บทที่ 1107 ฝนหนืดผนึกฟ้าดิน
ขณะเดียวกันสถานที่ต่อสู้ดุเดือดก่อนหน้านี้เป็นแดนร้างว่างเปล่า
ภูเขาร้างพังทลาย สรรพสิ่งสะบั้นแหลก เหลือคลื่นวิชาเวทเข้มข้น
สวี่ชิงยืนกลางอากาศ สีหน้าเคร่งขรึมเย็นชา ทอดมองห่างออกไป นัยน์ตาวาบไหวเล็กน้อย
‘ลมกับเพลิงคืออำนาจของคนผู้นี้…’
‘นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเจอผู้ครอง 2 อำนาจบนวงแหวนที่ 5 เห็นชัดว่าคนผู้นี้คืออัจฉริยะฟ้าประทาน!’
‘ทั้งคนผู้นี้ยังใช้วิธีซ่อนตัว สติปัญญาไม่ธรรมดา ถือเป็นศัตรูรับมือยาก!’
ในสมองสวี่ชิงนึกถึงวิธีซ่อนตัวของอีกฝ่ายก่อนหน้านี้ การแนบร่างตนชิดช่องเก็บของบนกำแพงจนแทบเป็นหนึ่งเดียว สำหรับสวี่ชิงแล้วถือว่าแปลกใหม่ยิ่ง
‘ไม่รู้ว่าเขาทำถึงขั้นนี้ได้อย่างไร’
‘เป็นไปได้ว่าอาศัยของวิเศษแฝงห้วงมิติบางอย่าง…’
สวี่ชิงเงียบไป
‘หากไม่ใช่ว่าป้ายนครกึ่งเซียนสัมผัสถึงกันได้ เกรงว่าถ้าเจอวิธีการของคนผู้นี้ ข้าคงยากจะมองเค้าเงื่อนออกทันที’
ในใจสวี่ชิงเริ่มระวัง
เขาคิดว่าตนควรรอบคอบ ไปสำรวจตอนนี้อาจเกิดข้อผิดพลาด
‘ภายหน้าถ้าสังหารเสร็จ ยามหยิบถุงเก็บของต้องสังเกตมากหน่อย’
ในใจสวี่ชิงคิดทบทวนรวดเร็ว จากนั้นค่อยเก็บธูปกับต้นไม้วิเศษ
ธูปดับมอดพร้อมการตายของร่างแยกอีกฝ่าย ส่วนที่เหลือยังใช้ได้
ต้นไม้วิเศษก่อนหน้านี้เสียหายเพราะระเบิดตัวเอง ตอนนี้ยับเยินอยู่บ้าง สวี่ชิงไม่มีวิธีฟื้นคืน
‘แต่ยังฝืนใช้ได้อีกครั้ง’
สวี่ชิงเก็บของ 2 อย่างกับหนังสัตว์ผนึกค่ายกล 49 แล้วออกจากที่นี่
เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายหลบหนีแล้วจะมาอีก
ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นคนฉลาด ช่วงต้นของการล่าสัตว์ขั้น 2 พร้อมป้ายนครกึ่งเซียน ตามความน่าจะเป็นคงไม่ยอมจ่ายค่าตอบแทน ดึงดันลงมือทั้งที่ทราบว่าศัตรูแข็งแกร่ง
เวลานี้การออมแรง ไม่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บง่ายๆ ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด
นอกเสียจากว่าไม่มีโอกาสหนีหรือมีความแค้นต้องสู้เป็นตายกัน
สวี่ชิงคิดว่าถ้าเป็นตัวเองคงไม่ดึงดันต่อ
แต่ชั่วพริบตายามสวี่ชิงคิดจากไป เขาพลันหยุดเท้า สีหน้าเผยแววผิดคาด
“มาอีกแล้ว?”
