413. บรรพชน
คำพูดเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับชี้ไปที่ไม้แกะสลัก มังกรรอยสักพุ่งเข้าใส่ไม้แกะสลักเกิดเป็นคลื่นเสียงกระแทก
เหล่าเซียนแคว้นจ้าวที่รวมตัวกันที่นี่ต่างมองไปทางไม้แกะสลัก มันเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและเคารพนับถือในแคว้นจ้าว
ไม้แกะสลักสั่นเทาเล็กน้อยและส่องแสงเจิดจ้า วงแหวนแสงยื่นออกมาจากมันและปะทะกับมังกรรอยสัก
ตู้มมม! ตู้มมม!
เสียงดังปังหลายครั้ง รอยสักที่เกิดจากมังกรเริ่มไม่เสถียรและอ่อนแอ ในที่สุดมังกรส่วนใหญ่ก็แตกกระจายและหายไป
มังกรส่วนที่เหลือทั้งหมดมีขนาดเล็กลงเท่านึง
เซียนแคว้นจ้าวทั้งหมดต่างตื่นเต้นที่ได้เห็นสิ่งเหตุการณ์นี้
“นี่มันอะไร? ไม้แกะสลักน่าสนใจจริงๆ คงเสียเปล่าหากข้าจะทำลายมัน” ดวงตาเผ่าละทิ้งอมตะผู้นั้นสว่างขึ้นพลันโบกแขนและรอยสักรูปร่างโบราณหลายรอยปรากฎทันที
รอยสักเหล่านี้หมุนรอบตัวเขาขณะที่เขาก้าวเดินไปข้างหน้า
ไม้แกะสลักส่องสว่างขึ้นอีกครั้ง วงแหวนแสงยื่นออกมาและสัมผัสกับรอยสักที่หมุนวนรอบตัวเขา วงแหวนแสงสั่นสะท้านอย่างรุนแรงแต่มันสามารถต้านทานได้จึงแตกสลายในที่สุด
เพียงก้าวเดียวเผ่าละทิ้งอมตะก็มาถึงยอดภูเขาเหิงยั่ว เขายื่นมืออกไปและกำลังจะคว้าไม้แกะสลัก
แต่แสงจากไม้แกะสลักพลันส่องสว่างไปทั้งพื้นที่ แววตาดูถูกยังคงปรากฎบนเผ่าละทิ้งอมตะ เขายื่นมืออกไปและกำลงบนไม้แกะสลัก
“แม้เจ้าของเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเอง ข้าจะเอามันไปตามที่ข้าต้องการ!” เขาหยิบไม้แกะสลักขึ้นมองพลันยิ้มออกมา “เป็นสมบัติของจริง ในภายภาคหน้าข้าต้องการเห็นคนที่วางไม้แกะสลักไว้นัก”
ทั้งภูเขาเหิงยั่วเงียบกริบ เซียนทั้งหมดคิดอย่างเงียบเชียบ สัญลักษณ์แห่งความหวังถูกเอาไปได้ง่ายๆ ดูเหมือนการทำลายล้างแคว้นจ้าวเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
สายตาดูถูกในเผ่าละทิ้งอมตะยิ่งรุนมากขึ้น “ดูสิว่าข้าได้สมบัติชิ้นนี้มาแล้ว ข้าจะไม่ทำให้พวกเจ้ายุ่งยาก จงยอมจำนนและรับใช้เผ่าละทิ้งอมตะของข้าซะ ข้าให้สัญญากับพวกเจ้าว่าจะมีความเป็นอยู่ดียิ่งกว่าอยู่ใต้อำนาจแคว้นซูซาคุ”
“ไม้แกะสลักของข้าไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะเอาไปได้” เสียงเยือกเย็นดังออกมาจากความว่างเปล่าและหลังจากนั้นไม่นานสองร่างปรากฎตัวขึ้น
ชายชราเผ่าละทิ้งอมตะหันกลับมาและมองเบื้องหลังเขาด้วยใบหน้าหวาดกลัว สิ่งที่ทำให้เขาหวาดกลัวก็คือมีคนสามารถเข้ามาได้โดยที่เขาไม่รู้ตัว
สองคนที่ปรากฎตัวจากความว่างเปล่าคือหวังหลินและหวังจัว
ขณะที่ทั้งสองเผยตัวมีเซียนจากแคว้นจ้าวบางส่วนจดจำหวังหลินได้
“ท่านบรรพชน!!!”
