Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 927

Cover Renegade Immortal 1

927. นายท่านไม่รู้จักข้า

หวังหลินดวงตาส่องสว่างและเหยียดยิ้มในใจ ทว่าเขาพุ่งตัวเข้าหาสตรีชุดน้ำเงินก่อนอันดับแรก ซิ่วถิงสีหน้ามืดมนพลางติดตามไปอย่างกระชั้นชิด ทั้งสองพุ่งไปตามเส้นขอบฟ้า

มีเซียนมากมายกำลังฆ่าฟัน สมบัติวิเศษทุกชนิดปลิวว่อนไปทั่ว ซิ่วถิงกระหายเลือดมาก ครั้งใดที่เขาเผชิญกับคนที่มีระดับต่ำกว่า จะโจมตีทันทีซึ่งทำให้เขาช้าลงเล็กน้อย

หวังหลินมีประสบการณ์มากกว่าพันปีจึงมองเจตนาของซิ่วถิงออก เขาไม่ได้ชี้นำหรือใช้วิธีเดียวกับซิ่วถิง หวังหลินใช้ความเร็วไม่มีตกพุ่งใส่สตรีชุดน้ำเงินแทน

ระหว่างการต่อสู้โกลาหลนี้ สตรีชุดน้ำเงินมองเห็นการกระทำของหวังหลินและซิ่วถิงอย่างชัดเจน นางสงบนิ่งไม่มองซิ่วถิงแต่ใช้สายตาเย็นชามองหวังหลินเท่านั้น

หวังหลินเคลื่อนร่างเร็วขึ้นและเร็วขึ้นระหว่างเหล่าเซียน วินาทีถัดมาเขาก็อยู่ในระยะพันฟุต ฝ่ามือกำหมัดและชกออกไปอย่างโหดเหี้ยม!

กำปั้นกระแทกใส่ความว่างเปล่า เสียงดังคำรามกึกก้อง ระลอกคลื่นมากมายแพร่กระจายก่อเกิดเป็นคลื่นกระแทกทรงพลังพุ่งตรงเข้าใส่สตรีชุดน้ำเงิน

หวังหลินไม่หยุดแค่นั้น เขาพุ่งตัวตามหลังคลื่นกระแทกไปด้วย

ซิ่วถิงดวงตาส่องสว่างขึ้นและเยาะเย้ยห่างจากหวังหลินไม่ไกล ไม่เพียงแต่เขาจะไม่เข้าใกล้แต่กลับถอยไปด้านข้าง แววตาแฝงความเยาะเย้ยเอาไว้

‘ซิ่วมู่ เจ้าบ่มเพาะเซียนมานานหลายปีแต่กลับใช้แผนตื้นๆแค่นี้ เห็นได้ชัดว่านางมีสถานะสูงส่งในพันธมิตรเซียน ไม่เช่นนั้นนางคงไม่เป็นผู้นำการรบครั้งนี้ แม้ระดับบ่มเพาะของนางไม่สูงส่ง นางต้องมีองครักษ์แข็งแกร่งแน่นอน เจ้าอยากจะล่อข้าเข้าไปฆ่านางหรือ? คิดว่าข้าเป็นเด็กสามขวบ? ข้าอยากจะเห็นเสียจริงว่าเจ้าจะจบลงอย่างไร!’

เขาจ้องหวังหลินที่กำลังเข้าไปใกล้สตรีสาว ใบหน้าเยาะเย้ยมากกว่าเดิม

หวังหลินติดตามคลื่นกระแทกของตัวเองไปโดยไม่ชะลอความเร็วแม้แต่น้อย คลื่นกระแทกสั่นสะเทือนปฐพีและเคลื่อนไหวดุจสายฟ้าฟาด มาถึงเบื้องหน้าหญิงสาวห่างออกไปร้อยฟุตในพริบตา

แววตานางฉายแววเย็นชา นางรู้ว่าเผ่ามารยักษ์ภายใต้ตัวเองไม่สามารถหยุดคนผู้นี้ได้ อย่างไรก็ตามนางก็ยกแขนซ้ายขึ้นมาโดยไม่มีอาการตื่นตระหนก กดลงความว่างเปล่าเบื้องล่าง