ในรัศมีสัมผัสรู้ของป้ายเขา เครื่องหมายดาวที่ห่างไปนับแสนลี้ ผิดจากที่สวี่ชิงวิเคราะห์ หลังเผยตัวแล้วไม่ได้จากไป
แต่กำลังเข้ามาใกล้ตนอย่างรวดเร็ว
สวี่ชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เหตุการณ์นี้ทำให้เขารู้สึกว่าผิดปกติอยู่บ้าง
ทว่าไม่นานนัยน์ตาเขาฉายแววเยียบเย็น ในใจเกิดจิตสังหารพลุ่งพล่าน
“ในเมื่อมาแล้ว ศึกนี้… คงต้องดำเนินต่อ”
ร่างสวี่ชิงวาบไหว ไม่ได้ท่องเหินไปทางที่อีกฝ่ายมาเยือน แต่ห้อตะบึงไปด้านหลัง
แดนรกร้างใต้ฝ่าเท้า สิ่งที่วางไว้ก่อนหน้าระเบิดหมดแล้ว ตอนนี้ถือว่าไม่ใช่สมรภูมิที่ดีอีก สวี่ชิงจึงท่องแหวกอากาศ ไม่นานก็เจอยอดเขาสูงเปี่ยมพืชพรรณเขียวขจี
ยอดเขาเสียดฟ้า โดยรอบคือหมอกเมฆ พืชพรรณบนเขามากมาย
สวี่ชิงยืนรอบนยอดเขาเงียบๆ
การมาเยือนของอีกฝ่ายแปลกอยู่บ้าง ดังนั้นสวี่ชิงเลยไม่พุ่งเข้าหาทันที
เขาต้องระวังอีกฝ่ายวางกับดัก
วิธีไม่เข้าสมรภูมิอีกฝ่าย นั่นคือหาด้วยตัวเอง สถานที่ซึ่งอีกฝ่ายไม่เคยไปหลังจากปรากฏตัว
ภูเขานี้ทิวทัศน์กว้าง เบื้องล่างมีหมอกล้อมรอบ เหมาะแก่การเป็นสนามรบ
ขณะเดียวกันสวี่ชิงไม่เปลืองเวลา เงื้อมือแผ่อำนาจปัญจธาตุ
เพลิงปกคลุมฟ้า ซ่อนน้ำกลางเมฆหมอก แฝงดินบนยอดเขา ทองไว้ในกาย ปลูกไม้ใกล้หมื่นพืชพรรณ
ครั้งนี้สวี่ชิงไม่ได้รอนานนัก เห็นชัดว่าชายหนุ่มมีปานบนหน้านั่น สังเกตเห็นวิธีการสวี่ชิงแล้วไม่ให้เวลาเขา เคลื่อนตัวมาทันที
ผ่านเขตแดนนับล้านลี้ด้วยความเร็วชวนตะลึง ยามสวี่ชิงยังไม่ถอยห่างไป ไม่นานก็เผยตัวตรงขอบฟ้าที่สวี่ชิงมองเห็น
ใต้แสงเหนือแดงชาดตรงขอบฟ้า มีเสียงลมอัสนีดังกัมปนาท
ต่อมาสิ่งที่สะท้อนเข้าสายตาสวี่ชิงคือสีสันทั้ง 5 นอกจากสีแดงจากแสงเหนือ!
ดำ เขียว เหลือง ฟ้า ม่วง!
สีสันทั้ง 5 มาจากธง 5 ผืนใหญ่นับร้อยจั้ง
พวกมันแผ่ยาวกลางอากาศ ทุกแห่งที่ผ่านเหมือนรวมสีสันฟ้าดิน ตัดผ่านสายตาไป
ทั้ง 5 สีครอบคลุมทุกอย่าง
ทั้งมีอานุภาพยิ่งใหญ่ปะทุในนั้น สิ่งที่ส่งผลกระทบมากสุดคือพลังปัญจธาตุทั่วทิศ!
