Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1091

Cover Renegade Immortal 1

1091. เปลวเพลิงสามภพ จงลุกโชน

อารมณ์หวังหลินหนักหน่วงเล็กน้อย สายตาของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คนเก่าทำให้เขานึกถึงตุ้นเทียน และทำให้ถอนหายใจ

ขณะที่หวังหลินเดินไปข้างหน้า เซียนเกือบทั้งหมดบนดาวเคราะห์เซียนที่เขาผ่านไปพลันลอยอกมา ส่งเสียงร้องตะโกน “จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์” สั่นสะเทือนสวรรค์

เสียงตะโกนสื่อถึงความตื่นเต้นและความคาดหวังของเหล่าสมาชิกสำนักวิหคเพลิงทั้งหมดที่ถือมานานตลอดหลายปี

เหล่าเซียนติดตามหวังหลินมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้น้อยที่มองหวังหลินด้วยสายตานับถือ หวังหลินเดินทางไปข้างหน้าเรื่อยๆ เหล่าสมาชิกสำนักวิหคเพลิงก็ยิ่งติดตามเขามากขึ้น

“นายท่าน!!” เสียงตะโกนตื่นเต้นผมกับเหล่าสมาชิกวิหคเพลิง ทำให้หวังหลินหยุดชะงักชั่วขณะ เล่ยจีและหัวโตรีบลอยเข้าหาหวังหลิน

หวังหลินเผยรอยยิ้มและพยักหน้าให้ทั้งสองคน

ขณะเดินไปอีกเสียงหัวเราะเปี่ยมสุขดังสะท้อนและซือถูหนานปรากฏตัว เขาสวมกอดหวังหลินและยิ้มแย้ม “เยี่ยมากไอ้หนู ในที่สุดเจ้าก็ออกมา!”

หวังหลินยิ้มกว้าง อาการบาดเจ็บของซือถูหนานฟื้นขึ้นมาแล้วและระดับบ่มเพาะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น แม้แต่พิษก็ยังถูกระงับ

สตรีชุดเงินและจ้าวสายลมหวนออกมาตามหลังซือถูหนาน นางติดตามด้านหลังหวังหลินอย่างเงียบๆ ส่วนจ้าวสายลมหวนแม้จะมีสีหน้าเคารพ แต่ในแววตาเกิดความสุขจากหัวใจ

ท้ายที่สุดหวังหลินก็มาถึงเบื้องหน้าดาวเคราะห์สุดท้ายของสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ สมาชิกสำนักมากพอจะปกคลุมน่านฟ้า

“จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!”

“จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!”

เสียงคำรามตื่นตะลึงดังสะท้อนแทนที่เสียงอื่นๆทั้งหมดในท้องฟ้าดวงดาว

ดาวเคราะห์สุดท้ายของสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์คือดาวเคราะห์แรกเริ่มทั้งยังเป็นดาวที่เหรินต้าวอยู่ ตอนนี้เขาฟังเสียงสมาชิกสำนักส่งเสียงร้องอยู่ถัดไปทำให้สีหน้ามืดมนยิ่ง เขาจ้องหวังหลินด้วยสายตาดุดัน

ข้างๆกันเหลียวหยุนมองเหรินต้าวด้วยท่าทีดูถูก เขาลอยขึ้นไปในอากาศเข้าหาหวังหลินผู้ถูกคนจำนวนมากมายล้อมรอบและเอ่ยขึ้นอย่างเคารพ “เหลียวหยุนยินดีต้อนรับจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!” เขาเต็มไปด้วยความเทิดทูญ ไม่มีใครรู้เรื่องหวังหลินดีกว่าคนที่เข้าไปในดินแดนวิญญาณปิศาจ และเขาเป็นหนึ่งในนั้น

วิชาของหวังหลินทำให้คนที่อยู่ในดินแดนวิญญาณปิศาจชื่นชมเขาสุดหัวใจ!

