Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 632

Cover Renegade Immortal 1

632. เมล็ดพันธุ์ทำลายความสัมพันธ์กับเทียนหยุน

หวู่หม่าอยู่ถัดจากเฉินหลงได้เกิดสีหน้าคิดไม่ตกและกระซิบขึ้นมา “ร่างเฉินฮั่วถูกพวกมันกินไปแล้ว แม้แต่วิญญาณดั้งเดิมก็หนีไม่รอด…”

เฉินหลงเผยสีหน้าเจ็บปวด ในสิบสองกระบี่นอกจากเว่ยหยานที่ตายไปยังเหลือซื่อจูและฮ่ายจู้ที่อยู่ข้างนอก สมาชิกที่เหลืออีกเก้าคนต่างติดตามกรีดเข้ามาที่เหวนรก

กรีดได้อ้างว่าหลังจากเขาสำรวจสถานที่แห่งนี้ไปสักพักจึงสรุปว่าในเหวนรกนี้มีสมบัติมหาศาลที่สุด ทุกคนนอกจากเฉินหลงจึงได้ถูกคำพูดของกรีดล่อลวงเข้ามา

โดยเฉพาะเมื่อเห็นสมบัติมากมายนับไม่ถ้วนและสิ่งแปลกใหม่ที่ทำให้สายตาทุกคนลุกวาวต่อคนที่เข้ามาในดินแดนวิญญาณปิศาจ

ต้องกล่าวว่าเป้าหมายของแต่ละคนที่มาที่นี่นอกจากการได้รับมรดกสืบทอดของปิศาจโบราณแล้วยังคือการได้รับของเหล่านี้ด้วย

เฉินหลงสงบนิ่งมาตลอด แม้จะรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติก็ไม่อาจหาเหตุผลใดมาปฏิเสธได้ ทว่าเขาวางแผนขึ้นมาแทนว่าจะไม่รวมกลุ่มกันทั้งหมดแต่เลือกที่จะแบ่งออกเป็นสามกลุ่มโดยมีโจวหนิวเป็นผู้นำในการเข้าทางเข้าที่แตกต่างกัน พวกเขาสื่อสารกันและกันและทิ้งซื่อจูและฮ่ายจู้ไว้ข้างนอก

ตอนที่พวกเขาเข้ามาในเหวนรก ทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่นมาก ทว่ามันได้เปลี่ยนไปตอนที่กรีดนำของบางอย่างออกมาจากถ้ำ!

พวกเขาถูกอสูรลึกลับพวกนี้โจมตีทันทีและถูกกักขังไว้ที่นี่ ทั้งหมดไม่สามารถหนีออกไปได้และถูกขังมาราวๆร้อยปีแล้ว!

แม้ว่าหนึ่งร้อยปีจะฟังดูเชื่องช้า ทว่ามันกลับผ่านไปไวมากสำหรับพวกเขา เหวนรกไม่เห็นเดือนไม่เห็นตะวัน หมอกสีดำล้อมรอบพวกเขาราวกับว่าหากกล้าออกไปจะถูกพวกอสูรนับไม่ถ้วนจู่โจมในทันที

ศิษย์น้องเฉินฮัวถึงกับเสียชีวิตระหว่างการพยายามทะลวงผ่านออกไป แม้ว่าเขาจะใช้ปราณกระบี่ของอาจารย์ก่อนตายและฆ่าอสูรบางส่วนไปบ้าง มันก็ยังมีมากเกินไป!

เฉินหลงรู้ว่าหากพวกเขารวบรวมปราณกระบี่ทั้งหมดเอาไว้ก็ยังไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้

“นี่มันไม่ไหวแล้ว!” เฉินหลงสูดหายใจลึก ยืนขึ้นมองกรีด

การกระทำของเขาทำให้ศิษย์สำนักกระบี่ต้าหลัวอีกสี่คนยืนขึ้นทันที พวกเขายืนในตำแหน่งที่ล้อมรอบกรีด

กรีดส่งเสียงหัวเราะแหบพร่าพร้อมกับท่าทางยังคงมืดมน

“หลานชาย นี่มันหมายความว่าอะไร?”

เฉินหลงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ผู้อาวุโสกรีด ผู้น้อยอยากรู้ว่าท่านได้รับอะไรมาจากถ้ำนั่น!”

