1006. วิกฤติ
ปรมาจารย์ยี่หลงดึงสองทหารไว้ชั่วคราว ปรมาจารย์ยี่เซียงพุ่งออกไปหาทหารที่เหลือสองคน ฝ่ามือสร้างผนึกจากนั้นคว้ามาหนึ่งคนโยนใส่ยี่หลง
ซึ่งทำให้เหลือทหารเพียงคนเดียวเท่านั้น
ขณะที่ทหารกำลังจะพุ่งเข้าหมอกขาว จ้าวสายลมหวนดวงตาส่องสว่าง ยื่นมืออกไปทำให้ทหารสั่นสะท้านและดึงกลับมา ตอนนี้จ้าวสายลมหวนต่อสู้กับทหารเทพอยู่สี่ตน
แม้ทหารเทพทั้งสิบตนนี้จะมีร่างกายแข็งแกร่งแต่ไม่ใช่เรื่องยากสำรหับจ้าวสายลมหวนและพรรคพวก หวังหลินรู้สึกโชคดีที่เห็นแบบนี้ หากเขาไม่ได้หนีไปจากดินแดนวิญญาณปิศาจเมื่อตอนนั้นและตัดสินใจทำลายกฏเกณฑ์ แม้จะมาถึงตรงนี้ก็คงไม่มีทางต่อกรกับวิญญาณดอกไม้หรือเหล่าทหารเทพได้
หวังหลินก้าวเดินเข้าหาปราสาทตรงใจกลางด้วยสีหน้าเยือกเย็น ทว่าก่อนที่จะทันได้เข้าใกล้พลันเกิดการเปลี่ยนแปลงน่าตกตะลึงขึ้น
วินาทีนั้นสี่หอคอยพร่ามัวและเป็นภาพมายา ขณะเดียวกันลำแสงทรงพลังพุ่งโผล่ออกมาจากภาพมายาด้วย
ลำแสงทรงพลังผสานเข้าด้วยกันและเปลี่ยนกลายเป็นกระดองเต่าห่อหุ้มปราสาทเอาไว้ มองไกลๆดูราวกับกระดองเต่ายักษ์กำลังปกคลุมปราสาท
ควันสีเขียวสี่สายโผล่ออกมาจากกระดองเต่าและเปลี่ยนกลายเป็นผู้อาวุโสชุดเขียวสี่คน!
หวังหลินใบหน้าสงบนิ่งพลางมองไปที่สี่ผู้อาวุโส ทั้งหมดคือดวงวิญญาณที่มีระดับบ่มเพาะอยู่ระหว่างขั้นส่องสวรรค์ชั้นต้นและกลาง
ผู้อาวุโสสี่คนมีกลิ่นอายแห่งเทพและปลดปล่อยพลังปราณเทพหนาแน่น หนึ่งในนั้นจ้องมองหวังหลินดวงตาดุจสายฟ้าและร้องตะโกน “ขอบเขตชั้นต่ำ เจ้ากล้าบุรุกถ้ำเทพอย่างนั้นหรือ? ลงโทษตายสถานเดียว!”
หลังเอ่ยจบ เขาก็ไม่ยอมให้เวลาหวังหลินได้อธิบายก่อนจะก้าวเท้าและชี้ขึ้นท้องฟ้า พลังปราณเทพทั้งหมดในถ้ำรวมกันก่อตัวเป็นวังวนในมือเขา
วังวนพังทลายแต่จากนั้นเกิดเสียงคำรามออกมาจากข้างใน อสูรพุ่งออกมาจากวังวนที่แตกสลาย!
