194. เปิดผนึก
ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้น อัญมณีวิญญาณขนาดเท่านิ้วโป้งปรากฎด้านหน้าระหว่างคิ้วของเขา วิญญาณขอบเขตจวี่ออกมาเช่นกันและหมุนวงกลมรอบชายผมแดง เขากลืนกินแสงสีแดงมากกว่าสิบดวงที่ลอยรอบๆทันที
วิญญาณกลืนกินตนนั้นย่อยแสงสีแดงเสร็จและหวังหลินถอยมา มันเข้ามาข้างหน้าอีกครั้งเป็นเช่นนี้โคจรกันต่อเนื่อง แม้ว่าทะลโลหิตจะเติมผนึกแสงสีแดงรอบๆเขา แต่มีจำนวนแสงน้อยกว่าครั้งก่อน
ดูเหมือนทะเลโลหิตต้องใช้เวลาเพื่อเติมแสงสีแดงใหม่ ชายผมแดงเผยใบหน้ายินดี ตอนที่เขาบังคับแสงสีแดงออกจากร่างกาย เขาต้องพบเจอความเจ็บปวดแสนเหลือทน แต่หลังจากเห็นแสงสีแดงลดลงเบื้องหน้า เขาคิดว่าหากเจ็บปวดแย่ลงกว่านี้อีกสิบเท่าก็ยังเต็มใจ
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เซียนมารทั้งหมดจ้องมองฉากเหตุการณ์เบื้องหน้าเงียบๆพร้อมกับกุมลมหายใจตัวเองไว้ แม้กระทั่งกลุ่มของตั่วมู่ยังเคร่งเครียด ความสามารถในการทำลายผนึกของหวังหลินเป็นบทบาทสำคัญในอนาคตของพวกเขา แต่หากผนึกไม่สามารถทำลายได้ เมื่อนั้นไม่ว่าจะสร้างแผนที่รัดกุมแค่ไหน มันก็ไม่มีอะไรอยู่ดี
ขณะที่เวลาผ่านไป แสงสีแดงรอบชายผมแดงเริ่มจะหมุนวนรอบตัวเขาเร็วขึ้นและเร็วมากขึ้น แต่ความเสถียรกลับลดลง เขาร้องคำรามดังออกมาหลายครั้งเพื่อบังคับให้แสงสีแดงออกมาอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าดูโหดร้ายและเส้นเลือดช้ำเขียวราวกับมีหนอนเขียวเลื้อยอยู่ภายใน
ในหมู่เซียนมารหลายคน จอมเวทย์ปิศาจฟ้ามองเหตุการณ์นั้นด้วยความไม่เต็มใจ เขาออกแรงใช้ความพยาายามทั้งหมดกับแผนของเขา แต่ใจจังหวะสุดท้ายมันกลับถูกทำลาย นั่นทำให้หัวใจเขาบีบรัด เขาเห็นชายผมแดงที่กำลังทำลายผนึกตอนนี้นั่นทำให้เขารู้สึกสิ้นหวัง
เมื่อชายผมแดงทำลายผนึกได้ เปิดเข้าไปในผนึกวิญญาณมรณะและได้รับการสืบทอดภูมิปัญญา เขาจะรับรู้ได้ว่าหนึ่งในสามมันหายไป ด้วยพลังอำนาจของชายผมแดง เขาจะสามารถใช้วิชาหนึ่งเพื่อหาได้ว่ามันเป็นจอมเวทย์ปิศาจฟ้าที่ทำการลงไป เช่นนั้นแล้วหนทางเดียวที่เหลือทิ้งไว้ให้เขาก็คือความตาย
ที่เขากล้าก่อนหน้านั้นเป็นเพราะชายผมแดงถูกขังไว้ในทะเลโลหิตและไม่สามารถตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกได้ มีเพียงในทะเลโลหิตซึ่งชายผมแดงอยู่เท่านั้นที่ไม่มีข้อห้าม
จอมเวทย์ปิศาจฟ้าหัวเราะอย่างขื่นขมในใจ เขามองขึ้นดูหวังหลินและถอนหายใจในใจ เขารู้ว่าหวังหลินมาพร้อมกับลูกศิษย์เขา แต่ไม่เคยคิดว่าเพราะแผนของตัวเองจึงทำให้ชายผมแดงสามารถทำลายผนึกได้ หากเขาไม่ได้ให้จ้าวปิศาจหกปรารถนาและพวกได้ออกไปเมื่อพันปีก่อน เมื่อนั้นแม้เขาจะไม่ได้รับสืบทอดมรดกแห่งภูมิปัญญา เขายังมีชีวิตรอดปลอดภัย
