1227. คำอวยพรเมื่อร้อยปีก่อน
หลังการพูดคุยจบลง หวังหลินดวงตาส่องสว่าง เคลื่อนท่าทางให้เร็วขึ้น ดาวหกดวงบนกลางหน้าผากหมุนอย่างเร็วรี่ พลังเทพโบราณเต็มไปทั่วร่างกาย ร่างกายเขาขยายขนาดจนกลายเป็นร่างเทพโบราณสูงหลายพันฟุต!
หวังหลินส่งเสียงร้องคำรามใส่ท้องฟ้าและสะบัดกำปั้นยักษ์ ขณะที่นิ้วนางใกล้เข้ามา เขาคว้าตรีศูลและกวาดเข้าใส่นิ้วข้างนั้น
ร่างหวังหลินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แม้จะเป็นร่างเทพโบราณแต่เขารู้สึกเหมือนกำลังพังทลาย หวังหลินหยิบยืมพลังสายนี้และดึงตรีศูลออกมา
นิ้วนางสั่นเทาจากแรงเตะหวังหลิน แต่ว่ามันไม่หยุดพุ่งเข้าหาเขา!
หวังหลินมีสีหน้าโหดเหี้ยม เสียงดังสนั่นกึกก้อง เขาใช้วิชา สมบัติและกฎไปแล้วแต่ยังอยู่ในฝ่ามือ ดูเหมือนไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถหนีออกไปจากฝ่ามือของจ้าวแห่งเต๋าความฝันได้เลย!
แต่ว่ามันยังไม่ทำให้เขายอมอ่อนข้อ! หวังหลินเต็มไปด้วยสายตาบ้าคลั่ง ขณะที่นิ้วนางตกลงมา หวังหลินพุ่งขึ้นไปและโจมตีอย่างบ้าบิ่น
พลังอำนาจเทพโบราณแฝงไปภายในแต่ละการโจมตี แม้จะเป็นดาวเคราะห์เซียนยังต้องพังทลายจากการกระหน่ำโจมตีนี้ ทว่านิ้วนางยังคงตกลงมาต่อเนื่อง ดูเหมือนต้องการบดขยี้หวังหลินให้ตายคามือ!
เสียงดังสนั่นไม่มีหยุด หวังหลินร้องคำราม เขาคือเทพโบราณ แต่ภายใต้นิ้วนี้กลับรู้สึกถึงแรงตีกลับที่ไม่เคยเจอมาก่อน ไม่ว่าจะโจมตีรุนแรงแค่ไหนก็ไม่สามารถหยุดนิ้วนางได้ กระนั้นนิ้วโป้งที่ทรงพลังที่สุดกำลังตกลงมาอย่างช้าๆ!
สิ่งที่ทำให้หวังหลินรู้สึกขมขื่นมากขึ้นก็คือสามนิ้วที่แตกหักไปกำลังดูดซับพลังดั้งเดิมและฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าอีกไม่นาน ความพยายามที่เขาลงไปทั้งหมดจะสูญเปล่า!
‘หรือว่าดินแดนเจ็ดสีจะเป็นหลุมฝังศพข้า? ข้าไม่ยอมแพ้หรอก!!’ หวังหลินดวงตาแดงฉานดุจภูตพราย กระหน่ำโจมตีนิ้วต่อไป กัดฟันแน่นและร้องคำราม
ดาวดวงที่หกซึ่งพร่าเลือนตรงกลางหน้าผากปลดปล่อยพลังเทพโบราณจำนวนมากอย่างบ้าคลั่ง พลังนี้สั่นสะเทือนสวรรค์จนแม้แต่นิ้วนางยังต้องสั่นเทา!
“ดวงดาว สลาย!!” หลังจากหวังหลินกลายเป็นเทพโบราณ เขาเผชิญหน้ากับอันตรายมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเลือกจะทำลายดวงดาว! ทันใดนั้นดาวดวงที่หกตรงกลางหน้าผากจึงพังทลายทันที!
พลังของการทำลายดวงดาวได้เปลี่ยนกลายเป็นพายุและถูกหวังหลินดูดซับอย่างบ้าคลั่ง พลังเทพโบราณพรั่งพรูในร่างกายทำให้ร่างเขาขยายตัวออก ไม่นานนักร่างยักษ์สูงสองหมื่นฟุตจึงปรากฏขึ้นในฝ่ามือ!