เห็นชัดว่าหลังจากต่อสู้กับสวี่ชิงก่อนหน้านี้ ด้านหนึ่งสวี่ชิงเข้าใจคู่ต่อสู้คนนี้มากขึ้น อีกด้านหนึ่งฝ่ายตรงข้ามก็เข้าใจวิธีการของสวี่ชิงเช่นกัน
5 สีพลิกพลังปัญจธาตุ ปกคลุมยอดเขา โอบล้อมรวดเร็ว
เมื่อมองห่างไกลเหมือนพายุคลั่ง 5 สี
เสียงครั่นครื้นสะท้านฟ้าสะเทือนดินอีกครั้ง อึกทึกสนั่นหู
จิตสังหารวาบผ่านนัยน์ตาสวี่ชิง เขาเงื้อมือระเบิดพลัง 5 ธาตุที่วางไว้โดยรอบ
น้ำจากเมฆหมอก
ไม้จากหมื่นพืชพรรณ
ไฟจากม่านนภา
ดินจากรอยแยกบนเขา
ที่มาพร้อมกับจิตสังหารสวี่ชิงคือการโจมตีจาก 5 ธาตุพร้อมกัน
ต่อให้ธง 5 ผืนไม่ธรรมดา ทั้งสร้างพายุ 5 สีพลิกพลังปัญจธาตุทั่วทิศได้ แต่กลับ… สั่นคลอน 5 ธาตุของสวี่ชิงไม่ได้นัก
เนื่องจาก 5 ธาตุของสวี่ชิงแฝงในอวัยวะตัน 5 ไม่ได้มาจากระเบียบกฎเกณฑ์ของโลกภายนอก
ครู่ต่อมาเสียงจึงดังกระหึ่มขึ้น เสียงครั่นครื้นดังทั่วทิศ
อำนาจปัญจธาตุของสวี่ชิงปะทะกับพายุ 5 สี เห็นชัดว่าเป็นฝ่ายเหนือกว่า ทั้ง 5 สีมืดมนอย่างรวดเร็ว คล้ายว่าไม่นานย่อมถูกสวี่ชิงกำราบ
แต่ครั้งนี้คู่ต่อสู้ของสวี่ชิงไม่ธรรมดา
ชายหนุ่มที่มาหลังจากพายุ 5 สี ไม่ได้บุกสังหารด้วยตัวเอง แต่ทอดมองจากนอกสมรภูมิ มุมปากเผยรอยยิ้มเย็นชา
ยกมือขึ้นชี้
ในใจเอ่ยท่องทำนองเต๋า
‘ฟ้าคือโลก ห้วงอากาศคือม่านฉาก 5 สีแต้มแต่ง หมื่นวิชาเป็นภาพเดียว!’
เมื่อจรดนิ้วทั้ง 5 ธงที่กำลังฝืนต้านอำนาจปัญจธาตุของสวี่ชิงสั่นสะเทือนทันที ถึงขั้น… ระเบิดตัวเองชั่วพริบตา
ธง 5 สีระเบิดตัวเอง พายุคลั่งม้วนซัด
ทำให้ 5 สีผสานกัน!
เมื่อมองจากไกลๆ ทั้ง 5 สีเปลี่ยนจากแสงเป็นเหมือนคงอยู่จริง คล้ายกลายเป็นสีย้อมทั้ง 5 รวมกัน พายุซัดสาดพรมกลางอากาศ
กลายเป็น… ภาพหลากสีสัน!
ในภาพนี้มีสวี่ชิงด้วย
ส่วนจิตรกรคือลม!
ลมก็คือผนึก!
ผนึกซ่อนกลาง 5 สีระเบิดออกมา กลายเป็นพลังผนึกต้านปัญจธาตุ
“ขอบอกเจ้าว่าถึงแม้ปัญจธาตุเจ้าร้ายกาจ แต่ลมเหนือกว่าปัญจธาตุ!”
