1305. ทัณฑ์สวรรค์คือโชคดีในความโชคร้าย
ตอนที่วิญญาณหวังหลินเข้าไปในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าและเขาได้เจอจ้าวแห่งดินแดนปิดผนึกก่อนที่จะถูกส่งตัวไปที่ดินแดนแห่งเต๋า จ้าวแห่งดินแดนปิดผนึกบอกว่าค่ายกลดินแดนปิดผนึกนั้นคือสถานที่พักผ่อนสุดท้ายของเขา!
นี่เป็นเหตุให้หวังหลินมีความมั่นใจบางอย่างในการทะลวงผ่านค่ายกล มันคืออีกวิธีที่นอกเหนือจากการยืมพลังของทัณฑ์สวรรค์!
วินาทีที่สัมผัสวิญญาณของเขาแพร่กระจายออกไป ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าที่หายไปในวิญญาณดั้งเดิมก็พลันปรากฏขึ้นมา หินหยกก้อนหนึ่งลอยออกมาจากข้างในและลอยออกไปนอกร่างหวังหลิน!
ยามที่หินหยกปรากฏ สรวงสวรรค์สั่นสะท้านและตกตะลึง แม้กระทั่งแปดโครงสร้างแห่งทัณฑ์สวรรค์ก็ยังสั่นกระตุก
ข้างในค่ายกลสำนักมาร ผู้อาวุโสระดับสูงแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไปเพื่อสังเกตทัณฑ์สวรรค์ เขาให้ความสนใจหวังหลินไปด้วยซึ่งกำลังจะผ่านทัณฑ์สวรรค์ไป ยามที่ได้เห็นหินหยก ชายวัยกลางคนสั่นสะท้านในชั่วขณะ
ดวงตาเบิกกว้างและเผยอาการแทบไม่เชื่อ!
“หยกของจ้าวสำนัก!!! เขามีหยกของจ้าวสำนักจริงๆ!! หรือเขาจะเป็นผู้สืบทอดของจ้าวสำนัก?!” ชายวัยกลางคนบ่มเพาะมาหลายปีและแทบไม่สั่นไหว ทว่าตอนนี้เขาตกอยู่ในอาการตะลึง ใบหน้าแดงอย่างตื่นเต้น
เขาก้าวไปข้างหน้า ทะลวงผ่านค่ายกลเข้าไปในท้องฟ้าดวงดาราอย่างไม่ลังเล จากนั้นก้าวอีกครั้งเข้าไปในรอยแยกอวกาศ มาถึงอวกาศถัดจากค่ายกลดินแดนปิดผนึก
เมื่อมาถึง แสงจากหินหยกแพร่กระจายข้ามไปทั่วอวกาศ ต้นไม้ยักษ์ที่สามารถแบกรับทั้งโลกได้ปรากฏขึ้นมา!
การปรากฏตัวของต้นไม้ยักษ์ได้ทำให้อวกาศสั่นสะเทือน แปดโครงสร้างถูกพลังลึกลับห่อหุ้มเอาไว้และหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมด
ต้นไม้ยักษ์ใหญ่จนเต็มไปทั่วอวกาศ ใบหน้าแก่ชราค่อยๆปรากฏขึ้นด้วย
“จ้าวสำนัก!!!” ผู้อาวุโสระดับสูงแห่งสำนักมารมองต้นไม้ยักษ์อย่างตื่นเต้น สายตาเคารพนับถืออย่างที่สุด
วินาทีนั้นเสียงอึกทึกจึงก่อตัวขึ้นในเขตระดับเก้า ในสำนักเทพเจ้า ฉุยต้าวซึ่งเดิมทีมีสีหน้าน่ารังเกียจและคำรามอย่างต่อเนื่อง พอวินาทีนี้ร่างกายสั่นเทาและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“อาจารย์!!”