หวังหลินใช้โอกาสหยิบยืมพลังการสลายดวงดาว ร่างเทพโบราณบรรลุเป็นเทพโบราณระดับเจ็ดดาว เขาร้องคำรามพลางพุ่งไปข้างหน้าเข้าหานิ้วนาง แม้แต่พื้นดินยังสั่นเทา กลิ่นอายบ้าคลั่งวนอยู่รอบตัวหวังหลิน!
เขาเตรียมการแล้วที่จะสลายห้าดาวในครั้งเดียว การต่อสู้ในวันนี้คงเป็นการต่อสู้ที่ยากที่สุดในชีวิต!
ในการต่อสู้นี้ ร่างกายเขาคงพังทลาย วิญญาณคงจะเสียหาย เต๋าอาจจะแตกกระจายอย่างสิ้นเชิง ระดับบ่มเพาะเกือบสองพันปีคงสูญสิ้น จะไม่มีคนที่บ่มเพาะฝึกเซียนหลายพันปีที่ชื่อ “หวังหลิน” อีกต่อไป!
หรือถ้าเขาทะลวงห้านิ้วและเอาชีวิตรอดจากพลังอำนาจการโจมตีนี้ได้ เมื่อนั้นเขาก็สามารถเดินออกไปจากดินแดนเจ็ดสีที่แทบจะกลายเป็นหลุมฝังศพได้ทีเดียว!
ดินแดนเจ็ดสีจะกลายเป็นสถานที่ที่หวังหลินบรรลุความสำเร็จหรือไม่ก็ตาย!
ด้วยความบ้าคลั่งแบบนี้และชีวิตที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ หวังหลินดูเหมือนกำลังเผาทำลายตัวเอง เขาหยิบยืมพลังอำนาจของการสลายดวงดาวเพื่อกลายเป็นเทพโบราณสายเลือดราชวงศ์ระดับเจ็ดดาวและพุ่งเข้าหานิ้วมือ!
‘ข้าตายไม่ได้ ข้าไม่อยากตาย ข้ายังไม่ได้ฟื้นคืนชีพหวานเอ๋อร์! ข้ายังไม่ได้ปล่อยให้ผิงเอ๋อร์ไปเกิดใหม่ ข้ายังได้ตอบแทนครอบครัวที่ตายไปของข้าเลย ข้ายังไม่ได้ต่อต้านสวรรค์ให้จบสิ้น!! ยังมีคำสัญญาอีกมากที่ข้าไม่สำเร็จ ดังนั้นข้าจะตายไม่ได้!’ หวังหลินเข้าประชิดนิ้วนาง ส่งกำปั้นออกไปพร้อมกับการไม่ยินยอมพ่ายแพ้ทั้งหมด!
นี่คือกำปั้นของเทพโบราณสายเลือดราชวงศ์ระดับเจ็ดดาว กำปั้นที่ได้รับมาจากการสลายดาวดวงที่หก เป็นกำปั้นที่เต็มไปด้วยความต้องการไม่ยอมแพ้จากการบ่มเพาะฝึกเซียนเกือบสองพันปีของหวังหลิน!
เมื่อกำปั้นนี้ส่งออกไป โลกพลันเปลี่ยนสีสัน ฟ้าดินสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น สามนิ้วที่กำลังก่อตัวขึ้นมาใหม่ถึงกับสั่นเทาและฝ่ามือหยุดชะงักไปหนึ่งจังหวะ
ตอนนี้ราวกับทั้งโลกได้หยุดลง
กำปั้นหวังหลินร่อนลงบนนิ้วนางทันที พลังอำนาจการสลายดวงดาวแลกเปลี่ยนมาในการโจมตีนี้ทะยานเข้าสู่นิ้วนาง ร่างหวังหลินหดเล็กลงจากสองหมื่นฟุตกลายเป็นเพียงไม่กี่พันฟุตเท่านั้น!
ทว่าขณะที่เขาหดตัวลง พลันส่งการโจมตีเทียบเท่าการโจมตีของเทพโบราณสายเลือดราชวงศ์ระดับเจ็ดดาวออกไปทั้งหมด!
“ทำลายไปซะ!!!” หวังหลินร้องคำรามเสียงดังยิ่งกว่าการพังทลายของนิ้วนาง วินาทีนั้นนิ้วนางสั่นไหวอย่างรุนแรง รอยแตกร้าวมากมายปรากฏขึ้นตรงตำแหน่งที่หวังหลินส่งกำปั้นออกไป และนิ้วนั้นพังทลายทันที!
