363. แส้วิญญาณ
เส้นบางๆลอยออกจากกลีบดอกไม้และเกิดเป็นตาข่ายยักษ์ลอยเข้าหาหวังหลิน
ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้นและโบกสะบัดธงกฎเกณฑ์จนเกิดม่านหมอกสีดำ จากนั้นเขานำกระบี่สวรรค์ออกมาและกวัดแกว่งใส่ตาข่าย
ปราณกระบี่ผ่านหมอกสีดำออกไปและร่อนลงบนกลีบดอกไม้
ปัง!
กลีบดอกไม้เกิดรอยร้าวทันทีแต่ไม่แตกสลาย เส้นใยนับไม่ถ้วนออกมาจากกลีบดอกไม้ปกคลุมท้องฟ้าขณะที่มันมาถึงเบื้องหน้าหวังหลิน
ผีเสื้อสีชาดดึงอีกกลีบนึงออกมาด้วยสาสยตาเย็นชากว่าเดม นางโยนมันไปข้างหน้าและสร้างผนึกด้วยมือซ้าย จากนั้นชี้กลีบดอกไม้จนมันขยายออกหลายเท่าและยังมุ่งตรงเข้าหาหวังหลิน
ผีเสื้อสีชาดดึงอีกกลีบออกมาโดยไม่หยุดมือ นางกัดลิ้นเล็กน้อยและพ่นโลหิตออกมา โลหิตตกลงบนกลีบดอกไม้และสัญลักษณ์เก้ากระบี่ซึ่งสร้างจากโลหิตปรากฎบนกลีบดอกไม้ ปราณกระบี่เก้าเส้นปรากฎขึ้นและพุ่งเข้าหาหวังหลิน
“สามกลีบดอกไม้! เซิ่งหนิวข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าจะตายหรือไม่!” นางตบยักษ์น้ำแข็งข้างใต้ มันส่งเสียงร้องคำรามและส่งหมัดออกไปเบื้องหลังปราณกระบี่เก้าเส้น
ทุกระยะที่มันผ่านไปจะทิ้งหลุมยักษ์ไว้บนพื้น ต้นไม้นับไม่ถ้วนล้มลงและเกิดแรงสั่นสะเทือนจนปรากฎรอยร้าวหลายแห่งบนพื้นดิน
นี่กล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในการต่อสู้ที่อันตรายที่สุดในชีวิตหวังหลิน เขาไม่ต้องการใช้ราชรถสังหารเทพเว้นแต่ว่าจำเป็นต้องใช้ นอกจากนั้นที่นี่คือซูซาคุ มีคนจำนวนมากกำลังเฝ้าดู การเปิดเผยความลับของเขาหลายอย่างไม่ใช่เรื่องดี
การเผชิญหน้ากับตาข่ายกำลังเข้ามา หวังหลินร้องคำรามและกวัดแกว่งกระบี่สวรรค์อย่างบ้าคลั่ง บังคับให้สร้างรอยแยกในตาข่าย
หวังหลินรีบพุ่งออกไปจากรอยแยกและอ้าปากพ่นลำแสงสีดำออกมา มันแปรเปลี่ยนกลายเป็นตราประทับยักษ์สีดำกระแทกเข้าใส่กลีบดอกไม้ยักษ์
ตราประทับสีดำสั่นเทาก่อนจะถูกกลีบดอกไม้ห่อหุ้มและกลายเป็นแอ่งน้ำสีดำ สีหน้าหวังหลินซีดเผือด เขาใช้จังหวะที่ตราประทับหยุดกลีบดอกไม้เพื่อเคลื่อนที่พริบตาห่างไป
ขณะนั้นเองปราณกระบี่ทั้งเก้าก็มาถึงอย่างเงียบเชียบ พวกมันเคลื่อนไหวรวดเร็วดั่งสายฟ้า หวังหลินสัมผัสกระเป๋าและกระดิ่งสองชิ้นปรากฎออกมา พวกมันปะทะกับปราณกระบี่เกิดเป็นคลื่นเสียงสะท้อน
ปราณกระบี่ทั้งเก้าหยุดกึกชั่วขณะภายใต้ผลลัพธ์ของคลื่นเสียงแต่จากนั้นก็เข้าหาหวังหลินต่อไป
เพียงแค่หยุดกึกตอนนั้น กระดิ่งทั้งสองแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยสร้างเป็นชุดเกราะรอบหวังหลิน เขาร้องคำรามและเคลื่อนที่พริบตาอีกครั้ง คราวนี้เขาพุ่งเข้าหาผีเสื้อสีชาด
ทว่าขณะที่เขาปรากฎตัวอีกครั้ง หมัดเจ้ายักษ์น้ำแข็งมาถึงเบื้องหน้าเขาแล้ว กำปั้นนี้เร็วมากกว่าก่อนหลายเท่า มันร่อนลงบนร่างกายหวังหลินแทบในทันที
ร่างหวังหลินถูกกระแทกกับหมัดและลอยออกไป ปราณกระบี่ทั้งเก้าแทงเข้าใส่ร่างหวังหลินขณะที่เขาลอยไป จากนั้นกลีบดอกไม้ยักษ์ห่อหุ้มรอบตัวเขาอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้หนีไปไหน
สายตาผีเสื้อสีชาดเต็มไปด้วยจิตสังหารและนางร้องตะโกน “เซิ่งหนิว ยอมรับความตายซะ!”
