Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 330

Cover Renegade Immortal 1

330. ข้า…คือหวังหลิน (2)

ในสายตาของจางป๋าย การเดินทางไปดินแดนสวรรค์ครั้งนี้เป็นเรื่องอับอายขายขี้หน้าสำหรับเขา เซิ่งหนิวเป็นใครไม่รู้กลับกล้าเมินเขา หากเซิ่งหนิวได้ช่วยเขา เช่นนั้นคงสังหารคนที่ไล่ล่าเขาได้ง่ายๆไปแล้ว

“ข้าไม่คิดว่าเซิ่งหนิวคนนี้จะสามารถตัดแขนผีเสื้อแดงออกไปได้ ตอนนี้มันมีชื่อเสียงทั้งซูซาคุ ฮึ่ม! ชื่อเสียงนั้นควรจะเป็นข้า รอก่อนเถอะเซิ่งหนิว วันนี้เราจะต้องต่อสู้กัน!”

จางป๋ายเย้ยหยันแต่ในไม่ช้าเขาขมวดคิ้วและพึมพำ “คางคกสายฟ้าของเซิ่งหนิวเป็นศัตรูตามธรรมชาติของแมลงข้า เช่นนั้นมันจะยากเล็กน้อย” แววตาเขาสว่างขึ้นและคิดในใจ ครั้งนี้เขาต้องเข้าไปในหุบเขาเดียวดายเก้าภูติให้ลึกขึ้นและได้ราชาแมลงกลับมา เมื่อมีราชาแมลง แม้จะมีคางคกสายฟ้าก็ไร้ผล

“มันเป็นคนฉลาดหากข้าไม่โกรธเซิ่งหนิวก่อนจะเกิดเรื่องพวกนั้น ถ้าหากมันสามารถตัดแขนผีเสื้อแดงออกมาได้เช่นนั้นระดับฝึกฝนของมันคงไม่ใช่ขั้นตัดวิญญาณระดับต้นจริงๆเหมือนที่แสดงให้เห็น ทว่าดาวเคราะห์ซูซาคุกว้างใหญ่นัก แม้ข้าต้องการจะสู้กับเขามันคงยากที่จะหาตำแหน่งที่อยู่ได้” จางป๋ายพ่นลมหายใจ หลังจากนั้นเพียงแค่พริบตาเขาก็มาถึงข้างนอกสำนักเมฆาฟ้า

สำนักเมฆาฟ้าตั้งอยู่ล้อมรอบเมฆสีขาว เมฆพวกนี้ไม่ได้เกิดตามธรรมชาติแต่เป็นค่ายกลป้องกันสำนัก ไม่เพียงแค่นั้นมันยังมีความสามารถในการซ่อนความผันผวนพลังปราณจากข้างในได้ด้วย

จางป๋ายลอยอยู่ในท้องฟ้าและมองก้อนเมฆเล็กน้อย เขายิ้มอย่างดูถูกและร้องตะโกน “เหล่าเด็กน้อยของสำนักเมฆาฟ้าจงฟังข้า จงเปิดค่ายกลป้องกันสำนัก นำเม็ดยาทั้งหมดของพวกเจ้าออกมาและจ้าวสำนักของเจ้าให้ออกมาพบข้าเป็นการส่วนตัว”

สำนักเมฆาฟ้าเงียบกริบโดยสิ้นเชิง หลังจากนั้นชั่วครู่น้ำเสียงอ่อนโยนและอ่อนแรงดังออกมาจากสำนัก ทว่าน้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“ผู้อาวุโสเป็นเซียนขั้นตัดวิญญาณ ทำไมถึงสร้างความยุ่งยากกับสำนักเล็กน้อยเช่นเรา หากต้องการเม็ดยาชนิดไหนโปรดขอเรา สำนักเมฆาฟ้าของข้าจะทำอย่างดีที่สุดตามความต้องการของท่าน”

จางป๋ายเผยใบหน้าเยาะเย้ยและเอ่ยขึ้น “โอ้ว? ข้าเดาว่าเจ้าเป็นจ้าวสำนักของสำนักเมฆาฟ้าสินะ?”