กระทั่งปีศาจโบราณเก้าดาวที่ลอบกลืนกินพลังงานของทัณฑ์สวรรค์อย่างลับๆก็ด้วย วินาทีนี้สีหน้ามันเปลี่ยนไป มองออกไปไกลและเต็มไปด้วยความลังเล
“จ้าวแห่งดินแดนปิดผนึก…”
ทางจ้าวสำนักของสำนักทะลวงสวรรค์กำลังก้าวเดินเข้ามาท่ามกลางดวงดาว แต่วินาทีนี้เขาหยุดลง มองไปข้างหน้าด้วยท่าทางเคร่งเครียดและเริ่มขบคิด
ในอวกาศนั้นใบหน้าที่ปรากฏขึ้นบนต้นไม้ได้เผยกลิ่นอายเก่าแก่ เขามองไปรอบๆด้านจนในที่สุดก็มองไปที่ค่ายกลดินแดนปิดผนึก
หลังจากนั้นสักพักจึงปล่อยลมหายใจและเอ่ยน้ำเสียงเหน็ดเหนื่อย
“พิสุทธิ์ลี้ลับ…”
ผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักมารสั่นเทาและคล้ายกลับคืนสู่อดีต “ผู้น้อยอยู่ที่นี่แล้ว!” เขาตอบกลับโดยไม่ลังเล
“จงใช้สมบัติเต๋าของข้าเพื่อจัดระเบียบทะเลเมฆาและรวบรวมความแข็งแกร่งทั้งหมดเตรียมพร้อมเข้าสู่…สงครามกับดินแดนชั้นนอกที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน! ฆ่าทุกคนที่ขัดขืน!!”
ผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักมารเกิดอาการสั่นเทาและมองขึ้นไป ในแววตากะพริบความเย็นเยียบพลางร้องตะโกน “น้อมรับคำสั่ง!”
“ภายใต้คำสั่งของข้า หลังจากจัดระเบียบทะเลเมฆาเสร็จแล้ว จงไปที่อีกสามดาราจักร ไปหาหนานหยุน หงซานและธิดาสงคราม บอกพวกเขาว่าได้เวลาทำตามข้อตกลงในอดีตแล้ว…”
“ข้าอยากให้เจ้าใช้ความเร็วที่มากที่สุดเพื่อจัดระเบียบดาราจักรอีกสามแห่ง รวมแดนสวรรค์วายุ พิรุณ อัสนีและแสงเข้าเป็นหนึ่งเพื่อต่อสู้กับ…มหาสงครามที่จะเริ่มขึ้นอีกไม่นาน!!!”
“น้อมรับบัญชา!” ผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักมารดูตื่นเต้นยิ่ง
ใบหน้าเก่าแก่บนต้นไม้ยักษ์มองออกไปไกล สักพักเขาเอ่ยกระซิบ “ทาสเต๋า…หากเรื่องนี้เจ้าสามารถช่วยสำนักมารได้ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า…”
ในห้องลับของสำนักเทพเจ้า ฉุยต้าวสั่นเทา หน้าผากเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เขาคุกเข่าลงและโขกคำนับอยู่บนพื้น
“จ้าวปีศาจ เจ้าหนีจากดินแดนชั้นนอกเข้ามาและข้ามอบทั้งสำนักภูตผีให้เป็นศิษย์เพื่อช่วยเจ้าฟื้นฟู ตอนนี้เจ้าฟื้นคืนมาบ้างและกลายเป็นปีศาจโบราณเก้าดาว ถึงเวลาตอบแทนตามสัญญาของเราแล้ว!”
ดวงตาของเงาปีศาจโบราณนอกสำนักภูตผีส่องสว่างขึ้น หลังจากขบคิดเล็กน้อยมันจึงพยักหน้า มองลอดผ่านอวกาศไปที่ดินแดนชั้นนอก ในแววตากะพริบความเกลียดชังและเย็นเยียบ
หลังจากนั้นใบหน้ามนุษย์บนต้นไม้ยักษ์จึงค่อยๆมองหวังหลินและเอ่ยเบาๆ “ทัณฑ์สวรรค์คือหายนะแต่ก็เป็นโชคด้วย เนื่องเพราะกฎของแดนสวรรค์โบราณ ข้าจึงไม่สามารถบอกเจ้าได้มากกว่านี้ จงดูแลตัวเองให้ดี…ทัณฑ์สวรรค์ไม่ใช่สิ่งที่มาจากแดนสวรรค์โบราณ แม้กระทั่งจักรพรรดิเทพยังมีทัณฑ์สวรรค์ของตัวเอง…”