กรีดเผยสีหน้ายิ้มเยาะพลางกล่าวออกมา “เจ้าอยากรู้หรือ?” สิ้นคำพลันตบกระเป๋าและไข่ทรงรีปรากฏในฝ่ามือ

ใข่ฟองนี้ไม่มีสัญญาณชีวิตอันใด พวกมันถูกหุ้มด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย

สายตาเฉินหลงจับจ้องไปที่ไข่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็เข้าใจบางอย่าง ระดับบ่มเพาะของกรีดสัมพันธ์กับความตายดังนั้นจึงมีมีเหตุผลที่เขาจะใช้สิ่งนี้ในการช่วยระดับบ่มเพาะ

ทว่าเขาไม่รู้ว่ากรีดไปเจออะไรกันแน่

“เด็กน้อย ข้าจะทำเป็นไม่เห็นน้ำเสียงไร้ความเคารพเพื่อเห็นแก่หน้าอาจารย์เจ้าสักครั้ง หากมีครั้งต่อไปก็อย่ากล่าวหาว่าข้าโหดเหี้ยม ฮึ่ม! ตอนที่ข้าเริ่มฝึกเซียน เจ้ายังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ ไม่มีใครที่กล้าพูดกับข้าแบบนี้แล้วยังรอดไปได้!” ดวงตาของกรีดเปลี่ยนเป็นหนาวเย็น แม้น้ำเสียงจะบางเบาแต่ในหูของศิษย์สำนักกระบี่ต้าหลัวมันดุจเสียงสายฟ้าคำราม นอกจากเฉินหลงแล้วทุกคนต่างถอยกลับไปตั้งหลักโดยไม่รู้ตัว

เฉินหลงก้มศีรษะลงแฝงจิตสังหารกระพริบวาบ เขากล่าวขึ้นด้วยความเคารพ “อย่าดุด่าพวกเราเลยท่านผู้อาวุโส ผู้น้อยเพียงแค่ใจร้อนเพราะเราถูกขังอยู่ที่นี่มาเกือบร้อยปี”

กรีดหลับตาและเอ่ยช้าๆ “เร่งรีบอันใด? อย่างมากอาจารย์พวกเจ้าจะมาถึงในอีกร้อยปีและจะช่วยพวกเจ้าทั้งหมดเอง”

เฉินหลงนั่งสมาธิและเริ่มคิด เขาค้นพบเรื่องประหลาดเกี่ยวกับกรีดค้นนี้แล้ว กรีดดูเหมือนต้องการอยู่ที่นี่และไม่จากไปไหน มันต้องมีเหตุเบื้องหลัง!

ขณะที่เหล่าศิษย์สำนักกระบี่ต้าหลัวกำลังขัดแย้งกับกรีด หวังหลินกำลังมุ่งหน้ามาที่ทางออกของเหวนรกในแคว้นปิศาจอัคคี หวังหลินได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเหวนรกจากเหยาซีเชว่เรียบร้อยแล้ว

ตามที่เหยาซีเชว่เล่ามา ป้ายสิทธิ์ที่ทำให้แม้แต่คนเช่นเทียนหยุนมีสายตาเปลี่ยนเป็นสีแดงนั้นได้อยู่ส่วนลึกของเหวนรก

หวังหลินยังรู้เรื่องกรีดและศิษย์สำนักกระบี่ต้าหลัวที่หายไปอย่างลึกลับเมื่อร้อยปีก่อนด้วย หวังหลินจึงกล้าเดาว่ากลุ่มของกรีดก็เข้าไปในเหวนรกเช่นกัน

หากกลุ่มของกรีดออกมานั้นไม่นับว่าเป็นปัญหาใด ทว่าหากยังอยู่ข้างใน หวังหลินต้องเตรียมการทางทางออกในแคว้นปิศาจอัคคีให้เหมาะสม

หวังหลินกำลังใช้วิชาเคลื่อนย้ายขั้นสูงดังนั้นจึงเคลื่อนเข้าหาทางออกของเหวนรกในแคว้นปิศาจอัคคีอย่างรวดเร็ว

ขณะที่เหาะเหิน หวังหลินอดไม่ได้ที่จะนึกถึงฉากเหตุการณ์ตอนที่รวมกับร่างสีเทาระหว่างพบเจอประสบการณ์สืบทอดมรดกของปิศาจโบราณ ร่างชุดเทาคือร่างที่เขาฝึกฝนศาสตร์สังหารเทพ ในขณะที่รวมเข้ากับร่างนั้นหวังหลินรู้สึกเหมือนได้รับการรู้แจ้งบางอย่างและจำนวนเส้นพลังสังหารของเขาเพิ่มขึ้นจากหนึ่งล้านสายไปสิบล้านสาย

อย่างไรก็ตามในชั่วพริบตาที่บรรลุถึงสิบล้านนั้นเอง ผนึกแห่งชีวิตทั้งหมดได้ผสานเข้าด้วยกันก่อเกิดเป็นสัญลักษณ์ประหลาด!

