515. ทำไมต้องทะเลตะวันออก
มีสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่งในอวกาศใกล้เคียงกับดาวเคราะห์เทียนหยุน
มองไกลๆที่นี่แค่ดูเหมือนสถานที่ที่มีสิ่งของรวบรวมกันอย่างหนาแน่นและเป็นทะเลวัตถุอันไร้จุดสิ้นสุด
ที่นี่มีเพียงสองสีคือสีเขียวและสีแดง สิ่งที่ลอยเคว้งคว้างอยู่ที่นี่ทั้งหมดมีแค่สองสีนี้เท่านั้น
ทุกๆห้าพันปีทะเลแห่งนี้จะเปล่งพลังลึกลับออกมาและสิ่งของลึกลับมหาศาลจะถูกดูดซับเข้าไปด้วยพลังนี้
ท่ามกลางสิ่งลึกลับเหล่านี้มีทั้งซากศพและสมบัติ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสามารถดูดซับได้ไหม
ที่นี่เป็นเสมือนเตาสมบัติยักษ์ที่สามารถดูดซับได้เท่านั้นและไม่เคยปลดปล่อยออกมา หากท่านต้องการสมบัติ ท่านต้องเข้าไปข้างใน!
ไม่มีใครรู้ว่าสถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ลือกันว่าตอนที่ดาวเทียนหยุนมาที่นี่ สถานที่แห่งนี้คงอยู่มาก่อนนานแล้ว
บางคนกล่าวว่าสถานที่แห่งนี้คือพระราชวังของแม่ทัพเทพผู้ทรงพลัง หลังจากนั้นเมื่อดินแดนสวรรค์ล่มสลายมันจึงได้รับผลกระทบและเปลี่ยนเป็นสถานที่รกร้าง แต่ว่าซากปรักหักพักที่ทุกคนเห็นกันอยู่นี้เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นจากวิชาแข็งแกร่งเท่านั้น หากมีโชคชะตาจนเข้าไปข้างในได้จะสามารถฟื้นฟูปราสาทเทพได้อย่างแน่นอน
มีกระทั่งข่าวลือว่าสถานที่แห่งนี้เป็นอุโมงค์ที่นำพาสู่อีกมิติหนึ่ง อาจจะเป็นทางเดินสู่ดินแดนที่เหนือกว่าแดนสวรรค์
รวมกันแล้วมีข่าวลือนับไม่ถ้วนเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ และทุกข่าวลือเต็มไปด้วยความมั่นใจว่ามีข้อน่าเชื่อถือบางประการ
ทะเลที่ไม่ทราบต้นกำเนิดนี้อยู่ทางด้านตะวันออกของดาวเทียนหยุน ดังนั้นมันจึงถูกเรียกขานกันในชื่อว่าทะเลตะวันออก!
ก่อนที่เทียนหยุนจะสำเร็จเต๋าครั้งแรก เขาเชิญชวนหสายหลายคนรวมถึงเซียนกระบี่หลิงเทียนโฮวตอนก่อนความสัมพันธ์จะแตกหัก เข้าสำรวจสถานที่แห่งนี้สามครั้ง!
สองครั้งแรกพวกเขากลับมามือเปล่า แต่ในครั้งที่สามคนที่ได้กลับมาเหลือเพียงครึ่งนึง!
ทั้งยังเป็นตอนที่ความสัมพันธ์ของเซียนกระบี่หลิงเทียนโฮวกับเทียนหยุนแตกหักกัน จนกระทั่งวันนี้พวกเขาก็ไม่เคยพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นในการสำรวจครั้งที่สามเลย
แต่ว่าหลังจากนั้นมาเทียนหยุนกล่าวขึ้นมาหนึ่งสิ่ง!
“มีมารโบราณอยู่ข้างในนั้น ตั้งแต่วันนี้ต่อไปสถานที่แห่งนี้เป็นของดาวเทียนหยุนและจะเรียกกันในชื่อประตูสู่ทะเลวิญญาณมารตะวันออก!”
คำว่า “มารโบราณ” กระจายออกไปนับตั้งแต่นั้นและถูกจดจำด้วยคนนับไม่ถ้วน
แม้กระทั่งคนจากสมาพันธ์เซียนก็เข้ามาตรวจสอบทะเลวิญญาณมารตะวันออก ทว่าการที่จะปล่อยให้คนอื่นเข้ามาในทะเลวิญญาณเป็นเรื่องหาได้ยาก ซึ่งทั้งเทียนหยุน หลิงเทียนโฮวและสัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นๆต่างมีความเห็นเหมือนกัน
พวกเขาไม่เคยยอมปล่อยให้คนภายนอกได้เข้าไป ที่นี่เป็นพื้นที่ต้องห้ามของดาวเทียนหยุน!
