บทที่ 1078 เส้นทางแห่งเซียนสูงสุด
แทบจะในพริบตาเดียวกับที่หน้ากากอธิษฐานอันนี้ปรากฏขึ้น…
ในมิติเศษเสี้ยวอีกแห่งหนึ่ง มหาจักรพรรดิปีกมารที่กำลังร่วมกับร่างแยกหมิงเหยียนทำการควบคุมจักรพรรดินี คล้ายว่าสัมผัสได้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที พลันหันไปมองบริเวณที่สวี่ชิงอยู่
ในใจของเขาตอนนี้มีสายฟ้าฟาดผ่ากึกก้อง
เขาย่อมรู้ว่าหน้ากากอันนั้นคืออะไร!
หลายปีมานี้ เพื่อตามหาหน้ากากอันนี้ เขาแทบจะหาไปทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมารแล้ว แต่ก็เหมือนกับคนชุดคลุมยาวสีดำคนนั้นพูด หน้ากากอันนี้…ไม่อาจตามหาได้
ยิ่งคิดอยากจะตามหา มักจะยิ่งไม่มีทางหาเจอ
“อยู่กับเขานี่เอง!”
มหาจักรพรรดิปีกมารหายใจถี่รัว ร่างกายขยับไหว เตรียมจะแบ่งพลังไปลองแย่งชิง แต่ในขณะนั้นเอง… จักรพรรดินีที่เขาและร่างแยกของหมิงเหยียนควบคุมเอาไว้ สายตากลับฉายแววเย็นเยียบ
องค์ท่านเพียงก้าวเดียว ทุกสิ่งกลับตาลปัตร จากที่ถูกควบคุม กลับกลายเป็นฝ่ายควบคุมอีกฝ่ายแทน
ทำให้มหาจักรพรรดิปีกมารไม่อาจหลบหนีไปได้
ส่วนอีกด้านหนึ่ง จากคำอธิษฐานของสวี่ชิงดังก้องไปทั่ว หน้ากากอันนี้ที่อยู่ข้างหน้าเขา มุมปากยกขึ้น เผยรอยยิ้มที่แผ่ขยายไปทั่วทั้งหน้า ยิ่งทำให้ดูแปลกประหลาดขึ้นกว่าเดิม
ขณะนั้นเอง มีเสียงหนึ่งดังก้องขึ้นจากความเวิ้งว้างไร้ที่มา ดังมายังโลกใบนี้
“คำอธิษฐานเป็นจริงแล้ว”
“ส่วนค่าตอบแทน…”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหน้ากากยิ่งดูแปลกประหลาดขึ้นเรื่อยๆ ทว่ายังไม่ทันกล่าวจบ มันกลับกลายเป็นเถ้าธุลีในสายลม ปลิวสลายไป
ในชั่วขณะที่มันสลายไป ร่างกายของสวี่ชิงก็พลันสั่นส่งเสียงดังกัมปนาท พลังมหาศาลเกินกว่าคำบรรยายปะทุขึ้น
เทพเจ้า อยู่เหนือซึ่งผู้บำเพ็ญ เหนือกว่าดวงดารา เหนือกว่าเอกภพ ลงมาเยือนในเสี้ยวขณะนี้
กลายเป็นกลิ่นอายกลุ่มหนึ่งพัดมายังกายเนื้อของสวี่ชิงในตอนนี้
เสี้ยวขณะต่อมา มิติพังทลาย สรรพสิ่งทั้งหลายแยกจากกัน
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่อาจต้านทาน และไม่สามารถต้านทานได้
สวี่ชิงสะท้านเฮือกทั้งร่าง กายเนื้อของเขาเริ่มแยกจากกันอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า
อันดับแรกเป็นใบหน้าของร่างกาย เลือดเนื้อดูราวกับสูญเสียการเชื่อมติดต่อกันและความเป็นหนึ่งเดียว ท่ามกลางการแยกจากกันนี้ก็หลุดลอกออก กลายเป็นประกายแสงระยิบระยับ
จากนั้นก็เป็นร่างกายอีกครึ่งหนึ่งที่ประกอบขึ้นจากเส้นเลือด ภายใต้พลังสลายที่ไม่อาจต้านทานนี้ ก็ได้พังทลายลงก่อน จากนั้นแตกสลาย และสุดท้ายก็กลายเป็นประกายแสงระยิบระยับเช่นกัน
