บทที่ 1106 คนเจ้าเล่ห์ปะทะคนเจ้าเล่ห์
ณ บริเวณห่างไปจากถ้ำที่สวี่ชิงอยู่ 9 แสนกว่าลี้ บนท้องฟ้า ใต้แสงเรืองรองแห่งขั้วโลกสีแดง ชายหนุ่มในชุดคลุมยาวสีเหลืองคนหนึ่ง กำลังพุ่งทะยานไปอย่างเร็วรี่
เขาแหวกนภาไปตลอดทาง รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ตาเนื้อแทบจะสังเกตไม่เห็น
อีกทั้งเป้าหมายก็ชัดเจน คือทิศทางที่สวี่ชิงอยู่นั่นเอง
พลังบำเพ็ญที่ใกล้เคียงระดับผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวช่วงกลาง จากการเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เขาก็จำกัดมันไว้ภายในรัศมีร้อยจั้งรอบกาย ไม่แผ่ไปนอกนั้นแม้แต่น้อย อีกทั้งจากการพุ่งทะยานไป ก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น
สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกนั้นธรรมดา ใบหน้าซีกขวายังมีปานที่ไม่ชัดเจนอยู่รอยหนึ่งด้วย ทำให้เขาทั้งคนดูค่อนข้างแปลกประหลาด
แต่ในดวงตากลับแฝงประกายเจ้าเล่ห์ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
ตอนนี้แววตายิ่งทอประกายวาววาม
“นิ่งไม่ขยับเลยหรือ”
“น่าสนใจ…”
“คนคนนี้หากไม่รู้ตัวจริงๆ ขอบเขตการรับรู้ป้ายอนุมัติเมืองเซียนของเขาเป็นเพียงแค่เริ่มต้น ไม่ก็เป็นพวกที่มีเล่ห์กล จัดเตรียมกับดักไว้!”
“แน่นอน ยังมีความเป็นไปได้ที่ 3 คือคนคนนี้มั่นใจในตนเองอย่างยิ่ง…”
ชายหนุ่มหรี่ตาลง ในขณะที่สมองขบคิด ความเร็วก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
“แต่สำหรับข้าแล้ว ไม่กลัวกับดัก!”
“แม้จะเป็นความเป็นไปได้ข้อที่ 3 แต่ก็ไม่ถึงกับไร้ทางพลิกสถานการณ์”
คิดถึงตรงนี้ เขาก็พลันยกมือขึ้น นำแหวนเก็บของคู่หนึ่งที่มีมิติเดียวกันที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ วงหนึ่งในนั้นออกมา แล้วโยนลงไปข้างล่าง
ข้างล่างเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำผืนหนึ่ง
แหวนวงนั้นร่วงหล่นลงไปอย่างรวดเร็ว จมหายไปในนั้น
การกระทำนี้ คล้ายว่าทำไปโดยไม่ตั้งใจ การลงมือไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มคนนี้เสียเวลาแม้แต่น้อย เสี้ยวพริบตาถัดมา เงาร่างของเขาก็พุ่งทะยานไปจากที่นี่
โดยปกติในแหวนเก็บของล้วนมีมิติเก็บของอยู่ ส่วนแหวนเองก็เหมือนประตูของมิติ
ตามปกติแล้ว ประตูที่เปิดมิติเก็บของจะมีเพียงบานเดียวเท่านั้น
แต่ชายหนุ่มคนนี้ กลับสร้างไว้ 2 บาน
เหตุที่ทำเช่นนี้ คนภายนอกนั้นไม่ทราบสาเหตุ นี่คือความลับของเขา เกือบทุกคนที่ล่วงรู้ความลับนี้ เขาสังหารไปหมดแล้วทั้งนั้น
ส่วนจิตสังหาร จากการพุ่งทะยานไปของชายหนุ่ม ก็กำลังสะสมเพิ่มขึ้น
เวลาหลังจากที่เหมือนจะรับรู้ได้ถึงจิตสังหารและรีบเร่งนี้ ก็ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วจนทำให้ผู้คนไม่ทันรู้ตัว
ระยะทาง ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
7 แสนลี้, 5 แสนลี้, 3 แสนลี้…
กระทั่งแสนลี้!
