564. หนึ่งฝ่ามือ
หวังหลินสัมผัสพลังที่มิอาจจินตนาการได้ออกมาจากเขา เสียงรอยร้าวออกมาจากนิ้วก้อยของดัชนีนรกและกระจายไปที่ร่าง
ร่างหวังหลินถูกผลักกลับไปสามสิบฟุตก่อนนจะก้าวถอยตั้งหลักให้หยุดตัวเองไว้
ขณะที่คลื่นกระแทกกระจายออกมา เหล่าทหารปิศาจที่ถูกดัชนีนรกเอาชีวิตไปได้แตกสลายกลายเป็นฝุ่นผง
นอกเหนือจากนี้สิ่งก่อสร้างทุกอย่างภายในระยะรัศมีห้าลี้ได้แตกสลายลง ร่างกายและสิ่งก่อที่กำลังแตกสลายได้ระเบิดขึ้นสู่อากาศกระจายออกไปไกล
เหลือแต่เพียงคนที่มีระดับบ่มเพาะเทียบเท่าเซียนขั้นแปลงวิญญาณหรือสูงกว่าเท่านั้นจึงจะสามารถรอดพ้นพายุนี้ได้
ในเวลาเดียวกัน ควันสังหารที่เกิดจากศาสตร์สังหารเทพซึ่งมาจากเศษเลือดเนื้อแตกกระจายได้ลอยเข้าหาหวังหลินจากทุกทิศทาง
“วิชาทรงพลัง!” น้ำเสียงต่ำดังออกมาด้านหน้าหวังหลิน หลังจากฝุ่นผงสลายไป ร่างแม่ทัพปิศาจก็เผยออกมา
หลังจากพูดจบ ร่างกายเขาก็โอนเอนพร้อมกับบังคับตัวเองให้กระดอนกลับไป ปราณปิศาจในร่างกายเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งเพื่อหยุดยั้งไม่ให้ถูกส่งลอยกลับไปด้านหลัง ดวงตาเปล่งประกายราวกับสายฟ้าพร้อมกับก้าวไปข้างหน้าข้ามผ่านระยะสามสิบฟุตในทันที จากนั้นฝ่ามือยื่นออกไปและปะทะเข้ากับพื้น ฝ่ามือสร้างสายชมกรรโชกขึ้นมาและพื้นที่ภายในระยะห้าลี้ดูคล้ายกับกลายเป็นมหาสมุทร
ทั้งผืนทะเลร่ำร้องคำรามออกมาจากฝ่ามือแม่ทัพปิศาจและพุ่งเข้าหาหวังหลินราวกับกำลังคลั่ง
“ทนรับร้อยคลื่นทะเลปิศานของข้าได้ เจ้าจึงจะมีคุณสมบัติมาพูดกับข้า!”
หวังหลินถอยร่างกลับและสัมผัสปราณปิศาจที่เปลี่ยนแปลงไปรอบๆได้ทันที ปราณปิศาจปกติก็จับต้องไม่ได้อยู่แล้วแต่วิชานี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นทะเลของจริง ฝ่ามือนั้นทำให้ทะเลประดังเข้ามากระแทกใส่หวังหลิน
เทียบกับสิบพินาศแล้ว วิชาร้อยคลื่นทะเลปิศาจนี้กลับทรงพลังมากกว่า เจตนาที่แฝงอยู่ข้างในกลับแข็งแกร่งมากกว่าหมัดพินาศครั้งที่สิบเสียอีก!
เมื่อเผชิญกับทะเลปราณปิศาจ หวังหลินมีความคิดหนึ่งแล่นผ่านในใจทันที!
ตอนที่อยู่บนดาวซูวาคุ มีข่าวลือว่าเซียนทรงพลังเคยใช้วิชาหนึ่งเพื่อสร้างทะเลให้กลายเป็นหมอก ซึ่งจึงเกิดการปรากฏของทะเลปิศาจขึ้น!
ตอนที่หวังหลินได้ยินเรื่องนั้นแม้ว่าเขาจะเกิดอาการตกใจแต่กลับไม่ได้เชื่อ ทว่าวันนี้หวังหลินเห็นแม่ทัพปิสาจเปลี่ยนปราณปิศาจที่มองไม่เห็นให้กลายเป็นทะเลที่มองด้วยตาเปล่าได้ขึ้นมา แม้ว่าจะทำให้เขาตกใจแต่ส่วนใหญ่กลับทำให้หวังหลินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ลึกขึ้น
ขณะที่ทะเลปิศาจประเดประดังเข้ามา คลื่นแต่ละลูกก่อตัวซ้อนทับกันและกันจนกระทั่งซ้อนถึงสามสิบคลื่น หวังหลินเพ่งสมาธิและถอยตัวกลับอย่างต่อเนื่อง!