จนกระทั่งร่างกายอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ ก็พังทลายลงภายใต้พลังแห่งคำอธิษฐานที่เกินจะจินตนาการ…
พลังชีวิตของกายเนื้อนี้ตลอดจนทุกสิ่งอย่างล้วนสลายไปโดยสมบูรณ์แล้ว
เหมือนว่าสารที่ค้ำจุนชีวิต ในเสี้ยวขณะนี้ถูกดึงออกไป ทำให้กายเนื้อตลอดจนทุกสิ่งล้วนไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน ภายใต้พลังที่น่าครั่นคร้ามตื่นตะลึงนี้ ทั้งหมดได้แปรเปลี่ยนเป็นสภาวะในยามแรกเริ่ม
ส่วนแสงผลึกนั่น เกิดขึ้นจากผลึกแก้วโปร่งแสงเล็กละเอียดที่ตาเปล่าไม่อาจมองเห็นได้จำนวนนับไม่ถ้วนรวมตัวกัน
ผลึกแก้วเหล่านี้ไม่มีสี สีของโลกภายนอกก็คือสีของพวกมัน
เพราะสิ่งปลอมปนในนั้นถูกกำจัดไป จิตความนึกคิดที่หลงเหลือในนั้นก็ถูกขยี้แหลกราญเช่นกัน
ตอนนี้สิ่งที่ถูกแยกออกมาก็คือต้นกำเนิดดั้งเดิมแรกเริ่มที่จับกลุ่มเป็นชีวิต
ซึ่งก็คือพลังต้นกำเนิดที่ดั้งเดิม ที่ดั้งเดิมที่สุด!
ส่วนวิญญาณของสวี่ชิง ลอยอยู่ในแสงผลึกแก้วเหล่านี้ จากการแผ่ขยายไปของจิตเทพ ผลึกแก้วเล็กละเอียดนับไม่ถ้วนรอบๆ เขา วนล้อมเป็นวงๆ ต่างกระทบเข้าด้วยกัน…
ดูดซับสีของสวี่ชิง ดูดซับกลิ่นอายของเขา สุดท้ายก็เปล่งแสงดอกไม้ไฟแห่งชีวิตที่เป็นของสวี่ชิงออกมา
ในดอกไม้ไฟเหล่านี้ มีความทรงจำของสวี่ชิง มีการหมุนย้อนของวันเวลา มีการหมุนเปลี่ยนของมิติ มีการสอดประสานของวิชาเต๋า ที่นั่น…ตามวิญญาณของสวี่ชิงแผ่พลังต้นกำเนิดวิญญาณที่เป็นชีวิตของสวี่ชิงออกมา
และเป็นการชักนำด้วยเช่นกัน
ตามแหล่งกำเนิดวิญญาณของสวี่ชิง ชักนำผลึกแก้วเหล่านั้น สร้างร่างของเขา
ขั้นตอนนี้ปกติแล้วช้านัก นับว่าเป็นการเกิดขึ้นมาจากความว่างเปล่า
ดังนั้น วิญญาณของสวี่ชิงพลันลืมตาขึ้นมา ทอดสายตามองรอบๆ เตาหลอมขนาดมหึมากลางท้องฟ้าที่มีหนอนสีฟ้าจำนวนมหาศาลกำลังวนล้อมหลอมอยู่
“ศิษย์พี่ใหญ่ เอากระดูกของข้ามาให้ข้า”
แทบจะในพริบตาที่สวี่ชิงแผ่จิตเทพออกมา หนอนสีฟ้าเหล่านั้นแต่ละตัวๆ ต่างกะพริบแสงสีฟ้า จากในหว่างคิ้วของพวกมันมีแสงสีเทาลอยออกมา
แสงนี้รวมกันเป็นกระดูกทองคำ!
กระดูกทองคำนี้ก็คือสิ่งสุดท้ายที่ทิ้งเอาไว้จากร่างที่ระเบิดตัวเองของสวี่ชิงในตอนนั้น
และเป็นวัตถุพลังต้นกำเนิดแก่นแท้ของเขา!
ตอนนี้กลับมา ทันทีที่ผสานไปในวิญญาณของสวี่ชิง การสร้างกายเนื้อในคำอธิษฐานของเขามีเงื่อนไขที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
เพียงพริบตา ภายใต้การชักนำจากวิญญาณของเขา ผลึกแก้วเล็กละเอียดนับไม่ถ้วนรอบๆ เขาพุ่งตรงไปยังกระดูกทองคำ กลายเป็นสารหล่อเลี้ยง ใช้เป็นพลังของพลังต้นกำเนิดดั้งเดิมชีวิต ทำให้กระดูกทองชิ้นนี้…เริ่มเจริญเติบโต!