“ทัณฑ์สวรรค์มาจากยุคแรกเริ่ม จากโลกถือกำเนิด จากการตายของเต๋าสวรรค์…ทัณฑ์สวรรค์ที่เจ้าเผชิญเป็นเพียงแค่ทัณฑ์เล็กๆ ไม่ได้ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ทัณฑ์จวี่ที่สามารถทำลายได้ทุกชีวิต…” ยามที่เอ่ยออกมา ดวงตาค่อยๆพังทลาย ต้นไม้ยักษ์เลือนหายไปในอวกาศ
หินหยกเปลี่ยนกลายเป็นแสงผลึกและตกลงไปบนค่ายกลดินแดนปิดผนึก ค่ายกลส่องสว่างเจิดจ้าและสั่นเทา จิตวิญญาณสมบัติปรากฏขึ้นทีละตัวราวกับกำลังต่อต้านแสงนี้
ทว่าพลังอำนาจภายในหินหยกแปลกประหลาดยิ่ง มันค่อยเปลี่ยนกลายเป็นเส้นด้ายสีเขียวมากมายแพร่กระจายไปทั่วค่ายกลยักษ์ก่อนจะค่อยๆเลือนหายไป
เมื่อด้านเขียวหายไป แปดโครงสร้างที่ถูกแช่แข็งในอากาศจึงร้องคำรามและเคลื่อนเข้าหาหวังหลินอีกครั้ง
“ทัณฑ์สวรรค์คือหายนะแต่ก็เป็นโชคดีเช่นเดียวกัน…ทัณฑ์สวรรค์จวี่แห่งสวรรค์…ทัณฑ์จวี่…ขอบเขตจวี่!!!” หวังหลินดวงตาส่องสว่างจ้องมองไปที่แปดโครงสร้าง ดวงตาลุกวาวยิ่งยวด! ดูเหมือนจะคว้าบางอย่างได้แต่ก็ไม่มั่นใจ
“ด้วยระดับบ่มเพาะของเจ้าในปัจจุบัน อย่าพูดถึงการเข้าใจขอบเขตจวี่เลย…ตอนที่เจ้าบรรลุขั้นทลายสวรรค์ บางที…เจ้าอาจจะเข้าใจมันได้จากทัณฑ์สวรรค์…” คำพูดของฉิงชุ่ยดังก้องในหู
กงล้อแปดโครงสร้างเข้าใกล้หวังหลิน สีหน้าหวังหลินเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ดวงตาเผยความบ้าคลั่งออกมาและตัดสินใจได้แล้ว!
‘ข้าจะทุ่มสุดตัว!!’ หวังหลินเลิกต่อต้าน มันประทับใส่หวังหลิน แตกสลายและเปลี่ยนกลายเป็นอักขระเวทย์แปดชิ้นเจาะเข้าใส่ผิวหนังและเข้าสู่เส้นเลือด!
แปดโครงสร้างบรรจุฟ้าดินเอาไว้ ดังนั้นจึงสร้างโลกของตัวเองขึ้นมา วินาทีที่มันประทับในร่างหวังหลินจึงได้เปลี่ยนกลายเป็นพลังอำนาจอันแข็งแกร่งจนเกือบทำให้ร่างหวังหลินพังทลาย เขากระอักโลหิตออกมา แปดโครงสร้างสะท้อนกับเก้าตำหนักก่อตัวเป็นผนึกอันน่าเหลือเชื่อ
พวกมันเริ่มทำลายร่างหวังหลินอย่างบ้าคลั่งจากข้างใน
โชคดีที่เป็นเทพโบราณ ความเร็วในการฟื้นฟูของเขาจึงน่าตกตะลึง ภายใต้การโจมตีของเก้าตำหนักและแปดโครงสร้าง หวังหลินส่งเสียงคำรามดุดัน เส้นเลือดบนร่างกายนูนโป่งและฟื้นฟูไปด้วย
ทว่าแปดโครงสร้างประหลาดยิ่ง พวกมันแบ่งตัวเป็น 64โครงสร้างและเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากนั้นเปลี่ยนเป็น 128โครงสร้างและขยายออกไปไม่มีที่สิ้นสุดอีกครั้ง!
เสียงดังปะทุอยู่ในร่างหวังหลิน ร่างกายหมื่นฟุตของเขาถูกปกคลุมด้วยโครงสร้าง โลหิตสาดกระเซ็นออกมาจากทุกส่วนของร่างกาย!
หวังหินมีสีหน้าดุดันพลางมองขึ้นไปยังอวกาศในวังวนและร้องคำราม “ก็แค่เก้าตำหนักและแปดโครงสร้างไม่สามารถฆ่าข้าได้หรอก!! มีทัณฑ์สวรรค์ที่ทรงพลังกว่านี้อีกไหม??”
ขณะที่เขาร้องคำราม วังวนร้องคำรามและมีแสงเจ็ดสายโผล่ออกมาด้วย แสงทั้งเจ็ดนี้คือแสงดวงดาว!
