Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 314

Cover Renegade Immortal 1

314. ครอบครอง

ชายวัยกลางคนยิ้มเบาบาง สายตากวาดผ่านผีเสื้อแดงและร่อนลงบนหวังหลิน “เจ้าหนูคนนี้ตอบสนองเร็วมาก ดูเหมือนว่าเจ้าสังเกตข้าได้แล้วระหว่างทางมาที่นี่”

ใบหน้าหวังหลินสงบนิ่งพร้อมกับเอ่ยอย่างเคารพ “ผู้น้อยเพียงแค่รู้สึกเท่านั้นแต่ไม่มั่นใจนัก”

ฉีหูและผีเสื้อแดงได้ยินจึงมีใบหน้าประหลาดใจ

ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้น “โลงศพหยกที่นี่ได้ถูกข้าเอาไปแล้ว พวกเจ้าทั้งสามควรจากไปได้”

ฉีหูยิ้มอย่างขมขื่นและพยักหน้าทันที

ดวงตาผีเสื้อแดงสว่างจ้าขณะนางมองสระน้ำเบื้องล่างและเงียบเสียง

ชายวัยกลางคนเอ่ยออกมา “มีชั้นที่สามอยู่ หากพวกเจ้าไม่กลัวตายก็ลองได้ ทางเข้าคือสระน้ำแห่งนี้”

ขณะนั้นคลื่นเสียงกระแทกดังออกมาจากอุโมงค์เข้าสู่พื้นดินพร้อมกับร่างคนผู้หนึ่งโผล่ออกมา

“ฮ่าฮ่า คนเยอะจริง!” ร่างนั้นหยุดกลางอากาศ เขาคือชายชราผมขาว

ชายวัยกลางคนใบหน้าเศร้าหมองพลันจ้องชายชราและเอ่ยถาม “ท่านมีความตั้งใจติดตามข้าด้วยเหตุใด?”

ชายชราหัวเราะ “ข้าไม่มีความตั้งใจอันใด เพียงแค่สนใจชั้นที่สามเล็กน้อย อะไรกันเจ้าจะไม่ยอมให้ข้าเข้าไปหรือ?”

ชายวัยกลางคนพ่นลมหายใจอันหนาวเหน็บ เขาขบคิดเล็กน้อยก่อนจะก้าวลงไป

ปัง!

สระน้ำระเบิดออกทำให้แม่น้ำเคลื่อนไปด้านข้างเผยเป็นอุโมงค์เบื้องล่าง ชายวัยกลางคนรีบเข้าไปในอุโมงค์อย่างรวดเร็ว

แววตาชายชราสว่างขึ้นและติดตามเข้าไปทันที

ผีเสื้อแดงกัดฟันแน่น นางสูญเสียช่วงเวลาอันมีค่าเช่นนี้และนางไม่ยอมจะจากไปโดยไม่ได้อะไรกลับ แม้มันจะเป็นสถานที่ต้องห้ามอย่างน้อยนางก็ต้องลองดู ด้วยความคิดนี้นางจึงเร่งรีบเข้าไปในอุโมงค์

ฉีหูมองไปทางหวังหลินและยิ้มอย่างขื่นขม “น้องเซิ่ง เจ้าสนใจจะเข้าไปไหมหรือว่าจะจากไป?”

หวังหลินสงบนิ่ง เขาไม่ได้ตอบแต่ถามขึ้นแทน “พี่ฉีหู โจวยี่เป็นใคร?”

ฉีหูประหลาดใจ เขาลังเลเล็กน้อยแต่ส่งคำพูดสื่อสารแทน “น้องเซิ่ง เขาคือหนึ่งในสัตว์ประหลาดขั้นแปลงวิญญาณในดาวเคราะห์ซูซาคุ ระดับฝึกฝนของเขาสูงมาก ถึงเช่นนั้นเขามีชื่อเล่นว่า คนรักซากศพ”

หวังหลินตะลึง “คนรักซากศพ?”

ฉีหูรีบพูด “อย่าพูดเสียงดัง หากเขาได้ยินเจ้าตายแน่ๆ” เขาคำนับฝ่ามือและเอ่ยขึ้น “น้องเซิ่งข้าจะลงไปดู ไปด้วยกันไหม?”