“เมื่อพายุก่อตัวย่อมม้วนดิน สลายวารี สะบั้นไม้ หลอมทอง สยบเพลิงได้!”
“ผนึก ผนึก ผนึก ผนึก ผนึก!”
ชายหนุ่มทำมุทรา สับเปลี่ยนต่อเนื่อง จรดนิ้วติดต่อกัน 5 ครั้ง
ทั้ง 5 สีปั่นป่วนกว่าเดิมทันที ขณะผสานกันยังผนึกสวี่ชิงไว้
ผนึกนี้ม้วน สลาย สะบั้น หลอม สยบ ทั้งยังตัดขาด
ตัดขาดอวัยวะตัน 5 และปัญจธาตุของสวี่ชิง
ศึกนี้ทำให้สวี่ชิงหวั่นไหว
‘อำนาจของคนผู้นี้… ถูกเขาพัฒนาเกือบถึงขีดสุดแล้ว!’
‘แต่ก่อนหน้านี้ข้าเคยใช้วิถีห้วงมิติ เขาไม่มีทางไม่รู้ แต่ยังทำเช่นนี้เพื่ออะไร’
ยามครุ่นคิดสวี่ชิงเงื้อมือขึ้น
ท่าช้อนจันทราในบ่อน้ำปรากฏอีกครั้ง
ทั่วทิศส่องสะท้อน
ครั้งนี้สิ่งที่สวี่ชิงคว้าไม่ใช่อีกฝ่าย แต่เป็นตัวเขาเอง
เมื่อวิชาช้อนจันทราในบ่อน้ำปรากฏ สวี่ชิงคว้าตัวเองออกมาจากผนึก 5 สีชั่วพริบตา
ปรากฏตัวนอกภาพวาด 5 สีและยอดเขา!
ยามเผยตัวม่านฟ้าดังครั่นครื้น แสงครามปะทุ ค้อนหินมหึมาฟาดใส่สวี่ชิงเต็มแรง
กระบี่จักรพรรดิออกมาจากมือสวี่ชิง
ฟ้าดินสะเทือน ยอดเขาทลาย พลังปฐพีพลุ่งพล่าน
กระบี่สมบัติปฐพี
ฟันค้อนหิน
ฟ้าดินบิดเบี้ยว เลือนรางว่างเปล่า เสียงอึกทึกสนั่นหูดังกระหึ่ม
กระบี่ปฐพีทะลวงนภา ค้อนจากฟากฟ้าพลันสะเทือน เกิดรอยแยกหลายสาย ม้วนคืนกลับไป
สวี่ชิงขยับตัว พุ่งตรงไปทางชายหนุ่ม
เมื่อเห็นว่าวิชาทั้ง 2 ของตนถูกสวี่ชิงทลาย ชายหนุ่มที่มีปานบนแก้มขวานัยน์ตาหดรัด มั่นใจในการวินิจฉัยก่อนหน้านี้ของตนยิ่งกว่าเดิม
ตอนนี้เขาถอยหลังรวดเร็ว ขณะเดียวกันยังหรี่ตาเงื้อมือขึ้น
ขว้างสิ่งหนึ่งออกไป
สิ่งนี้เหมือนดินโคลน คล้ายแฝงความสามารถด้านห้วงมิติบางอย่าง ทุกแห่งที่ผ่านเกิดคลื่นระลอกกลางอากาศ
ในความคิดชายหนุ่ม เขากับสวี่ชิงปะทะอำนาจกัน
อำนาจแห่งไฟกระทบสิ่งแฝงความสามารถด้านห้วงมิติก่อน
เห็นชัดว่าสิ่งนี้ตอบสนองกับไฟเร็วมาก หลอมละลายชั่วพริบตา ในนั้นยังแผ่แรงระเบิดออกมา
เสียงระเบิดดังสนั่น ปกคลุมทั่วทิศเหมือนฝนโปรยลงมาจากฟ้า
ยามฝนเหลวหนืดหลั่งรินลงมา
อำนาจที่ 2 ของชายหนุ่มก็เผยให้เห็น
ลมแรงพัดมา
ทำให้ฝนหนืดแห้ง ค้างแข็ง กลายเป็นกาวอย่างรวดเร็ว!