ร่างหวังหลินอ่อนแออย่างสิ้นเชิง โลหิตไหลออกมาจากมุมปาก เขาส่งรอยยิ้มบิดเบี้ยวและถูกผลักกลับมาจากการพังทลายของนิ้วนาง ตอนนี้นิ้วมือที่ทรงพลังที่สุด นิ้วโป้ง เทียบได้กับสี่นิ้วก่อนหน้ารวมกัน มันมาถึงแล้ว!
หากคนผู้หนึ่งกำหมัด นิ้วก้อยและนิ้วชี้จะเข้ามาก่อนเป็นอันดับแรก ตามด้วยนิ้วกลางและนิ้วนาง นิ้วสุดท้ายคือนิ้วโป้ง พลังของนิ้วโป้งนั้นแข็งแกร่งยิ่งยวด เมื่อมันกดลงมา สามารถทำให้สิ่งใดก็ตามที่อยู่ข้างในใจกลางฝ่ามือให้แตกสลายได้อย่างสิ้นเชิง!
หวังหลินรู้ได้ว่าถึงแม้เขาจะทำลายดาวที่เหลือทั้งหมด ก็คงไม่สามารถหนีพ้นจากการโจมตีที่รุนแรงที่สุดนี้ได้ ทว่าเขาปฏิเสธที่จะนั่งอยู่เฉยๆและรอโดนขยี้
“ข้าเป็นผู้กล้าทั้งในยามมีชีวิตและยามตาย! เหล่าเซียนเช่นเราไม่เคยย่อท้อจากการต่อสู้!! ข้าหวังหลินบ่มเพาะฝึกฝนมาเกือบสองพันปี หากข้ายังเป็นคนธรรมดา ข้าคงกลายเป็นฝุ่นไปแล้วเรียบร้อย ถ้าข้าตายแล้วยังไงเล่า? มีอะไรที่ต้องกลัวกัน?” หวังหลินเผยรอยยิ้มสมเพช เสียงในใจดังสะท้อน เขาพุ่งตรงเข้าใส่นิ้วโป้ง!
‘ท่านพ่อ ท่านแม่ หากข้ามีอีกชีวิต ไท้จูจะไม่ขอเป็นเซียน! ข้าจะยิ้มให้ท่านทั้งสองเป็นเวลาร้อยปี!’
‘ซือถู ท่านและข้าจะไม่มีวันได้กลับมาเจออันอีกแล้ว’
‘ศิษย์พี่ฉิงชุ่ย ศิษย์น้องไม่สามารถช่วยท่านได้’
‘หวานเอ๋อร์ ข้ากำลังไปพร้อมกับเจ้า!’
‘มู่ปิงเหมย ความขัดข้องใจของเราจบลงแล้ว!’
‘หวังผิง ครอบครัวของเราจะได้กลับมารวมกันอีกครั้ง…’
‘รวมไปถึงหลี่เฉียนเหมย…เจ้ารักข้า แต่หัวใจข้าตายด้าน อย่างไรเสียตอนนี้ข้ากำลังจะตาย จะเป็นยังไงถ้าข้าจะพาเจ้าไปกับข้าด้วย?’ หวังหลินยิ้มพลางสะบัดแขนซ้าย เปิดมิติเก็บของเบื้องหน้า สร้อยข้อมือสีฟ้าลอยออกมา
สร้อยข้อมือเรืองแสงสีฟ้าส่องสว่างดุจดวงดาวและปลดปล่อยกลิ่นอายลึกลับ เมื่อมันปรากฏขึ้น มันลอยเข้าไปหาข้อมือซ้ายหวังหลินโดยอัตโนมัติ แสงสีฟ้าเรืองแสงอ่อนแอล้อมรอบร่างหวังหลิน มันยังดูเหมือนจะแฝงความอบอุ่นจากเมื่อร้อยปีก่อนอยู่เลย ความร้อนและความอบอุ่นนั้นคงอยู่มาเสมอ
ด้วยการที่แสงสีฟ้าล้อมรอบ หวังหลินเข้าประชิดนิ้วโป้งทันที!
ทว่าตอนที่สร้อยข้อมือปรากฏขึ้นมานั้นและกะพริบลอยเข้าหาข้อมือซ้ายหวังหลิน น้ำเสียงตกตะลึงอย่างเหลือเชื่อดังขึ้นมาในโลก!