ณ ระยะทางนี้ ความเร็วที่เดิมก็น่าตกตะลึงอยู่แล้วของชายหนุ่มคนนี้ ก็พลันเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
เขาตัดสินใจมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นความเป็นไปได้ที่ตนวิเคราะห์แบบใดก็ตาม วิธีการของตัวเขาก็จะทำไปตามแผนการ
แผนการของเขา ก็คือจะทำการเคลื่อนย้ายไปอย่างรวดเร็วในขอบเขตการรับรู้เริ่มต้นของป้ายอนุมัติเมืองเซียนทั้งหมดระยะแสนลี้นี้ ไม่ให้อีกฝ่ายมีโอกาสตอบโต้แม้แต่น้อย
……
ตอนนี้ เหนือถ้ำที่สวี่ชิงอยู่ ท้องฟ้าพลันเดือดพล่าน ทันทีที่เสียงกัมปนาทครืนครั่นสนั่นหวั่นไหวปะทุดังท่วมฟ้า อีกทั้งยิ่งมีแหล่งกำเนิดแสงสีฟ้าปรากฏขึ้นในพริบตา แสงที่แผ่ออกมากวาดโหมไปทุกทิศทาง
ในพริบตที่เหมือนจะท่วมจมแสงเรืองรองแห่งขั้วโลกสีแดงบนฟากฟ้าไปจนหมด ค้อนหินขนาดมหึมาเล่มหนึ่งก็พลันปรากฏขึ้น
ค้อนนี้เก่าแก่โบราณ แผ่กลิ่นอายเก่าแก่ ราวกับอยู่มานานแสนนาน เมื่อปรากฏขึ้นในขณะนี้ มันก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย พลันทุบไปยังเขารกร้างที่อยู่เบื้องล่าง
สยบกำราบ!
ฟ้าดินพลันสั่นสะเทือน ระลอกคลื่นพลังรูปวงแหวนกลุ่มหนึ่ง ก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับแสงสีฟ้า ประดุจเป็นวัตถุจริง ทำลายล้างบดขยี้
ทว่าค้อนหิน กลับไม่ใช่วัตถุจริง
การทุบลงมาของมัน สามารถทะลุผ่านภูเขารกร้าง มาปรากฏยังเหนือศีรษะของสวี่ชิงที่ลืมตาอยู่ในถ้ำทันที
รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง พลังมหาศาล
เพียงพริบตา ไม่ให้สวี่ชิงมีโอกาสได้พักหายใจแม้แต่น้อย ปกคลุมไปทันที แล้วทุบลงอย่างรุนแรง
ขณะเดียวกัน หลังจากค้อนหินนี้ ชายหนุ่มที่มีปานบนใบหน้าซีกขวา ก็แสดงความเร็วอันน่าสะพรึงกลัวเช่นกัน ตามหลังค้อนหินมาติดๆ
จิตสังหารแผ่ออกมาอย่างสั่นสะเทือนฟ้าดินในชั่วพริบตานี้
ช่วงวิกฤติอันตราย สวี่ชิงที่นั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่น สีหน้าพลันเปลี่ยนไปทันที ในยามที่เงยหน้า 2 มือก็ประสานปางมือ ค่ายกลผนึก 49 ก็พลันพุ่งขึ้นมารอบๆ ทันที
ค่ายกลผนึก 49 เปิดขึ้น ค่ายกลผนึกหลายแสนพุ่งมาจากทุกทิศทาง แผ่ปกคลุมไปยังขอบเขตที่สายตามองเห็นทั้งหมด กลายเป็นสายไหมอาคมเป็นสายๆ รวมกันเป็นหมัดหนึ่ง