หวังหลินขบคิดเล็กน้อยและพยักหน้า ทั้งสองคนเหาะเหินเข้าหาอุโมงค์ใต้สระน้ำอย่างรวดเร็วทีละคน

อุโมงค์ใต้สระน้ำไม่ได้ลึกมากและเพราะทั้งสองคนเคลื่อนไหวได้รวดเร็วจึงผ่านมาได้ไม่นาน เมื่อออกจากอุโมงค์พวกเข้าก็เข้าสู่โลกแห่งผลึก

สถานที่แห่งนี้ปกคลุมไปด้วยผลึกสีขาว ผลึกเหล่านี้ปลดปล่อยพลังปราณอันแข็งแกร่งซึ่งทำให้พวกมันลอยอยู่ทุกแห่งหน

ในพื้นที่ห่างไกล ผีเสื้อแดงกำลังเก็บรวบรวมพลังปราณไว้ในน้ำเต้า

ฉีหูเผยแววตาแห่งความสุขขณะนำถุงผ้าสีเขียวออกมา เขาส่ายกระเป๋าและพลังปราณสวรรค์จำนวนมากเข้าไปข้างใน

ในเวลาเดียวกันเขาร่อนลงกลุ่มก้อนผลึกใกล้ๆและกระแทก เกิดเสียงโลหะปะทะกันขึ้นแต่ผลึกไม่เคลื่อนไหวเลย

แววตาหวังหลินสว่าง เขานำไม้ชำระล้างออกมาเพื่อดูดซับพลังปราณสวรรค์รอบๆ

ทั้งสามคนไม่ได้พูดอะไรขณะเพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่การดูดซับพลังปราณสวรรค์

ไม้ชำระล้างของหวังหลินไม่ได้ดีเท่ากับสมบัติอีกสองคนดังนั้นความเร็วของเขาจึงช้าอย่างมาก

แต่ก่อนจะนานไปกว่านั้นเกิดเสียงตู้มดังกึกก้องและเสียงของโจวยี่ดังขึ้นให้พวกเขาได้ยิน

“ตาเฒ่าอย่าดันข้าให้ไปไกลนักเลย! รอบๆที่นี่มีพลังปราณสวรรค์เยอะมาก แทนที่เจ้าจะเก็บรวบรวมมันแต่เจ้ากลับติดตามข้า!”

“มีกลิ่นแห่งความตายบนตัวเจ้า แน่นอนว่าข้าจึงตามเจ้าสิ!”

ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกันลำแสงสองเส้นพุ่งเข้าหาทั้งสามคนและพริบตาเดียวก็มาถึงเบื้องหน้าพวกเขา

ชายวัยกลางคนมีสายตาสว่างขึ้นและยกฝ่ามือขวาคว้าไปเบื้องหลัง วังวนยักษ์ปรากฎข้างหลังพร้อมกับพลังดึงดูดอันรุนแรงทรงพลัง

ผลึกรอบๆเริ่มสั่นไหวจนเกิดรอยร้าวนับไม่ถ้วน

เพล้ง เพล้ง เพล้ง!

ผลึกจำนวนมากแตกกระจายและลอยเข้าไปในวังวน

ชายชราเปลี่ยนท่าทีในทันทีพร้อมกับเคลื่อนไหวฝ่ามืออย่างรวดเร็ว พลันโลงศพยักษ์ปรากฎเบื้องหลัง โลงศพมีสีม่วงแดงและเพียงแค่ยืนบนโลงศพก็ทำให้ชายชราสามารถต้านทานพลังดึงดูดได้แล้ว

เมื่อทั้งสองคนเริ่มใช้วิชาของตัวเอง พลังปราณสวรรค์รอบๆด้านจึงวุ่นวายโกลาหล

ชายชราจ้องวังวนและหัวเราะเสียงดัง “กฎวิญญาณจักรพรรดิ ฮ่าฮ่า เช่นนั้นเจ้าก็คือโจวยี่คนรักซากศพ ข้ากำลังสงสัยว่าทำไมเจ้าถึงมีกลิ่นความตายที่แข็งแกร่งยิ่งนัก”

เช่นนั้นเขาตบโลงศพและโลงศพจึงปล่อยเสียงคล้ายกับเล็บกำลังขูดฝาโลง เสียงเสียดแทงโสตประสาทราวกับบรรจุพลังไร้ขีดจำกัด ในเวลาเดียวกันควันสีดำออกมาจาโลงเกิดเป็นฝ่ามือยักษ์ข้างหนึ่ง

ฝ่ามือนั้นมืดมิดพร้อมกับยื่นเข้าหาวังวน

ปัง!