“ผู้น้อยเป็นจ้าวสำนักแห่งสำนักเมฆาฟ้า โปรดอย่าทำเรื่องยุ่งยากต่อสำนักเล็กๆเช่นเรา…” ลี่มู่หวานพูดต่อไป มันยังคงมีเสน่ห์เหมือนที่ผ่านมาและเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

จางป๋ายพ่นลมหายใจและเอ่ยขึ้น “ข้าต้องการเห็นเพียงว่าจ้าวสำนักของสำนักเมฆาฟ้าคนนี้จะน่ารักเพียงใด” เช่นนั้นเขายื่นมือเข้าหาเหล่าก้อนเมฆสีขาวและคว้าเข้าไป

เสียงรอยร้าวดังออกมาจากนั้นเหล่าก้อนเมฆสีขาวพลันแตกสลาย แต่สร้างขึ้นใหม่อีกครั้งอย่างรวดเร็ว

“นี่มันอะไร? ค่ายกลนี้ลึกลับนัก มันไม่ได้ถูกวางไว้โดยสำนักเมฆาฟ้าของเจ้าหรือ?” แววตาจางป๋ายสว่างขึ้น

ลี่มู่หวานถอนหายใจ “ผู้อาวุโส ค่ายกลนี้ถูกตั้งขึ้นโดยสำนักมารยักษ์เพื่อป้องกันสำนักเมฆาฟ้าของข้า ถือว่าไว้หน้าแก่สำนักมารยักษ์เถอะและอย่าให้เกิดเรื่องยุ่งยากเลย”

“สำนักมารยักษ์…” จางป๋ายขบคิดเล็กน้อยก่อนจะสะบัดแขน แมลงทั้งหมดรอบตัวเขาโจมตีไปที่ก้อนเมฆ

เสียงแทะเล็มดังออกมาจากเหล่าก้อนเมฆสีขาว เสียงนี้ในที่สุดก็ดังขึ้นจนปกคลุมเสียงหึ่งๆของเหล่าแมลง

“เกี่ยวอะไรกับสำนักมารยักษ์เล่า? แม้ฉีหูจะมาด้วยตัวเอง เขาจะไม่โกรธเกรี้ยวที่ข้าทำต่อสำนักเมฆาฟ้าจริงๆหรอก” จางป๋ายยิ้มและยื่นมืออีกครั้ง

ปัง!

เสียงดังปังพร้อมกับหนึ่งในเหล่าก้อนเมฆแตกสลาย ทำให้ก้อนเมฆอื่นๆทั้งหมดหายไปเช่นกัน คลื่นกระแทกกระจายออกมาและลำแสงภายในคลื่นกระแทกก็หายไปด้วย

เมื่อก้อนเมฆสีขาวหายไป สิ่งก่อสร้างที่สร้างจากหินวิญญาณปรากฎเบื้องหน้าจางป๋าย

เมื่อมองไปยังสิ่งก่อสร้างจากหินวิญญาณเรียงรายกันไร้ที่สิ้นสุดนั้น แววตาจางป๋ายโป่งพอง เขามองดูอยู่เป็นเวลานานก่อนจะหัวเราะและเอ่ยขึ้นมา “สำนักเมฆาฟ้านี่มันรวยเหลือเกินจนสร้างจากหินวิญญาณได้ แม้ว่าขนาดจะไม่อาจเปรียบได้กับดินแดนสวรรค์ แต่สถานที่แบบนี้ไม่ได้มีอยู่มากนักในซูซาคุ ฮ่าฮ่า ตั้งแต่วันนี้ไปสถานที่แห่งนี้เป็นของข้า!”

ค่ายกลป้องกันสำนักถูกทำลายอย่างง่ายดาย คนที่อยู่ในสำนักเมฆาฟ้าต่างเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

จางป๋ายก้าวเพียงครั้งเดียวก็เข้าไปในสำนักเมฆาฟ้าแล้ว เขาล้อมรอบกายด้วยกำแพงแมลงหนาร้อยฟุต ศิษย์สตรีบางคนที่มีระดับต่ำกว่าต่างตกอยู่ในความหวาดกลัวพร้อมกับเริ่มร้องไห้

จางป๋ายยื่นมืออกไป ศิษย์สำนักเมฆาฟ้าสองสามคนถูกมือล่องหนคว้าไป แมลงกลุ่มหนึ่งออกมาจากฝูงและกระโดดไปที่เหล่าศิษย์พวกนั้น เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนดังก้องขึ้นอย่างรวดเร็ซพร้อมกับเหล่าศิษย์ปกคลุมไปด้วยแมลง แมลงไต่ทั่วตัวและบางส่วนยังเข้าไปในร่างกายด้วย

เสียงกรีดร้องร่อนลงในหูของเหล่าศิษย์สำนักเมฆาฟ้า เสียงกรีดร้องนี้แทบฉีกหัวใจพวกเขาเป็นชิ้นๆ