เฟิ่งซานลังเลเล็กน้อยก่อนจะลอยขึ้นไปในอากาศเช่นกัน ทักทายหวังหลินพร้อมกับเหลียวหยุน

สมาชิกหลักของดาวเคราะห์ตื่นเต้นกับการต้อนรับหวังหลิน

เหรินต้าว ผู้อาวุโสสองสามคนและคนอื่นที่ซื่อสัตย์ด้วยได้สร้างความแตกต่างกับคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด

เหรินต้าวเกร็งศีรษะเงยขึ้นไปจ้องหวังหลินที่กำลังยิ้มให้กับทุกคนและร้องตะโกน “หวังหลิน ข้าต้องการท้าทายเจ้า!” เขาต้องทำเช่นนี้ หากหวังหลินไปต่อเขาจะไม่มีโอกาสกลายเป็นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อีกเลย

ในสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ตำแหน่งจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เป็นดั่งเทพเจ้า! ใครที่กล้าต่อต้านจะกลายเป็นศัตรูกับทั้งสำนัก ทว่ามีกฏหนึ่งภายในสำนักที่ทำให้เหรินต้าวกล้าท้าประลองหวังหลิน!

เสียงคำรามนี้ดังสะเท้อนไปทั่วหมู่ดาว ทุกคนเงียบลงทันที สายตารวมกันไปบนเหรินต้าว

ปัจจุบันสำนักวิหคเพลิงมีผู้อาวุโสอยู่บางส่วน งานแต่ละคนคือการช่วยหวังหลินเปลี่ยนผ่านสู่หน้าที่ของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างลื่นไหล พวกเขาไม่ยอมให้มีเสียงคัดค้นอันใดเลย

เพราะมันคือคำสั่งตายที่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คนก่อนสั่งออกมา!

เหรินต้าวหน้าผากเปียกโชก สายตาทุกคนจับจ้องมองมานี่ยิ่งทำให้ความคิดสั่นเทา ทว่าเขาไม่มีเวลามากังวลเรื่องนี้ เขาจ้องหวังหลินและส่งเสียงคำราม “หวังหลิน เจ้ากล้ารับคำท้าของข้าไหม? หากเจ้าไม่รับ เจ้าก็ไม่มีสมบัติในการเป็นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!”

สามชายชราด้านหลังเหรินต้าวก้าวออกมาข้างหน้าและล้อมรอบเขา จากนั้นจ้องมองเหล่าผู้อาวุโสมากหน้าหลายตาท่ามกลางเหล่าสมาชิกสำนัก

“เหรินต้าว เจ้ากล้าดีอย่างไร?! เจ้าสามคนกำลังต่อต้านคำสั่งของจักรพรรดิคนเก่าอย่างเปิดเผย?” ชายชราตัวสูงก้าวเดินออกจากฝูงชน เขาเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสขั้นทลายสวรรค์ที่อยู่ในดินแดนวิญญาณปิศาจ

“ผู้อาวุโสโจว กฏของสำนักวิหคเพลิงบอกไว้ว่าเมื่อจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ส่งต่อตำแหน่งให้คนถัดไป สมาชิกทุกคนมีสิทธิ์ท้าประลองตำแหน่งจักรพรรดิ นั่นไม่ถูกหรือ?”

“เจ้าโง่เง่า!” ในดวงตาผู้อาวุโสโจวกระพริบเย็นเยียบ เขาเยาะเย้ยแต่ไม่ได้ลงมืออะไรและก้าวถอย

ไม่เพียงแค่ชายชราคนนี้เท่านั้น แต่ขณะนี้มีผู้คนอยู่ที่นี่จำนวนมาก มีคนที่เข้าไปในดินแดนวิญญาณปิศาจได้หันไปมองเหรินต้าวด้วยแววตาเยาะเย้ย บางคนกระทั่งมองเขาด้วยความสงสาร

ภายใต้สายตาเหล่านี้ เหรินต้าวอดไม่ได้ที่จะมีความคิดสั่นเทา เขาได้ยินเรื่องความสำเร็จของหวังหลินในดินแดนวิญญาณปิศาจเมื่อสามปีก่อน แต่ไม่เชื่อนัก

ตอนนี้มาเห็นว่าหวังหลินอยู่ในขั้นส่องสวรรค์ระดับสูงสุดเท่านั้นซึ่งทำให้เขาเชื่อข่าวลือน้อยลง เขากำลังจะพูดขึ้น