“ท่านบรรพชน!!!”
เสียงตะโกนด้วยความตื่นเต้นดังขึ้นจากเหล่าเซียนเบื้องล่าง ไม่นานนักเสียงตะโกนนี้ดูเหมือนจะเป็นเสียงเดียวที่ได้ยินในช่วงเวลาแบบนี้
“บรรพชน…” หวังหลินยิ้มบางและพยักหน้า
เสียงตะโกนยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้าเผ่าละทิ้งอมตะยิ่งบูดบึ้ง สายตาดูถูกหายไปนานแล้วและแทนที่ด้วยความรู้สึกหวาดกลัวหยั่งลึก
“ท่าน…” เขาอ้าปากกำลังจะพูดแต่หวังหลินตัดบททันที
“ส่งไม้แกะสลักของข้ากลับมา!” แม้ว่าน้ำเสียงหวังหลินจะสุภาพแต่มันมีพลังแข็งแกร่งซ่อนอยู่
ใบหน้าชายชราเผ่าละทิ้งอมตะพลันมืดมน ขณะที่ชำเลืองมอง คนผู้นี้เหมือนจะมีระดับขั้นตัดวิญญาณระดับปลาย ทว่ายิ่งตรวจสอบก็ยิ่งสัมผัสพลังอันลึกลับข้างในคนผู้นี้ได้ เขารู้สึกพลังเช่นเดียวกันนี้จากผู้อาวุโสในเผ่าซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเซียนขั้นแปลงวิญญาณ
หลังจากครุ่นคิดเพียงเล็กน้อย เขาโยนไม้แกะสลักให้หวังหลินโดยไม่ลังเล
ขณะที่หวังหลินยื่นมืออกไปจับไม้แกะสลัก ชายชราตะโกน “รอยสัก ระเบิด!”
ในพริบตา รอยสักจำนวนมากบนไม้แกะสลักระเบิดออกสร้างเป็นพลังงานรุนแรง
หวังหลินสงบนิ่งและชี้การระเบิดนั้นด้วยฝ่ามือขวา แรงระเบิดถูกห้อมล้อมด้วยพลังงานลึกลับและควบแน่นกลายเป็นบอลเล็กลูกนึง
ลูกบอลเต็มไปด้วยควันและมีพลังการระเบิดทั้งหมดของรอยสัก
สีหน้าชายชราเผ่าละทิ้งอมตะเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาไม่เคยคิดว่าการโจมตีของเขาจะถูกหวังหลินป้องกันได้ง่ายๆเช่นนี้
“ขั้นแปลงวิญญาณ…” พึมพำกับตัวเองก่อนจะหันตัวหนีไปโดยไม่ลังเล เขารู้ตัวว่าไม่มีทางที่จะต้านทานเซียนขั้นแปลงวิญญาณได้
“เคราะห์ร้ายนัก ข้าไม่เชื่อว่าบรรพชนของแคว้นเซียนระดับสามจะเป็นถึงสัตว์ประหลาดขั้นแปลงวิญญาณ ข้าโชคร้ายวิ่งมาเจอคนเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?!” จิตใจของเขารู้สคกเจ็บปวด ขณะที่กำลังจะจากไป ท้องฟ้ามืดมน เสียงฉีกอากาศดังกึกก้องและรอยแยกอวกาศขนาดใหญ่ปรากฎเพื่อป้องกันเขาไม่ให้หลบหนี
ชายชราหยุดลงด้วยความหวาดกลัว
“ข้าให้เจ้าไปได้แล้วหรือ?” หวังหลินจ้องมองเขาก่อนจะวางสัมผัสวิญญาณอันใหม่เข้าไปในไม้แกะสลัก เขาโยนไม้แกะสลักออกไปและมันจมลงกลับไปในภูเขาเหิงยั่ว
ชายชราเอ่ยขึ้นช้าๆด้วยสีหน้ามืดมน “ท่าน ตามข้อตกลงแล้วแคว้นซูซาคุยกแคว้นเซียนระดับสามให้เราเพื่อชะลอการโจมตีของเราบนแคว้นระดับสี่ ท่านต้องการทำลายข้อตกลงนั้นหรือ?”