“นี่มัน…” น้ำเสียงเก่าแก่ดูสั่นไหว เผยความตื่นเต้นไม่อาจบรรยายได้
นิ้วโป้งที่กำลังตกลงไปพลันเชิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้หวังหลินผ่านพ้นไปและเข้าสู่เส้นขอบฟ้า
ฉากเหตุการณ์ฉับพลันนี้ทำให้หวังหลินตกตะลึงแต่เขาไม่ได้ลังเล ขณะที่ลอยขึ้นมา สองฝ่ามือสร้างผนึกทำตามความทรงจำที่ได้มาจากปรมาจารย์คังจงซื่อ เปิดรอยร้าวเพื่อกลับไปทะเลเมฆา!
ร่างกายเคลื่อนไหวดุจลำแสงเข้าหารอยแตกร้าว ก่อนที่เขาจะหายตัวไป ฝ่ามือที่สร้างขึ้นจากดินแดนเจ็ดสีไม่ได้ไล่ตามแต่มันค่อยๆคลี่คลายออก
“ดูแลนางให้ดี…” ตอนที่หวังหลินข้ามผ่านรอยแตก น้ำเสียงเก่าแก่ดูเหนื่อยอ่อนปรากฏขึ้นในใจเขา น้ำเสียงดูเหนื่อยมากและแฝงความรู้สึกซับซ้อน
หลังหวังหลินจากไป ฝ่ามือที่สร้างขึ้นจากดินแดนเจ็ดสีค่อยๆพังทลายราวกับวิชาที่ใช้เพื่อสร้างมันกำลังสลายไปอย่างช้าๆ…
“เยว่เอ๋อร์…” น้ำเสียงเก่าแก่ค่อยๆเลือนหายไป…
ตอนนี้ ในส่วนลึกของดาราจักรโบราณมีเผ่าแห่งหนึ่งชื่อว่าเผ่าแพรฟ้า เผ่านี้ครอบครองพื้นที่ดวงดาวไร้ขอบเขตอันกว้างใหญ่ ในพื้นที่ดวงดาวแห่งนี้มีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่ดูธรรมดาพร้อมกับภูเขาหนึ่งลูกที่ปกคลุมด้วยแสงสีฟ้า คนท้องถิ่นเรียกมันว่าภูเขาฟ้า
บนยอดภูเขามีกระท่อมเรียบง่ายซึ่งส่ายไปมาตามแรงลมอ่อนๆ ประตูกระท่อมถูกผลักเปิดออกมา ชายวัยกลางคนดูเหน็ดเหนื่อยก้าวเดินออกมามองไปบนท้องฟ้า ทัศนวิสัยพร่าเลือนเนื่องจากหยดน้ำตากำลังไหล เส้นผมของเขาเป็นสีฟ้า…เขามองท้องฟ้าและเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
หากมีผู้อยู่อาศัยคนใดของดาราจักรโบราณมาเป็นแบบนี้คงตกตะลึง จ้าวแห่งเต๋าความฝันซึ่งเป็นหนึ่งในห้าปรมาจารย์แห่งดาราจักรโบราณ มีช่วงเวลาที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้
จ้าวแห่งเต๋าความฝันคือตำนานในดาราจักรโบราณ เผ่าแพรฟ้าเป็นตระกูลเล็กๆ แต่เนื่องจากเขาคนนี้ที่กวาดล้างไปทั่วดาราจักรโบราณ เผ่าแพรฟ้าจึงกลายเป็นเผ่าขนาดใหญ่ไม่มีใครกล้าล่วงเกิน!
“เมิ่งเอ๋อร์ ลูกสาวของเราไปเกิดใหม่แล้ว…นางมีสร้อยข้อมือของเจ้าก่อนที่จะเข้าสู่วัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ และมันได้คำอวยพรของเผ่าความฝันเมฆาของเจ้าไปด้วย ตรงนั้นนางสืบทอดมาจากเจ้า หากนางไม่ได้ยกมันให้คนอื่นด้วยตัวเอง แม้จะได้มาครอบครอบ คำอวยพรของนางคงไม่ปรากฏ” เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง เต็มไปด้วยความคิดถึง
หลังจากผ่านไปสักพัก ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นมาและเกิดการบิดเบือน ปรากฏเป็นชายชราชุดขาว เขากลายเป็นคนที่เคารพยิ่งทันที
“จ้าวแห่งเต๋า อาจารย์…” ขณะที่ชายชรากำลังจะเอ่ย ชายวัยกลางคนกล่าวขัดเพียงคำเดียวโดยไม่ได้หันไปมอง
“ไปซะ!”