เพียงชั่วขณะนั้นดาวเคราะห์เซียนที่เผ่ามารยักษ์ผู้หนึ่งกำลังแบกอยู่พลันเริ่มหมุนวงกลมด้วยความเร็วขีดสุด ระลอกคลื่นสีแดงแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

ระลอกคลื่นสีแดงมีกลิ่นอายทำลายล้างอยู่ด้วย ขณะที่กระจายออกมา ดาวเคราะห์เซียนดวงนั้นหดเล็กลงสังเกตได้ด้วยตาเปล่า

ระลอกคลื่นของหวังหลินปะทะใส่ระลอกคลื่นสีแดงเกิดเสียงปังดังสนั่น ระลอกคลื่นแตกสลายทันที

อีกทั้งระลอกคลื่นสีแดงเข้มแพร่กระจายเข้าหาหวังหลินโดยไร้สิ่งขัดขวางด้วย

ซิ่วถิงเฝ้ามองด้วยความรู้สึกยินดีอยู่ในใจ ซิ่วมู่ผู้นี้ประเมินตัวเองสูงไปจริงๆ หากตายที่นี่คงน่ายินดีนัก! แต่ขณะที่ซิ่วถิงกำลังรู้สึกมีความสุข หวังหลินซึ่งอยู่ใกล้ระลอกคลื่นสีแดงพลันหันกลับมามองซิ่วถิงด้วยรอยยิ้ม

เมื่อใบหน้าเขาอยู่ในสายตาซิ่วถิง รู้สึกสั่นสะท้านทันที

‘ไม่ดีแล้ว!’ ซิ่วถิงเชื่อว่าตัวเองเข้าใจหวังหลิน เมื่อเห็นหวังหลินทำสีหน้าแบบนั้นตอนอยู่ในช่วงเวลาความเป็นความตาย ทำให้ความคิดเขาสั่นสะท้าน

ขณะนั้นเองเตาหลอมยักษ์ปรากฏขึ้นรอบตัวหวังหลิน หวังหลินชี้แขนขวาใส่ซิ่วถิงพร้อมกับเสียงเตาหลอมดังกึกก้อง “สลับตำแหน่ง!”

ในเสี้ยววินาทีนั้น พลังอำนาจของมันทำให้ซิ่วถิงเกิดความคิดอื้ออึง มันไม่มีเวลาให้เขาตอบสนองและพลังนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะต่อต้านได้ พลังล้อมรอบร่างกายเขาและรู้สึกราวกับเวลาหยุดหมุน ระลอกคลื่นสีแดงอยู่ห่างจากหวังหลินไม่เกินหนึ่งฟุตพลันสลับตำแหน่งกับซิ่วถิง!

ราวกับโลกกลับตาลปัตร!

วินาทีถัดมาเวลาดูเหมือนกลับคืนสู่ปกติ ความจริงแล้วเวลาไม่ได้หยุดเดิน ทั้งหมดเป็นภาพหลอนที่ซิ่วถิงรู้สึกเนื่องจากวิชาใช้ออกมาเร็วเกินไป

เมื่อเขารู้สึกตัวได้ เส้นผมเส้นขนทั้งหมดบนร่างกายตั้งชูชัน สัมผัสความเป็นความตายล้อมรอบตัวเอง ภาพวิสัยทัศน์เต็มไปด้วยสีแดงเถือกแต่นี่ไม่ใช่เวลามาคิดอะไรแบบนั้น ฝ่ามือสร้างผนึกกระตุ้นพลังเทพต้นกำเนิดอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายหดตัว เพียงพริบตาก็มีม่านมากกว่าร้อยชั้นก่อขึ้นรอบตัวเอง!

ม่านพลังนี้สร้างขึ้นจากพลังเทพดั้งเดิมพร้อมกับวิชาเทพที่ตระกูลซิ่วส่งต่อกันมา มองไกลๆซิ่วถิงเหมือนตะวันที่ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง พริบตาที่ม่านพลังปรากฏขึ้นรอบตัวเขา ระลอกคลื่นสีแดงเข้มก็เข้ามาใกล้

ปัง ปัง ปัง ปัง!!

ระลอกคลื่นกระหน่ำใส่เขาไม่มีหยุด พริบตาเดียวม่านพลังกว่าสามสิบชั้นพลันแตกสลาย!