ค่อยๆ กลายเป็นกระดูกท่อนหนึ่ง
กลายเป็นกระดูกโครงหนึ่งอย่างช้าๆ
จากนั้นก็มีเส้นลมปราณ มีเลือดเนื้อ มีผิวหนัง ปรากฏขึ้น…
สุดท้าย ในฟ้าดินแห่งนี้ ท่ามกลางความตื่นเต้นของเอ้อร์หนิว ท่ามกลางประจักษ์พยานของโลก ร่างที่ทำให้สวี่ชิงรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง…ปรากฏขึ้น!
ร่างสูงใหญ่ ผมสีม่วงปลิวพริ้ว ใบหน้างดงาม ฉายความสมบูรณ์แบบอย่างไม่มีผู้ใดเทียมได้
ส่วนกลิ่นอาย ไม่ใช่เซียน ไม่ใช่เทพ แต่เป็นคนธรรมดา!
คนธรรมดาที่ดั้งเดิมที่สุด!
เหมือนทารกที่เพิ่งถือกำเนิด
ความบริสุทธิ์แผ่กระจายในนั้น
ความสะอาดไร้มลทินแฝงอยู่ในนั้น
วิญญาณของสวี่ชิงอยู่ข้างใน ผสานกันได้อย่างยิ่งยวด สัมผัสรับรู้ของเขาบอกตัวเองว่า นี่…ก็คือกายเนื้อของเขา
วิญญาณของเขาบอกกับตัวเองว่า นี่…ก็คือสภาวะที่สบายที่สุดของตัวเอง
สวี่ชิงลืมตา
ความรู้สึกแห่งการถือกำเนิดใหม่ มาพร้อมด้วยความรู้สึกกลับคืนมาจากการห่างหายไปอย่างยาวนาน ผุดขึ้นมาในใจสวี่ชิง
“นี่ถึงจะเป็นตัวของข้า ส่วนร่างเลือดเนื้อซ่างฮวงคือร่างแยกของข้า” สวี่ชิงพึมพำ จากนั้นก็เงยหน้า
เขาไม่ได้มองเตาหลอมที่ถูกหลอมอยู่ และไม่เคยมองไปทางที่ที่จักรพรรดินีอยู่ ในดวงตาของเขาตอนนี้มีเพียงแสงผลึกแก้วรอบๆ เท่านั้น
สร้างกายเนื้อเป็นเพียงใช้พลังต้นกำเนิดชีวิตดั้งเดิมที่แปรเปลี่ยนมาจากร่างของหมิงเหยียนครึ่งหนึ่งเท่านั้น
ดังนั้น ความคิดที่วนเวียนอยู่ในสมองเขามาตลอดหลายปีมานี้ ในเสี้ยวขณะนี้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะลงมือทำจริง
“เทพเซียนในร่างเดียวเส้นทางนี้ข้าได้เดินมาแล้ว ข้อจำกัดของมันมีมากมาย การพัฒนาเติบโตช้าเนิบ ทุกก้าวล้วนมีพันธนาการ”
“ดังนั้นเส้นทางนี้ไม่ควรเดินต่อไปแบบนี้”
“ร่างแยกเทพ หากเป็นไปได้ข้าจะต้องชิงมันกลับมา…ใช้ร่างแยกเดินเส้นทางเทพบริสุทธิ์”
“ส่วนร่างจริง จะเดิน…เส้นทางเซียนบริสุทธิ์!”
“เช่นนี้ถึงจะเป็นเส้นทางที่เป็นของข้า!”
สวี่ชิงดวงตาเด็ดเดี่ยว ไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้นต่อไปอีก พลันสูดลมหายใจ
ทันใดนั้นผลึกแก้วละเอียดที่แผ่พลังต้นกำเนิดดั้งเดิมเหล่านั้นรอบๆ กายเขาก็พุ่งตรงมา ผสานไปในร่างเพียงเสี้ยวพริบตา แปรเปลี่ยนเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์ในร่าง
พลังวิญญาณนี้ไหลเวียนไปในเส้นลมปราณ จัดการร่างมนุษย์ธรรมดาในตอนนี้ ทำการผลักดันทันที จากคนธรรมดาก้าวสู่ผู้บำเพ็ญ ระดับรวมปราณขั้น 1 !