ทั่วบริเวณขอเพียงอยู่ในรัศมีหยาดฝน ทั้งหมดล้วนถูกทำให้แข็งทื่ออย่างรวดเร็วเช่นนี้
นี่คือผนึกเช่นกัน
ใช้ของเหลวที่สร้างขึ้นผนึกฟ้าดิน
สวี่ชิงเข้าใจว่าก่อนหน้านี้อีกฝ่ายแนบร่างต้นชิดช่องเก็บของบนกำแพงอย่างไรแล้ว
ข้อสันนิษฐานเขาไม่ผิด อีกฝ่ายใช้ของวิเศษจริงๆ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาคิดไม่ถึง
นั่นคือวิธีใช้ของวิเศษของอีกฝ่าย!
‘ผสาน 2 อำนาจร่วมกับสิ่งอื่น สร้างผลลัพธ์เป็นอำนาจที่ 3 !’
‘คนผู้นี้คืออัจฉริยะจริงๆ!’
สวี่ชิงสูดหายใจลึก ในใจกระเพื่อมไหว ศึกนี้… สำหรับเขาแล้วมีความหมายไม่น้อย
กระตุ้นความคิดเขามากมาย
‘ถ้านำมาใช้กับปัญจธาตุ การเปลี่ยนแปลงของข้าย่อมมากขึ้น!’
แต่สวี่ชิงรู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาครุ่นคิด ศึกนี้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ทำให้เผยข้อมูลออกมาอย่างหนึ่ง
‘เขาไม่คิดสู้กับข้าซึ่งหน้า! ทั้งไม่อยากบาดเจ็บด้วยเหตุนี้ แค่อยากจำกัดมือเท้า ผนึกข้าไว้!’
‘การลงมืออย่างต่อเนื่องเช่นนี้ก็ด้วย ถึงขั้นว่าเพื่อบรรลุเป้าหมาย เขายอมเผยความลับตัวเองโดยไม่เสียดาย…’
‘ทุกอย่างมีเพียงคำตอบเดียว’
‘เขากำลังถ่วงเวลา!’
สิ่งที่มาพร้อมการวิเคราะห์นี้คือความรู้สึกอันตรายเด่นชัด
‘เขามีผู้ช่วยเร่งเดินทางมา ทั้งแข็งแกร่งกว่าเขาด้วย!’
นัยน์ตาสวี่ชิงฉายแววเยียบเย็น
‘ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่จบในเวลาอันสั้น ถ้าอย่างนั้น… ไม่อาจเก็บซ่อนปราณกระบี่แล้ว ต้องเร่งรบเร่งจบ!’
…
ขณะเดียวกันค่อนข้างห่างจากสมรภูมินี้ไป ตอนนี้มีเงาร่างหนึ่งใช้วิชาเคลื่อนย้าย กลิ่นอายชวนประหวั่นม้วนตลบ หวือแหวกผ่านม่านนภามา
เงาร่างนี้คือชายหนุ่มผมแดงที่ปรากฏตัวตรงเหมืองวิญญาณ!
คลื่นพลังบำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวช่วงปลายจากตัวเขาแผ่ซ่านท่วมฟ้า
“ทำลายเหมืองวิญญาณข้า สังหารคนเฝ้าเหมืองวิญญาณ ทำให้ข้าแพ้ศึกนั่น ทั้งนำป้ายนครกึ่งเซียนของบรรณาการจากหลิงเฟิงไปด้วย!”
“ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้ากินดีหมีหัวใจเสือมาจากไหน ถึงกล้าทำเรื่องเช่นนี้!”
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)
