Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1300

Cover Renegade Immortal 1

1300. แท่นบูชาเทพโบราณ

“เจ้าทำร้ายนางบาดเจ็บ เจ้าต้องชดใช้!” หวังหลินเอ่ยเสียงเย็นเยียบพลางจับแมงป่อนและโยนมันอีกครั้ง สองหางที่เขาถืออยู่พลันฉีกขาด ร่างกายตกเข้าไปในอวกาศ บนร่างมันมีหลายส่วนแตกหักและมีเลือดเจิ่งนองไปทุกที่

พอมันตกลงไป ราชายุงส่งเสียงร้องอย่างรุนแรงและบ้าคลั่งพุ่งออกไป เมื่อเข้าไปใกล้ได้จึงใช้ปากแทงเข้าไปในร่องบนร่างแมงป่อง สูดเข้าและเผยอาการตื่นเต้น

หลังจากนั้นอสูรยุงที่เหลือห้าพันตัวพุ่งออกไปล้อมรอบแมงป่อง ปากแหลมของแต่ละตัวแทงเข้าไปและเริ่มสูดอย่างเมามัน

แมงป่องส่งเสียงกรีดร้องดังระงมราวกับเป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของชีวิต ทว่าการดิ้นรนนี้อ่อนแอยิ่งและไม่สามารถหยุดอสูรยุงห้าพันตัวได้

แม้แต่หวังหลินก็ยังรู้สึกด้านชาเมื่อเห็นเช่นนี้

เพียงไม่กี่ลมหายใจ ร่างแมงป่องก็แห้งเหี่ยวและเสียเลือดไปจนหมด กระทั่งความเข้าใจแห่งเต๋ายังพังทลายและถูกพวกอสูรยุงดูดเอาไป

ราชายุงส่งเสียงหึ่งและดูปิติยินดี ร่างกายสั่นเทา ระดับบ่มเพาะเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล ไม่เพียงแค่มันเท่านั้นแต่อสูรยุงที่เหลืออีกห้าพันตัวต่างก็ร้องคำรามตื่นเต้น!

หลังจากลิ้มรสเลือดอสูรและดูดซับแกนของแต่ละตัว พวกมันเติบโตอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้พวกมันกระจายกำลังและไล่ล่าเหล่าอสูร หากถูกจับได้จะโจนฝูงโจมตีและสูดให้แห้งเหี่ยว

หวังหลินถอนสายตาจากฝูงยุงมาถึงแมงป่องยักษ์ เขาสะบัดแขนดึงหางแมงป่องที่เหลือเจ็ดข้าง อ้าปากพ่นเปลวเพลิงสีฟ้าออกมาเผาไหม้

ขณะที่เพลิงกำลังเผาไหม้ ในแววตาหวังหลินกะพริบเขตอาคมขึ้นมาและตกลงใส่หางแมงป่อง ครู่ต่อมาหางทั้งเก้ารวมกันกลายเป็นหนึ่งข้างและถูกหวังหลินเก็บไว้ในมิติเก็บของ

จากนั้นแขนซ้ายกำหมัดกระแทกใส่ศีรษะแมงป่องจนระเบิดให้เห็นก้อนสีดำขนาดเท่ากำมือ ข้างในมีสตรีชุดดำกะพริบวูบวาบ นางเผยใบหน้าหวาดกลัวเต็มที่

หากอสูรระดับสิบสามสามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้ มันจะเหมือนมีสองชีวิต ถึงแม้ร่างกายจะพังทลายไปแล้วก็ยังมีวิญญาณดั้งเดิมอยู่ในร่างอีก

ตอนที่หวังหลินหยิบแกนสีดำขั้นมา นางหวาดกลัวยิ่ง หวังหลินส่งสัมผัสวิญญาณเขาไปในแกนสีดำ ทะลุทะลวงทุกอย่างและเริ่มค้นความทรงจำของนาง

เขาค่อยๆเห็นทั้งชีวิตของนาง หวังหลินเห็ว่าในอดีตเมื่อนานมาแล้วเจ้าแมงป่องตัวนี้เป็นเพียงแค่ระดับเจ็ด แต่นางบังเอิญเจอสตรีคนหนึ่งเข้า สตรีคนนั้นชี้ใส่แมงป่องเพื่อทิ้งอักขระไว้และกล่าวไว้หนึ่งอย่าง

“อสูรน้อยแสนรู้ ข้านามว่าโลหิตม่วง จงกลายเป็นหนึ่งในแม่ทัพอสูรของข้าและช่วยข้าฟื้นฟู”

