1794. สัญญากับอาจารย์
ร่างมังกรคือเส้นทางสู่การไปเกิดใหม่ มันนำทางออกไปไกลไร้ระยะสายตามองเห็น เส้นทางนี้ไม่เหมาะสมกับหวังหลิน เขายืนอยู่บนมังกร สายตามองน้ำแข็งและทอดมองออกไปไกล
เพียงพริบตาเดียว เขาดุจได้เห็นลี่เฉียนเหมยและคนอื่นๆ เดินลงไปบนถนนสู่ การเกิดใหม่
“หวังหลิน หากเจ้าต้องการปกป้องวิญญาณ เจ้าต้องพานางไปและฝ่าฟันอุปสรรคไปสู่แผ่นดินเซียนดารา การต่อต้านกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารานั้นจะต้องเดินออกจากถนนเส้นนี้ เจ้าอาจจะหลงทาง อาจจะตาย…” ซวนลั่วเอ่ยเสียงดังกึกก้องในใจหวังหลิน
“กฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ถึงแรงกดดัน หากเจ้าสามารถต่อต้านมันได้ เจ้าก็จะสามารถก้าวเดินออกไปได้!”
“แต่ถึงจะมีข้าช่วยเหลือก็ยังมีโอกาสสำเร็จครึ่งต่อครึ่งเท่านั้น…ตั้งแต่ยุคโบราณกาลมาไม่เคยได้ยินมหาชั้นฟ้าคนใดช่วยคนเข้าต่อต้านกฏแห่งแผ่นดินเซียนดาราเลย เจ้าน่าจะเป็นคนแรก…นี่คือโชคชะตาของตัวเจ้าเอง ไม่จำเป็นต้องสำนึกบุญคุณต่อข้ามากนัก”
“หากเจ้าสามารถก้าวเดินออกไปได้ ข้าจะรับเจ้าเป็นศิษย์และพากลับไปยัง เผ่าบัญชาโบราณ! หากเจ้าเสียชีวิต…ข้าช่วยเจ้าดูแลคนที่ไปเกิดใหม่…เจ้า…ดูแลตัวเองด้วย!” ซวนลั่วถอนหายใจ เขาชื่นชอบหวังหลินมาก ตั้งใจจะส่งต่อทุกอย่างให้แก่ หวังหลินและปล่อยให้หวังหลินคุ้มกันเผ่าบัญชาโบราณในช่วงที่เขาไปเกิดใหม่
เขากระทั่งวางแผนจะช่วยหวังหลินเพื่อดูว่ามีโอกาสเข้าไปยังแดนเทพบรรพกาลได้หรือไม่ และอาจได้กลายเป็นตะวันดวงที่สาม แม้เรื่องนี้จะไม่สามารถคาดเดาและยากเย็นแสนเข็ญ เขาก็ยังต้องคิดเผื่อ
“แผ่นดินเซียนดารามีโลกถ้ำอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แทบทุกสำนักจะมีโลกถ้ำของตัวเอง หากเจ้าต้องการให้มีชีวิตปรากฏตัวในโลกถ้ำ จะต้องมีเต๋าแห่งสวรรค์ ถึงแม้ไม่ได้มีเต๋าแห่งสวรรค์มากมายแต่พวกมันก็ไม่ได้หายาก”
“ตลอดหลายชั่วอายุคน ข้าจินตนาการถึงชีวิตมากมายในโลกถ้ำได้เปิดประตูและพยายามก้าวเดินออกมา แต่ทั้งหมดล้วนตายไปเพราะกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา…”
“เมื่อเจ้าได้เดินตามถนนมังกรสู่แผ่นดินเซียนดารา เจ้าอาจจะได้เห็นประตูมากมาย ประตูเหล่านั้นคือ โลกถ้ำแห่งอื่นบนแผ่นดินเซียนดารา เจ้ายังเห็นร่างศพมากมายที่ตายไปนับไม่ถ้วนเพราะกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราอีกด้วย”
“ข้าไม่รู้ว่าจะเกิดผลกระทบแบบไหนตามมาเมื่อมีคนจากโลกถ้ำเข้าสู่แผ่นดินเซียนดารา แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นคนแรกที่ทำสำเร็จ!”