เสียงดังสนั่น ชั้นที่สามเริ่มสั่นไหวรุนแรง พื้นดินเริ่มแตกและผลึกนับไม่ถ้วนกลายเป็นฝุ่นผง รอยแยกอวกาศจำนวนมากเปิดขึ้นมากลางอากาศราวกับปากขนาดใหญ่

พลังปราณสวรรค์จำนวนมากหายวับเข้าไปในรอยแยก พริบตาเดียวไม่มีพลังปราณสวรรค์หลงเหลืออยู่อีกเลย

โจวยี่พูดด้วยใบหน้าเศร้าหมอง “สำนักซากศพ! เจ้าต้องเป็นหัวหน้าผู้อาวุโสของสำนักซากศพ หากเราาทั้งสองต่อสู้กันชิ้นส่วนแห่งนี้คงพังทลาย หากเป็นเพียงแค่ชิ้นส่วนเดียวที่พังทลายเช่นนั้นเราทั้งสองคงสามารถหนีรอดไปได้ ทว่าข้าจะบอกเจ้าให้ มีชิ้นส่วนทั้งหมดหกชิ้นทับซ้อนกันและกัน หากหนึ่งในนั้นพังทลายทั้งหมดก็จะพังทะลายไปด้วย ถึงจุดนั้นแม้จะบรรลุขั้นเทวะก็ไม่สามารถรอดออกไปได้!”

ใบหน้าชายชราเปลี่ยนไป แววตาสว่างขึ้นพร้อมกับหายตัวไปจากโลงศพ เขาปรากฎตัวอีกครั้งเบื้องหลังผีเสื้อแดง

ผีเสื้อแดงหันศีรษะทันที ชายชรายิ้มให้นางทว่ารอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความชั่วร้าย

“สาวน้อย ข้าขอยืมร่างเจ้าสักครู่”

ทันใดนั้นควันสีดำจำนวนหลายสายออกมาจากร่างเขาและชอนไชเข้าไปในร่างราวกับอสรพิษ

เป็นครั้งแรกที่ผีเสื้อแดงเริ่มตื่นตระหนก นางรู้ว่าการดิ้นรนช่างไร้ประโยชน์ดังนั้นจึงยกฝ่ามือขวาขึ้นอย่างรวดเร็วเกิดเป็นสร้อยข้อมือหยกชิ้นหนึ่ง น้ำเสียงนางแหลมคมพร้อมกับร้องตะโกน “ผู้อาวุโสท่านรู้จักของสิ่งนี้ไหม?”

แววตาชายชราเริ่มเคร่งเครียด “สัญลักษณ์ของศิษย์หลักแห่งซูซาคุ สร้อยข้อมือเปิดสันติภาพ”

อสรพิษตัวเล็กๆได้เจาะเข้าสู่กายทวารของนางและใบหน้าเป็นสีดำอมเขียวเล็กน้อย นางได้ดินรนพูดขึ้น “สร้อยข้อมือนี้เชื่อมต่อกับวิญญาณข้า หากข้าตายไปมันจะระเบิด ชิ้นส่วนสวรรค์จะพังทะลายไปด้วยดังนั้นท่านไม่สามารถหลบหนีไปได้! แม้ท่านจะออกไปได้ก็ไม่มีที่ให้ท่านอยู่บนซูซาคุ สร้อยข้อมือเส้นนี้แสดงถึงสถานะของศิษย์หลักซูซาคุ พวกเขาจะค้นหาท่านด้วยวิธีการพิเศษ ถึงตอนนั้นท่านจะถูกซูซาคุไล่ล่า!”

ชายชราขมวดคิ้ว เขาพ่นลมหายใจและเอ่ยขึ้น “สาวน้อยผ่อนคลายเถอะ ข้าจะไม่สังหารเจ้าหรอก!” เขายกศีรษะไปทางโจวยี่ “โจวยี่ ข้าจะยืมร่างกายสตรีคนนี้เพื่อสู้กับเจ้า ด้วยวิธีนี้เราจะไม่ต้องโจมตีรุนแรงเกินจนห้ามชิ้นส่วนแห่งนี้ไม่ให้พังทลายลงได้ เจ้าควรจะเลือกใครมาสักคน”

ใบหน้าโจวยี่หมองหม่น “เจ้าต้องการอะไรกันแน่?”