ฝ่ามือซ้ายสร้างผนึกและส่งออกไปหากลีบดอกไม้ ในไม่ช้าเสียงระเบิดดังขึ้นออกมาภายในนั้น
ทว่าขณะนั้นเองลำแสงพลังงานสีดำรั่วไหลออกมาจากกลีบดอกไม้ ใบหน้าผีเสื้อสีชาดเปลี่ยนไปเมื่อปราณกระบี่สีดำขนาดใหญ่สามารถทำลายออกมาภายในกลีบดอกไม้ได้
กลีบดอกไม้ถูกแบ่งครึ่งและหวังหลินเดินออกมาช้าๆ
ริบบิ้นคาดผมของหวังหลินพังเสียหาย เส้นผมพริ้วไสวกลางอากาศโดยไร้แรงลมและสายตาเต็มไปด้วยความเย็นชารุนแรง เขามองผีเสื้อสีชาดราวกับกำลังมองคนตาย
รอยร้าวหลายจุดบนเสื้อเกราะของเขาและเบื้องหลังคือปราณกระบี่ทั้งเก้าแตกสลายไปทั้งหมด
หวังหลินเอ่ยด้วยน้ำเสียงต่ำ “ผีเสื้อสีชาด การต่อสู้พึ่งจะเริ่ม สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่การอุ่นเครื่องเท่านั้น!”
นางจ้องหวังหลินและชี้ดอกกุหลาบที่เหลืออยู่หกกลีบ นางกำลังจะร่ายคาถา
“ผีเสื้อสีชาด ดูนี่สิ” หวังหลินเผยรอยยิ้มชั่วร้ายขณะนำเอาก้อนหินคล้ายรังไหมซึ่งมีสัญลักษณ์เต๋าอยู่หลายจุดออกมา
หวังหลินใช้มือขวาตีเข้าไปและสัญลักษณ์บนนั้นเริ่มเรืองแสง
ใบหน้าผีเสื้อสีชาดแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดขณะควันสีดำเล็กน้อยโผล่ออกมาจากหน้าผาก นางร้องตะโกน “เซิ่งหนิว นั่นมันอะไร!?!”
“มันก็แค่แขนข้างนึงเท่านั้น!” หวังหลินตีหินนั้นด้วยสีหน้าดังเดิม เศษหินหลุดออกเผยออกมาเป็นแขนเหี่ยวย่น
เขาถือแขนไว้ในมือและเผยรอยยิ้มชั่วร้าย “ผีเสื้อสีชาด นี่คล้ายกับแขนของเจ้าไหม?”
นางจ้องแขนข้างนั้นด้วยร่างกายสั่นเทา จากนั้นหันกลับมามองหวังหลิน แววตาเย็นชาถึงขีดสุด
“เซิ่งหนิว เจ้าชั่ว!”
สายตาหวังหลินสว่างวาบขึ้นและหัวเราะเสียงดัง จากนั้นแววตามืดมิดลงในทันทีและเอ่ยขึ้น “ข้าเป็นคนชั่ว? ในดินแดนสวรรค์ตอนนั้นไม่มีความเกลียดชังระหว่างเรา ข้าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเจ้า เจ้ายังพยายามสังหารข้าหลายครั้ง แม้กระทั่งตอนนี้ข้ายังไม่รู้ว่าทำไมเจ้าต้องการจะสังหารข้า ทำไมข้าไม่สามารถต่อต้านได้หากเจ้าเลือกจะสังหารข้าเล่า?”