เหตุการณ์นี้ทำให้ซิ่วถิงหนังศีรษะด้านชา เขาต้องล่าถอยกลับมาอีก ขณะที่ระลอกคลื่นสีแดงแพร่กระจายเข้าไป ม่านพลังมากกว่าสิบชั้นรอบตัวแตกสลาย

“ซิ่วมู่!!!”

ซิ่วถิงร้องคำราม ความเกลียดชังพุ่งขึ้นสูงสุด ระลอกคลื่นสีแดงเร็วมากกว่าซิ่วถิง ไม่ว่าเขาจะถอยหนีได้ไกลแค่ไหนมันก็ยังไล่ทันและกระหน่ำใส่ไม่มีหยุด

ปัง ปัง ปัง!

วินาทีที่ระลอกคลื่นผ่านซิ่วถิงไป ม่านพลังทั้งหมดรอบตัวเขาแตกสลาย เขารู้สึกว่าร่างกายถูกดึงอย่างแรงจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

ซิ่วถิงนำหินหยกออกมาร้อยก้อน ไม่มีเวลาคิดให้รู้สึกเจ็บปวด เขาบีบสลายพวกมันทั้งหมดจนมีม่านแสงสีแตกต่างกันมากกว่าร้อยชั้นปรากฏรอบตัวเอง

อีกทั้งเขายังนำสมบัติจำนวนมากออกมาต่อต้านระลอกคลื่นด้วย

อย่างไรก็ตามวินาทีที่ม่านพลังพวกนี้ก่อตัวขึ้นมามันก็แตกสลายทันที กระทั่งสมบัติวิเศษยังแตกเป็นเสี่ยงๆไปด้วย แม้จะเป็นแบบนั้นระลอกคลื่นก็เริ่มอ่อนแอลงจนซิ่วถิงเริ่มจะต่อต้านได้แล้ว ซึ่งมันไม่ใช่การโจมตีแบบกำหนดเป้าหมาย มันกระจายพลังออกมาจนพลังอำนาจแบ่งออกไปหลายแห่งแล้ว

กระนั้นมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ซิ่วถิงจะต่อต้านได้ เขาใช้พลังเทพดั้งเดิมไปจำนวนมากและใช้สมบัติวิเศษไปในการต่อสู้ เมื่อมีโอกาสจึงพลันกระอักโลหิตแฝงต้นกำเนิดเทพเอาไว้ โลหิตแพร่กระจายไปรอบตัวพร้อมกับเขาหลบหนีออกมาจากระลอกคลื่น

หากเขาใช้วิชาหลบหนีโลหิตตอนที่ระลอกคลื่นแข็งแกร่ง เขาอาจจะไม่สามารถหลบหนีได้ แต่ตอนนี้ระลอกคลื่นอ่อนแอลงแล้วเขาจึงมีโอกาสหนี

เขาไม่อยากจะใช้วิชาหลบหนีโลหิตจริงๆเว้นแต่จะเป็นทางเลือกสุดท้ายในการต่อสู้ แม้มันจะเป็นเพียงชั่วครู่เดียวแต่ในความคิดเขา อันตรายที่เผชิญอยู่นี้ไม่น้อยไปกว่าตอนที่เขาเผชิญหน้ากับหวังหลินในเส้นทางสู่สวรรค์เลย!

ความเกลียดชังต่อหวังหลินเพิ่มขึ้นมหาศาลเกินอธิบายออกมาได้ เขาหันกลับและร้องคำราม “ซิ่วมู่ เจ้า…” เขาอยากจะใช้เสียงคำรามนี้เปิดเผยท่าทีของหวังหลินต่อเหล่าเซียนทุกชั้นฟ้าและเหล่าเซียนเฒ่าที่กำลังสงสัยหวังหลิน

ทว่าขณะที่เขากำลังจะพูดออกมานั้น คำพูดเขาถูกเสียงหัวเราะหวังหลินกลบจนมิด หวังหลินพุ่งเข้าหาระลอกคลื่นสีแดงพร้อมกับซิ่วถิงล่าถอย ขณะเดียวกันก็หัวเราะไปด้วย “สหายเซียนซิ่วช่างน่าเลื่อมใสโดยแท้ เมื่อเจ้าช่วยข้าทำให้ระลอกคลื่นอ่อนแอลงได้ ข้าซิ่วมู่จะไม่มีวันลืม หากข้าสามารถฆ่านางได้ เมื่อนั้นเจ้าก็จะได้ความดีความชอบเช่นกัน!”