การถอยไม่ได้หมายความว่าเขาล้มเหลว มันคือการซื้อเวลาคิดหาทางเพื่อทำลาย!
คลื่นทะเลปิศาจสามสิบซ้อนทับซ้อนกันและไล่ตามหลังหวังหลิน ฝ่ามือเขาขยับอย่างรวดเร็วสร้างกฏเกณฑ์ป้องกันไม่ให้คลื่นเข้ามาใกล้!
อย่างไรก็ตามกฏเกณฑ์เหล่านี้เสมือนกระดาษบางๆต่อหน้าคลื่นทะเล พวกมันแตกสลายอย่างรวดเร็วและเลือนหายกลายเป็นจุดแสงสีดำ
ขณะที่คลื่นรุนแรงมากยิ่งขึ้น สายตาหวังหลินส่องสว่าง เขากำลังนำหินหยกโลหิตบางส่วนจากกระเป๋าของเหยาซีเชว่ออกมาเพื่อช่วยต่อต้าน ทว่าสัญลักษณ์ทองที่เขาดูดซับจากรูปปั้นตัวที่สองพลันปรากฎในศีรษะเขาทันที!
สัญลักษณ์ชิ้นนี้ประทับในใจเขา แต่หวังหลินปฏิเสธมันและนำหินหยกโลหิตออกมาจำนวนมาก เขาบดขยี้มันและเกิดคลื่นแสงโลหิตเต็มไปทั่วบริเวณ
แสงสีแดงโลหิตปกคลุมทั้งร่างหวังหลิน ชั่วขณะเดียวกันคลื่นทะเลทับซ้อนกันเข้ามาถึงและร่อนลงบนแสงสีแดงโลหิต
พลันเกิดเสียงดังกึกก้องหลายชุดราวกับคลื่นโกรธเกรี้ยวกำลังปะทะกับโขกหิน แสงสีแดงโลหิตกินเวลาอยู่หลายลมหายใจก่อนจะแตกสลายทันทีและคลื่นเข้ามาได้ใกล้ขึ้น
ขณะนั้นสัญลักษณ์ทองในจิตใจหวังหลินยิ่งเด่นชัดและตรึงตรากว่าเดิม! สายตาหวังหลินส่องสว่าง ด้วยระดับบ่มเพาะตอนนี้หมายถึงทั้งร่างกายใช้งานพลังปราณสวรรค์และเขาเชี่ยวชาญด้านการควบคุมความคิดของตนเอง ดังนั้นสิ่งอื่นไม่ควรปรากฏขึ้นในใจเขาระหว่างการต่อสู้
แต่ตอนนี้สัญลักษณ์ทองกระพริบรุนแรงในใจ ดูเหมือนมันพร้อมจะทะลวงออกให้เป็นอิสระและลอยออกจากความคิดหวังหลิน
ด้วยการแทรกแทรงของสัญลักษณ์ทอง หวังหลินจึงไม่สามารถคิดได้อย่างแจ่มชัด แม้แต่การเคลื่อนไหวของปราณสวรรค์ในร่างกายยังได้รับผลกระทบจากการกระพริบของสัญลักษณ์ทอง สายตาหวังหลินส่องสว่างขึ้น สายลมไม่เข้ามาจากถ้ำเปล่าโดยไม่มีเหตุผลและสัญลักษณ์นี้อาจจะไม่ปรากฎในใจเขาโดยไม่มีเหตุผล เขาตัดสินใจเปิดจิตใจและฝ่ามือส่งกฏเกณฑ์ออกไป ควันสีเทารวบรวมด้านหน้าร่างกายและดัชนีขวากวาดผ่านมันอย่างรวดเร็ว
ควันสีเทาบิดเบี้ยวและก่อเกิดเป็นสัญลักษณ์หนึ่งเส้น!
หลังจากกำลังวาดสัญลักษณ์ หวังหลินรู้สึกว่าในจิตใจเขายิ่งเด่นชัดมากขึ้นและเขาต้องกระตุ้นปลดปล่อยพลังที่อยู่ข้างในตนเอง
ขณะที่สัญลักษณ์ปรากฏ ดวงตาแม่ทัพปิศาจหรี่แคบลง จากมุมมองของเขา สัญลักษณ์นี้ไม่มีพลังอะไรเลยแต่หากหวังหลินใช้มันในช่วงเวลาวิกฤต มันไม่อาจนับเป็นสิ่งธรรมดา!