สัญลักษณ์ชิ้นนี้บรรจุพลังอำนาจของพลังสังหารสิบล้านสายเอาไว้ ในตอนที่มันปรากฏขึ้นมันหลุดจากการควบคุมของหวังหลินทันทีและประทับระหว่างคิ้วของเขา

สัญลักษณ์ชิ้นนี้แทงทะลุผ่านร่างกายและร่อนตรงเข้าไปบนวิญญาณดั้งเดิม ผสานเข้ากับพลังด้งเดิมในวิญญษณเขา เมื่อทั้งสองอย่างรวมกันจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงลึกลับที่ตัดการเชื่อมต่อระหว่างวิญญาณดั้งเดิมและร่างกายของเขาในทันที

จากนั้นวิญญาณดั้งเดิมหลอมละลายในสามลมหายใจและถูกสัญลักษณ์นั้นดูดซับไป ต่อจากนั้นพลังชีวิตในร่างกายเขาทั้งหมดเปลี่ยนเป็นควันสีเทาสายหนึ่งและถูกสัญลักษณ์ดูดซับไปด้วยเช่นกัน

หวังหลินมองเรื่องทั้งหมดนั้นในมุมมองบุคคลที่สาม หลังผ่านประสบการณ์ครั้งแรกนี้ ดวงตาหวังหลินเผยความหนาวเย็นหนาแน่นและจิตสังหารมหึมา

หวังหลินมองร่างตัวเองและวิญญาณดั้งเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างถูกสัญลักษณ์ที่เกิดจากพลังสังหารสิบล้านสายนี้ดูดซับไป จากนั้นมันได้โผล่ออกมาจากร่างกายเหมือนกาฝากที่ได้รับการหล่อเลี้ยงจากร่างต้นอย่างสมบูรณ์

สัญลักษณ์ลอยออกมาด้วยกลิ่นคาวเลือดและเกิดเสียงดังปัง เปลี่ยนเป็นพลังงานสังหารสายหนึ่ง

นี่คือพลังสังหารของจริง!

จิตใจหวังหลินสั่นเทา เพียงแค่คิดถึงฉากเหตุการณ์นั้นกลับทำให้หวังหลินเกิดความรู้สึกหวาดกลัว

เขาสูดหายใจลึก จิตสังหารและความเย็นเยียบในแววตากำลังระเบิดพุ่งพล่านแต่หวังหลินซ่อนมันไว้ส่วนลึกของตนเองทันที

หวังหลินไม่สามารถแบ่งแยกได้ว่าฉากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมิติลึกลับนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม ทว่าด้วยความเข้าใจศาสตร์สังหารเทพของหวังหลิน เขากลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่ของปลอม!

หวังหลินนึกถึงสภาวะลึกลับที่เขาอยู่ข้างใน ราวกับว่าช่วงเวลานั้นหวนคืนสู่ร่างกายและทำให้เขารู้แจ้งวิชาให้เสร็จสมบูรณ์ได้ทันที สิ่งนี้ยังทำให้หวังหลินเข้าใจวิชาของเขาได้อย่างลึกซึ้งอีกด้วย

ของขวัญที่สวรรค์มอบให้นั้นสามารถทำให้สร้างวิชาที่เป็นของเขาเองภายใต้สภาวะลึกลับนี้ จากนั้นด้วยการจำลองนับครั้งไม่ถ้วนพวกเขาจะสามารถปรับแต่วิชาได้มากมายจนในที่สุดก็เข้าสู่สภาวะใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบ

ซุนหยุนเป็นคนที่ทำเช่นนั้นได้!

พรสวรรค์ของหวังหลินเปลี่ยนไปมากในช่วงเวลาแปดร้อยปีนี้และเปลี่ยนไปยิ่งขึ้นด้วยร่างเทพของเขา ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบพรสวรรค์ของซุนหยุนในสายตาของปิศาจโบราณแล้ว พรสวรรค์ของหวังหลินยังห่างชั้นอยู่มาก

เขาไม่สามารถสร้างวิชาของตัวเองขึ้นมาได้แต่ด้วยสติปัญญาและการช่างสังเกต หวังหลินจึงได้รับความกระจ่างชัดในช่วงเวลาความเป็นไปได้ที่สั้นที่สุดในมิติลึกลับแห่งนั้น หวังหลินยังมีความมุ่งมั่นมากกว่าซุนหยุนและหลอมรวมเข้าร่างชุดเทาตรงๆที่กำลังหายไปด้วยอัตราที่รวดเร็วที่สุด

ต้องกล่าวว่าซุนหยุนนั้นเพียงแค่ได้รับความกระจ่างของตนเองหลังจากภาพมายาส่วนใหญ่เลือนหายไป

มุมมองเรื่องความเด็ดขาดของหวังหลินนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะเปรียบเทียบได้ แม้แต่เทียนหยุนก็ไม่สามารถเดาได้ว่าหวังหลินจะรู้ความลับของศาสตร์สังหารเทพระหว่างการสืบทอดมรดกของปิศาจโบราณ!