“หยุด!!” ลี่มู่หวานกระโดดขึ้นไปบนอากาศ ผู้คนยืนรอบตัวนางหลายคน พวกเขาทั้งหมดต่างจ้องไปที่จางป๋ายด้วยใบหน้าเกลียดชัง

จางป๋ายยิ้มออกมาอย่างซุกซน เขาโบกสะบัดแขนและเสียงกรีดร้องจากเหล่าศิษย์ยิ่งดังขึ้น ไม่กี่วินาทีต่อมาเหล่าแมลงออกมาจากร่างกายพวกเขา เหล่าศิษย์พลันอ่อนแรงมากและตกลงจากท้องฟ้า

ใบหน้าลี่มู่หวานซีดเผือด นางเพียงจ้องมองเหล่าศิษย์พวกนั้นอย่างตกตะลึง โลหิตไหลออกจากมุมปากนาง ร่างกายสั่นเทาและดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังพร้อมกับมองไปที่จางป๋าย

ด้วยนิสัยของนาง มันเป็นเรื่องยากมากที่จะมองคนอื่นเช่นนั้น

จางป๋ายกวาดสายตาลงบนลี่มู่หวาน เขาเอ่ยขึ้น “ไม่เลว เจ้าเป็นคนน่ารักจริงๆ เจ้าชื่ออะไร?”

ลี่มู่หวานเงียบเสียง

“โอ้ว? ไม่พูดงั้นหรือ? แย่หน่อยนะ” จางป๋ายยิ้มออกมาและโบกแขน เหล่าแมลงรอบตัวเขากระจายออกมาและปกคลุมทั้งสำนักเมฆาฟ้า

จางป๋ายเพียงสะบัดมือครั้งเดียว เหล่าแมลงจะกระโดดลงเข้าหาสิ่งมีชีวิตทุกอย่างและกลืนกินมัน แม้ว่าแมลงจะมีขนาดเพียงนิ้วโป้งทว่าพวกมันกระหายเลือดอย่างรุนแรง

หากมองใกล้ๆแล้วจะเห็นได้ว่าสายตาของจางป๋ายแทบเหมือนกันกับเหล่าแมลงพวกนี้

“หยุด…ชื่อข้าคือลี่มู่หวาน…” คลื่นแห่งความอัปยศมีอยู่เต็มหัวใจลี่มู่หวาน นางไม่มีทางเลือก นางไม่สามารถมองดูเหล่าศิษย์ของสำนักเมฆาฟ้าตายได้

ไม่กี่วันก่อนนางเริ่มส่งเหล่าศิษย์ให้หนีไปแต่ยังมีอีกหลายพันตัดสินใจอยู่ที่นี่ เหตุผลที่พวกเขาอยู่ก็เพราะเห็นสำนักเมฆาฟ้าเหมือนกับบ้านตัวเอง พวกเขาจะต่อสู้เพื่อบ้านของตัวเอง แม้พวกเขาตายก็ไม่เสียใจ

แม้กระทั่งหลิวเฟยและซ่งฉิง สองผู้อาวุโสหลักขั้นวิญญาณแรกกำเนิดระดับปลายยังตัดสินใจอยู่ที่นี่

ชายชราผมขาวก้าวไปข้างหน้าป้องกันลี่มู่หวานและเอ่ยกับจางป๋าย “ผู้อาวุโส หากท่านมีคำขอใด โปรดเอ่ยออกมา!”

แววตาจางป๋ายสว่างขึ้น เขาจ้องชายชราและเอ่ยขึ้นด้วยความดูถูก “ความต้องการของข้า? นั่นง่ามาก ข้าจะสังหารพวกเจ้าทั้งหมด นำเม็ดยาทั้งหมดและผนึกที่นี่เป็นวังส่วนตัวของข้า…ส่วนเจ้านั้น เจ้าชื่อลี่มู่หวานใช่ไหม? เจ้าน่ารักและมารยาทงาม เจ้าจะเป็นสาวใช้ของข้า”

หนึ่งในเซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิดผู้ซึ่งเป็นหญิงชราร้องตะโกนขึ้น “ท่านล่วงเกินไปแล้ว!” นางสามารถบรรลุขั้นวิญญาณแรกกำเนิดได้เพราะลี่มู่หวาน เมื่อจางป๋ายพูดเช่นนั้นนางลืมตัวจนโกรธเกรี้ยว ลืมความแตกต่างระหว่างระดับฝึกฝนจนร้องตะโกนเสียงดัง