เพียงพริบตา จากการผสานของพลังดั้งเดิม พลังบำเพ็ญก็ใช้ความเร็วที่เหลือเชื่อ ยกระดับขึ้นทุกด้าน
มาถึงระดับรวมปราณขั้น 10 ทันที
ขั้น 10 สำหรับผู้บำเพ็ญคนอื่น เป็นขีดจำกัดสูงสุดของระดับรวมปราณระดับนี้แล้ว แต่กายเนื้อร่างนี้ของสวี่ชิงสร้างขึ้นจากพลังต้นกำเนิดดั้งเดิม
ดังนั้นขีดจำกัดของคนอื่นไม่ใช่ขีดจำกัดสูงสุดของเขา
เพียงชั่วพริบตาก็มาถึงขั้นที่ 19 !
จากนั้นก็ทะลวงขั้นก้าวสู่ระดับสร้างฐาน
ช่องเวท 121 ช่องเปิดออกในเสี้ยวอึดใจ จากนั้นยังมีช่องเวทที่ซ่อนอยู่ในร่างเขาอีก 26 ช่อง ก็ถูกพลังต้นกำเนิดนี้ทะลวงเปิดออก ไม่เคยมีมาก่อน!
ท่ามกลางเสียงระเบิดกึกก้อง ช่องเวท 147 ช่องก็กะพริบแสงระยิบระยับทั่วร่างสวี่ชิง เกิดเป็นไฟชีวิต
ไม่ใช่ 5 ไฟ แต่ถึง 9 ไฟ!
จากนั้น ภายใต้ 9 ไฟนี้ก็มีตะเกียงแห่งชีวิตที่เป็นของสวี่ชิงปรากฏขึ้น
ตะเกียงแห่งชีวิตก่อขึ้นจากสายเลือด ส่วนตะเกียงแห่งชีวิตของสวี่ชิงเป็นทรงนาฬิกาแดด ตอนนี้ปรากฏออกมาทั้งหมด ค้ำจุนไฟชีวิต ทำให้แสงเพลิงท่วมฟ้า
ภาพนี้ทำให้เอ้อร์หนิวเห็นแล้วจิตใจสั่นสะท้าน
เขามีชีวิตมาหลายชาติขนาดนี้ ไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย
“แต่ข้าเหมือนจะเคยได้ยินมาก่อน…ว่ามีเส้นทางเซียนสูงสุดที่เล่าสืบต่อกันมาในระบบดาวพสุธาแดนดิน…”
ในขณะที่เอ้อร์หนิวตื่นตะลึง การยกระดับของพลังบำเพ็ญสวี่ชิงก็ยังดำเนินต่อไป
ไฟทั้ง 9 ระเบิดปะทุ วังสวรรค์ลอยขึ้นมา
ในตำนานของพสุธาแดนดิน ฟ้ามี 33 ชั้น
ตอนนี้ ตำนานนี้กลายเป็นเรื่องจริงในทะเลความรู้สึกของสวี่ชิง
วังสวรรค์ 33 วังปรากฏครืนครั่นสนั่น สุดท้ายก็กลายเป็นวัตถุจริง ภายใต้ปากทางของพวกมันจะเห็นวังสวรรค์ในนั้นต่างมีปราณก่อกำเนิดที่ส่องแสงสีเงินวูบวาบนั่งขัดสมาธิอยู่
ประดุจเซียน
ทุกก้าวของสวี่ชิงล้วนเป็นขีดจำกัดสูงสุด
นี่ก็คือเส้นทางเซียนบริสุทธิ์ที่เขาจะเดิน ซึ่งก็คือเส้นทางเซียนสูงสุดที่เอ้อร์หนิวว่า
ส่วนระดับสมบัติวิญญาณหลังจากปราณก่อกำเนิด ภายใต้การผลักดันของผลึกแก้วพลังต้นกำเนิดดั้งเดิมก็มาถึงขีดสูงสุดเช่นกัน
สมบัติวิญญาณทั้ง 9 ประดุจภูเขาไฟท่วมฟ้า เริ่มปะทุ
เสียงครืนครั่นสนั่นหวั่นไหวดังจากในร่างสวี่ชิงไปทั่วสารทิศ
เพียงแต่มองไปอย่างละเอียดแล้ว จะเห็นว่าสมบัติวิญญาณทั้ง 9 นี้แม้จะปะทุราวเตาหลอม แต่ข้างในกลับว่างเปล่า
ไม่มีพลังวิเศษ วิชาเต๋า
สวี่ชิงเงียบนิ่ง นึกย้อนถึงพลังวิเศษทั้งหมดในชีวิตนี้ จากความคิดของเขา ในสมบัติวิญญาณคลังที่ 1 ก็พลันมีผูกงอิง กลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นมา
ในดอกผูกงอิงนี้ประทับพลังวิเศษที่สวี่ชิงควบคุมต้นกำเนิดเอาไว้!