ทั้งหมดนี้อธิบายได้ว่าเป็นเคราะห์กรรมโดยแท้
จอมเวทย์ปิศาจฟ้าถอนหายใจอีกครั้ง แต่ขณะที่เขามองดูกลุ่มของตั่วมู่ พร้อมกันนั้นความเกลียดที่มีหายไปและเริ่มขบคิด ท่าทางของเขาสงบนิ่งและไม่เผยความคิดที่อยู่ในใจแต่อย่างใด เขาเป็นคนเหลี่ยมจัดมาก แม้จะเผชิญอุปสรรคอันยิ่งใหญ่แต่ใบหน้ากลับไม่เปลี่ยนแปลง
ชายผมแดงใช้เศษวิญญาณทิ้งไว้บนตัวคนเหล่านี้เพื่อควบคุมพวกเขา เหตุผลที่จอมเวทย์ปิศาจฟ้าสามารถประคองสติได้เนื่องจากวิชาฝึกฝนของเขา นอกจากวิธีฝึกฝนมารฟ้าเร้นลับแล้ว เขายังมีบทร่ายลึกลับที่บังเอิญพบมาระหว่างการเดินทางมาที่นี่
เขาไม่ได้ส่งต่อบทร่ายให้กับคนอื่น แม้กระทั่งจ้าวปิศาจหกปรารถนายังไม่รู้เรื่องนี้ เป็นเพราะบทร่ายลึกลับนี้และการฝึกฝนของเขามานานหลายปี ตอนที่เขาถูกชายผมแดงจับกุมและถูกบังคับให้รวมกับเศษวิญญาณ เขาจึงสามารถเริ่มการข่มเศษวิญญาณแทนการรวมเข้าด้วยกันได้
เขามองดูกลุ่มของตั่วมู่ หลายปีก่อนเขาเริ่มมีความสงสัยในเหล่าเซียนหลายพันคนที่นี่ มันไม่ใช่เพียงแค่เขาที่สะกดเศษเสี้ยววิญญาณได้ จึงสงสัยว่ามีคนอื่นทำได้เช่นกัน
เกือบทั้งหมดเป็นสิบแม่ทัพของทะเลโลหิต
หัวใจจอมเวทย์ปิศาจฟ้าสั่นเทา หากคนพวกนั้นเป็นเหมือนเขา ตอนที่ผนึกทำลายไปพวกเขาจะทำอะไรบางอย่างเป็นแน่ หากสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงเมื่อนั้นเขาอาจจะยังมีโอกาส
ขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้หัวใจจอมเวทย์ปิศาจฟ้าเริ่มตื่นเต้น เขาสูดหายใจลึกให้สงบลงและมองขึ้นไป
แต่ละครั้งที่หวังหลินกลืนกินแสงสีแดงหนึ่งดวง อัญมณีวิญญาณของเขามีขนาดใหญ่ขึ้นและนั่นทำให้จิตใจสัมผัสได้ชัดเจน
วิญญาณกลืนกินอีกตัวก็ดีขึ้นเช่นเดียวกัน เศษเสี้ยววิญญาณที่หมุนรอบชายผมแดงมีสีหมองลงและจำนวนลดลง
แต่ขณะนั้นเองทะเลโลหิตรอบๆเพิ่มขึ้นทันที โลหิตทั้งหมดบนพื้นเริ่มลอยขึ้นสร้างเป็นเศษเสี้ยววิญญาณหนึ่งหมื่นดวง พวกมันมุ่งหน้าเข้าหาชายผมแดง
เหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงกระทันหันนี้ทำให้ทุกคนระมัดระวังตัว วิญญาณของหวังหลินถอยออกเพราะกลัวจะได้รับผลกระทบ
ชายผมแดงร้องคำราม ฝ่ามือสร้างผนึกขึ้นอย่างรวดเร็วและวงกลมหนึ่งวงปรากฎเบื้องหน้า เขากดไปบนวงกลมและลำแสงห้าสีออกมาจากร่างเขานับไม่ถ้วนสร้างเป็นม่านห้าสีรอบตัวเขา
ภายนอกม่านพลัง เศษเสี้ยววิญญาณพุ่งเข้ามาและพลักต่อต้านม่านพลัง ชายผมแดงมองขึ้นไป ความเย่อหยิ่งและถือดีได้ถึงขีดจำกัด เขาพึมพำขึ้น “ตู่ซือ ผนึกนี้ไม่สามารถขังข้าได้!”
