงครั้งเดียวก็รู้สึกว่ารูขุมขนทั่วร่างถูกเปิดออก ให้ความรู้สึกสดชื่นอย่างไม่มีอะไรเทียบ
แม้เขาจะไม่มีความรู้ลึกซึ้งเรื่องยา แต่เพียงแค่กลิ่นของมันก็เพียงพอจะทำให้รู้แล้วว่ายานี้พิเศษมาก
มอบยาระดับ 3 – ยาปลดปล่อยพลังหยินให้ลูกศิษย์อย่างง่ายๆ…
อาจารย์จางผู้นี้มาจากที่ใดกันแน่?
ก่อนหน้านี้เขายังคิดจะแก้แค้นอีกฝ่ายลับหลังนายหญิงน้อย แต่เมื่อได้เห็นยา ความคิดนั้นก็หายวับไปจากใจทันที
เมื่อครั้งก่อนที่เขาพยายามกำจัดฝ่ายนั้น เขาถูกซ้อมยับเยินจนพ่อแม่แทบจะจำหน้าไม่ได้ หากทำแบบเดิมอีก ฝ่ายนั้นก็คงจะหลบเลี่ยงไปได้อย่างลอยนวลอีกครั้ง ในขณะที่เขาคงถูกส่งกลับเมืองไป๋หยูในสภาพเป็นศพ…
จะว่าไป อาจารย์จางผู้นี้ช่างลึกลับซับซ้อนยิ่งนัก
ตอนแรก เหยาฮั่นคิดว่าเขาเป็นอาจารย์ขยะของโรงเรียน และเป็นไอ้ชั่วร้ายที่ล่อลวงนักเรียนหญิงผู้ไม่ประสีประสาให้มาเป็นศิษย์ แต่ในชั่วพริบตาเดียวเขาก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นพี่เชวี่ย ทั้งยังเป็นเซียนผู้ไม่ยึดติดกับวัตถุนอกกาย ที่ทุ่มเทให้ลูกศิษย์อย่างหมดเนื้อหมดตัว
ซึ่งเรื่องเหล่านั้นเหยาฮั่นก็ยังพอรับได้ แต่จากนั้นอีกฝ่ายก็เข้าทดสอบเป็นนักปรุงยาและมอบหญ้าพญาตะวันหิมะกับยาปลดปล่อยพลังหยินให้นายหญิงน้อย… นี่ไม่ใช่เรื่องของพละกำลังหรือเกียรติยศศักดิ์ศรีอีกต่อไปแล้ว
หากไม่มีผู้ทรงอำนาจสักคนหนุนหลัง เขาไม่มีทางทำเช่นนี้ได้แน่
“ยกถังมาแล้วสินะ ฉันจะไปกินยาล่ะ!” รู้ว่าลุงเหยาของเธอมักจะยืนเข้าภวังค์เสมอตั้งแต่ถูกทำร้าย จ้าวหย่าจึงไม่ใส่ใจ เธอถือยาปลดปล่อยพลังหยินไว้ สั่งการให้คนนำถังเข้าไปในห้อง และตั้งต้นฝึกอย่างกระตือรือร้น
เวลาไม่คอยใคร เธอไม่อยากให้อาจารย์จางผิดหวัง
เหยาฮั่นจึงถูกทิ้งไว้ตามลำพัง เขานิ่งงันอยู่เนิ่นนานก่อนจะก้มลงมองผลึกบันทึกในมือด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น เขาส่ายหน้า “นายท่าน ผมรู้ว่าท่านไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร แต่ ผมคิดว่าท่านคงจะต้องชดใช้อาจารย์จางอีกเร็วๆนี้เป็นแน่…”
มอบยาปลดปล่อยพลังหยินที่แม้แต่นายท่านยังไม่อาจหาซื้อได้ ให้กับนายหญิงน้อยแบบง่ายๆ… แล้วนายท่านของเขาจะตอบแทนบุญคุณอันกว้างใหญ่ราวกับมหาสมุทรนี้ได้อย่างไร?
ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ไม่อาจตอบแทนได้…
ไม่รู้เรื่องรู้ราวกับความทุกข์ระทมของลุงเหยา จ้าวหย่ากลับไปที่ห้องของเธอเทน้ำร้อนลงในถังไม้ก่อนจะกำชับไม่ให้ใครมารบกวน แล้วถอดเสื้อผ้าและลงไปแช่ในถัง จากนั้นก็หยิบยาปลดปล่อยพลังหยินออกมาและกลืนมันตามลงไปทันที
มันให้ความรู้สึกราวกับกลืนน้ำซุปที่ร้อนจนลวกปาก คลื่นพลังงานที่ร้อนแรงแผดเผาทะลักเข้าสู่ร่างกายของเธอทันที
ยาปลดปล่อยพลังหยินนั้นมีคุณสมบัติเป็นพลังหยางบริสุทธิ์ เมื่อยาซึมซับเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังปราณ และการบำรุงในด้านอื่นๆที่ทำให้พละกำลังเพิ่มพูนขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่มีสภาวะปราณหยินบริสุทธิ์กินยานี้เข้าไป หายนะจะบังเกิด
เพราะหยินและหยางเป็นคู่ตรงข้ามที่ไม่อาจมีอยู่พร้อมกันได้ เมื่อคุณสมบัติของพลังหยางบริสุทธิ์ที่มีอยู่ในยาปลดปล่อยพลังหยินเข้าไปกระตุ้นในร่างกาย สภาวะปราณหยินบริสุทธิ์ก็จะถูกปลุกให้ตื่นเพื่อปกป้องเจ้าของสภาวะนั้น
แม้แนวคิดจะดูง่าย แต่ที่จริงเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและเสี่ยงมาก ความผิดพลาดเพียงน้อยนิดอาจทำให้วรยุทธของผู้นั้นเสื่อมถอยได้
“รักษาความสงบเยือกเย็นไว้และสำแดงวรยุทธออกมา”
รู้ว่ายานั้นเป็นของล้ำค่า จ้าวหย่าจึงไม่กล้าปล่อยให้สูญเปล่าไปแม้แต่น้อย เธอรวบรวมสมาธิและฝึกวรยุทธตามที่อาจารย์จางถ่ายทอดให้ เพื่อควบคุมการไหลเวียนของพลังปราณให้เป็นไปอย่างเหมาะสม
ด้วยเทคนิคการฝึกวรยุทธอันเหมาะเจาะซึ่งประมวลขึ้นโดยหอสมุดเทียบฟ้า ทันใดนั้น จ้าวหย่าก็รู้สึกว่ารังสีแผดเผาที่พลุ่งพล่านอยู่ในร่างของเธอสงบลงอย่างเห็นได้ชัด และในเวลาเดียวกัน ปราณหญิงบริสุทธิ์ซึ่งนอนนิ่งมาเนิ่นนานก็เริ่มมีชีวิต
บึ้ม!
ครู่ต่อมา คลื่นเกลียวพลังงานขนาดยักษ์ก็หมุนติ้วอยู่ในร่าง พลังงานของยาปลดปล่อยพลังหยินถูกซัดให้ไหลเวียนอย่างเกรี้ยวกราดไปทั่วทั้งร่างของเธอ
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
สิ่งขวางกั้นที่เธอเคยเผชิญก่อนหน้านี้แหลกสลายไปทันใด ในชั่วพริบตา
จ้าวหย่าก็สำเร็จวรยุทธขั้น 2 – ตันเถียน
ด้วยผลกระทบจากตัวยา เมื่อตาน้ำถูกเปิด สภาวะพิเศษของเธอที่ถูกปิดตายมากว่าทศวรรษก็ตื่นขึ้นโดยพลัน
ถ้ามีใครสักคนอยู่ตรงนั้น เขาก็จะได้เห็นว่าผิวพรรณของเธอเปลี่ยนไป ทั้งเรียบลื่นและนุ่มนวลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าก่อนหน้านี้จ้าวหย่าจะจัดว่าเป็นคนสวยอย่างหาตัวจับยากอยู่แล้ว แต่ด้วยความเยาว์วัยจึงทำให้ดูเหมือนเด็กยังไม่โต แต่ในตอนนี้รังสีความงดงามของเธอเปล่งประกายออกมาอย่างชัดเจน
การได้ครอบครองสภาวะปราณหยินบริสุทธิ์นี้เป็นพรจากสวรรค์ วินาทีที่สภาวะดังกล่าวถูกปลุกขึ้น ไม่เพียงแต่วรยุทธจะพุ่งพรวด แต่ผิวพรรณและรูปร่างก็จะเปลี่ยนไปด้วย แม้ว่าในด้านของรูปลักษณ์ที่ปรากฏออกมาจะดูไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่ตอนนี้เธอมีบุคลิกที่งดงามหมดจด ดูราวกับเทพธิดาที่ลงมาจากสรวงสวรรค์
ถ้าก่อนหน้านี้จ้าวหย่าเคยรู้สึกว่าตัวเองไม่อาจทัดเทียมเสิ่นปี้หรู วินาทีนี้ ทั้งรูปลักษณ์และบุคลิกของเธอนั้น อีกฝ่ายไม่อาจเชิดหน้าใส่ได้เลย เธอกลายเป็นเทพธิดาหมายเลขหนึ่งของโรงเรียนหงเทียนและอาณาจักรเทียนเซวียนไปแล้ว
นี่คือผลของปราณหยินบริสุทธิ์ เพียงแค่ปลุกมันขึ้นมา ผู้นั้นจะเปลี่ยนแปลงจากภายใน จากลูกเป็ดขี้เหร่กลายเป็นหงส์เลยทีเดียว สำหรับจ้าวหย่าที่สวยอยู่แล้วก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ด้วยกระบวนการนี้ เธอยิ่งดูโดดเด่นสะดุดตามากขึ้นอีก
ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่เธอปลุกสภาวะดังกล่าวได้เพียงสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
แทบไม่อาจจินตนาการได้ว่าเธอจะเป็นเช่นไรหากปลุกสภาวะนั้นได้อย่างสมบูรณ์
บึ้ม! หลังจากเวลาผ่านไปเนิ่นนาน เสียงระเบิดรุนแรงก็ดังกึกก้อง ถังแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จ้าวหย่าค่อยๆลืมตา รังสีอันทรงพลังแผ่ออกมาจากร่างของเธอ