Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1574

Cover Renegade Immortal 1

1574. ความลับของชั้นที่ 19

หลุมของเผ่ารอยสักไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักหลังจากมีการปรับโครงสร้างของดาวซูซาคุ ตลอดหลายปีที่ผ่านมามันกลายเป็นสถานที่ลึกลับที่สุดบนดาวซูซาคุไแปล้ว

มีเซียนจำนวนมากเข้าไปสำรวจข้างใน

ช่วงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาในขณะที่เซียนต่างถิ่นเข้ามาที่ดาวซูซาคุ มีหลายคนเข้าไปในหลุมลึกแต่กลับไม่พบอะไรเลย

ไม่มีใครสามารถเข้าไปในชั้นที่ลึกที่สุดได้

หวังหลินและเหลียนต้าวเฟยปรากฏตัวด้านนอกหลุมในทันที เขามองหลุมและกำลังจะเข้าไป แต่เหลียนต้าวเฟยซึ่งอยู่ด้านหลังกลับไม่ยอมและเริ่มคำรามใส่หวังหลิน

“ไม่ไป ไม่ไป ข้าจะไม่ไป ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่ ฮ่าฮ่า เจ้าไปเองเลย เมื่อไรที่ออกมาค่อยมาหาข้า” เหลียนต้าวเฟยเปลี่ยนสายตาและถอยหลัง ส่ายศีรษะ

หวังหลินมองเหลียนต้าวเฟยด้วยสายตาเปล่งประกาย เหลียนต้าวเฟยทำตัวมีพิรุธ เสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ยังคงส่ายศีรษะรุนแรง

หวังหลินถอนสายตา เขารู้ความคิดของเหลียนต้าวเฟย เหลียนต้าวเฟยเพียงต้องการเล่นอยู่รอบๆ ดาวซูซาคุ หวังหลินไม่ได้ต้องการบังคับเขาและทำได้แค่เพียงพยักหน้า เขาไม่ให้ความสนใจอีกและเข้าไปในหลุมลึก

พอเหลียนต้าวเฟยเห็นหวังหลินจากไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น วิ่งออกไปไกลพลางร้องพึมพำ

“สามสาวพวกนั้นไม่อยากบอกชื่อเสียงเรียงนามกับข้า สีหน้าแต่ละคนก็ประหลาด ฮ่าฮ่า หากข้าพบพวกนางอีกครั้งจะต้องบอกชื่อแก่ข้าแน่นอน” เหลียนต้าวเฟยดูท่าทีภูมิใจพลางเลือนหายไปตามเส้นขอบฟ้า

หวังหลินมาที่ดินแดนของเผ่ารอยสักหลายครั้งในอดีต ดังนั้นจึงคุ้ยเคยกับมันมาก เขาจำทางเข้าแต่ละชั้นได้และรีบท่องทะยานผ่านไป

ระหว่างทางหวังหลินไม่หยุดชะงักเลย เขาปรากฏตัวขึ้นในแต่ละชั้นและหายวับไปปรากฏชั้นถัดไป ไม่นานจึงมาถึงชั้นที่สิบหก

มีโลงศพสิบสามโลงที่มีรอยสักกะพริบวาบอยู่ด้วย

ทั้งสิบสามโลงถูกวางเป็นวงกลมโดยมีบ่อสีดำอยู่ตรงกลาง กลิ่นอายเย็นเยียบ แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ โลงศพนี้ยังอยู่ดีตามที่หวังหลินเห็นครั้งก่อน ร่างศพที่อยู่ ข้างในคือบรรพชนของเผ่ารอยสัก

ทางเข้าของชั้นที่สิบเจ็ดอยู่ในบ่อสีดำ หวังหลินมองบ่อและตำแหน่งผนึก ผนึกนี้สามารถถูกทำลายด้วยเซียนขั้นรูปธรรมหยางหรือสูงกว่าเท่านั้น ตอนนั้นหวังหลินไม่สามารถเข้าไปด้วยตัวเองได้จึงได้พึ่งพาความแข็งแกร่งของจงต้าหง