สิ้นคำพูดนั้นเขาคว้าอย่างลวกๆด้วยแขนขวา เซียนมารคคนหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ๆได้ลอยขึ้นไปในอากาศ ใบหน้าเผยความตื่นตัว ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร ร่างกายลอยเข้าสู่ม่านพลังห้าสีและเศษเสี้ยววิญญาณมากกว่าสิบดวงเข้าสู่ร่างกาย
เขากรีดร้องอีกครั้งและอีกครั้ง ในพริบตาทั้งร่างกายปกคลุมไปด้วยรอยแผลและโลหิต
พูดกันตามปกติแล้ว เซียนมารพวกนี้กระทั่งไม่สามารถทนต่อเศษเสี้ยววิญญาณหนึ่งดวงได้ แต่ตอนนี้มีมากกว่าสิบดวงเข้าสู่ร่างกายเขา ชะตากรรมจึงเหลือแต่เพียงความตายเท่านั้น
เดิมทีชายผมแดงไม่ได้ต้องการทำวิธีสุดโต่งเช่นนี้เพราะมันไม่ได้ช่วยเขาเลย จังหวะที่เซียนคนนั้นตาย เศษเสี้ยววิญญาณจะกลับเข้าสู่ร่างเขา ซึ่งนั่นไม่ได้ช่วยให้เขาทำลายผนึกมากขึ้น
แต่ตอนนี้มันแตกต่างกันออกไป เขาเกือบจะทำลายผนึกแล้ว หากเขาไม่ใช้วิธีนี้เพื่อชะลอเสี้ยววิญญาณ จากนั้นเมื่อตอนที่ม่านพลังแตกเสียหาย เสี้ยววิญญาณจะกลับเข้าสู่ร่างเขาทั้งหมดและสิ่งที่เขาทำมาก่อนหน้านี้จะไร้ประโยชน์
ชายผมแดงเมินเฉยเซียนผู้นั้น ฝ่ามือขวาวาดในอากาศพลันปรากฎสัญลักษณ์สีทองหนึ่งขึ้นและวางไปบนเซียนผู้นั้น เมื่อมันวางเข้าไป แสงสีทองหนึ่งล้อมรอบร่างกายของเซียน
ไม่นานนักดวงตาชายผมแดงปลดปล่อยแสงสีแดงพร้อมกับสะบัดมือทั้งสองขึ้น ร่างเซียนหลายคนลอยขึ้นไปบนอากาศ หลังจากพวกเขาดูดซับแสงสีแดงบางส่วน จึงถูกปกคลุมด้วยแสงสีทองเช่นเดียวกัน พร้อมกันนั้นร่างพวกเขาต่างมีแผลฉกรรจ์และเปื้อนโลหิต
หวังหลินตื่นตระหนัก ชั่วครู่ต่อมามีเซียนอีกคนถูกชายผมแดงจับไป ความหวาดกลัวเผยขึ้นบนใบหน้าเขาแต่ถูกแทนที่ด้วยใบหน้าอันแน่วแน่ จากนั้นผนึกฝ่ามือกระตุ้นวิชาชุดหนึ่งอย่างรวดเร็วพลันหายไปตรงจุดนั้น และปรากฎตัวห่างไปนับสิบฟุต
ในขณะที่เขาปรากฎตัวอีกครั้งได้สร้างรอยแยกในอากาศและพุ่งเข้าไป
ชายผมแดงจ้องอย่างเย็นชา เขาไม่ได้หยุดเซียนคนนั้นแต่หัวเราะเยาะ ชี้นิ้วตรงระหว่างคิ้วตนเองและเปล่งเสียงออกมา “ระเบิด!”