ความคิดของชายชราเกิดการสั่นเทาและไม่กล้าพูดอีกต่อไป แม้เขาจะเป็นศิษย์ของราชันย์ แต่การเผชิญหน้ากับหนึ่งในห้าปรมาจารย์แห่งดาราจักรโบราณ เขาคงไม่กล้าทำตัวไม่เกรงใจ จึงหันกลับไปในระลอกคลื่นและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
‘หากเจ้าเด็กนั่นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเยว่เอ๋อร์ มันก็คงจะดี แต่ข้าจะไปทำร้ายคนที่ทำให้ลูกสาวของเรามีความสุขได้อย่างไร…เจ้าเด็กนั่นยังมีลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าอีก? ข้าได้ระดับบ่มเพาะมาด้วยตัวเองและไม่พึ่งสิ่งของภายนอก ความโลภของราชันย์เกี่ยวข้องอะไรกับข้ากัน? อีกทั้งลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าก็เคยเป็นของจ้าวแห่งดินแดนปิดผนึก หากข้าไม่สามารถเปิดผนึกได้ อาจไม่จำเป็นอวยพรแต่จะกลายเป็นหายนะเสียแทน จ้าวแห่งดินแดนปิดผนึกเป็นตัวอย่างที่ดี! ส่วนเรื่องผนึก…มันยาก ยาก ยากยิ่ง!’
‘จ้าวแห่งดินแดนปิดผนึกเองที่เปิดเก้าดินแดนเจ็ดสี แต่จากนั้นก็ได้ถูกคนของข้าเข้ายึดครอง ข้ามีเพียงพลังอำนาจของหนึ่งฝ่ามือนั่น และหลังจากนั้นข้าก็ต้องล่าถอย แม้ราชันย์จะปิดด่านบ่มเพาะมาเป็นหมื่นปี แผนการของเขาล้ำลึกเกินไป เมื่อไหร่ที่เขาทำให้ข้าโจมตี ข้ากลัวว่าจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง!’
‘ตอนนั้นที่ราชันย์เข้าไปในดินแดนปิดผนึก เขาหนีออกมาด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ไม่ว่าจะคิดยังไง คำเตือนที่แพร่กระจายออกไปทั่วดาราจักรโบราณยังทำให้รู้สึกหวาดกลัว’
‘สถานที่ที่ดอกไม้เจ็ดสีเพาะปลูกอยู่นั้นถูกราชันย์ผนึกเอาไว้ นอกจากคนดูแลแล้ว ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ด้วยร่างจริง เขาบอกว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เจตจำนงแห่งเต๋าโดนรบกวนและเพื่อให้ดอกไม้เติบโตโดยไม่โดนขัดขวาง แต่เหตุผลจริงๆมันคืออะไรกัน?’
‘อีกทั้งเจ้าเด็กนั่นหาใช่คนธรรมดา พลังอำนาจเขาสั่นสะเทือนสวรรค์และครอบครองร่างเทพโบราณสายเลือดราชวงศ์ นิสัยยังคล้ายกันกับข้า ด้วยพลังอำนาจปัจจุบันกลับสามารถทำลายสี่นิ้วของข้าได้โดยไม่คาดคิด ท่ามกลางผู้เยาว์ทั้งหมด แม้แต่ในดาราจักรโบราณเอง เขาถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด หากมีเวลาพอเขาสามารถไปถึงขอบเขตดับสูญได้แน่นอน เขามีคำอวยพรและการสนับสนุนของเยว่เอ๋อร์ด้วย ข้าทำผิดต่อเยว่เอ๋อร์ในชีวิตสุดท้ายของนาง และชีวิตนี้ข้าจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายนาง…ข้าจะสนับสนุนคนที่นางสนับสนุน! แม้กระทั่งราชันย์ก็ไม่อาจหยุดข้าได้!’ ชายวัยกลางคนมองไปบนท้องฟ้าทั้งน้ำตา
ความเศร้าเสียใจที่เขารู้สึกมาตลอดในชีวิตมาจากการสูญเสียภรรยาและเสียใจต่อการตายของลูกสาว…