หลังจากสถานการณ์เป็นเช่นนี้มาอย่างยาวนาน ทะเลวิญญาณมารตะวันออกแห่งนี้จึงกลายเป็นพื้นที่ต้องห้ามโดยปริยายซึ่งเป็นของดาวเทียนหยุนแห่งนี้
สถานที่ลึกลับเช่นทะเลวิญญาณมารไม่ได้มีมากมาย แต่ก็ไม่ได้หายากอะไรนัก สมาพันธ์เซียนจึงไม่ต้องการสร้างความสัมพันธ์แย่ๆกับเหล่าเซียนของดาวเทียนหยุนด้วยเรื่องสถานที่แบบนี้ ดังนั้นมันไม่คุ้มค่ากัน
การเปิดทะเลวิญญาณมารตะวันออกทุกห้าพันปีเป็นเหตุการณ์ใหญ่ของดาวเทียนหยุน ขณะที่มันเปิดขึ้นจะมีช่วงที่กินเวลาอยู่หลายเดือน!
ช่วงนั้นคือตอนที่พลังลึกลับจากภายในทะเลวิญญาณกระจายข้ามผ่านพื้นที่มหาศาลออกมา ตราบใดที่เหล่าเซียนอยู่ที่นั่น พวกเขาจะเห็นสมบัตินับไม่ถ้วน วิชาต่างๆมากมาย ซากศพอสูรสุดลูกหูลูกตาและสิ่งแปลกประหลาดที่ดึงดูดความสนใจและดูดซับเข้าไปในทะเลวิญญาณมารตะวันออก
ทุกครั้งที่มันเปิดขึ้น พวกตาแก่เฒ่ารอบดาวเทียนหยุนจะส่งลูกศิษย์ของตนเองเข้าไป แม้ว่ามันจะอันตรายมากแต่มันเปิดขึ้นทุกห้าพันปีเท่านั้น มันเป็นโอกาสดีที่ไม่ควรพลาดและอาจต้องเสี่ยงดู!
ทุกครั้งที่ประตูทะเลวิญญาณเปิดขึ้น มีคนจำนวนมากเข้าไปตั้งแต่ระดับล่างสุดที่มีไม่กี่ร้อยคนจนถึงบนสุดที่มีคนมากกว่าพัน คนที่อ่อนแอที่สุดเป็นระดับขั้นแปลงวิญญาณขณะที่คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือคนที่สัมผัสด่านหยินหยางไปแล้ว
นั่นเป็นระดับสูงสุดที่ยอมให้เข้าไปได้ เพราะดาวเทียนหยุนเข้มงวดอย่างมากกับคนที่สามารถเข้าไปได้ ใครที่เหนือกว่าขั้นเทวะขึ้นไปไม่อนุญาตให้เข้าอย่างแน่นอน
นอกจากนั้นแล้วสถานที่แห่งนี้ยังใช้สำหรับฝึกฝนศิษย์ทุกคน แม้ตอนที่ันเปิดขึ้นจะมีคนกว่าครึ่งที่ตายอยู่ข้างในก็ตาม
อย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งใดแน่นอน และทุกสิ่งขึ้นอยู่กับว่าได้อะไรระหว่างช่วงที่มันเปิด หากมีบางสิ่งที่สามารถฝืนกฎสวรรค์จนล่อลวงพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าได้ เมื่อนั้นทะเลวิญญาณมารจะกลายเป็นสถานที่ที่มีชีวิตชีวาอย่างมาก
ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกห้าวันจนกว่าทะเลวิญญาณมารตะวันออกจะเปิดขึ้น
มีเหล่าเซียนนับไม่ถ้วนนอกทะเลวิญญาณมารตะวันออกเรียบร้ยอแล้ว พวกเซียนเหล่านี้คือคนที่ได้เข้าไปในรอบนี้ พวกเขาสวมเสื้อผ้าแตกต่างกันหลากหลายแบบ แม้ว่าจะคละเคล้ากันแต่ความแตกต่างระหว่างแต่ละสำนักถือว่าชัดเจน ศิษย์แต่ละสำนักจะรวมกลุ่มเข้าด้วยกันทั้งหมดและมีชีวิตชีวาอย่างมาก
ขณะที่เวลาผ่านไปยิ่งมีเหล่าเซียนปรากฎตัวนอกทะเลวิญญาณมารตะวันออกมากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ไม่เคยเผยใบหน้าก็มากับลูกศิษย์ด้วยเช่นกัน ทุกครั้งที่หนึ่งในนั้นปรากฎตัวจะเกิดเสียงอึกทึกในหมู่เซียน พวกเซียนทั้งหมดหลีกทางโดยไม่กล้าขวางเส้นทางพวกเขา