โจมตีไปยังตราประทับหินที่ร่วงลงมาสุดกำลัง
เสียงกึกก้องสนั่นหวั่นไหว ในเสี้ยวขณะนี้สั่นคลอนฟ้าดิน แผ่ขยายไปทั่วทุกทิศทาง
ภูเขารกร้างที่ถ้ำตั้งอยู่ กลายเป็นเศษธุลีทันที แม้แต่พื้นดินใกล้เคียง ก็เช่นกัน กลายเป็นผุยผงกระจายไปรอบๆ
แม้แต่ความว่างเปล่าก็ยังบิดเบี้ยว ก่อเป็นรอยแยกมิติมากมาย
หมัดที่ก่อขึ้นจากค่ายกลหลายแสน สุดท้ายแล้วมีจำนวนน้อยเกินไป ตอนนี้ก็พังทลายเป็นชุ่นๆ
แต่อาศัยพลังของค่ายกลผนึก 49 และการปะทุพลังที่เกิดจากการพังทลาย ก็ยังคงทำให้ค้อนหินที่ร่วงลงมานั้น พลังพลานุภาพถูกสกัดกั้น อีกทั้งยังถูกยกขึ้นไป
เพียงแต่การโจมตีอันหนักหน่วงนี้ สวี่ชิงดูเหมือนจะแย่ไปเหมือนกัน
สีหน้าของเขาซีดเผือด ทั่วร่างสั่นสะท้าน แต่เห็นได้ชัดว่าในยามวิกฤตินี้ เขาก็ไม่สนใจอะไรมากนัก ตอนนี้เพียงไหววูบ ก็จะอาศัยโอกาสนี้หลบหนีไป
แต่ชั่วพริบตาถัดมา ชายหนุ่มที่อยู่หลังค้อนหิน ก็ประชิดเข้ามาแล้ว รอยเต๋าในดวงตาฉาบวูบ มือขวายกขึ้นสะบัด
เพียงพริบตา ลมพลันพัดกรรโชก!
อำนาจของเขา คือลม
ตอนนี้ลมสวรรค์พัดมา แปรเปลี่ยนเป็นพายุในทันที โอบล้อมสถานที่แห่งนี้ พัดกวาดซึ่งทุกสิ่ง ยิ่งพัดหอบกำแพงลมขึ้น ราวผนึก
ขัดขวางเส้นทางของสวี่ชิง
ขณะเดียวกัน ในพายุ มีเสียงคำรามต่ำๆ ดังออกมาเป็นระลอกๆ ในขณะต่อมา ในนั้นก็พลันมีกองทัพเกรียงไกรปรากฏขึ้น จากทุกทิศทาง พุ่งสังหารมายังสวี่ชิง
อีกทั้งข้างบน ชายหนุ่มที่มีปานบนใบหน้าซีกขวาคนนั้น จิตสังหารบ้าคลั่งเช่นกัน พุ่งตรงมาหาสวี่ชิง
สวี่ชิงเห็นว่าไม่อาจหลบหนีได้ ในดวงตาฉายแววบ้าคลั่ง ราวว่าทุ่มสุดตัว ยกมือสะบัด
พลันอำนาจลบเลือน ก็พุ่งขึ้นมายังที่นี่
เข้าสู้กับพลังอำนาจแห่งลม
จากนั้นร่างของสวี่ชิงก็พุ่งทะยานขึ้นฟ้า ในขณะที่ประสานมือ วิชา พลังวิเศษมากมายก็ต่างปรากฏขึ้น วนล้อมรอบตัวเขาเข้าสู้กับชายหนุ่มคนนั้น
ทั้ง 2 ฝ่ายต่างปะทะกันในทันที
เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวสะท้อนกึกก้อง
ความบ้าคลั่งของสวี่ชิงยิ่งรุนแรงขึ้น คล้ายว่าเป็นการทุ่มสุดตัวในสถานการณ์สิ้นหวัง ไม่คำนึงถึงตนเอง เป้าหมายคือเพื่อบีบให้อีกฝ่ายถอยร่น
ดังนั้น เพียงพริบตา เสียงดังสนั่นหวั่นไหวกึกก้อง สะท้านสะเทือนเลื่อนลั่น ความดุเดือดพุ่งถึงขีดสุดในทันที