หวังหลินก้าวไปข้างหน้าอย่างสงบนิ่ง บ่อน้ำไม่สามารถทนรับแรงกดดันจากร่างหวังหลินได้ มันพังทลายและเผยเป็นวังวนยักษ์

วังวนดูดน้ำสีดำเข้าไปและเผยทางเข้าสู่ชั้นถัดไป หวังหลินก้าวเข้าไปข้างในและหายตัวไป

หวังหลินปรากฏตัวในชั้นที่สิบเจ็ด ตอนนั้นมีโซ่ตรวนนับไม่ถ้วนอยู่เต็มพื้นที่ ร่างศพเทพได้ถูกผนึกไว้ที่นี่เพื่อเป็นผู้คุ้มกัน

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นยังคงสดใหม่ในความทรงจำของหวังหลิน เขาเริ่มการต่อสู้อันรุนแรงที่นี่ทำให้ชั้นสิบเจ็ดพังทลาย หวังหลินมองเข้าไปและเห็นชั้นสิบเจ็ดตกอยู่ในซากปรักหักพัง มีเพียงวังวนยักษ์ตรงใจกลางที่ยังอยู่

วังวนนี้คือทางเข้าสู่ชั้นสิบแปดที่ปรากฏขึ้นมาหลังจากชั้นสิบเจ็ดพังทลาย

หวังหลินมองทางเข้าและถอนหายใจ เขาใช้ความพยายามในตอนนั้นอย่างมากเพื่อมาที่นี่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างดูง่ายดาย ตอนนั้นเขายังจำได้ว่าร่างอวตารของจักรพรรดิวิหคศักดิ์สิทธิ์คนเก่าปรากฏขึ้นมาเพื่อหยุดเขาไม่ให้เข้าสู่ชั้นสิบแปด

แต่ร่างอวตารของจักรพรรดิวิหคศักดิ์สิทธิ์ได้เปลี่ยนความคิดตัวเองและยอมให้หวังหลินเข้าไปเพื่อทำความเข้าใจภายใต้การปกป้องของเขา

หวังหลินส่ายศีรษะและเดินเข้าสู่วังวนด้วยท่าทีสงบ เสียงร้องคร่ำครวญดังกึกก้องทั่วสองหูแต่พวกมันไม่สามารถรบกวนจิตใจของเขาได้เลย หลังจากเสียงร้องคร่ำครวญหายไป หวังหลินปรากฏตัวขึ้นในส่วนที่ลึกที่สุดที่เขาเคยมาที่นี่ ชั้นสิบแปด!

ที่นี่เป็นห้องที่มีขนาดพันฟุต!

รอบด้านเป็นสีดำ เปลวเพลิงเล็กๆที่เบาบางจุดขึ้นตรงใจกลาง แสงผสานเข้ากับความมืดทำให้สถานที่แห่งนี้ดูสลัวยิ่ง

ขณะที่เปลวเพลิงวูบวาบ ดูคล้ายมีเงาภูตผีลอยอยู่รอบๆ และมีเสียงพวกมัน ร้องโหยหวน บางส่วนต้องการชกใส่เปลวเพลิง แต่ความผันผวนที่โผล่ออกมาจากเปลวเพลิงเข้าทำลายพวกมันทั้งหมด ที่นี่เป็นที่ที่หวังหลินได้ดูดซับแก่นแท้ประหลาดจากการช่วยเหลือของจักรพรรดิวิหคศักดิ์สิทธิ์ เพียงแค่เศษเสี้ยวแก่นแท้นั้นแทบทำให้เขาระเบิด เขามองเปลวไฟด้วยแววตาหวาดกลัวฝังลึก

หลังขบคิดเล็กน้อย หวังหลินจึงยื่นมือเข้าหาเปลวเพลิง ภูตผีรอบด้านในห้องนับไม่ถ้วนต่างก็ล่าถอย เสียงกรีดร้องโหยหวนดังสนั่นภายในห้อง ดูเหมือนว่าการมาถึงของหวังหลินได้ทำให้พวกมันหวาดกลัวรุนแรง พวกมันล่าถอยไปมุมห้อง ตัวสั่นเทาทั้งยังไม่กล้าเข้าใกล้