“ข้าไม่สามารถอยู่ในแผ่นดินเทพได้นานเกินไป ข้าจะรอเจ้าสิบปี…หากเจ้า ไม่ออกมาในเวลาสิบปี เจ้าน่าจะตายไปแล้ว…” คำพูดของซวนลั่วดังกึกก้องอยู่ในใจหวังหลิน ปรากฏร่างเขาเบื้องหน้าหวังหลินเช่นกัน
เขามองหวังหลินด้วยสายตาเอ็นดูราวกับกำลังมองลูกหลานของตัวเอง
“ด้วยกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา ข้าไม่สามารถทิ้งอักขระใดไว้ให้เจ้าเพื่อให้เห็นว่าเจ้ามาไกลแค่ไหนหรือปลอดภัยหรือไม่ สิ่งเดียวที่ข้าสามารถตัดสินใจได้คือเวลา…สิบปี หวังหลิน หลังจากนี้อีกสิบปี วิชาที่ข้าช่วยเหลือเจ้าต่อต้านกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราจะถูกทำลาย พลังอำนาจของกฎจะเพิ่มพูนถึงขีดสุด บางทีต้องมีจิตใจหนักแน่นเท่านั้นเพื่อจะทำให้เจ้าไม่หลงทาง…”
“เจ้าต้องมาให้ถึงแผ่นดินเซียนดาราในเวลาสิบปี…”
หวังหลินมองซวนลั่วพลางขบคิด เขาจะจดจำทุกสิ่งที่ซวนลั่วทำให้เขาไปตลอดกาล
“ก่อนที่เจ้าจะไป บอกข้าที เจ้ายอมรับข้าเป็นอาจารย์หรือไม่?” ซวนลั่วเอ่ยเสียงอ่อนโยน พอเข้าไปถึงหูหวังหลินกลับเป็นความรู้สึกอบอุ่น
ความมุ่งมั่นในการยอมรับหวังหลินตอนนี้แทนที่จะไปรอจนกว่าหวังหลินถึงแผ่นดินเซียนดาราได้ทำให้จิตใจหวังหลินสั่นไหว
“อาจารย์…” หวังหลินไม่มีเหตุผลในการไม่รับความเมตตาและความรับผิดชอบนี้ หวังหลินเข้าใจความหมายดีว่าตอนนี้เขามีความเกี่ยวข้องและต้องรับผิดชอบ เผ่าบัญชาโบราณทำให้ไม่ยอมพ่ายแพ้
นั่นหมายถึงเขาต้องปกป้องเผ่าบัญชาโบราณ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต!
นี่คือความหมายของการตอบแทนทุกอย่างที่ซวนลั่วทำให้เขา
ซวนลั่วหัวเราะ เขายิ้มอย่างมีความสุข มองหวังหลินและช่วยให้ลุกขึ้น จากนั้นจึงหัวเราะเสียงดัง
“ศิษย์เอ๋ย อาจารย์จะรอเจ้าที่แผ่นดินเซียนดารา!” ซวนลั่วพูดขึ้นพลางสะบัดแขนขวา น้ำแข็งบนถนนมังกรเกิดการหลอมไปส่วนหนึ่ง สร้างเป็นช่องว่างขึ้นมาและมีแสงน่ากลัวระเบิดจ้า แสงนี้คือส่วนหนึ่งของกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา
“เจ้าคือศิษย์ข้า ดังนั้นข้าจะมอบของขวัญต้อนรับ!” ซวนลั่วตีหน้าผากตัวเองและกัดปลายลิ้นพ่นโลหิตออกมา โลหิตเรืองแสงสีแดงและเปลี่ยนเป็นมังกรโลหิต มันร้องคำรามพลางเข้าไปห่อหุ้มหวังหลินและพาเข้าไปยังช่องว่างในน้ำแข็ง
“อาจารย์คือ หนึ่งในเก้าตะวัน ดังนั้นแก่นโลหิตของข้าจะช่วยปกป้องเจ้าไป สักพัก ข้าจะร่ายวิชาเพื่อช่วยเจ้าต่อต้านกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา!” หวังหลินพุ่งทะยานเข้าหาช่องว่างไปพร้อมมังกรโลหิต แขนขวายื่นออกไปและมีลำแสงน่ากลัวทะยานออกมา
ลำแสงเหล่านี้คือสิ่งมีชีวิตและวิญญาณทั้งหมดในมิติเก็บของของหวังหลิน นอกจากเหลียนต้าวเฟยแล้ว แทบทุกคนอยู่ที่นี่หมด!