นั่นคือ…
ช้อนจันทรากลางบ่อ!
“ช้อนจันทรากลางบ่อ แก่นแท้ของมัน…คือมายาเรื่องจริงสลับเปลี่ยน เป็นการสร้างขึ้นจากความว่างเปล่า เป็นวิถีแห่งมิติ”
“ใช้มันประทับเป็นเคล็ดวิชาลับสมบัติวิญญาณของข้า”
“ส่วนคลังที่ 2”
ในขณะที่ความคิดของสวี่ชิงหมุนก็พลันสัมผัสอะไรได้ พลันจ้องไปยังดอกผูกงอิงกลุ่มนั้นที่ช้อนจันทรากลางบ่อประทับ
และดอกผูกงอิงกลุ่มนี้เกิดการทับซ้อนขึ้น แยกจากกันอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นดอกผูกงอิงนับไม่ถ้วน กระจายมาในทะเลความรู้สึกของสวี่ชิง จ้องมองดอกผูกงอิงที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นเหล่านี้ ในใจของสวี่ชิงหนักอึ้ง
ขณะเดียวกัน เสียงผู้หญิงที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานและเก่าแก่โบราณเสียงหนึ่ง ผ่านตัวกลางจากดอกผูกงอิงมายาเหล่านี้ ส่งมาในทะเลความรู้สึกของสวี่ชิง
“ไม่ต้องตกใจสงสัยไป นี่คือข้าใช้เคล็ดวิชาลับส่งจิตเทพมาหาเจ้า”
“ในที่สุดเจ้าก็เหยียบมาบนเส้นทางเซียนสูงสุดพสุธาแดนดินจนได้ ตอนนั้นข้าให้เวลาเจ้า 10 อึดใจ ให้เจ้าสัมผัสรับรู้ต้นกำเนิดวิถีพสุธาแดนดิน ตอนนี้ปฏิบัติตามคำสัญญาโบราณ มนุษย์ธรรมดาผู้ที่เหยียบย่างมาบนเส้นทางเซียนสูงสุดพสุธาแดนดิน มอบวาสนาสัมผัสรับรู้ 30 อึดใจ”
“พสุธาแดนดินมีวิชาหนึ่ง ชื่อว่า 8 สูงสุด หากเจ้ามีวาสนา จะสามารถคว้ามันไปได้”
“สิ้นสุดคำพูดเพียงเท่านี้”
เสียงค่อยๆ รางเลือนหายไป
…
ขณะเดียวกัน นอกแดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมาร ในเมืองหลวงเผ่ามนุษย์ แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ณ ดินแดนเจริญรุ่งเรืองแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีศาลเจ้าเก่าแก่แห่งหนึ่ง
มันตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น แต่คนที่สัญจรไปมากลับสัมผัสมันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เหมือนว่ามันไม่ได้อยู่ในความเป็นจริง
และในตอนนี้ ในศาลเจ้า มีชายชราคนหนึ่งกำลังจากไป
เงาแผ่นหลังอ้างว้างเดียวดาย
ส่วนเจ้าวังเซียนคิมหันต์ที่สวี่ชิงเคยเห็นที่นี่คนนั้นนั่งขัดสมาธิ สีหน้าโศกเศร้า จ้องมองเงาแผ่นหลังที่จากไป
ผีเสื้อน้อยตัวหนึ่งที่อยู่ข้างๆ เขาโบยบิน เอ่ยถามอย่างสงสัย
“ท่านอาจารย์ ตาแก่คนนี้เป็นใครหรือ แล้วก็ทำไมท่านถึงต้องช่วยไอ้คนที่ข้าเกลียดคนนั้นด้วย นอกจากนี้ทำไมสีหน้าของท่านจึงเศร้าโศกเช่นนี้เล่า”
เจ้าวังเซียนคิมหันต์ถอนหายใจเบาๆ
“เขาเป็นสหายเก่าแก่ของข้า และต่อจากนี้ฟ้าจะเปลี่ยนแล้ว ไม่รู้ว่าร่มของเขาจะค้ำจุนเอาไว้ได้หรือไม่…”
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)