หวังหลินขมวดคิ้ว “ใครสร้างข้อตกลงกับเจ้า? จูเซว่จื่อ?”
ชายชราตกตะลึง เขาชำเลืองมองหวังหลินพลันเอ่ยขึ้น “เมื่อท่านเป็นเซียนขั้นตัดวิญญาณ ท่านต้องรู้จักเฉียนเฟิงเป็นแน่ เขาเป็นตัวแทนของจูเซว่จื่อและทำสัญญาข้อตกลงกับอาจารย์หนุ่มของเรา”
“เฉียนเฟิง…” สายตาหวังหลินเคร่งเครียด เขาได้ยินชื่อนี้มาสองครั้งแล้ว ครั้งหนึ่งจากหลิวเหมยและครั้งที่สองคือตอนนี้
“น่าขัน!” หวังหลินยกฝ่ามือขวาชี้ไปที่บอลบรรจุพลังการระเบิดเอาไว้ ลูกบอลเปลี่ยนกลายเป็นเงาและลอยเข้าหาชายชราเผ่าละทิ้งอมตะ
ชายชรามีท่าทีเปลี่ยนไปมหาศาลพร้อมกันนั้นชี้ระหว่างคิ้วของตนเอง แสงสีเขียวส่องสว่างจากหน้าผาก ต้นไม้ยักษ์หกใบไม้เติบโตขึ้นมาจากลำแสงและปะทะเข้ากับลูกบอล
ตูมมมม!
ชายชราถูกบังคับให้ล่าถอยและกระอักโลหิตออกมา ต้นไม้กำลังออกมาจากหน้าผากทำให้เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ มันส่องสว่างมากขึ้น เขาไม่ต้องการต่อสู้ดังนั้นจึงถอยกลับไปและนำกิ่งไม้สีม่วงออกมา กิ่งไม้สีม่วงสร้างระลอกคลื่นในพื้นที่ว่างเบื้องหน้าและเตรียมจะจะพุ่งเข้าไปในวังวน
กิ่งไม้สีม่วงที่ใช้เป็นกิ่งไม้จากต้นไม้แห่งการเกิดใหม่ เผ่าละทิ้งอมตะมีวิธีการพิเศษที่จะใช้กิ่งไม้เหล่านี้เพื่อเคลื่อนย้ายกลับไปยังต้นไม้แห่งการเกิดใหม่ต้นหลัก
ดวงตาหวังหลินเยือกเย็น เขายกฝ่ามือขวาขึ้นและเอ่ยคำว่า “ดูดซับ!”