หวังหลินเอ่ยออกมาเคลื่อนไหวรวดเร็วขีดสุด ระลอกคลื่นอ่อนแอลงไปแล้วจากซิ่วถิง สองดัชนีหวังหลินก่อเป็นรูปร่างกระบี่ ร่างเทพโบราณผสานเข้ากับพลังดั้งเดิมและปลาหยินหยางเข้าปะทะกับระลอกคลื่นสีแดง

ปัง!

สิ้นเสียงดังสนั่น หวังหลินพุ่งเข้าไปในระลอกคลื่นโดยไม่มีสิ่งใดขัดขวาง!

ซิ่วถิงเห็นทั้งหมดนี้ ความโกรธเกรี้ยวปะทุเต็มสองตา แสงโลหิตรอบตัวเองแตกสลายเนื่องจากความโกรธและเขาเดินโซเซไปด้านหลัง ความโกรธทำให้จิตใจเจ็บปวดและกระอักโลหิตออกมาอีก

โลหิตนี้ทำให้เขามีสติ ระงับความโกรธตัวเอง เผยสายตาเย็นชาก่อนจะถอยหนีโดยไม่ลังเล

หวังหลินถอนหายใจออกมาในใจ ซิ่วถิงเป็นตัวแถมจริงๆ แม้จะโกรธเกรี้ยวแต่ก็สามารถฟื้นคืนสติได้อย่างรวดเร็ว หวังหลินพยายามฆ่าซิ่วถิงด้วยการยืมมือคนอื่นสังหาร หากสำเร็จคงเป็นโอกาสอันดีทีเดียว

หวังหลินไม่เคยลืมเลือนว่ายังมีเศษเสี้ยวต้นตอพลังดั้งเดิมในร่างซิ่วถิง ตอนนั้นเขาฆ่าร่างอวตารของซิ่วถิงและนำต้นตอพลังนั้นออกมาครึ่งนึง

ตอนนี้เขาเมินเฉยซิ่วถิงแล้ว หวังหลินพุ่งเข้าไปในระลอกคลื่นสีแดง จ้องมองสตรีชุดน้ำเงินข้างหน้า ฝ่ามือสร้างผนึกและชี้ใส่อวกาศก่อเกิดเป็นสายลมทมิฬ พื้นที่รอบๆก่อตัวเป็นวังวนสีดำ!

วังวนนี้ทรงพลังยิ่งยวด เสียงมังกรคำรามดังออกมาจากข้างใน จากนั้นเศียรมังกรสองตัวโผล่ออกมาพุ่งตรงใส่สตรีชุดน้ำเงิน

นางยังมีท่าทางเย็นเยียบแต่สายตามองหวังหลินด้วยความซับซ้อน

“นายท่านไม่รู้จักข้า แต่ข้ารู้จักเจ้า!”

นางถอนหายใจและมองดอกบัวแปดกลีบ แขนซ้ายเด็ดออกมาหนึ่งกลีบและโยนไปข้างหน้าอย่างแผ่วเบา กลีบดอกไม้ลอยออกไปและปลดปล่อยกลิ่นหอมหวน มันขยายตัวจนกระทั่งมีขนาดหลายร้อยฟุต ตกเข้าใส่หวังหลินเบาๆ

ตู้มมม!

ระเบิดดังสนั่นออกมาจากอวกาศรอบตัวหวังหลินร้อยฟุต กลิ่นอายแข็งแกร่งล้อมรอบราวกับทุกสิ่งทุกอย่างภายในระยะต้องพังทลาย!

ใต้ฝ่าเท้าหวังหลินปรากฏเสียงแตกร้าวและเกิดรอยร้าวขนาดใหญ่ พลังแข็งแกร่งโผล่ออกมาจากอวกาศราวกับพยายามผลักดันเขาให้เข้าไปในรอยร้าว!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version