แต่เห็นได้ชัดว่าความแตกต่างระหว่างพวกเขานั้นไม่น้อยเลย เพียง 10 กว่าอึดใจต่อมา สวี่ชิงก็สั่นสะท้านไปทั่วร่าง ฝ่ามือของชายหนุ่มปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเขาอย่างแปลกประหลาด
มาพร้อมด้วยความโหดเหี้ยม ไม่ให้โอกาสสวี่ชิงแม้แต่น้อย อีกทั้งนับตั้งแต่เริ่มสู้กันมาก็ไม่มีคำพูดใดๆ บีบลงอย่างรุนแรง
เสียงโพละดังขึ้น ศีรษะของสวี่ชิงก็แตกเป็นเสี่ยงๆ แหลกสลายไปทันที
แต่ในชั่วพริบตาก่อนที่จะพังทลาย สวี่ชิงเลือกที่จะระเบิดตัวเองอย่างไม่ลังเล เพื่อขัดขวางอีกฝ่าย ขณะเดียวกันนั้นก็ทิ้งวิญญาณเอาไว้กลุ่มหนึ่ง ราวกับจะหนีไปไกล
เสียงระเบิดตูมๆ ดังสะท้านฟ้าดินอีกครั้ง
พลังของการระเบิดตัวเองก่อตัวเป็นคลื่นวนอันน่าสะพรึงกลัว แต่ชายหนุ่มคนนั้นกลับยิ้มเยาะ จากนั้นพลันมีกลิ่นอายรอยเต๋า พุ่งขึ้นจากร่างของเขา ก่อตัวเป็นทะเลเพลิง
เขามีพลังอำนาจถึง 2 อย่าง
หนึ่งคือลม หนึ่งคือไฟ
อีกทั้งรูปแบบการต่อสู้ของเขา ก็ไม่เหมือนกับผู้พิทักษ์เหมืองวิญญาณและเจ้าเมืองที่สวี่ชิงสังหารไปเลย เมื่อเขาลงมือก็ใช้อำนาจ เมื่อโจมตีก็เป็นไพ่ตาย
ตอนนี้ทะเลเพลิงเดือดพล่านปั่นป่วน พุ่งไปยังคลื่นวนที่เกิดจากการระเบิดตัวเอง แล้วกลืนกินลงไปในทันที
เห็นว่าจะจัดการทุกสิ่งได้แล้วเต็มที อีกทั้งขณะที่ทะเลเพลิงปั่นป่วนเดือดพล่านก็หลอมรวมเข้ากับลมรอบกาย ภายใต้การปะทุพลัง ก็ขัดขวางวิญญาณของสวี่ชิงที่จะหลบหนี แล้วบดขยี้มันแหลกละเอียด
ในตอนนี้เอง!
ใต้ผืนดิน สวี่ชิงตัวจริง ก็พลันลืมตาขึ้น
เงาร่างก่อนหน้านี้ ย่อมเป็นเงาร่างที่แปลงมาจากต้นไม้วิเศษกระจกแก้ว ต้องพูดเลยว่าเงาร่างที่แปลงมาจากต้นไม้ต้นนี้ กลิ่นอายไม่แตกต่างไปจากสวี่ชิงเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังสามารถแปลงวิญญาณออกมาได้อีกด้วย
แม้จะเป็นของปลอม แต่ในเวลาสั้นๆ ก็ยากที่จะให้คนแยกออกได้
และยังดึงดูดพลังอำนาจธาตุไฟของคู่ต่อสู้ได้สำเร็จ ทำให้ในขณะนี้อีกฝ่ายและตัวเขาเอง เผยช่องว่างออกมา
ดังนั้นในดวงตาสวี่ชิงพลันฉายประกายเย็นเยียบขึ้นมาวูบหนึ่ง
อำนาจ 5 ธาตุ ปะทุพลังขึ้นทั้งหมด
ในพริบตา แผ่นดินรอบๆ ที่กลายเป็นเศษธุลีก็ปั่นป่วนขึ้นมา พลังแห่งผืนดินในขณะนี้ รวมตัวกันมาอย่างรวดเร็วจากรอบด้าน