ฉวี่ลี่กั๋ว หลิวจินเปียว เหล่าอสูรยุงและคนอื่นๆ ทุกคนที่อยู่ในมิติเก็บของของ หวังหลินพลันปรากฏตัวขึ้นมา แม้แต่เจ้าอสรพิษพิฆาตจันทร์ซึ่งมีตัวใหญ่ยักษ์ก็ยังมีทีท่าว่าจะปรากฏตัว
“พวกนี้เหล่านี้ติดตามศิษย์มานาน ข้าอยากขอให้อาจารย์ส่งไป…” ขณะที่ หวังหลินเอ่ยขึ้น กลุ่มอสูรยุงที่นำทัพด้วยราชายุงของหวังหลินได้เผยแววตาบ้าคลั่งขึ้นมา พวกมันทะยานเข้าหาช่องว่างในน้ำแข็งอย่างเต็มที่
ดูเหมือนมีสิ่งที่พวกมันปรารถนาอยู่ข้างนอก จึงได้พุ่งออกไปทันที การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้หวังหลินตกตะลึงและรวมไปถึงซวนลั่วด้วย
กฎที่มองไม่เห็นของแผ่นดินเซียนดารานั้นเต็มไปด้วยความว่างเปล่าอันมืดมิด ทว่าเจ้าอสูรยุงกลับไม่แสดงท่าทีกังวลแต่ยังมีการเปลี่ยนอันน่าตื่นตระหนกขึ้นมา
ร่างพวกมันแต่ละตัวขยายออก ศีรษะใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ร่างกายส่งเสียงปะทุดังสนั่น พวกมันเปล่งแสงน่ากลัวออกมาและดูไม่อึดอัด ราวกับได้อยู่บ้านจริงๆ!
ทว่าหลังจากนั้นไม่นานได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าตื่นตระหนกขึ้น ขณะที่ เหล่าอสูรยุงรู้สึกปลอดโปรง พวกมันได้ส่งเสียงกรีดร้องเจ็บปวด อสูรยุงจำนวนมากถึงกับเกิดการระเบิด
พวกมันถูกเปลี่ยนกลายเป็นหมอกโลหิตและหายไป หวังหลินตกตะลึงและกำลังจะไปช่วยแต่พวกที่ไม่ได้ระเบิดกลับขยายร่างอีกครั้งจนมีขนาดเท่าภูเขา แต่เพียงเวลาไม่นานก็มีอสูรยุงระเบิดมากขึ้น ส่วนที่เหลือกลับเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะราชายุงของหวังหลินที่เต็มไปด้วยโลหิต มันส่งเสียงคำรามโหยหวน คล้ายกับกำลังต่อสู้กับพลังรูปแบบหนึ่งและกำลังผสานกับอะไรบางอย่าง
หวังหลินและราชายุงมีความรู้สึกสื่อถึงกันและกำลังจะเข้าไปช่วยแต่ก็ถูกซวนลั่วหยุดเอาไว้ ราชายุงเห็นหวังหลินมีเจตนาจะช่วยเช่นกัน แต่มันพยายามบินออกห่าง มันมองหวังหลินด้วยสายตามุ่งมั่น
“อย่าหยุด ฝูงอสูรของเจ้าช่างน่าอัศจรรย์!” ซวนลั่วมีแววตาเป็นประกายพลางจ้องมองอสูรยุงและเอ่ยเสียงเคร่งขรึม
“พวกมันกำลังปรับตัวเข้าหากฎแห่งแผ่นดินเซียนดารา…จากรูปร่างของแต่ละตัว บรรพชนของพวกมันเคยอยู่อาศัยในสถานที่แบบนี้มานานแล้ว สำหรับหวังหลินก็เหมือนกลับไปบ้านเกิด ดวงวิญญาณสัมผัสได้ว่านี่เป็นบ้านแต่พวกมันไม่ได้เติบโตที่นี่ จึงทำให้เกิดปัญหากับวิญญาณและนำไปสู่ความตาย!”