อสูรตัวนี้ปกคลุมอยู่ในขนฟูสีดำ มันคือลิงดั้งเดิมตัวยักษ์สูงสิบฟุต กระโจนเข้าหาหวังหลินตรงๆ
ชายชราเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงสีเขียวพุ่งตามหลังลิงดั้งเดิมไปหาหวังหลิน
อีกสามผู้อาวุโสลงมือเช่นเดียวกัน หนึ่งในนั้นยกแขนขึ้นทำให้เกิดพายุทรายก่อตัวเป็นรูปร่างอสรพิษพยายามกลืนกินหวังหลิน
อีกคนยืดแขน แขนเปลี่ยนกลายเป็นควันสีเขียว พลังปราณเทพในถ้ำรวมตัวกันเปลี่ยนกลายเป็นอินทรีย์ยักษ์บินใส่หวังหลินดุจสายฟ้า
ผู้อาวุโสคนสุดท้ายดวงตาส่องสว่าง ฝ่ามือสร้างผนึกชี้ใส่ท้องฟ้าและร้องเสียงตะโกน “ภูเขาเทพโจมตี!”
เสียงดังสนั่นออกมาจากถ้ำ จากนั้นปรากฏภุเขายักษ์กระแทกลงใส่หวังหลิน!
เพียงพริบตาสี่ผู้อาวุโสก็โจมตีในเวลาเดียวกัน วิชาเทพแต่ละคนทำงานร่วมกันเพื่อสังหารฝ่ายตรงข้าม!
ดวงตาหวังหลินเป็นประกายเจิดจ้า แทนที่จะล่าถอยเขากลับพุ่งออกไป ขณะเจ้าลิงเข้าไปใกล้ ฝ่ามือขวาหวังหลินกำปั้นและโยนกำปั้นออกไป เสียงดังสนั่นกึกก้องไปพร้อมกับกำปั้นผ่านแต่ละคน กำปั้นหวังหลินปะทะใส่หน้าอกเจ้าลิงเป็นคนแรก
ลำตัวท่อนบนของลิงยักษ์เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหล จากนั้นมันก็ล่าถอยอย่างรวดเร็ว ทว่าพอถอยได้เพียงสามก้าวครึ่งท่อนบนก็ระเบิด
หวังหลินไม่หยุดแค่นี้ กระโจนขึ้นกลางอากาศ ชี้ลงด้านล่างเอ่ยเสียงเรียบ “ชุดคู่เต๋าร่วงโรย!”
สิ้นคำพูด ชุดคู่เต๋าร่วงโรยบนหลังมือก็เรืองแสงสีดำและลอยออกมา กะโหลกอสูรชั่วร้ายเต็มไปด้วยหมอกทมิฬเรืองแสงชั่วร้ายจากดวงตาหนึ่งคู่
วินาทีนั้นกลิ่นอายเข่นฆ่าพลันปรากฏขึ้น แสงชั่วร้ายส่องประกาย ลำแสงสีเทาปกคลุมอินทรียังที่กำลังพุ่งใส่หวังหลิน วินาทีนั้นเจ้าอินทรีก็กลายเป็นรูปปั้นหิน!
เมื่ออสรพิษดำเข้ามาใกล้มันอ้าปากและเกิดพลังดึงดูดรุนแรงโผล่ออกมา กลิ่นคาวเลือดรุนแรงตามออกมาด้วยพร้อมกับมันพยายามจะกลืนกินหวังหลิน ในแววตาหวังหลินกระพริบเย็นเยียบพร้อมกับล่าถอย ตบกระเป๋าและร้องตะโกน “เก้ากระบี่สามชุด!”
กระบี่ทองลอยออกมาจากกระเป๋าและล้อมรอบเขาทันที มีอยู่ทั้งหมดยี่สิบเจ็ดเล่ม! พวกมันก่อตัวเป็นค่ายกลพุ่งเข้าใส่เจ้าอสรพิษยักษ์
ตูมมม ตูมมม ตูมมม ตูมมม!
ขณะที่เกิดการสั่นสะเทือนคึกคะนองพลันถูกห่อหุ้มไว้ด้วยกระบี่ยี่สิบเจ็ดเล่ม พวกมันแทงทะลุผ่านอสรพิษอย่างรวดเร็วทำให้มันรนะเบิดเสียงกรีดร้องโหยหวน
แม้ทั้งหมดนี้จะฟังดูเชื่องช้าแต่เกิดขึ้นในเสี้ยวพริบตา ถ้ำส่วนในพลันมืดลงเนื่องจากภูเขาเทพทะลุหมอกสีขาวและกระแทกลงมา!