แต่สายตาเย็นเฉียบหวังหลินจับจ้องไปบนเหรินต้าว

เหรินต้าวร่างสั่นเทา เย็นเยียบขึ้นในใจ แม้กระทั่งสามผู้อาวุโสด้านหลังเขาก็ยังขมวดคิ้ว

“หากเจ้าท้าประลองข้า ไม่มีโอกาสรอดชีวิตหรอกนะ เจ้ายังต้องการใช่ไหม?” น้ำเสียงหวังหลินสงบนิ่งแต่เต็มไปด้วยเจตนาเย็นเยียบ ทุกคนที่อยู่ในดินแดนวิญญาณปิศาจครั้งนั้นต่างก็รู้สึกหนาวเย็นขึ้นในใจ

พวกเขาไม่มีวันลืมถึงพลังฉีกกระชากความมืดมิดและกำปั้นสลายท้องฟ้าในวิชาความฝันยุคบรรพกาลได้

เหรินต้าวความคิดสั่นเทารุนแรงและสังหรณ์แปลกๆ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถถอยลงได้ หลังจากตรวจสอบอีกครั้งอย่างถี่ถ้วนจึงมั่นใจว่าหวังหลินเป็นขั้นส่องสวรรค์ระดับสูงสุดจริงๆ เขากำหมัดแน่นและเอ่ยขึ้น “ท้าประลอง!”

หวังหลินพยักหน้า ร่างดั้งเดิมของเขาตอนนี้แยกออกไปแล้วแต่ถึงจะไม่มีร่างเทพโบราณอันทรงพลังเขาก็ยังมีวิชาของตนเอง เขาสามารถสังหารเซียนขั้นชำระสวรรค์ทั้งหมดเพียงแค่ใช้วิชาไสยเวทย์และกระทั่งกล้าไปต่อสู้กับเซียนขั้นทลายสวรรค์! ความจริงแล้วไม่ว่าร่างดั้งเดิมจะอยู่ที่นี่หรือไม่ก็ไม่ต่างกัน

หากมีความต่างนั่นคงเป็นร่างอันทรงพลังที่ทำให้หวังหลินมีความอดทนเกินกว่าที่คนอื่นจะคาดคิด!

ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องแยกราตรีซึ่งเขาสามารถใช้ได้เฉพาะโอกาสพิเศษเท่านั้น หวังหลินไม่รู้ว่าวิชาแยกราตรีของเขาแพร่กระจายออกไปในวงกว้างตลอดระยะเวลาสามปี มันได้ก่อเกิดพายุมหึมาขึ้นภายในพันธมิตรเซียน

ไม่ใช่แค่วิชาแยกราตรีที่สังหารปรมาจารย์ชีกง ร่างอวตารของเทียนหยุนอีกสองคนก็ถูกสังหารไปด้วยและหนึ่งนั้นบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นบันทึกสงครามจึงทำให้หวังหลินกลายเป็นเซียนขั้นยอดเพียงชั่วข้ามคืน!

“เจ้าเป็นสมาชิกของสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นข้าจะให้เจ้าตายด้วยวิชาฝังอัคคี!” หวังหลินโบกแขนขวา ขณะนั้นร่างจิตวิญญาณเงามืดปรากฏขึ้นด้านหลังหวังหลิน

“เปลี่ยนร่างเก้าลี้ลับ!” จิตวิญญาณปรากฏตัวขึ้นส่งเสียงคำรามพร้อมกับสมาชิกรอบด้าน สายตาตื่นเต้นตกใส่หวังหลินมากขึ้น

วิชาเปลี่ยนร่างเก้าลี้ลับเป็นวิชาที่มีเพียงจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเรียนรู้ได้เท่านั้น

เหรินต้าวใบหน้าซีดทันที แต่สายตาไม่พอใจและไม่ยอมแพ้ พลันร้องคำราม ฝ่ามือสร้างผนึกปะทุเปลวเพลิงจากร่างกาย คลื่นความร้อนก่อตัวเป็นเกราะพร่ามัวรอบกาย

หวังหลินดวงตาเย็นเยียบพลางโบกแขน จิตวิญญาณด้านหลังเข้าไปในท่อนแขน หวังหลินชี้ใส่ร่างเหรินต้าว

“อัคคีเผาผลาญ!”