ร่างของนางพร่ามัวและเห็นได้ไม่ชัด ในความทรงจำของแมงป่อง นางเคารพต่อสตรีคนนี้อย่างยิ่ง

ขณะที่เขาค้นความทรงจำต่อไป แววตาหวังหลินส่องสว่างขึ้น เรียนรู้ว่ามีอสูรทั้งหมดสิบเก้าตัวที่สามารถเปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์ได้

เขาค้นพบว่าขนาดของรอยแยกแห่งนี้ช่างไร้ขอบเขต มีอสูรเพียงไม่รู้ตัวที่รู้ว่าข้างในส่วนลึกมีอะไร พวกมันรู้แค่เพียงว่ามีอสูรที่ทรงพลังยิ่งอยู่ข้างในและไม่ออกมาง่ายๆ ไม่ว่าพวกมันจะทำอะไรก็ทำให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์ได้แน่!

สำหรับต้นกำเนิดของรอยแยกอวกาศนั้น แม้แต่สตรีชุดดำเองก็ไม่รู้ นางรู้แค่ว่ามันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่นางเกิดแล้ว…

หวังหลินค้นพบด้วยว่ามีพื้นที่เขตอาคมอยู่ส่วนลึกภายในรอยแยกอวกาศ สตรีที่แมงป่องเคารพกำลังฟื้นฟูอยู่ที่นั่นและเวลาก็ผ่านมานานแล้ว

หวังหลินถอนสัมผัสวิญญาณและเริ่มขบคิด เขาเข้าใจแล้วว่าสถานที่แห่งนั้นนำทางไปที่แห่งหนึ่งไม่ใช่ดินแดนชั้นนอกเหมือนอย่างที่สำนักมารคิด แต่เป็นสถานที่อันลึกลับ

ตอนที่หวังหลินถอนสัมผัสวิญญาณออกมาจากการค้นความทรงจำ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาคิดถึงรอยแยกอวกาศในแดนสวรรค์วายุ เขาจำได้ว่าราชายุงตัวยักษ์ก็พยายามดิ้นรนออกมาจากรอยแยกและมีโลกอันวุ่นวายเต็มไปด้วยอสูรยุงอยู่อีกฝั่ง

‘สองสถานที่นั้นมีการเชื่อมต่ออะไรกัน…’ หวังหลินขบคิดก่อนจะหยุดคิด เขาหันไปหาทางออกแทนและรีบเร่งออกไป

ในเมื่อหวังหลินไม่มั่นใจว่าสถานที่แห่งนี้นำทางอยู่ดินแดนชั้นนอกหรือไม่ เขาจึงไม่เสียเวลาอยู่ที่นี่อีก เขาต้องรีบกลับไปที่สำนักมารให้เร็วที่สุดและเข้าไปในค่ายกลดินแดนปิดผนึก เขาต้องหาทางทะลวงออกไปเพื่อหาปรมาจารย์เต๋าความฝัน!

แรกเริ่มพวกอสูรกำลังล้อมวงหวังหลิน แต่ตอนนี้เขากำลังไล่ล่าพวกมัน ยิ่งเข่นฆ่าไปเรื่อยเขาก็ยิ่งเดินทางไปทางออกได้เร็วขึ้น

วิชาห้วงเวลาของหวังหลินไม่แปรปรวนเลย มันกระตุ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้ชีวิตของหลี่เฉียนเหมยมอดดับ

เวลาค่อยๆผ่านไป ขณะที่หวังหลินพุ่งผ่าน พวกอสูรถูกฝูงยุงล่าสังหารไปทีละตัว กระบี่โลหิตล้อมรอบหวังหลินและพุ่งออกไปทันทีที่ตรวจจับอสูรเจอ

ส่วนเจ้ามังกรเก้าอเวจีที่ทิ้งไว้ มันหนีไปนานแล้วและไม่มีร่องรอยเหลืออยู่

หวังหลินค่อยๆเข้าไปหาทางออกตามแผนที่ในหินหยก ทว่าเขากำลังเคร่งเครียดเนื่องจากวิชาห้วงเวลาทำได้เพียงแค่ชะลอชีวิตของหลี่เฉียนเหมย ไม่ได้ทำให้มันหยุดลง ยิ่งเขาช้า นางก็ยิ่งมีโอกาสรอดต่ำลง

อย่างไรก็ตามหวังหลินเคยเห็นค่ายกลดินแดนปิดผนึกก่อนหน้านี้และเขาไม่มั่นใจว่าจะเปิดมันได้!