นิ้วหวังหลินไม่หยุดชะงัก เคลื่อนไหวข้ามสัญลักษณ์อีกครั้งเพื่อสร้างสัญลักษณ์สองเส้น!
สายตาแม่ทัพปิศาจยิ่งเคร่งเครียดขึ้น ตอนที่สัญลักษณ์นั้นก่อตัว เขารู้สึกราวกับกำลังเผชิญหน้ากับสรวงสวรรค์ทันที
นิ้วมือหวังหลินเคลื่อนไหวอีกครั้งและสร้างสัญลักษณ์เส้นที่สามขึ้น ตอนนี้สัญลักษณ์ทองในใจเขาหลอมละลายกลายเป็นพลังงานทองซึ่งรวมเข้ากับสัญลักษณ์ทองสามเส้นนั้น
เพียงชั่วขณะ พลังรุนแรงสายหนึ่งก็ออกมาจากสัญลักษณ์ พลังสายนี้แข็งแกร่งรุนแรงและทำให้จิตใจแม่ทัพปิศาจรัดกุมขึ้น
เขาเพิ่มคลื่นทะเลสามสิบคลื่นให้กลายเป็นหกสิบคลื่นและส่งมันออกไปทันที
หลังจากเกิดเสียงดังกึกก้อง สัญลักษณ์ปะทะเข้ากับคลื่นทะเลสามสิบคลื่นทำให้คลื่นพังทลายลงไปและสัญลักษณ์มืดสลัวลง จากนั้นสัญลักษณ์ทองก็เข้าปะทะกับคลื่นถัดไปอีกสามสิบคลื่นจนพวกมันก็พังทลายไปพร้อมกัน
แต่ในช่วงเวลานี้ ควันสีเทาสามสายปรากฏขึ้นมาตำแหน่งที่สัญลักษณ์เลือนหายไป มันแทงทะลุผ่านทะลปิศาจและพุ่งตรงไปที่แม่ทัพปิศาจ
ดวงตาแม่ทัพปิศาจหรี่แคบและร้องตะโกน “เปิดใช้งานชุดเกราะ!”
เพียงหนึ่งคำพูด ปราณปิศาจจำนวนหนึ่งพลันปรากฎห่างจากเขาด้านหน้าไปเจ็ดฟุต ควันสีเทาสามสายปะทะเข้ากับมันและเกิดการสั่นไหวรุนแรงก่อนจะกระดอนกลับ ตอนนี้พวกมันสลัวลงเล็กน้อยจากก่อนหน้านี้
แม่ทัพปิศาจดวงตาส่องสว่างจากนั้นหัวเราะออกมาและก้าวไปข้างหน้า “วิชาสัญลักษณ์ที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้! หวังหลิน ข้าประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ แต่ว่าดูเหมือนสัญลักษณ์จะมีมากกว่านี้ เจ้าแสดงมันทั้งหมดและต่อสู้กับข้าจะได้ไหม!”
หวังหลินเอ่ยถามอย่างเยือกเย็น “ฉือซานอยู่ที่ไหน?!”
“เราจะคุยกันหลังจากที่การต่อสู้จบลง!” แม่ทัพปิศาจหัวเราะและดวงตาส่องสว่างราวกับคบไฟ!
หวังหลินก้าวถอยกลับไปหลายก้าวและเอ่ยออกมา “เมื่อข้าใช้ไพ่ตาย ท่านจะตายแน่นอน!”
“โอ้? เช่นนั้นก็แสดงมันมาสิ หากมันสามารถฆ่าข้าได้จริงๆ ข้าจะพึงพอใจเป็นแน่!” สายตาแม่ทัพปิศาจส่องสว่างขึ้นขณะที่สร้างคลื่นทะเลอีกสี่สิบคลื่นเข้าปะทะใส่หวังหลิน
“หากข้าต้องฆ่าท่าน ข้าไม่มีทางพักอยู่ในแคว้นปิศาจฟ้าได้ จงดูให้ดีดี ท่านจะรู้เองว่าท่านรับมือกระบวนท่านี้ได้หรือไม่!” หวังหลินไม่ได้ใช้เวลากับคลื่นทะเลสี่สิบคลื่น แต่เขาลอยขึ้นไปบนอากาศหลายร้อยฟุตแทนและมองลงมา
ดวงตาแม่ทัพปิศาจเผยประกายแสงลึกลับและเพียงแค่คิด คลื่นทะเลสี่สิบคลื่นก็กลับเข้ามาหาเขา ตอนนี้มีคลื่นทะเลสี่สิบคลื่นล้อมรอบเขาราวกับมังกรสี่สิบตัว ตอนนี้เขาดูราวกับเทพปิศาจแห่งท้องทะเล!