ท่ามกลางแผ่นดินสั่นไหวขุนเขาโยกคลอน ดินโคลนราวมหาสมุทร ปกคลุมสายลม กำราบพลังอำนาจธาตุไฟของชายหนุ่ม
จากนั้นไฟจาก 5 ธาตุของสวี่ชิง ก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ทะเลเพลิงแผ่ขยาย เพลิงสวรรค์ไหลวน
อีกทั้งยังมีไอน้ำนับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นในฟ้าดิน ทุกหยดในนั้นล้วนมีเงาร่างของสวี่ชิงปรากฏขึ้น มีพลังอำนาจยิ่งใหญ่เกรียงไกร
ทั้งยังมีพลังแห่งไม้พันเกี่ยว กลายเป็นฝักกระบี่ไม้นับไม่ถ้วน แผ่เต็มทั่วทุกสารทิศ
และภายในฝักกระบี่แต่ละเล่ม ตอนนี้ล้วนมีพลังธาตุทองสาดประกายแสงออกมา
พลังอำนาจ 5 ธาตุ สำแดงออกมาพร้อมกัน พลังสังหารทำลายล้างในเสี้ยวพริบตานี้ เรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
ส่วนสวี่ชิงยังคงไม่วางใจ จุดธูปคร่าชีวิตขึ้นโดยไม่ลังเล
ควันธูปลอยขึ้น การสังหารพรากวิญญาณก่อตัวขึ้น ธูปติด ชีวิตมอดไหม้
อีกทั้ง จากการซัดมาของอำนาจ 5 ธาตุ ตัวสวี่ชิงเองก็พุ่งทะยานมาจากใต้ผืนดินอย่างเด็ดขาด
สั่นสะท้านน่าครั่นคร้าม มือถือกระบี่จักรพรรดิ พุ่งตรงไปยังชายหนุ่ม
ทุกอย่างนี้พูดแล้วเหมือนช้าเนิบ แต่ล้วนเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา
แม้แต่เจ้าเงา ภายใต้การส่งจิตออกไปของสวี่ชิง ก็กระตุ้นบริเวณที่ความมืดมิดที่สุดของตัวเอง ปกคลุมทั่วทั้ง 4 ทิศ ควบคุมเงาทั้งหมดที่อยู่ภายใต้แสงเรืองรองแห่งขั้วโลกในอาณาบริเวณ ลงมือช่วยสนับสนุน
นี่คือการสังหารที่สวี่ชิงเตรียมไว้!
เผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ สีหน้าของชายหนุ่มคนนั้นในที่สุดก็เปลี่ยนไปอย่างมหาศาล ร่างพลันถอยร่นไป ขณะเดียวกันเขาก็โคจรอำนาจธาตุลมและไฟขึ้นอีกครั้ง ตัวเขายิ่งสะบัดของวิเศษเวทออกไป
ขณะเดียวกันนั้นก็แสดงพลังวิเศษของตัวเอง พยายามหลบเลี่ยงการสังหารนี้
แต่เห็นได้ชัดว่า ก็ยังช้าไปแล้ว
แม้เขาจะวิเคราะห์ได้ว่าสวี่ชิงมีการวางแผนเตรียมตัว แต่กลับมองไม่ออกในทันทีว่าเงาร่างของต้นไม้วิเศษกระจกแก้วเป็นของปลอม นี่ก็กำหนดแน่แล้วว่าจะเกิดสถานการณ์อย่างในตอนนี้ขึ้น
ดังนั้นท่ามกลางความบ้าคลั่งของพลังอำนาจ 5 ธาตุ ผืนดินกระตุ้นร่าง ทะเลเพลิงทำลายวิชา ประกายแสงทองกระตุ้นวิญญาณ พลังธาตุไม้ตัดชีวิต ไอน้ำพิฆาต!