‘สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ไม่ตกลงมาในรอยแยกอวกาศ แต่ข้าสัมผัสได้ว่ามันจะตกลงมาตอนที่ข้าออกไป บางที…ด้วยพลังของทัณฑ์สวรรค์ ข้าอาจจะสามารถทะลวงผ่านค่ายกลดินแดนปิดผนึกได้!’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างและทะยานให้เร็วขึ้น

ทว่าตอนที่เขามาได้มากกว่าครึ่งทางและอยู่ใกล้กับทางออก เสียงเบาๆลอยเข้าหาเขา

“เจ้าจะรีบจากไปเช่นนี้หลังจากฆ่าแม่ทัพอสูรของข้าไม่ได้ เจ้าต้องอธิบายมาให้ข้า…”

น้ำเสียงสงบนิ่งมากแต่ปรากฏขึ้นฉับพลัน แม้แต่หวังหลินก็ไม่อาจสังเกตได้ ตอนที่เสียงเข้าไปในหู หวังหลินพลันหยุดลงและหันกลับมา

สตรีนางหนึ่งปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเขาโดยไม่รู้ตัว นางสวมเสื้อผ้าอาภรณ์สีแดงดูน่าตกตะลึง นางจ้องมองหวังหลินด้วยสายตาสงบนิ่งคล้ายจะมีดวงดาวและก่อตัวเป็นวังวนที่มองไม่เห็นจับจ้องมา

“ต้องการคำอธิบายอะไร?” หวังหลินมีสีหน้าเป็นปกติแต่รูม่านตาหรี่แคบ แขนซ้ายยื่นออกไปหาความว่างเปล่า แสงสีแดงกะพริบวูบวาบปรากฏกระบี่โลหิต

นางใช้สายตามองกระบี่โลหิต เผยแสงประหลาดใจและเอ่ยขึ้นเบาๆ “ข้าจำกระบี่เล่มนั้นได้ ครั้งหนึ่งมันทำให้จักรพรรดิเทพบาดเจ็บ…เจ้าเป็นเทพโบราณสายเลือดราชวงศ์ที่สามารถกวัดแกว่งพลังของกระบี่เล่มนี้ได้”

หวังหลินจ้องมองนางด้วยความระมัดระวัง สตรีด้านหน้าเขาไม่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งแต่เขาสัมผัสได้เลือนลางว่าที่เขากำลังมองอยู่ไม่ใช่ร่างจริง แต่เป็นร่างอวตาร!

นางเล่นผมตัวเองและเอ่ยขึ้นเบาๆ “ไม่ต้องกังวล ร่างกายดั้งเดิมข้ากำลังฟื้นฟู ดังนั้นข้าจึงมาด้วยร่างอวตาร ถึงแม้จะเป็นขั้นทะลวงสวรรค์ ข้าก็ไม่อาจรั้งเจ้าไว้ได้และข้าก็ไม่ต้องการเป็นศัตรูกับเจ้าด้วย!”

หวังหลินไม่พูดอะไรสักคำแต่กำกระบี่โลหิตไว้แน่นขึ้น

นางมองหวังหลินและเอ่ยขึ้นเบาๆ “ข้าเป็นหนึ่งในนางสนมของจักรพรรดิเทพโบราณ ข้าชื่อหนึ่งจันทรา สตรีด้านข้างเจ้าแทบจะเสียพลังชีวิตไปหมดแล้ว แต่ดูเหมือนเจ้าจะมีทางนำมันกลับมา ข้าไม่สามารถรั้งเจ้าไว้ได้ก็จริงแต่ข้าสามารถป้องกันไม่เจ้าออกไปจากที่นี่ได้นานพอจนพลังชีวิตของนางสลายไปหมดสิ้น…”

หวังหลินมีสีหน้าดังเดิมแต่ในความสงบนิ่งมีความมุ่งมั่น “หากนางตาย ข้าจะไม่ออกไปจากที่นี่ แต่จะเข่นฆ่าไปตามทางจนถึงตำแหน่งที่เจ้ากำลังฟื้นฟูและฆ่าเจ้าซะ!”

“เจ้าก็ลองดู!”