หวังหลินมองเปลวเพลิงจึงได้พบว่ามีแก่นแท้อยู่ข้างในแต่มันน้อยเกินไปและปั่นป่วน ราวกับมีใครสักคนสร้างขึ้นมาด้วยกำลังและไม่มีอะไรที่ทำให้เขาสนใจ

‘ชั้นสุดท้าย…มีอะไรซ่อนเอาไว้กันแน่…หยุนเซว่จื่อพูดว่ามีเศษเสี้ยววิญญาณของบรรพชนเผ่ารอยสักอยู่ในชั้นสิบเก้า…’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างขึ้น

‘แต่ว่า บรรพชนของเผ่ารอยสักคือลูกสาวของราชันย์และนางก็ถูกฉิงหลิงผนึกเอาไว้ในดินแดนวิญญาณปีศาจ ไม่มีทางที่วิญญาณของนางจะอยู่ที่นี่!’ หวังหลิน ยกแขนขวาขึ้นมาและคว้าเปลวเพลิง

แก่นแท้ในเปลวเพลิงระเบิดออกราวกับมันต้องการต่อต้าน แต่พลังของมันเล็กน้อยมากสำหรับหวังหลินในตอนนี้

หวังหลินบีบอย่างรุนแรง เปลวเพลิงระเบิดเสียงดังปังคล้ายแพร่กระจายไปทั่วห้อง เหล่าภูตผีที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมห้องถึงกับแตกสลาย

ประตูวงกลมค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาตรงจุดที่เปลวเพลิงแตกสลาย

ประตูบานนี้เปล่งกลิ่นอายเก่าแก่ มันถูกรอยสักจำนวนมากผนึกเอาไว้! บนประตูมีรอยสักอยู่ด้วยและไม่ได้วางเอาไว้ในเวลาเดียวกัน แต่ราวกับมีคนมากมายเข้ามาวางรอยสักเอาไว้ตลอดหลายปี ขณะที่เวลาดำเนินผ่านไปจึงเกิดเป็นผลลัพธ์เช่นนี้

แม้จะปั่นป่วนแต่เหล่ารอยสักนี้ก็ผสานเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นพลังผนึกอันทรงพลัง ขณะที่ผนึกป้องกันคนภายนอกไม่ให้เข้าไป มันยังผนึกสิ่งที่อยู่ในประตูไม่ให้ออกมาด้วยเช่นกัน!

ไม่มีใครรู้ว่าผนึกเหล่านี้มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คนเข้าไปข้างหรือเพื่อกักขังสิ่งที่อยู่ข้างใน

ขณะที่หวังหลินมองรอยสักเหล่านั้น สีหน้าท่าทางจึงเคร่งขรึม ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมจักรพรรดิวิหคศักดิ์สิทธิ์คนเก่าถึงไม่สามารถเข้าไปในชั้นที่สิบเก้าได้!

เป็นเพราะพลังของผนึกนี้มาถึงขีดสุดมันจึงเทียบได้กับพลังเต็มที่ของเซียน ขั้นทะลวงสวรรค์ระดับที่ห้า แม้แต่เซียนขั้นทะลวงสวรรค์ระดับที่ห้าเองก็ยังเปิดประตูได้ยากเว้นแต่จะบรรลุขั้นที่สามไปเท่านั้น!

“ดาวซูซาคุมีผนึกอัศจรรย์อะไรเช่นนี้…” หวังหลินมองรอยสักอยู่นานก่อนจะยกแขนขวาขึ้นจับประตูทำให้มีแสงกะพริบ เสียงแตกร้าวดังลั่นไปพร้อมอักขระเวทย์ แตกสลาย ฝ่ามือหวังหลินวาดผ่านประตูไป

พริบตาเดียวผนึกนับไม่ถ้วนบนประตูจึงกระจัดกระจายเหลือไว้เพียงหนึ่ง!

มีเพียงหวังหลินในเวลานี้เท่านั้นถึงจะทำเช่นนี้ได้ หากเป็นในอดีต ผนึกนี้สามารถหยุดเซียนได้หลายหมื่นคน!