เงาพันเกี่ยว กระบี่พังทลาย
เสียงระเบิดตูมๆ ดังสนั่นหวั่นไหวแผ่ออกไป เสียงดังแว่วกังวานไม่สิ้นสุด
ร่างกายของชายหนุ่มก็แตกสลายไปในเสียงก้องกังวานนี้ แหลกละเอียดไม่เป็นชิ้น กลายเป็นเศษเนื้อนับไม่ถ้วนและแหวนเก็บของ 1 วง
การต่อสู้สิ้นสุดลง
เจ้าเงาตื่นเต้นอย่างยิ่ง ตอนนี้ระลอกคลื่นอารมณ์พลุ่งพล่านแผ่ระลอกปั่นป่วน หอบม้วนเศษเนื้อเหล่านั้นและแหวนอย่างยินดีปรีดา มุ่งหน้ามายังสวี่ชิง เตรียมขอความดีความชอบ
แต่…สีหน้าของสวี่ชิงในเสี้ยวพริบตานี้กลับเคร่งขรึมไปในทันที เขาพลันยกมือขึ้น กดลงไปข้างหน้า สกัดกั้นการเข้ามาใกล้ของเศษเนื้อเหล่านั้นและแหวนที่เจ้าเงากำลังม้วนมาทันใด
เจ้าเงาชะงักไป
ส่วนในดวงตาของสวี่ชิงประกายเย็นเยียบวาบขึ้นวาบ เขาสัมผัสไม่ได้ว่าอำนาจของอีกฝ่ายถูกดูดมาแล้ว และไม่รู้สึกถึงการเพิ่มขึ้นของอันดับและขอบเขตป้ายอนุมัติเมืองเซียน
อีกฝ่ายยังไม่ตาย!
และสำหรับการรับรู้ของป้าย เนื่องจากอยู่ใกล้เกินไป ดวงดาวอยู่ในสภาวะที่ทับซ้อนกัน ดังนั้นสวี่ชิงจึงไม่สามารถตรวจสอบร่องรอยผ่านจากป้ายของอีกฝ่ายได้ในทันที เว้นแต่เขาจะรีบไปให้ไกลเพื่อทิ้งระยะห่าง
ความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นมาในสมองของสวี่ชิงทันที จู่ๆ เขาก็พลันยกมือขึ้น
ชั่วพริบตาถัดมา มิติแผ่ระลอก กลายเป็นผิวน้ำ!
ฟ้าดินสามารถมองเป็นบ่อน้ำบ่อหนึ่งได้
นั่นคือช้อนจันทราในบ่อน้ำ!
การลงมือของสวี่ชิงเด็ดขาดเป็นอย่างยิ่ง ขอบเขตของช้อนจันทราในบ่อน้ำปกคลุมทั่วบริเวณโดยรอบทั้งหมด
ส่วนความเด็ดขาดนี้สำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ตอนนี้ ในเสี้ยวพริบตาที่ปรากฏขึ้น ภาพสะท้อนก็ปรากฏ!
บนผิวน้ำมีวิชาและอำนาจพวกนั้นที่สวี่ชิงแสดงออกไปก่อนหน้านี้ปรากฏขึ้นมา พวกมันเหมือนภาพสะท้อน สะท้อนอยู่ในนั้น
นี่คือภาพสะท้อนที่สวี่ชิงเลือก
นอกจากนี้แล้ว บริเวณที่เศษเนื้อเหล่านั้นและแหวนเก็บของอยู่ วิชาแต่ละวิชาตลอดจนพลังอำนาจธาตุลมกับไฟ 2 อย่าง ก็สะท้อนออกมาเช่นกัน
กระทั่งว่าแม้แต่สิ่งของในมิติของแหวนเก็บของ ก็เป็นเช่นนั้น
สวี่ชิง ในชั่วพริบตานี้เองมองเห็นถึงความผิดปกติ!
มิติเก็บของนี้มีประตู 2 บาน!
พร้อมกันนั้นเขายังพบว่า บนมิติของแหวนเก็บของนั้น มีเงามืดเงาหนึ่งแนบอยู่
เหมือนว่าจะไม่ใช่แค่แนบ
ในการรับรู้ของสวี่ชิง มีคำหนึ่งที่สามารถอธิบายได้
นั่นคือ ‘แนบติด’ !
เงาร่างนี้ ดูเหมือนจะเกาะแนบแน่นอยู่บนผนังมิติเก็บของ แฝงตัวอยู่อย่างแนบเนียนยิ่งนัก
อีกทั้งแต่เดิมเหมือนจะมีการเคลื่อนไหว
แต่อยู่ภายใต้ช้อนจันทราในบ่อน้ำ สรรพสิ่งหยุดนิ่ง ก็ส่งผลกระทบต่อเขาด้วยเช่นกัน แม้ว่าด้วยพลังระดับเจ้าเหนือหัวของเขา จะไม่อาจหยุดนิ่งได้อย่างสมบูรณ์ แต่การเคลื่อนไหวก็ยังคงเปลี่ยนมาเนิบช้า
ภาพฉากนี้ทำให้สีหน้าของสวี่ชิงเคร่งขรึม
เขาวิเคราะห์ได้ทันทีว่า นี่ถึงจะเป็นร่างจริงของอีกฝ่าย!