ใบหน้าจางป๋ายมืดหม่น แววตาเปลี่ยนเป็นแดงฉานพลันเอ่ยขึ้น “ดูเหมือนว่าข้าจะใจดีเกินไป ก็ได้ ข้าจะทำลายสำนักเมฆาฟ้าซะ!” เช่นนั้นเขาโบกแขนขวาและแมลงรอบๆเริ่มโจมตีทุกคน

ส่วนหญิงชราคนนั้นเมื่อจางป่ายโบกแขน แมลงหลายตัวโจมตีนางจนร้องอย่างโหยหวน แม้กระทั่งวิญญาณแรกกำเนิดของนางก็ถูกกลืนกิน

ฉากเหตุการณ์นี้สั่นสะเทือนหัวใจทุกคน

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังสะท้อนในสำนักเมฆาฟ้า ลี่มู่หวานยิ้มอย่างเศร้าใจจากนั้นนางกระอักโลหิตออกมาและกัดริมฝีปาก

แม้กระทั่งผู้อาวุโสรอบตัวนางยังถูกเหล่าแมลงนับไม่ถ้วนโจมตี แต่ละคนพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อต่อต้านแต่กระทั่งผู้อาวุโสขั้นวิญญาณแรกกำเนิดระดับปลายสองคนยังเจอปัญหาใหญ่…

แมลงเหล่านี้แปลกประหลาดนัก ไม่มีสมบัติหรือคาถาใดที่มีผลต่อพวกมัน

ในตอนนี้นอกจากลี่มู่หวานแล้ว ทุกคนในสำนักเมฆาฟ้ากำลังต่อสู้กับเหล่าแมลง

ลี่มู่หวานกัดริมฝีปาก แววตานางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

จางป๋ายมองลี่มู่หวานด้วยความสนใจ เขาลูบคางตนเองและเอ่ยขึ้น “ด้วยความสัตย์จริง ข้ากวาดล้างมาหลายสำนักและเจ้าเป็นจ้าวสำนักสตรีคนที่สี่ แม้ว่าระดับฝึกตนของเจ้าไม่ได้ดีมากนัก แต่เจ้าจะกลายเป็นกาฝากชั้นดีสำหรับปรสิตของข้า”

เช่นนั้นเขาชี้ไปที่นางและหยดโลหิตหนึ่งพลันลอยออกมาจากนิ้วมือ หยดโลหิตเปลี่ยนเป็นแมลงดุร้ายพลันกระโดดเข้าหาลี่มู่หวาน

ทว่าทันทีที่เจ้าแมลงตัวนั้นกระโดดเข้าหานาง มวลสีดำปรากฎบนหน้าผากนางเปลี่ยนไปเป็นรูปทรงแมลงตัวเล็กซึ่งกลืนกินแมลงโลหิตเข้าไป

แมลงโลหิตกรีดร้องในครั้งแรกแต่เสียงค่อยๆจางหายไป เจ้าอสูรตัวเล็กลอยรอบลี่มู่หวานและจ้องจางป๋ายอย่างดุร้าย

จางป๋ายตกตะลึง เขามองไปที่อสูรตัวเล็กและกระซิบ “อสูรวิญญาณ?”

ลี่มู่หวานขบคิด นางมองออกไปไกลและเอ่ยเบาๆ “พี่หวัง ขอเราเจอกันอีกในชาติหน้านะ…”

“พี่หวัง? ฮ่าฮ่า หรือจะเป็นหวังคนนั้น อะไรนะ หวังหลิน?” จางป๋ายหัวเราะ หลังมาถึงแคว้นซูเขาได้ยินชื่อหวังหลินจากคนเพียงไม่กี่คน รวมถึงจากคนสำนักที่อื่นตายไปด้วย

“แคว้นซูของเจ้าประหลาดนัก หวังหลินผู้นี้ดูเหมือนจะมีชื่อเสียงมาก เขาเป็นใครกันแน่?” จางป๋ายหัวเราะเสียงดัง เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง แววตาสว่างขึ้นพลันพูดอย่างดูถูก “ตอนนี้ข้าอยากรู้เสียจริงว่าหวังหลินเป็นใคร เขาจะทำเช่นไรเมื่อเหล่าเซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิดทั้งหมดนี้จะต้องตายไปพร้อมกับเจ้า”

“เพราะนางเป็นผู้หญิงของข้า ข้า…คือหวังหลิน!” น้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้นจากข้างหลังจางป๋าย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version