รอยสักสุดท้ายบนประตูนั้นง่ายดายมาก มันถูกสร้างขึ้นมาในการวาดครั้งเดียวให้เป็นเพียงวงกลมธรรมดา แต่จากมุมมองของหวังหลินนั้นรอยสักสุดท้ายนี้แฝงพลังประหลาดเอาไว้

พลังนี้คือผนึกด้วยเช่นกันแต่เป็นกลิ่นอายที่ถูกผนึก! มันกำลังผนึกกลิ่นอายของประตูเอาไว้ ดังนั้นไม่ว่าจะมีอะไรอยู่ข้างใน จะไม่มีกลิ่นอายใดเล็ดลอดออกมา

ภายใต้สายตาหวังหลิน เขาเหลือบไปเป็นสีทองริบหรี่ในวงกลม! เป็นพลังงานเทพที่ซ่อนไว้ได้เป็นอย่างดี!

‘รอยสักนี่…เป็นสิ่งที่เผ่ารอยสักครอบครองหรือ!’ หวังหลินจ้องมองรอยสักสุดท้าย สูดหายใจลึกและหรี่ตาลง!

รอยสักนี้ไม่เปล่งกลิ่นอาย แต่หวังหลินสัมผัสแรงกดดันข้างในได้ชัดเจนด้วยสัมผัสวิญญาณ

‘นี่คือแรงกดดันของสายโลหิตเทพ!’ เมื่อหวังหลินสัมผัสกลิ่นอายนี้ได้ จึงล่าถอยไปสองสามก้าว ดวงตาส่องสว่างและยกแขนขวาส่องประกายสีทอง พลังเทพในร่างรวมไว้ในนิ้วมือและชี้ใส่รอยสักสุดท้าย

รอยสักวงกลมกะพริบวาบ แสงสีทองกะพริบไปมา กลิ่นอายอีกอย่างที่หวังหลินคุ้นเคยยิ่งจึงปรากฏ

ขณะที่นิ้วมือกำลังบรรจงร่อนลงไป สีหน้าท่าทางหวังหลินจึงเปลี่ยนไปมหาศาล แขนขวาหยุดลง ดวงตาจ้องมองวงกลมด้วยความไม่เชื่อ

‘นี่…มีกลิ่นอายโบราณอยู่ที่นี่!!’

กลิ่นอายที่เขาคุ้นเคยคือกลิ่นอายโบราณ เป็นกลิ่นอายของบัญชาโบราณเย่โม่! วินาทีที่เขาสัมผัสกลิ่นอายนี้ได้ ร่างกายสั่นเทาและสิ่งที่คาดเดาผุดขึ้นในใจ!

‘ตาซ้ายที่ถูกคันศรของลี่กวงยิงใส่และหายไปในอวกาศ มีกลิ่นอายโบราณอยู่ที่นี่…หรือว่าชั้นที่สิบเก้าคือตำแหน่งที่ตาซ้ายของเย่โม่ถูกผนึกเอาไว้!?’

หัวใจของหวังหลินเริ่มเต้นรัว

‘น่าจะเป็นเช่นนั้น ที่นี่มีทั้งพลังของสายโลหิตเทพและกลิ่นอายโบราณ นอกจากดวงตาซ้ายที่ถูกเกาทัณฑ์เอาไปแล้ว ไม่มีสิ่งอื่นอีกแล้ว!’

‘ดวงตาซ้ายเดิมทีไม่มีพลังของสายโลหิตเทพ แต่คันศรของลี่กวงทำให้มันบาดเจ็บ จึงทำให้สองพลังงานผสานกัน’

‘การผสานกันนี้เหมือนร่างกายของข้าและมีพลังต่อต้าน ข้าไม่รู้ว่าเผ่ารอยสักทำอย่างไรถึงได้เปลี่ยนพลังต่อต้านไปเป็นผนึกได้ แต่ก็ต้องขอบคุณผนึกนี้จึงไม่มีใครในโลกค้นพบว่าตาซ้ายของบัญชาโบราณเย่โม่อยู่ที่นี่จริงๆ!!’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version