นางเผยแววตาชื่นชมและยิ้มออกมา “นั่นมันก็เป็นไปได้ เอาอย่างนี้ไหม ข้าจะส่งเจ้าออกไปจากที่นี่และให้เวลาเจ้าฟื้นคืนชีพสตรีคนนั้นตราบใดที่เจ้าสัญญาบางอย่าง”

“สัญญาอะไร?” หวังหลินขมวดคิ้ว

นางมองหวังหลินและเอ่ยขึ้นเสียงเบา “หลังจากเจ้าช่วยนาง เจ้าต้องกลับมาช่วยข้าฟื้นฟู…ข้าจะไม่ให้เจ้ามาโดยไม่มีอะไรตอบแทน ข้าไม่รู้ว่าในส่วนลึกของรอยแยกอวกาศมีอะไรอยู่ แต่ข้ารู้ว่าที่นั่นมีแท่นบูชาเทพโบราณ เจ้าช่วยข้าฟื้นฟูและข้าจะช่วยเจ้าไปที่แท่นบูชาเทพโบราณ ข้าเดาว่าเจ้ารู้จักว่าแท่นบูขาเทพโบราณคืออะไร ข้าจะทำสัญญาเต๋ากับเจ้าด้วยเพื่อรับประกันว่าเราจะไม่เป็นศัตรูกัน!”

หวังหลินขบคิดเงียบๆ เขาไม่รู้ว่าแท่นบูชาเทพโบราณคืออะไร แต่จากที่มองดูสตรีคนนี้ นางมั่นใจว่าเขาจะตอบตกลง

“ทำไมถึงเลือกข้า?”

“เพราะเจ้าคือเทพโบราณสายเลือดราชวงศ์!”

“เพราะเจ้าสามารถควบคุมกระบี่โลหิตที่ทำให้จักรพรรดิเทพบาดเจ็บได้!”

“เพราะเจ้ามีกลิ่นอายของคนที่ข้ารู้จัก ข้าเดาว่าเจ้าได้รับการรับรองจากเขาแล้ว!”

“เพราะเจ้ามีแก่นแท้ห้าอย่างอยู่ในร่าง เมื่อเจ้าทำให้แก่นแท้ทั้งห้าสมบูรณ์เจ้าทำได้แม้กระทั่งต่อสู้กับจักรพรรดิเทพ!”

“ทั้งหมดนี้คือเหตุผลของข้าที่จะเป็นพันธมิตรกับเจ้า! หากเราเป็นพันธมิตรกัน ข้าสามารถมอบผลประโยชน์ให้กับเจ้าได้…” นางมองหวังหลินพร้อมกับกล่าวทั้งหมดนั้น

หวังหลินมีสีหน้าไม่เปลี่ยนไปเลย บอกไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

นางยิ้มและสะบัดแขนขวา ลำแสงสีขาวสายหนึ่งลอยเข้าหาหวังหลิน

“ด้วยหินหยกนี้ เจ้าสามารถเข้ามาที่รอยแยกอวกาศแห่งนี้จากที่ไหนก็ได้หรือจะออกไปก็ได้ ข้ารอเจ้าอยู่นะ” หลังจากกล่าวจบ นางก็หายไปอย่างไร้เสียงเหมือนที่นางปรากฏตัว ราวกับนางมาเพื่อส่งหินหยกนี้ให้เขา

หลังจากรับหินหยกมา หวังหลินมองทิศทางที่นางหายไปและขมวดคิ้วอีกครั้ง

‘นางมีเป้าหมายอะไร? แล้วยังแท่นบูชาเทพโบราณนั่นอีก…’

ขณะขบคิด หวังหลินส่งสัมผัสวิญญาณเข้าใส่หินหยก หินหยกนี้ธรรมดามาก มันคือค่ายกลเคลื่อนย้ายแต่ซับซ้อนยิ่ง อย่างไรก็ตามด้วยความรู้ด้านเขตอาคมของหวังหลิน เขาจึงมองออกว่ามันไม่มีอันตราย

หวังหลินส่งสัมผัสวิญญาณเสี้ยวหนึ่งเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้ายที่อยู่ในหินหยก สัมผัสวิญญาณหายวับไปในพริบตาและปรากฏทางออกขึ้นมา

หลังจากมั่นใจว่าไม่มีอันตราย หวังหลินระงับความสงสัยต่อสตรีคนนั้นเอาไว้และหายวับไปในแสงกะพริบจากหินหยก

ลึกเข้าไปภายในรอยแยกอวกาศ มีผลึกสีแดงหกเหลี่ยมที่มีโลกสีดำมืดด้านใน ผลึกก้อนนี้สูงร้อยฟุตราวกับเป็นน้ำแข็งและมีสตรีนางหนึ่งนั่งอยู่ข้างใน

เปลือกตาของนางสั่นไหวเล็กน้อยและค่อยๆลืมตาขึ้นมา สายตาแทงทะลุผ่านผลึกและมองเข้าไปในอวกาศ ไม่มีใครรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่

……………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version