ชายชราเหยียดยิ้ม “มีซากศพเทวดาตนหนึ่งอยู่กับเจ้า จมูกข้าไม่ผิดพลาด ข้าต้องการร่างศพนั้น!”

แม้กระทั่งมังกรยังประสาทไวต่อเกล็ดของมัน หากมีใครสัมผัสเข้ามันจะโกรธทันที

สำหรับโจวยี่แล้วเกล็ดของเขาคือร่างศพสตรีผู้นั้น

“ถิงเอ๋อ มีคนอื่นจะมาขโมยเจ้าไป ทุกคนที่ต้องการขโมยเจ้าต้องตาย! ตาย! ตาย!” แววตาโจวยี่เผยแสงลึกลับพลันจ้องชายชรา จากนั้นชี้ไปที่ฉีหู “เจ้า! มานี่!”

ใบหน้าฉีหูเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันที เขาลังเลเล็กน้อยแต่ไม่กล้าต่อต้านดังนั้นจึงถอนหายใจและลอยเข้าหาโจวยี่

สายรุ้งปรากฎขึ้นด้วยวิชาของโจวยี่กระทบลงบนหน้าผากฉีหูทำให้เขาเริ่มต่อต้าน

โจวยี่พูดอย่างใจเย็น “กลายเป็นอวตารของข้าครั้งนึง ไม่เพียงแต่เจ้าจะไม่ตาย เจ้าจะสามารถได้รับประสบการณ์จากเขตแดนของข้าด้วย”

ฉีหูลังเลเล็กน้อยก่อนจะล้มเลิกการต่อต้าน แววตาเรืองแสงสว่างจ้าและสว่างขึ้นพร้อมกับระดับฝึกฝนพุ่งทะยานทันที

“ฮ่าฮ่า ในเหล่าคนทั้งสามนี้ข้าเลือกคนที่มีร่างเบญจธาตุโดยกำเนิด เจ้าเลือกเผ่ามารยักษ์โบราณ ที่เหลืออยู่เป็นคนธรรมดาไร้ประโยชน์ ไปซะ!” ชายชราหัวเราะขณะจ้องหวังหลิน

ท่าทางหวังหลินยังคงเยือกเย็น เขาพุ่งสายตาเยือกเย็นไปที่ชายชราก่อนจะหันตัวกลับเพื่อจากไป เขาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อบอกให้ไปเขาก็ควรจะไป

ผีเสื้อแดงเผยแววตาร้ายกาจ “ท่าน…ท่านอาวุโส สังหารเขา! หากท่านสังหารเขา ข้าจะไม่ต่อต้านและช่วยเหลือท่านเต็มที่! แต่ท่านต้องสัญญาว่าข้าจะปลอดภัย!”

ชายชราประหลาดใจ เขายกศีรษะขึ้น แววตาส่องสว่างจ้องมองและยื่นมือเข้าหาหวังหลิน

หวังหลินมีสายตาเยือกเย็นพร้อมกับนำธงกฎเกณฑ์ที่เสียหายออกมาและเยาะเย้ยขึ้น “ผีเสื้อแดง หากเจ้าอยากให้ที่นี่แตกสลายก็ลองดู!”

“ธงกฎเกณฑ์!” สายตาชายชราสว่างขึ้นขณะจ้องธงผืนเล็กในฝ่ามือหวังหลินและสูดหายใจลึก

“มันแค่กฎเกณฑ์โดยย่อและกำลังบรรลุกฎเกณฑ์ทั้ง 99 ชุด เขาไม่ได้โกหก เมื่อมันบรรลุ 99 ชุดเมื่อไหร่มันจะกระตุ้นสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ได้ แต่เมื่อมันกระตุ้นสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์มาที่นี่จะยิ่งมีพลังรุนแรงขึ้น…เมื่อเป็นเช่นนั้นจะไม่มีใครรอดชีวิตรวมถึงเขาด้วย” ชายชราถอนมือกลับและเผยใบหน้าเกรงกลัว

หวังหลินหยุดลงที่ทางเข้าอุโมงค์ มองไปที่ทั้งสี่คนจากระยะไกล

“เมื่อข้าอยู่ที่นี่แล้วเช่นนั้นก็ไม่รีบจากไปดีกว่า ทำไมไม่ดูว่าเซียนขั้นแปลงวิญญาณจะสู้กันอย่างไรเล่า?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version