ในวันนี้มีลำแสงสีแดงเส้นหนึ่งแทบปกคลุมทั้งพื้นที่ด้านนอกทะเลวิญญาณมาร ขณะเดียวกันกลิ่นคาวเลือดฟุ่งกระจายไปทั่วพื้นที่ นี่ทำให้รอบด้านราวกับโลกแห่งโลหิต
“บรรพชนแห่งดาวโลหิต!” เซียนบางคนจดจำเขาได้จากกลิ่นเลือด ชั่วขณะนั้นทุกคนหยุดการพูดคุยกัน
ภายในแสงสีแดงโลหิต หินหยกสีแดงโลหิตขนาดยักษ์ค่อยๆลอยเข้าหาทะเลวิญญาณมารตะวันออก บนยอดหินหยกมีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ นางมีดวงตาสีแดงดั่งนกฟินิกซ์ คิ้วเรียวสวยของนางแต่งแต้มด้วยจิตสังหาร นางสวมชุดคลุมสีขาวซึ่งเมื่อเทียบกับหินหยกสีแดงโลหิตด้านล่างนางแล้วมันมีสีตัดกันอย่างทรงพลัง
แม้นางจะนั่งอยู่ในท่านั่งสมาธิ ผู้คนยังเห็นร่างบางๆของนางได้ นางมีผมศีรษะสีดำราวกับไยไหม ใบหน้านางละเอียดละออราวกับเมล็ดทานตะวันสีขาว ผิวกายเนียนนุ่มราวกับผลึก จมูกวิจิตรบรรจงและดวงตาแดงฟินิกซ์เรืองแสงราวกับดวงอาทิตย์แผดเผาที่กำลังเปล่งบนผิวทะเลสาปแต่กลับซ่อนความเยือกเย็นลึกไว้อย่างมิดชิด หากเกิดสายตานางจับจ้อง พวกเขาคงหมดโชคแล้ว…
นางนั่งอยู่บนหยกโลหิตและลอยออกไป ทุกคนที่เห็นนางต่างเคลื่อนที่ออกทำให้นางทะลุถึงด้านนอกทะลวิญญาณมารตะวันออกได้ นางหยุดลงพื้นที่ว่างแห่งหนึ่ง
ระหว่างทางนางไม่ได้กล่าวอะไรเลย เมื่อหยกโลหิตหยุดตัวลงนางหลับตาและเริ่มบ่มเพาะ
“ลูกสาวของบรรพชนโลหิต เหยาซีเฉว่! (爾惜雪 Ěr xī xuě)” เซียนบางคนจดจำนางได้ทันที
บรรพชนโลหิตเหยาซิงไห่ (姚星海 yáo xīnghǎi) เป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังรอบดาวเทียนหยุน ระดับบ่มเพาะของเขาสูงล้ำจริงๆ เขาท้าสู้เทียนหยุนทั้งหมดเจ็ดครั้งและแม้จะพ่ายแพ้ทั้งเจ็ดครั้ง ระดับบ่มเพาะของเขาสูงขึ้นในแต่ละครั้ง โดยเฉพาะครั้งที่เจ็ดตอนที่เขาแสดงวิชาโลหิตอันน่าหวาดกลัวของเขาออกมานั้น
คนผู้นี้เป็นเจ้าของดาวเคราะห์เซียนของตัวเองรอบดาวเทียนหยุน เขาจับชนเผ่าดั้งเดิมเพื่อเอาโลหิตมาฝึกฝนวิชามารของตนเอง
เหยาซิงไห่ไม่เคยรับศิษย์คนใดยกเว้นหญิงสาวคนหนึ่ง นางเป็นลูกสาวสุดที่รักของเขา เขาสอนวิชานางทุกอย่างของตนและกระทั่งช่วยเปลี่ยนชีวิตนางโดยการต่อต้านสวรรค์เพื่อทำให้พลังสายเลือดของนางตื่นขึ้น
สองพ่อลูกใช้เวลาส่วนใหญ่บนดาวโลหิตและไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใครเลย แต่ยิ่งพวกเขาปลีกวิเวกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีคนก่อกวนพวกเขาน้อยลงเท่านั้น
อย่าพึ่งกล่าวถึงเรื่องนั้นตอนนี้เลย บนดาวปฐพี หนึ่งห้าดาวเคราะห์บริวารของดาวเทียนหยุน นอกค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่ในสำนักเสี่ยวหยวน จ้าวสำนักผู้น้อยแห่งเสี่ยวหยวน ซูหยุนซานกำลังยืนนิ่งอย่างเงียบๆ แม้เขาจะดูสงบนิ่งแต่กลับตีพัดในมือต่อเนื่องและมองออกไปไกล
เบื้องหลังเขามีผู้ติดตามอยู่สามคน!