หวังหลินพ่นของชิ้นหนึ่งออกไปมันคือตราประทับผนึกเทพนรกสิบแปดชั้น! ขณะนั้นมันขยายตัวและพุ่งเข้าใส่ภูเขาเทพเข้าอย่างจัง
ปะทะใส่เสียงดังปัง!
หวังหลินใช้โอกาสนี้ แววตากระพริบจิตสังหารและร้องตะโกน “เรียกขานสายลม!”
ทันใดนั้นโลกทั้งใบเปลี่ยนสีสัน สายลมทมิฬปรากฏขึ้นในฝ่ามือหวังหลินและปกคลุมโลก มังกรดำสี่ตัวปรากฏภายในสายลมทมิฬและพุ่งออกไปพร้อมเสียงคำราม
ชายชราที่อัญเชิญลิงยักษ์พลันเปลี่ยนสีหน้าท่าทางและร้องตะโกน “วิชาของป๋ายฟ่าน!” เขาล่าถอยโดยไม่ลังเลแต่ก็สายเกินไปแล้ว มังกรดำหนึ่งในนั้นกลืนกินเข้าไปทันที
ส่วนที่เหลืออีกสามคนนอกจากคนที่อัญเชิญภูเขา อีกสองคนไม่สามารถหนีรอดไปได้และโดนมังกรดำกลืนกินเข้าไป
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วเกินไป ผู้อาวุโสที่เหลือล่าถอยและร่อนลงบนกระดองเต๋า ร่ายวิชาประหลาด จากนั้นลำแสงไหลจากกระดองเข้าไปในตัวเขาเหมือนสายน้ำ
เมื่อเห็นกลิ่นอายของชายชราเพิ่มขึ้น หวังหลินจะปล่อยให้ทำตามความต้องการได้อย่างไร? หวังหลินยกแขนขึ้นพลางเอ่ย “หยุด!”
วินาทีนั้นชายชรารู้สึกเหมือนตกอยู่ในห้วงภวังค์และรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายถูกด้ายที่มองไม่เห็นมากมายล้อมรอบ เขาพลางพึมพำ “วิชายับยั้ง…” สีหน้าประหลาดใจและกำลังจะเอ่ยขึ้นมาทว่าโดนมังกรตัวสุดท้ายกลืนกินไปเสียแล้ว
หวังหลินเห็นท่าทางประหลาดที่เกิดขึ้นบนใบหน้าชายชราคนสุดท้ายแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดอะไรมาก หวังหลินมาถึงเบื้องหน้ากระดองเต๋าพลันยกแขนขวาขึ้นกำปั้น ภาพมายาแขนเทพโบราณปรากฏ กระแทกลงใส่กระดองเต๋าเบื้องล่างเข้าอย่างจัง!