เสียงดังปัง ร่างเซียนคนนั้นระเบิดขึ้นทันทีขณะที่ศีรษะเข้าไปในรอยแยก โลหิตและเนื้อหนังแตกกระจายทุกทิศทาง เสี้ยววิญญาณดวงหนึ่งปรากฎขึ้นและพุ่งเข้าหาชายผมแดง มันรวมเข้ากับเสี้ยววิญญาณดวงอื่นด้านนอกม่านพลัง
ความคิดหนึ่งวาดผ่านในใจชายผมแดง เขาอ้าแขนทั้งสองออกในทันทีและร้องกู่ก้อง พลันคว้าอากาศเปล่าและเซียนหลายร้อยคนลอยขึ้นในทันที ใบหน้าเซียนแต่ละคนเต็มไปด้วยความกลัวและทำอะไรไม่ถูก แต่มีอยู่บางส่วนที่กระทำการตรงกันข้าม พวกเขาพุ่งเข้าหาม่านพลังและเสี้ยววิญญาณหลายดวงเข้าสู่ร่างกาย พวกเขากลายเป็นเหมือนผู้คนครั้งก่อนหน้า
หลังจากใช้คนหลายร้อยเป็นตัวเสริม จำนวนเสี้ยววิญญาณภายนอกม่านพลังได้ลดลงเล็กน้อย ทว่าม่านพลังห้าสีไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนครั้งก่อนและเริ่มจะสั่นราวกับสามารถแตกสลายได้ทุกเมื่อ
ชายผมแดงไม่ได้เอ่ยคำใดแต่คว้าพื้นที่ว่างอีกครั้ง คราวนี้เขาจับได้มากกว่าสามร้อยคน ในเหล่าคนพวกนั้น แปดในนั้นใช้วิชาหลายอย่างเพื่อให้เป็นอิสระ พวกเขาพยายามหนีโดยการเปิดรอยแยกขึ้น
ในขณะเดียวกันสี่คนบนพื้นกระโดดขึ้นไปเช่นกันพร้อมกับเปิดรอยแยกและหายตัวเข้าไป ชายผมแดงยิ้มกว้างอย่างเยือกเย็น เขาไม่ได้สังหารเซียนพวกนี้เหมือนเช่นครั้งก่อน แต่ถอนสายตากลับหลังจากมองไปครู่หนึ่ง เนื่องจากการสังหารพวกมันเป็นเรื่องง่ายและเสี้ยววิญญาณจะกลับเข้าหาเขาและส่งผลกระทบต่อม่านพลังอย่างใหญ่หลวง
ไม่จำเป็นต้องรีบสังหารคนพวกนั้น
หวังหลินมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้ว่าชายผมแดงไม่ได้ทำอะไรกับหวังหลินเพราะยังต้องใช้เพื่อดูดซับเศษเสี้ยววิญญาณที่เหลือ ในเหล่าคนที่หนีไป กลุ่มของตั่วมู่ไม่ได้อยู่ในคนพวกนั้น ทั้งสิบคนยังนั่งอยู่ที่นี่ กำลังรอโดยไม่มีการเปลี่ยนสีหน้าใด
ด้านนอกม่านพลังมีวงกลมสีทองมากกว่าสี่ร้อยวง ภายในวงกลมแต่ละวงมีเซียนนอนจมกองเลือดอยู่หนึ่งตนพร้อมกับเสี้ยววิญญาณมากกว่าสิบดวงแนบติดกับร่าง
ชายผมแดงมองเหล่าเซียนหลายร้อยคนที่เหลือด้วยใบหน้าเย็นชา ทันใดนั้นเซียนจำนวนสามในห้าได้เปิดรอยแยกขึ้นและเข้าไปข้างใน
ชายผมแดงหัวเราะเยาะ เขาไม่ได้กังวลแต่มองวิญญาณกลืนกินและคำรามขึ้น “เขมือบซะ!”
วิญญาณกลืนกินคล้ายก้อนเมฆนั้นขยายร่างขึ้นเพื่อสร้างปากข้างหนึ่งและพุ่งเข้าหาเสี้ยววิญญาณนอกม่านพลัง หลังกลืนกินได้มากกว่าสิบดวง มันกำลังจะล่าถอยแต่ชายผมแดงขมวดคิ้ว เขารู้ว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ทะเลโลหิตจะถูกกระตุ้นและพยายามผนึกเขาอีกครั้ง
ใบหน้าเผยแววตามุ่งร้าย เขายื่นมืออกมาคว้าวิญญาณกลืนกินที่กำลังล่าลอยและพูดขึ้น “ทำต่อไป!”
วิญญาณกลืนกินลังเลจากนั้นอ้าปากและกลืนไปเพิ่มอีกสิบดวงอีกครั้ง ชายผมแดงยังไม่พึงพอใจ เขากัดนิ้วตัวเองและวาดสัญลักษณ์ประหลาดสองรูป หนึ่งในนั้นปลดปล่อยแสงห้าสีและวางบนวิญญาณกลืนกิน
หวังหลินสังเกตได้ว่าวิญญาณกลืนกินตนนั้นได้รับความเสียหายทันที เส้นใยสัมผัสวิญญาณกระจายออกจากมันนับไม่ถ้วน
“เจ้า…ทำลายสัญญาของเรา!”