ทั้งสามคนนี้เป็นชายชราผมขาวทั้งหมด แม้พวกเขาสวมชุดเรียบง่ายแต่กลับปลดปล่อยกลิ่นอายน่าหวาดกลัวทำให้เกิดความรู้สึกว่าบรรยากาศรอบๆเบาบางขึ้นไปอีก
ขอบด้านนอกของค่ายกลเคลื่อนย้ายมีศิษย์สำนักเสี่ยวหยวนอยู่หลายร้อยคน พวกเขากำลังนั่งอยู่หลายมุมของค่ายกลเคลื่อนย้ายและกำลังบ่มเพาะอย่างเงียบๆ พวกเขากำลังรอคอยคำสั่งให้ใช้พลังปราณในร่างกายเพื่อจำลองพลังปราณสวรรค์ในค่ายกลเคลื่อนย้ายให้กระตุ้นทำงาน
ขณะที่ฉวี่หยุนซานตบพัดหยกในมือเบาๆ ใบหน้าเขาไม่มีร่องรอยการหมดความอดทนใดๆและยังคงสงบนิ่ง
หลังจากนั้นไม่นานนักลำแสงสีชมพูเส้นหนึ่งโผล่มาจากเส้นขอบฟ้า ฉวี่หยุนซานขมวดคิ้วและเผยท่าทีทำอะไรไม่ถูก เขาเก็บพัดกลับไปและมองไปที่แสงชมพูนั้น
แสงชมพูรวดเร็วมากและในพริบตามันก็มาถึง แสงนี้สร้างเป็นวงกลมรอบพื้นที่ก่อนจะร่อนลงห่างจากฉวี่หยุนซานไปสิบฟุตเผยร่างเป็นสตรีสาวอายุราวๆยี่สิบ
สตรีนางนี้สวมชุดราตรีสีชมพู ผิวกายของนางเรียบเนียนและสดใสราวกับผลึก นางเหมือนคนที่เกิดจากหยก ปลดปล่อยเสน่ห์ชวนหลงใหลที่ทำให้ผู้คนหลงนางไปตามๆกัน
นางแก้มป่องและรีบเอ่ยขึ้นมา “ท่านพี่ ท่านสัญญากับข้าว่าตราบใดที่ข้าสามารถทำได้ ท่านจะปล่อยข้าไป!”
ฉวี่หยุนซานมองนางและตะโกน “ไร้สาระ! ทะเลวิญญาณมารตะวันออกไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าสามารถไปได้ด้วยระดับของเจ้าตอนนี้! แม้ท่านพ่อจะปิดด่านฝึกตน เขาก็สั่งการมาแล้วว่าไม่อนุญาตให้เจ้าไป! ซวนยี่ นำนางกลับไปที่สำนัก!”
หนึ่งในชายชราด้านหลังฉวี่หยุนซานก้าวเข้ามาข้างหน้าและยืนถัดจากนาง เขาคำนับฝ่ามือและเอ่ยขึ้น “นายหญิง อย่าทำให้ซวนยี่ลำบากใจ!”
หญิงสาวพ่นลมหายใจ นางไม่แม้แต่มองซวนยี่แต่กลับมองฉวี่หยุนซานและเอ่ยขึ้น “ท่านแม่ตกลง!”
ฉวี่หยุนซานกำลังจะเอ่ยออกมาแต่ทันใดนั้นสีหน้าเปลี่ยนไป เขาไม่ใส่ใจหญิงสาวอีกต่อไปขณะมองไปที่เส้นขอบฟ้าและเผยรอยยิ้ม
“น้องหวัง ข้ากำลังรอท่านอยู่!”