ขายชราอยู่ตรงกลางโดยมีก้อนเมฆทั้งหมดทั่วบริเวณรวมกันสร้างเป็นวงแหวนและหดลงมาอย่างรวดเร็วจนมีความกว้างเพียงสามสิบฟุตเท่านั้น
สีหน้าชายชราเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ระลอกคลื่นพลังสำหรับเคลื่อนย้ายได้สูญเสียความสามารถและหายไป
แรงกดดันแข็งแกร่งออกมาจากทุกทิศทุกทางและร่อนลงบนร่างเขาในพริบตา
เขารู้สึกสิ้นหวังแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน สายตาตื่นตระหนกพร้อมกับฝ่าสร้างสัญลักษณ์ประหลาดเหนือหน้าอก เขากดลงบนหน้าอกตัวเองและข่วนเป็นรอยโลหิตสิบรอย
โลหิตพ่นออกมาจำนวนมากและต้นไม้บนหน้าผากดูดซับโลหิตอย่างบ้าคลั่ง มันเติบโตอย่างรวดเรวจนเต็มวงแหวน
ชายชราร้องตะโกนด้วยใบหน้าดุร้าย “หากเจ้าสังหารข้าจะมีคำสาปรอยสักบนตัวเจ้า หากบรรพชนเผ่าของข้าเห็นมันพวกเขาจะสังหารเจ้าทันที!” เส้นเลือดบนหน้าผากเขาปูดพอง แม้ว่าต้นไม้แห่งชีวิตจะออกมาแล้วมันยังไม่อาจต้านทานแรงกดดันจากวงแหวนได้
คลื่นเสียงแตกร้าวดังขึ้นขณะที่วงแหวนกว้างสามสิบฟุตหดลงจนเหลือสิบฟุต กิ่งไม้จากต้นไม้แตกกระจายทีละกิ่ง ทุกครั้งที่หนึ่งกิ่งแตกสลาย ชายชราจะกระอักโลหิตออกมาและใบหน้าซีดเผือดมากกว่าเดิม
หวังหลินยังคงสงบนิ่งและยิ้มขึ้น “ข้าสังหารเผ่าละทิ้งสวรรค์ไปสองสามคน หรือนี่เป็นคำสาปรอยสักที่เจ้าพูดถึง?”
หวังหลินชี้ไปที่หน้าอกตัวเองและลูกบอลสีเทาจำนวนห้าลูกปรากฎขึ้น บอลทั้งห้าลูกนี้สร้างเป็นรอยสักกระพริบถี่
ตอนที่เขาพยายามบรรลุขั้นแปลงวิญญาณ เขารู้สึกว่ามีควันสีดำจำนวนห้าก้อนในร่างกาย ปกติพวกมันจะไม่ทำอันตราย ความจริงแล้วพวกมันช่วยให้พลังปราณของเขาเคลื่อนไหวได้ไหลลื่นขึ้นเสียอีก
ชายชราคนนั้นจ้องลูกบอลควันสีเทาทั้งห้าก้อนและใบหน้าซีดเผือด เขาสามารถสัมผัสกลิ่นอายของชาแมนหกใบไม้จากบอลทั้งห้าลูกนั้นได้ คนที่ใช้คำสาปต้องถูกคนผู้นี้สังหารแน่ๆ
หวังหลินชำเลืองมองขณะที่มือขวายื่นออกมาและกุมเข้าด้วยกัน วงแหวนหดตัวอย่างรวดเร็ว ชายชราร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ต้นไม้หกใบไม้ถูกบดขยี้ขณะที่วงแหวนหดลงไปและชายชราถูกบดขยี้กลายเป็นก้อนเลือดเนื้อ
วงแหวนหายไปและก้อนเลือดเนื้อได้กลายเป็นหมอกโลหิต
ด้วยระดับบ่มเพาะของหวังหลิน การสังหารเขาง่ายเพียงแค่ปัดฝุ่น เขาไม่จำเป็นต้องใช้สมบัติวิเศษเลย นอกจากนั้นแล้วเขตแดนของเขายังแตกต่างจากเซียนขั้นตัดวิญญาณคนอื่นๆและมันยังบรรจุพลังปราณสวรรค์ไปบางส่วนด้วย
ตอนนี้เขาเหลืออีกเพียงครึ่งก้าวจะเข้าสู่ขั้นแปลงวิญญาณ เมื่อได้รับหินหยกสวรรค์เพียงพอเขาจะบรรลุขั้นแปลงวิญญาณได้
ตอนนี้มีหินหยกสวรรค์น้อยเกินไป
หวังหลินมองตำแหน่งชายชราเผ่าละทิ้งอมตะที่พึ่งตายไปและเริ่มครุ่นคิด
“จูเซว่จื่อคงไม่ตกลงกับเผ่าละทิ้งสวรรค์เป็นแน่ เรื่องนี้ประหลาดนัก…รวมถึงเฉียนเฟิงด้วย…” แววตาหวังหลินส่องสว่าง