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหราวกับตลอดถ้ำสั่นเครือและเกิดรอยร้าวมากมายบนพื้นดิน กระดองเต๋าสั่นอย่างรุนแรงแต่ไม่แสดงอาการแตกหักอันใด
ครานี้จ้าวสายลมหวนและพรรคพวกจัดการทหารเทพจนหมดและร่างศพเงินก็ดูดซับวิญญาณดอกไม่เสร็จสิ้น ใบหน้าแดงระเรื่อคล้ายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกลับ
“ทำลายค่ายกลนี้!” เพียงหนึ่งคำสั่งจากหวังหลิน ทุกคนก็ใช้วิชากมากมายของตัวเองโดยมีกระดองเต่าเป็นเป้าหมาย
เสียงคึกคะนองดังกึกก้อง กระดองเต๋าสั่นเครืออีกครั้ง สะพานหินเริ่มแตกสลายและถูกทำลายในไม่นาน
ทว่ากระดองเต่ายังคงครบถ้วนและหมองลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หวังหลินขมวดคิ้วและลอบตกตะลึง ความสามารถในการป้องกันของกระดองเต๋านี้เหนือกว่าที่เขาคาดคิด ไม่ว่าจะเป็นหมัดเทพโบราณหรือการโจมตีจากเซียนเฒ่าคนอื่นๆก็ไม่ได้ทำให้กระดองเต่าผุพังอันใด
‘ไม่รู้ว่าถ้ำเทพที่เทียนหยุนและหลิงเทียนโฮวเข้าไปจะมีกระดองเต่าแบบนี้หรือไม่ หากมีเหมือนกันแล้วพวกเขาทำลายมันอย่างไร…’ หวังหลินดวงตาสว่างวาบพลางมองไปที่กระดองเต่า
ไม่เพียงแต่เขาที่ตกตะลึง แม้กระทั่งจ้าวสายลมหวนและพรรคพวกก็ตกตะลึงไปด้วย สายตาแต่ละคนรวมกันไปบนกระดองเต่า
ขณะที่ทุกคนมองกระดองเต่า มันเริ่มกระพริบและค่อยๆเผยปราสาทที่อยู่ภายใน
ปราสาทสีดำสนิทจนมองไม่ออกว่าข้างในเป็นอะไร แต่มีรอยเท้ากำลังออกมา ตัวถ้ำเงียบสนิท แม้รอยเท้าจะบางเบาแต่พวกเขาก็ได้ยินชัดเจน
รอยเท้านี้ประหลาดมาก ยามที่เสียงย่ำเท้าเข้าสู่หูทุกคน มันก็ผสานเข้ากับอัตราเต้นหัวใจโดยไม่คาดคิด ราวกับทุกรอยเท้าคือการเหยียบไปบนหัวใจแต่ละคน
จ้าวสายลมหวนเปลี่ยนสีหน้า โคจรพลังดั้งเดิมในร่างกายจนในที่สุดก็แยกอัตราเต้นหัวใจจากเสียงเหยียบได้
ทว่าสามพี่น้องเฉิน หัวโตและเล่ยจีไม่มีระดับบ่มเพาะพอจะทำเช่นนี้ ขณะที่เสียงเหยียบเท้าเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าแต่ละคนซีดเผือด
มีเพียงร่างศพเงินที่เป็นปกติ นางคือร่างศพที่มีสติปัญญา ถึงจะไม่มีเสียงหัวใจเต้นนางก็ไม่ได้รับผลกระทบ
หวังหลินสีหน้าท่าทางมืดมนขึ้นเรื่อยๆ เขามีร่างเทพโบราณดังนั้นจึงสามารถทนต่อการโจมตีทางความคิดระดับนี้ได้
เสียงก้าวเท้าชัดเจนขึ้นเรื่อยๆราวกับมีคนกำลังเดินออกมาจากส่วนลึกของปราสาท ใบหน้าสามพี่น้องเฉินซีดเผือดมากกว่าเดิม เส้นเลือดบนศีรษะหัวโตปูดโปนมากขึ้น
เล่ยจีมีระดับบ่มเพาะต่ำที่สุด ร่างกายสั่นเทาและถอยหลังกลับมาแต่ก็ยังไม่สามารถทนไหว เขาร้องคำราม ร่างกายขยายออกไปสูงหลายร้อยฟุตจนในที่สุดก็ทนมันได้
เสียงย่ำเท้าคล้ายจะมาถึงตรงทางเข้าปราสาท วินาทีนี้มีร่างสีขาวหนึ่งปรากฏขึ้นมาจากในปราสาท
ลำแสงแทงทะลุผ่านกระดองเต่าและร่อนลงใส่หวังหลิน
ทันใดนั้นสัมผัสวิกฤติแห่งชีวิตและความตายที่ไม่เจอมานานเข้าห่อหุ้มหวังหลินดุจพายุ ทำให้เส้นผมเส้นขนทั้งหมดบนร่างตั้งชูชัน!