น้ำเสียงแฝงอำนาจควบคุมเปลวเพลิงทั้งหมดในโลก วินาทีนี้ตราบใดที่มันคือเปลวเพลิง มันต้องเชื่อฟังหวังหลิน

เพียงแค่สองคำก็ทำให้เปลวเพลิงรอบเหรินต้าวสั่นเทาและกระโจนเข้าใส่อย่างไม่คาดคิด ในสภาวะวิกฤตินี้เกราะพร่ามัวของเหรินต้าวพุ่งออกไปเหมือนกระบี่เหินเข้าใส่หวังหลิน

เหรินต้าวความคิดสั่นไหว ไม่คิดว่าหวังหลินจะสามารถควบคุมเปลวเพลิงได้ด้วยตนเอง เขารู้ว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายของตนเอง หากการโจมตีนี้ไม่สามารถฆ่าหวังหลินหรือทำให้บาดเจ็บสาหัสได้ เมื่อเปลวเพลิงด้านหลังนั้นมาถึง เขาจะตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง

‘หนึ่งกระบวนท่าก็เพียงพอจะปลิดชีวิตได้แล้ว!’

หวังหลินใช้แขนขวาสร้างผนึกและชี้ใส่เหรินต้าว เปลี่ยนร่างขั้นแรกกำลังแสดงพลังอำนาจสูงสุด นาทีนี้หวังหลินสัมผัสถึงความร้อนรุนแรงจากแขนได้ชัดเจน

“เปลวเพลิงสามภพ จงลุกโชน!”

หวังหลินเอ่ยเสียงดังสะท้อน ชี้ใส่เหรินต้าวจนเขากระอักโลหิตทันที เสียงปะทุดังขึ้นมาภายในร่างกาย

เขาถูกผลักกลับไปทันที แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและหวั่นเกรง แต่สิ่งที่เขารู้สึกจริงๆคือความสับสน

ทว่าขณะนั้นเสียงดังออกมาจากร่างกายมากขึ้น หมอกโลหิตปะทุออกมา ร่างกายแตกสลายกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยและเกิดการระเบิดต่อเนื่อง!

ก้อนโลหิตปะทุออกมา เหรินต้าวส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน วิญญาณดั้งเดิมพุ่งออกมาด้วยความตื่นตระหนก เขายังคงสับสนไม่รู้ว่าแค่ชี้นิ้วก็ทำให้ร่างตนเองแตกสลายได้แล้ว!

แต่ขณะที่วิญญาณกำลังหลบหนี เสียงคำรามดังสนั่นได้ทำให้เขากวาดกลัวออกมาจากวิญญาณดั้งเดิม เสียงคำรามแฝงพลังทำลายล้างของเปลวเพลิงและสายฟ้า วิญญาณเหรินต้าวแตกสลายในทันที…

จบสิ้นในเสี้ยววินาที ทุกคนเห็นแค่หวังหลินชี้สองครั้งและเหรินต้าวก็ตาย!

ตั้งแต่เริ่มจนจบ หวังหลินสงบนิ่งมาตลอด เขาไม่ผิดหวังกับวิชาแปลงร่างเก้าลี้ลับ มันคือวิชาที่สามารถฝึกฝนได้เฉพาะจักรพรรดิวิหคเพลิงเท่านั้นซึ่งมันควรจะทรงพลังอย่างแน่นอน!

‘มันอาจทรงพลังมากกว่าที่ข้าคาดเอาไว้เพราะผสานเข้ากับสายฟ้า…’

หวังหลินกวาดสายตาหาทุกคนและร่อนลงบนชายชราสามคนคด้านหลังเหรินต้าว หนึ่งในนั้นเป็นขั้นทลายสวรรค์ระดับต้นและอีกสองเป็นขั้นชำระสวรรค์ระดับปลาย

“เจ้าสามคนก็ต้องการท้าประลองข้าด้วยใช่ไหม?” เปลวเพลิงสีขาวปรากฏขึ้นภายในตาขวาหวังหลินขณะที่จ้องมองชายชราสามคน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version