ส่วนที่ตนสังหารไปก่อนหน้านี้คือร่างแยก!
อีกฝ่ายมองร่างที่แปลงมาจากต้นไม้วิเศษกระจกแก้วของตนไม่ออก แต่ก่อนหน้านี้ตนก็มองไม่ออกเช่นกันว่าร่างที่อีกฝ่ายแสดงออกมาไม่ใช่ร่างจริง
เขาและอีกฝ่าย ล้วนเลือกใช้วิธีการเช่นนี้ เพื่อหลอกคู่ต่อสู้
ส่วนร่างจริง ล้วนอยู่ละแวกใกล้ๆ ใช้การทับซ้อนเพื่อรับรู้ป้าย เพื่ออำพรางซ่อนเร้น
เพียงแต่ การกระทำที่อีกฝ่ายแนบติดไปกับผนังมิติเก็บของเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าแนบเนียนกว่ามาก อีกทั้งวิธีการดำรงอยู่ก็พิเศษ
การแนบติดเช่นนั้น ราวกับว่าแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับผนังมิติเก็บของ
ดังนั้นในระดับหนึ่ง ถือว่าอยู่ระหว่างความจริงกับภาพลวงตา
พลังภายนอกยากจะทำอันตรายได้
สวี่ชิงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำถึงจุดนี้ได้อย่างไร
แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาครุ่นคิด
เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย ปะทุวิชาทั้งหมดที่ตนแสดงออกไปก่อนหน้านี้ไปในช้อนจันทราในบ่อน้ำขึ้นอีกครั้ง
“ต่อให้เจ้าซ่อนอยู่ในนั้น ทำให้ตัวเองอยู่ระหว่างความจริงกับภาพลวงตา แต่ข้าก็ยังทำร้ายเจ้าได้!”
ช้อนจันทราในบ่อน้ำ เดิมทีก็เป็นวิชาแห่งมิติ
อีกฝ่ายอย่าว่าแต่แนบติดอยู่บนผนังมิติเลย ต่อให้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ พลังของช้อนจันทราในบ่อน้ำ ก็ยังส่งอิทธิพลไปถึงได้!
ภายใต้การปะทุพลังในตอนนี้ วิชาและอำนาจทั้งหมดของสวี่ชิงก่อนหน้านี้ ภายใต้พลังช้อนจันทราในบ่อน้ำ ก็ส่งเสียงดังเลื่อนลั่นขึ้นอีกครั้ง
เป้าหมายในครั้งนี้ คือเงาร่างนั้น!
เพียงพริบตาทุกสิ่งพังทลาย
ขณะเดียวกัน ห่างออกไป 9 แสนลี้ ในพื้นที่ชุ่มน้ำ แหวนเก็บของวงที่ชายหนุ่มโยนทิ้งไปเมื่อก่อนหน้านี้วงนั้น ก็พลันกะพริบแสงขึ้น
เงาร่างหนึ่ง ปรากฏออกมาจากในนั้น
เป็นชายหนุ่มที่มีปานบนใบหน้าซีกขวาคนนั้นนั่นเอง
เพียงแต่เขาในตอนนี้ สีหน้าซีดเผือด หลังจากปรากฏตัวขึ้นก็กระอักเลือดออกมาคำใหญ่ พลันทอดสายตามองไปยังทิศที่สวี่ชิงอยู่
สีหน้าเคร่งเครียด
พลังอำนาจของเขาคือลมและไฟ
อำนาจ 2 อย่างก็เป็นอัจฉริยะฟ้าประทานแล้ว แต่เขาก็ยังไม่พอใจ
เพียงแต่ติดขัดที่พรสวรรค์ ไม่อาจก่ออำนาจที่ 3 ขึ้นได้
ดังนั้นเขาจึงบุกเบิกเส้นทางใหม่ ใช้ร่วมกับสิ่งพิเศษหายากที่มีพลังแห่งมิติ ใช้อำนาจธาตุไฟเผาไหม้มันให้กลายเป็นไขมัน จากนั้นผสานกับของเหลวเซียนในปริมาณหนึ่ง ทำให้มันคงสภาพเป็นของเหลว
เมื่อถึงคราวจำเป็น เขาก็จะใช้อำนาจธาตุลม ทำให้ของเหลวเซียนภายในสลายไปอย่างรวดเร็ว