“เทียนหยุน! ข้าเคยพูดว่าหากท่านไม่หันกลับมาหาข้า ข้าจะไม่หันกลับไปหาท่าน…” หวังหลินเอ่ยน้ำเสียงเย็นเยียบขณะที่มันดังก้องในท้องฟ้าราวกับสายลม

“ศาสตร์สังหารเทพน่าอัศจรรย์จริงๆ! แต่ว่าเทียนหยุนเป็นคนโหดร้ายเกินไป โชคดีที่ความเข้าใจของข้าต่ำมากและถูกจำกัดเพียงแค่หนึ่งล้านพลังสังหาร หากความเข้าใจของข้ามากกว่านี้และบรรลุสิบล้านพลังสังหาร ข้ากลัวว่าข้าจะกลายเป็นหนึ่งสัญลักษณ์ กลายเป็นพลังสังหารที่แท้จริงหนึ่งสายและถูกท่านดูดซับไป!”

หวังหลินเหาะเหินและปล่อยลมหายใจช่วงใหญ่

“เทียนหยุนชุดเทาในตอนนั้นได้กล่าวว่าเขาสอนศาสตร์สังหารเทพให้ข้าเนื่องจากเขตแดนของข้า…ตอนนั้นข้าไม่คิดอะไรมากนัก ตอนนี้เมื่อคิดสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ข้ากลัวว่าเป็นเพราะเทียนหยุนเห็นข้าฝึกเขตแดนแห่งชีวิตและความตายบนดาวซูซาคุซึ่งเขาจึงตัดสินใจรับข้าเป็นศิษย์!”

หวังหลินหลับตา จากนั้นลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตากระจ่างสดใส เคลื่อนที่พริบตาและเลือนหายไป

“ข้าหวาดระแวงเรื่องนี้เล็กน้อย ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถตัดสินใจได้ทันที เทียนหยุนเมตตาต่อข้าและตอนนั้นข้าก็เลือกเรียนศาสตร์สังหารเทพด้วยตัวเองแต่เขาดูเหมือนจะผลักข้า…ข้าต้องสังเกตเรื่องนี้ในอนาคตให้ละเอียด อย่างไรก็ตามเทียนหยุนทรงพลังมากเกินไป หากข้าไม่มีพลังอำนาจ ข้าไม่สามารถปล่อยให้เขารู้เรื่องที่ข้ารู้ทั้งหมดนี้ได้…ส่วนศาสตร์สังหารเทพนั้นข้าจำเป็นต้องศึกษามันให้ละเอียดเพื่อหาทางเปิดมันออกมา!”

หวังหลินอยู่ที่ทางออกของเหวนรกในแคว้นปิศาจอัคคีอีกหลายวัน เขาไม่ได้วางทรงพลังหรือผนึกกฏเกณฑ์ใดๆ แต่กลับทำตรงกันข้ามคือทิ้งกฏเกณฑ์ง่ายๆที่ซ่อนตัวไว้อย่างดีอีกด้วย

กฏเกณฑ์นี้ไม่มีพลังโจมตีแต่สามารถติดตามรอยได้ หากมีคนออกมา กฏเกณฑ์จะประทับใส่พวกเขาเพื่อให้หวังหลินสามารถติดตามได้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะตรวจจับตราประทับเว้นแต่จะมีระดับสูงส่งจริงๆ

หลังทำเรื่องทั้งหมดนี้ หวังหลินโยนเรื่องว้าวุ่นใจทั้งหมดออกไปและเหาะเหินไปที่แคว้นปิศาจวารี เขากำลังเข้าไปหุบเหวนรกจากที่นั่นและใช้ความพยายามทั้งหมดของเขาเพื่อค้นหาโจวยี่!

โจวยี่คือผู้มีพระคุณของเขา ดังนั้นหวังหลินจึงต้องการช่วย!

“นอกจากการช่วยผู้อาวุโสโจวยี่แล้ว ยังมีเรื่อง…กระบี่มั่งคั่ง…” ขณะที่เคลื่อนที่พริบตา ดวงตาหวังหลินส่องสว่าง ตอนนั้นในช่วงการเก็บเกี่ยว หวังหลินสามารถเห็นเจ้ากระบี่มั่งคั่งได้อย่างชัดเจน…หลายวันต่อมาหลังจากนั้นในทางทิศตะวันตกของแคว้นปิศาจวารี มีสถานที่แห่งหนึ่งที่เรียกกันว่าทะเลเมฆ​ ที่นี่ปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆมากที่สุด ได้เกิดรอยร้าวลึกบนพื้นในทะเลก้อนเมฆยื่นยาวออกไปหลายลี้ ที่นี่คือหนึ่งในทางเข้าสู่หุบเหวนรก!

เซียนสี่คน สองชายสองสตรียืนอยู่นอกทะเลเมฆและมองเข้าไปข้างใน!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version