หวังหลินลอยตัวกลางอากาศและหลับตาลง แม่ทัพปิศาจแข็งแกร่งมากกว่าที่เขาคิด หมัดสิบพินาศเป็นเพียงหนึ่งในวิชาของแม่ทัพปิศาจเท่านั้นแต่ว่าร้อยคลื่นทะเลปิศาจนี่สิที่เป็นวิชาสังหารของเขาจริงๆ ไม่ว่าแม่ทัพปิศาจจะมีความสามารถซ่อนไว้อีกมากมายแค่ไหน แม้ว่าหวังหลินจะเป็นคนอยากรู้อยากเห็นเขาก็ไม่ต้องการรู้!
แม้ว่าคนผู้นี้จะมีระดับบ่มเพาะขั้นแปลงวิญญาณระดับปลายสูงสุดเหมือนกับหวังหลิน ทว่าวิชาของเขาทรงพลังมากกว่าหวังหลินมากนัก
หวังหลินต้องชื่นชมเขาเมื่อรู้ว่าตนเองขาดความสามารถด้านวิชาเซียน!
แม้แต่ตอนที่เขาใช้สมบัติวิเศษ หวังหลินก็ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้ นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายร้อยปีที่หวังหลินเผชิญหน้ากับคนที่มีระดับบ่มเพาะเท่าเทียมกันและไม่เพียงแต่ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้ แต่หากเขาประมาทเพียงน้อยนิดก็ต้องแพ้แน่นอน!
ตอนนี้หวังหลินอยู่ในเมืองของแม่ทัพปิศาจด้วยเช่นกัน เป้าหมายของเขาคือช่วยฉือซานและหากได้รับบาดเจ็บอะไรขึ้นมา โอกาสในการช่วยฉือซานก็คงหายไป หลังจากหวังหลินเรียนรู้ว่าเขาไม่สามารถเอาชนะได้ เขาจึงมีความคิดกลลวงขึ้นมา!
หวังหลินหลับตาลอยตัวกลางอากาศและรื้อฟื้นประทับฝ่ามือยักษ์ที่เขาเห็นในแดนสวรรค์ ตอนนั้นเขาใช้เวลาไปมากเพื่อเรียนรู้มันและจากนั้นเขาก็ใช้ต่อสู้กับผีเสื้อสีชาด ทว่าฝ่ามือนั้นเป็นเพียงรูปทรงและไม่มีพลังอยู่เบื้องหลัง
ทว่าวิชาบทนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถมองออกได้ นอกจากนั้นแล้วตอนที่มันปรากฏขึ้นมาจะเกิดแรงกดดันที่ระดับเหนือจินตนาการ
ประทับฝ่ามือยักษ์ค่อยๆรวมตัวในความคิดและจิตใจหวังหลินก็เปลี่ยนไปตอนที่เขากำลังทำความเข้าใจมัน ตอนนี้สายตาหวังหลินเบิกกว้างและเผยสีสันที่มิอาจอธิบายออกมาได้
หวังหลินใช้สายตาจดจ้องลงไปบนพื้นและให้ความรู้สึกเหมือนเขากำลังมองโลกทั้งใบ ส่วนแม่ทัพปิศาจตอนนี้เขามองดูเหมือนมดตัวหนึ่ง
เมื่อแม่ทัพปิศาจเห็นสายตานี้ จิตใจจึงสั่นอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรก!
“นี่มัน…สายตานี้เป็นสิ่งที่ข้ารู้สึกตอนที่ข้ามองปิศาจโบราณในอารามเท่านั้น แม้แต่จักรพรรดิปิศาจก็ยังไม่ได้แบบนี้!” ร่างแม่ทัพปิศาจสั่นสะท้าน คลื่นรอบตัวเขาเริ่มหลุดออกจากการควบคุม
หวังหลินยื่นมือขวาออกไปและประทับลง ฝ่ามือนี้ทำให้ท้องฟ้ามืดมิดลงและพลังลึกลับหลากหลายอย่างรวบรวมไว้ด้านล่างหวังหลินพร้อมกับก่อเปิดประทับฝ่ามือขนาดใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ
จากนั้นหวังหลินประทับฝ่ามือลงไป!