ทำให้มันกลับมาแข็งตัวอีกครั้ง เช่นนี้ก็จะเกิดผลลัพธ์ของการแนบติด
เมื่อมีวิธีนี้แล้ว ก่อนที่จะต่อสู้ตัดสินเป็นตายกับผู้อื่น เขาจะทำให้ร่างจริงของตนเอง แนบติดไปบนผนังมิติเก็บของในแหวนเก็บของ ทำให้ตนเองอยู่ระหว่างความจริงกับภาพลวงตา เกือบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับมิติ
วิธีนี้ซ่อนเร้นอย่างยิ่ง อีกฝ่ายมักจะคิดว่าสังหารได้แล้ว ในยามที่มาเก็บแหวนเก็บของมาและตรวจสอบ เขาก็จะปะทุพลังขึ้นทันที
ใช้วิธีนี้ในการลอบโจมตี
สำเร็จไม่เคยพลาด
เพียงแต่ในการทดสอบล่าสังหารเมืองเซียน เนื่องจากเมื่อตายไปแล้วป้ายอนุมัติเมืองเซียนจะถูกดูดซับ สิ่งนี้ทำให้วิธีการซ่อนอำพรางไร้รูปร่างของเขา เกิดช่องโหว่ขึ้นมา
“แม้กฎการช่วงชิงระหว่างป้ายอนุมัติเมืองเซียนบ้าบอนี่จะส่งผลกระทบต่อผลการซ่อนอำพรางของข้า”
“แต่สามารถรับรู้ได้ในชั่วพริบตา ไม่ให้โอกาสข้าลอบโจมตี คนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน”
“อีกทั้งหลังจากรู้ตัว กลับยังมีวิธีทำร้ายร่างจริงของข้า ก็ยิ่งไม่ธรรมดาไปอีก โดยเฉพาะอำนาจของเขา…”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ รูม่านตาของชายหนุ่มคนนี้ก็หดเล็กลง
“ทั้งยังมีการเตรียมการรับมือของคนนี้เมื่อก่อนหน้านี้อีก แสดงให้เห็นถึงสติปัญญา อำนาจแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ การลงมือแสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาด ทั้งหมดนี้เมื่อรวมกันแล้ว…คนนี้คืออัจฉริยะฟ้าประทานที่หาได้ยากยิ่ง!”
“ส่วนพลังบำเพ็ญ ก็น่าจะปิดบังซ่อนเอาไว้เช่นกัน”
ในใจเขาหวาดระแวง ร่างเพียงไหววูบ ตั้งใจจะจากไป
เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้เช่นนี้ เขารู้สึกว่าการต่อสู้เป็นตายกับอีกฝ่าย ในช่วงเริ่มต้นของการล่าสังหารระยะที่ 2 ในตอนนี้ ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
อีกทั้งวิธีการของอีกฝ่ายก่อนหน้านี้ ก็ทำร้ายตนได้ ตอนนี้สภาวะของตัวเองก็ไม่ดีเยี่ยม
จำเป็นต้องหาที่รักษาบาดแผล
“ยังต้องระวังถูกอีกฝ่ายไล่ตามมา…”
ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา แต่ในชั่วพริบตาที่เขากำลังจะจากไป เขาพลันหน้าถอดสี หยิบเอาป้ายถ่ายทอดเสียง 1 อันออกมา หลังจากสัมผัสรับรู้เล็กน้อย ในดวงตาก็ฉายประกาย
“ที่ข้าตรงนี้มีคนคนหนึ่ง บางทีอาจจะเป็นคนที่เจ้ากำลังตามหาอยู่ก็ได้”
เขาคิดๆ ทันใดนั้นแผ่นหยกถ่ายทอดเสียงก็ตอบรับกลับมา
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)