ผีเสื้อสีชาดใบหน้าหมองหม่น นางไม่ลังเลพลันชี้ไปที่ดอกกุหลาบและกลีบทั้งหกแตกกระจายทั้งหมด
หวังหลินพ่นลมหายใจเขาตบกระเป๋าและธงสีดำปรากฎในฝ่ามือโดยไม่ลังเล นี่คือผืนธงที่ขาดเพียงหนึ่งกฎเกณฑ์เท่านั้นก็จะสามารถอัญเผชิญสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ออกมาได้
ฝ่ามือซ้ายขยับเคลื่อนไหว กฎเกณฑ์หนึ่งปรากฎและเขาวางมันลงบนธง กฎเกณฑ์สั่นเทาและแสงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าพลันส่องสว่างจากผืนธง
ผีเสื้อสีชาดใบหน้าเปลี่ยนไป นางรีบสร้างผนึกและเอ่ยบทร่ายอันซับซ้อน กลีบทั้งหกลอยออกไปอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนไปเป็นสตรีทั้งหกคนสวมชุดสีแดง
ทว่าพลังแข็งแกร่งสายหนึ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากธงกฎเกณฑ์ พลังสายนี้ผลักทุกสิ่งทุกอย่างออกห่างไป หวังหลินยอมให้ตัวเองถูกผลักออกไปและปล่อยให้ธงกฎเกณฑ์ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
ขณะที่กลีบทั้งหกเปลี่ยนไปเป็นสตรีหกคน พวกนางหยุดกึกระหว่างทางและไม่สามารถเข้าไปข้างหน้าได้
ขณะนี้เองเกิดเสียงดังกึกก้องออกมาจากฟากฟ้า ก้อนเมฆสีดำปกคลุมท้องฟ้าราวกับสวรรค์กำลังพังทลาย
ทุกคนที่เฝ้าดูการต่อสู้จากข้างนอกต่างตกใจ ผู้เฒ่าทั้งสี่คนที่นั่งอยู่ในวงกลมพลันลืมตาขึ้นทั้งหมด สายตาแต่ละคนจดจ้องบนก้อนเมฆแดง
“ทัณฑ์สวรรค์!” ดวงตากงซุนโป้สว่างวาบ
“ทั้งหกคืนเป็นหนึ่ง!” ผีเสื้อสีชาดมีสีหน้าเปลี่ยนไปขณะรีบใช้ฝ่ามือสร้างผนึก สตรีทั้งหกคนในชุดแดงรวบเข้ากับผีเสื้อสีชาดอย่างรวดเร็วและร่างสีแดงสุดสวยทั้งหกปรากฎตัวเบื้องหลังนาง
ก้อนเมฆแดงปกคลุมทั่วท้องฟ้า หวังหลินเหยียดยิ้มพร้อมกับชี้ไปที่ธงกฎเกณฑ์ ธงกฎเกณฑ์เปลี่ยนไปเป็นคลื่นกฎเกณฑ์อย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาผีเสื้อสีชาด
ปัง!!!
ก้อนเมฆแดงทั้งหมดรวมตัวกันและสายฟ้าแดงลดลงมา เป้าหมายของมันคือตำแหน่งที่กฎเกณฑ์อยู่อย่างแม่นยำ
ผีเสื้อสีชาดถอยกลับอย่างรีบเร่งแต่หวังหลินจับสายตานางไว้ตลอดเวลา ขณะที่นางขยับตัวหวังหลินตะวัดกระบี่สวรรค์และส่งปราณกระบี่เข้าหานาง
ทว่าปราณกระบี่นี้ไม่ใช่เพื่อผีเสื้อสีชาด มันกระแทกเข้ากับสายฟ้าแดงที่กำลังลงมา
ปัง!!
ปราณกระบี่กระแทกเสียงดังกึกก้อง สายฟ้าแดงชะงักชั่วขณะก่อนจะลดต่ำลงมาต่อเนื่อง
หวังหลินร้องตะโกนเมื่อเกิดการชะงักนี้ “ธงกฎเกณฑ์ กระจายตัว!”