ชายผมแดงอ้าปากและดูดสัญลักษณ์อีกอันเข้าไป หลังจากนั้นเขาพูดขึ้นอย่างเศร้าเสียใจ “ข้าไม่ทำตามสัญญาตั้งแต่เมื่อไหร่? ข้าเพียงควบคุมบางส่วนในตอนนี้ ตราบใดที่เจ้าช่วยข้าทำลายผนึกนี่ ข้าจะใช้พลังของเทพโบราณเพื่อสร้างร่างกายให้กับเจ้าและยังช่วยให้เจ้าออกจากโลกแห่งการล่มสลาย ตอนนี้จงเขมือบต่อไป!”
เมื่อคำพูดนั้นเปล่งออกมา สัญลักษณ์ที่เขากลืนเข้าไปพลันปรากฎบนศีรษะและกระพริบสองสามครั้ง ในขณะเดียวกับบนร่างวิญญาณกลืนกิน มีสัญลักษณ์เดียวกันปรากฎและดูเหมือนกระพริบเชื่อมเข้ากับที่อยู่บนศีรษะชายผมแดง
จากนั้นวิญญาณกลืนกินเริ่มเขมือบเศษเสี้ยววิญญาณอย่างบ้าคลั่งในทันที ราวกับไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ หลังจากกินเสี้ยววิญญาณทีละชิ้น ร่างกายมันเรืองแสงสีแดงจนดูราวกับเมฆแดง
หวังหลินสัมผัสถึงวิญญาณกลืนกินตนนั้นได้ชัดเจนว่ากำลังส่งคลื่นสัมผัสวิญญาณอันเจ็บปวดออกมา มันดูเหมือนกินมากจนเกินไปและเกินขีดจำกัด หากมันทำเช่นนี้ต่อไปจะกลายเป็นเหมือนเซียนเหล่านั้น
ชายผมแดงมีสายตาเย็นชาและจ้องไปที่หวังหลิน
ใบหน้าหวังหลินสงบนิ่งเช่นปกติ เขาส่งวิญญาณขอบเขตจวี่ออกมา มันลอยออกไปที่ม่านพลังและเริ่มกลืนกินเศษเสี้ยววิญญาณข้างนอก ตอนนี้หวังหลินเขมือบอย่างรวดเร็วมาก หลังจากกินไปได้มากกว่าสิบดวงจึงรู้สึกอิ่มแต่ไม่ได้หยุดพักและเขมือบต่อไป
หวังหลินเริ่มใช้กลยุทธ์เทพโบราณอย่างลับๆ ดังนั้นวิญญาณกลืนกินจึงรวมเข้ากับวิญญาณของเขาอย่างรวดเร็ว
ม่านแสงห้าสีรอบร่างชายผมแดงเริ่มจะสั่นมากขึ้นและมากขึ้น เขตแดนของมันราวกับจะแตกได้ทุกขณะ ยังมีเศษเสี้ยววิญญาณหลงเหลืออยู่บางส่วน แต่ว่าแม้หวังหลินกับวิญญาณกลืนกินอีกตัวก็ยังไม่สามารถกลืนกินทั้งหมดได้ในตอนนี้
ขณะเดียวกันเสาหินทั้งหมดในทะเลโลหิตนอกจากที่ชายผมแดงนั่งอยู่ได้ระเบิดพร้อมกันและกลายเป็นผงสีแดง ดูเหมือนกับผงสีแดงกำลังควบแน่นเป็นเศษเสี้ยววิญญาณ
จังหวะที่เสาหินระเบิด เหล่าเซียนที่อยู่บนยอดต่างกระโดดออกมา ใบหน้าชายผมแดงมืดมน เขากัดฟันแน่นและคว้าเอาเซียนที่เหลือจำนวนสามร้อยในทั้งหมดหกร้อยคนทันทีและลากพวกเขาเข้าหาม่านพลัง
ในขณะนั้น ม่านแสงห้าสีแตกสลาย แต่ชายผมแดงใช้พลัของตัวเองเพื่อบังคับเศษเสี้ยววิญญาณเข้าไปในร่างเซียนทั้งสามร้อยคนพวกนั้น