แสงดวงดาวส่องสว่างจ้าพุ่งออกมาจากวังวน เปลี่ยนกลายเป็นดาวเคราะห์เซียนเจ็ดดวง พวกมันคือดาวเคราะห์เซียนจริงๆไม่เหมือนเก้าตำหนักที่เป็นแค่อุกกาบาต!
เจ็ดดาวเคราะห์เซียนส่องสว่างเจิดจ้า ก่อตัวเป็นกระบวยใหญ่
ต่อจากเก้าตำหนักก็คือแปดโครงสร้าง ต่อจากแปดโครงสร้างคือเจ็ดดาวกระบวยใหญ่! เจ็ดดาวนั้นคืออัลฟา เบตา แกมมา เดลตา เอปไซลอ เซตา!
“เจ็ดดวงดาว…ไร้จุดจบ…” วินาทีที่น้ำเสียงดังออกมา เจ็ดดวงดาวส่องสว่างอย่างรุนแรงและเจาะทะลุอวกาศ แสงแต่ละจุดทะลวงผ่านท้องฟ้าและสว่างไปทั่วทั้งทะเลเมฆา ทับกับแสงดวงดาวอื่นทั้งหมดราวกับโดนเจ็ดดวงดาวดูดซับไปและก่อเกิดจิตสังหารสั่นสะเทือนสวรรค์!
มันคือจิตสังหารเจ็ดดารา อำนาจสังหารกระบวยใหญ่!
เจ็ดดวงดาวคือจิตสังหาร ส่วนกระบวยใหญ่คือการสังหาร มันเข้าไปใกล้โดยมีเจตนาฆ่าเข้าไปด้วย เจ็ดดวงดาวก่อตัวเป็นเจ็ดเส้นทางพุ่งเข้าหาหวังหลิน พวกมันเหมือนกระบี่สังหารที่กำลังพุ่งไป!
วินาทีนั้นน้ำเสียงคลุมเครือดังกึกก้องอีกครั้ง!
“หกทิศทาง…ไร้จุดจบ…”
หกทิศทางรวมกันแสดงให้เห็นว่าจักรวาลแห่งนี้โดดเดี่ยวแค่ไหน!
ไม่มีอะไรหนีรอดจากหกทิศทางได้ ถึงแม้ร่างกายจะแตกสลายไปแล้ว วิญญาณก็ไม่อาจหนีพ้น มันคือค่ายกลผนึกสวรรค์ หลังจากโดนล้อมเอาไว้แล้วมีแต่จะต้องสู้เท่านั้น!
กระดองเต่ายักษ์จำนวนหกชิ้นปรากฏขึ้นจากทุกทิศทางและพุ่งหาหวังหลิน!
ทว่าต่อจากหกทิศทาง น้ำเสียงนั้นดังขึ้นอีก
“ห้าธาตุ…ไร้จุดจบ…”
โลหะ พฤกษา วารี อัคคีและปฐพี ถึงแม้พวกมันจะทับซ้อนกับแปดโครงสร้างแต่ก็แตกต่างกันอย่างสมบูรณ์ ห้าธาตุเป็นส่วนหนึ่งของโลก หากห้าธาตุไม่มีอยู่ในปัจจุบัน โลกก็ถึงคราวล่มสลาย!
หลังจากคำพูดนั้นดังกึกก้องออกมา แสงห้าสายพลันปรากฏขึ้นก่อตัวเป็นประทับฝ่ามือยักษ์ห้าข้าง แสดงตัวตนถึงธาตุทั้งห้า!
ประทับฝ่ามือธาตุโลหะมีพลังอำนาจแยกสรวงสวรรค์ มันปลดปล่อยพลังไร้เทียมทาน! ประทับฝ่ามือธาตุพฤกษาเต็มไปด้วยพลังชีวิต มันสลับสับเปลี่ยนระหว่างชีวิตและความตายอย่างต่อเนื่อง เป็นพลังแห่งชีวิตและความตายที่ไม่อาจอธิบายได้
ประทับฝ่ามือธาตุวารีและอัคคีเป็นสองขั้วตรงข้ามที่มีพลังสูงสุด คลื่นมหึมาและเปลวเพลิงไร้ก้นบึ้งก่อตัวเป็นประทับฝ่ามือยักษ์พุ่งใส่หวังหลิน!
ประทับฝ่ามือปฐพีคือสิ่งสุดท้าย มันเหมือนพื้นดินและหนักแน่นยิ่ง วินาทีนั้นมันรวบรวมพลังจากพื้นดินทั้งหมดในดวงดาวและปลดปล่อยกลิ่นอายไม่อาจทำลายได้!
………………………………