ธงกฎเกณฑ์สั่นเทาทันทีพร้อมกับควันกฎเกณฑ์หลั่งไหลออกมามากขึ้น ดำเนินไปจนกระทั่งธงกฎเกณฑ์เปลี่ยนไปเป็นฝุ่นผงและหายวับไป ทว่าควันกฎเกณฑ์เข้ามาถึงเบื้องหน้าผีเสื้อสีชาดในเสี้ยววิและล้อมรอบนางใกล้ๆ ควันจำนวนมากเข้าไปในร่างกายยักษ์น้ำแข็งด้วยเช่นกัน แม้ว่ามันจะไม่ทำอันตรายใดได้แต่มันจะนำทางให้สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์เข้ามา
เจ้ายักษ์กระทืบพื้นดินอย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่มันกระทืบพื้นจะมีควันกฎเกณฑ์จำนวนมากแตกสลายแต่ยังมีควันจำนวนมากที่ยังติดอยู่บนร่างยักษ์น้ำแข็ง
ผีเสื้อสีชาดกำลังจะเคลื่อนที่พริบตาทว่าใบหน้านางเปลี่ยนเป็นเกลียดชัง
“เมื่อทัณฑ์สวรรค์มาถึง การเคลื่อนที่พริบตาทั้งหมดจะถูกผนึก! ผีเสื้อสีชาด ยอมรับความตายของเจ้าซะ!” ดวงตาหวังหลินสว่างวาบ
ณ ตอนนี้สายฟ้าแดงก็มาถึง เมื่อควันกฎเกณฑ์สัมผัสกับสายฟ้ามันจึงสลายไป สายฟ้าแดงตกลงบนผีเสื้อสีชาดผู้ซึ่งล้อมรอบด้วยควันกฎเกณฑ์
แม้ว่าทั้งหมดนี้ใช้เวลาอธิบายไปยาวนานแต่มันเกิดขึ้นเพียงกระพริบตาเท่านั้น
ใบหน้าผีเสื้อสีชาดซีดเผือดและนางกัดฟันแน่น จังหวะที่สายฟ้าแดงมาถึงร่างทั้งหมดเบื้องหลังนางลอยออกไป
“ระเบิด!”
หนึ่งในร่างสีแดงระเบิดตัวเมื่อสัมผัสกับสายฟ้าแดงแต่มันไม่อาจหยุดสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ได้
น้ำเสียงดังขึ้นอย่างปวดร้าว “ระเบิด! ระเบิด!”
ปัง! ปัง! ปัง!
สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์แทงผ่านราวกับกระดาษ หนึ่งร่างแตกสลายตามด้วยอีกหนึ่งร่างและในไม่นานร่างทั้งหมดก็แตกสลายไป
ทว่าพลังของสายฟ้าแดงลดลงเล็กน้อยเท่านั้นในการระเบิดเป็นชุดนี้
ผีเสื้อสีชาดจมร่างตัวเองเข้าไปในยักษ์น้ำแข็ง จังหวะที่นางหายตัวเข้าไปข้างใน สายฟ้าแดงปะทะเข้ากับเจ้ายักษ์น้ำแข็งทันที
ยักษ์น้ำแข็งเงยศีรษะขึ้นทันทีและร้องคำรามอย่างเจ็บปวดพร้อมกับรอยร้าวปรากฎบนร่างกายมันหลายแห่ง สีแดงสีแดงหนึ่งกำลังเคลื่อนไหวภายในตัยักษ์น้ำแข็ง มันไม่ได้โจมตียักษ์น้ำแข็งแต่เคลื่อนไหวเข้าหาควันกฎเกณฑ์ที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายของมัน
ทว่ามีภาพร่างของแส้เส้นหนึ่งเรืองแสงขึ้น ทุกครั้งที่มันเรืองแสงพลังของสายฟ้าแดงจะอ่อนแอเล็กน้อย
“บัดซบ!” ดวงตาหวังหลินพลันสว่างวาบและตวัดกระบี่สวรรรค์เข้าหายักษ์น้ำแข็ง เขาร้องคำรามและพาปราณกระบี่ขนาดใหญ่พุ่งตรงเข้าหายักษ์น้ำแข็ง
ยักษ์น้ำแข็งอ้าปากและร้องตะโกน ทว่าน้ำเสียงเป็นของผีเสื้อสีชาด “แส้วิญญาณ!”
ขณะนั้นเองแส้ภายในยักษ์น้ำแข็งเรืองแสงสว่างลอยออกจากหน้าอกยักษ์น้ำแข็งและปะทะเข้ากับหวังหลิน
เร็ว! เร็วเกินไป! หวังหลินไม่สามารถหลบได้เลย เขากระอักโลหิตและร่างกายหล่นลงไป ทว่าวิญญาณดั้งเดิมของเขาถูกผลักออกจากร่างและลอยออกไปไกล
ขณะนั้นเองปราณกระบี่ร่อนลงบนยักษ์น้ำแข็งและรัศมีของมันอ่อนแอลงมาก รอยแผลหนาเท่าแขนผ่านเข้าร่างของมัน