“มันเหมือนมัจฉาที่ได้ปรับตัวหลุดพ้นจากน้ำ แต่จากนั้นเมื่อกลับมาบ้านจึงรู้สึกเหมือนจมน้ำ! เจ้าไม่ควรไปหยุดพวกมัน นี่เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ!” ซวนลั่วจ้องมองเหล่าอสูรยุงและขบคิด
ขณะที่ซวนลั่วเอ่ยขึ้น อสูรยุงล้มตายไปจำนวนมากและเหลือตอนนี้ไม่ถึงร้อยตัว ทว่าแต่ละตัวมีร่างใหญ่โตมโหฬาร ร่างกายขยายไปอย่างบ้าคลั่งและมีสีหน้าท่าทางเจ็บปวด
แม้จะตายไปมากมายแต่ไม่มีอสูรยุงตัวใดเลือกถอยกลับมา จิตใจแต่ละตัวกระจ่างชัดและสัมผัสได้ว่านี่คือโอกาสในการวิวัฒนาการช่วงสำคัญที่สุด เมื่อพวกมันบรรลุ จะสามารถกลายไปเป็นเหมือนบรรพชน!
ความทรงจำแต่ละตัวเรื่องบรรพชนได้ระเบิดออกมาจากวิญญาณ
โดยเฉพาะราชายุงของหวังหลินซึ่งตัวใหญ่ที่สุดและน่าตกตะลึง ร่างกายของมันสูงหลายแสนฟุต มีขนาดเท่ากับตัวที่หวังหลินเคยเห็นในรอยแยกแดนสวรรค์วายุ ในอดีต
กลิ่นอายอันน่าตกตะลึงระเบิดออกมาจากร่างมัน
เวลาครึ่งก้านธูปได้ผ่านไป หวังหลินเคร่งเครียดและตอนนี้เหล่าอสูรยุงที่เหลือน้อยกว่าร้อยตัวก็เกิดการระเบิดขึ้นอีกครั้ง รอบนี้หวังหลินรอไม่ได้แล้ว เขาอยากเห็น พวกมันวิวัฒนาการล้มเหลวมากกว่าเห็นพวกมันตาย!
ราชายุงเสมือนพี่น้องกับหวังหลิน มันอยู่กับเขามามากกว่าสองพันปี! ขณะที่เหล่าอสูรยุงกำลังระเบิด หวังหลินพุ่งออกมาจากน้ำแข็งและพุ่งหาเหล่าอสูรยุงที่กำลังตาย
ขณะที่เขาเข้าไปใกล้ เสียงคำรามสั่นสะเทือนออกมาจากตัวที่กำลังตาย จากนั้นมีอีกเก้าเสียงคำรามดังติดต่อกัน
เสียงพวกมันประสานกัน แม้แต่ช่องว่างที่เต็มไปด้วยกฎแห่งแผ่นดินเซียนดารายังเกิดการสั่นสะเทือน!
ราชายุงพุ่งออกมา ขนาดของมันเท่ากับดาวเคราะห์ ปากขนาดใหญ่มากพอให้ทุกคนรู้สึกหนังศีรษะด้านชา
ด้านหลังมีอสูรยุงสีทองเก้าตัวติดตามมา แต่ละตัวมีขนาดใหญ่เท่าราชายุงที่ หวังหลินเห็นในแดนสวรรค์วายุ พวกมันเปล่งกลิ่นอายดุร้าย พอซวนลั่วเห็นดังนั้น ดวงตาจึงส่องสว่าง!
“ลือกันว่าแผ่นดินเซียนดาราในช่วงแรกเริ่มเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า จากนั้นจึงได้ปรากฏแดนเทพและสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมา จากนั้นก็เกิดดวงดาวแต่อยู่ใต้แผ่นดินอีกที!”
“จากนั้นกฏแห่งแผ่นดินเซียนดาราได้ลงมา ปรากฏอสูรเก้าชนิดขึ้นพร้อมกันในฐานะบรรพชนโบราณ นี่…อสูรตัวนี้สามารถผสานกับความปั่นป่วนของแผ่นดิน เซียนดาราได้ หรือ…พวกมัน…” ซวนลั่วเบิกตากว้างและเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