Skip to content

Reuan Si La Chapter 3

ตอนที่ 3

เจอเพื่อนของคุณยาย(คุณป้า)

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ศิริชัยรีบล้วงโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าเสื้อมากดรับทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นนัทชัยโทรมา “สวัสดีครับคุณนัทชัย มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ”

“สวัสดีครับคุณศิริชัย ผมสนใจที่แปลงนั้นของคุณเลยอยากจะรู้ว่าคุณจะขายราคาเท่าไหร่ครับ” นัทชัยไม่พูดพร่ำทำเพลง ยิงคำถามตรงเป้าตามประสา ทนายความชื่อดังทันที

เพียงแค่นี้ก็ทำให้ศิริชัยแทบร้องไชโยทันที ดีว่าระงับอาการไว้ทัน รีบละล่ำละลักตอบว่า “ผมขายตามราคาบนหน้าเน็ตนั่นแหละครับคุณนัทชัย”

“ลดลงอีกซักหน่อยไม่ได้เหรอครับ” นัทชัยต่อราคาหยั่งเชิงดูก่อน

ศิริชัยแม้จะอยากขายเต็มที่ แต่ก็ยังรักษาชั้นเชิงทางธุรกิจเล็กน้อย “ราคานี้ผมว่ามันถูกมากนะครับคุณนัทชัยถ้าเทียบกับที่แปลงอื่นๆที่ติดกับที่แปลงนี้ แม้จะอยู่ถนนสายเล็ก แต่ที่ดินผืนใหญ่ติดแม่น้ำกกราคาขนาดนี้ถือว่าถูกมากนะครับ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนะครับคุณนัทชัย คุณลองคิดดูก่อนก็ได้ครับ แต่ต้องรีบหน่อยนะครับเพราะว่ามีหลายเจ้าเหมือนกันที่ติดต่อขอซื้อที่แปลงนี้อยู่ครับ”

“ถ้าอย่างงั้นผม…ตกลงซื้อครับ วันนี้เราไปสำนักงานที่ดินได้เลยครับ คุณคงเตรียมเอกสารมาเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ จะได้เซ็นสัญญาซื้อขายทำเรื่องโอนให้เรียบร้อยวันนี้เลยครับ”

นัทชัยกำลังจะบอกเจ้าของที่ว่าขอเวลาคิดดูก่อน แต่เขาชะงักไปนิดนึงแล้วตอบตกลงซื้อที่ดินเสร็จสรรพ

สร้างความแปลกใจให้ลินจิราที่นั่งฟังอยู่ตรงข้ามมากมาย เพราะคุณปู่บอกว่าวันนี้จะโทรไปต่อราคาก่อนแล้วพรุ่งนี้จึงค่อยโทรไปคุยอีกที คิ้วโค้งเรียวขมวดน้อยๆ  แต่ในใจก็นึกยินดีที่คุณปู่ตอบตกลงซื้อ แถมยังคุยกับเจ้าของที่ไปทำเรื่องโอนวันนี้อีกต่างหาก หล่อนมองคุณปู่ที่ยังคุยโทรศัพท์กับเจ้าของที่

“ครับคุณศิริชัย แล้วพบกันที่สำนักงานที่ดินตอน 10 โมงครับ สวัสดีครับ”

“สวัสดีครับ”

หลังจากวางสายแล้ว ศิริชัยก็กระโดดกอดรัชนีตะโกนไชโยโห่หิ้วลั่นห้อง “ไชโย! เค้าตกลงซื้อแล้วคุณ ไอ้ที่เฮงซวยนั่นขายออกแล้ว ไชโย! ไชโย! เรารีบไปสำนักงานที่ดินกันเถอะคุณ จะได้เตรียมเอกสารไว้รอคุณนัทชัยให้เรียบร้อย เค้าจะได้ไม่เสียเวลามาก จะได้ทำเรื่องโอนให้เสร็จๆวันนี้ไปเลย ไปกันเถอะคุณ”

“ค่ะคุณ ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ช่วยให้ลูกช้างขายที่ออก ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ แล้วลูกจะรีบแก้บนให้นะเจ้าคะ สาธุ” รัชนียกมือพนมไหว้ท่วมหัวกล่าวขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ทำให้ศิริชัยรีบยกมือไหว้ท่วมหัวตามภรรยาทันที “ทำเรื่องขายที่เสร็จแล้วลูกจะรีบแก้บนให้ครับ ไปกันเถอะคุณ”

แล้วศิริชัยกับรัชนีก็พากันออกจากห้องพักรีบไปทานอาหารเช้า เพื่อจะได้รีบไปเตรียมเอกสารไว้รอคนซื้อ

ส่วนทางด้านนัทชัยหลังจากวางสายแล้วลินจิราก็ถามทันทีว่า “ไหนคุณปู่บอกว่าจะต่อราคาก่อนไงคะ แล้วทำไมถึงตกลงซื้อเลยล่ะคะ”

“ลุงคิดว่าไหนๆ เราก็อยู่ที่นี่แล้ว อีกอย่างเจ้าของที่เค้าก็อยู่ที่นี่แล้วด้วย แล้วที่ดินแปลงใหญ่ทำเลดีๆราคาถูกอย่างนี้คงหาไม่ได้อีกแล้ว ลุงก็เลยตัดสินใจตกลงซื้อซะเลย ดีมั้ยล่ะลินจี้ ไหนๆหนูก็อยากได้ที่แปลงนั้นอยู่แล้วนี่ เอ้า! เราก็ไปทานข้าวเช้ากันก่อนเถอะ เสร็จแล้วจะได้ไปธนาคารให้เค้าออกเช็คเงินสดให้แล้วก็ไปสำนักงานที่ดินเซ็นสัญญาซื้อขายให้เรียบร้อย ไปกินข้าวเถอะลูก ลุงหิวแล้ว”

คำตอบของคุณปู่ทำให้ลินจิราเลิกสงสัย

ก็อย่างที่คุณปู่ว่านั่นแหละ ที่แปลงใหญ่สวยๆราคาถูกอย่างนี้หาไม่ได้อีกแล้ว หล่อนจึงกอดเอวคุณปู่เดินออกจากห้องพักไปทานอาหารเช้าที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้สำหรับแขก

ขณะที่กำลังตรงไปยังห้องอาหารของโรงแรมทั้งคู่ก็พบกับนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มใหญ่ที่ยืนรวมตัวกันบริเวณล็อบบี้ หนึ่งในนั้นมีคนหนึ่งเป็นเพื่อนกับจินตนาภรรยาของนัทชัย

เสียงของสาวใหญ่ร่างท้วม เพื่อนของจินตนาในกลุ่มนักท่องเที่ยวนั้นร้องเรียกนัทชัยพร้อมกับตรงรี่มาที่ทั้งคู่ทันที

“คุณนัทชัยค้า อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณนัทชัย แหมโลกมันกลมจริงๆนะคะ มาพบกันที่เชียงรายได้ แล้วนี่จินไปไหนซะล่ะคะ ถึงได้ปล่อยให้คุณมาเดินควงกะกิ๊กได้”

นัทชัยเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ กับคำพูดของเพื่อนภรรยาผู้ได้ฉายาว่า ปากหมา, ปากปลาร้า, ปากเน่า ปากหนอน ฯลฯ เขาข่มอารมณ์เอาไว้ ยิ้มสู้เอ่ยทักทายเสียงเรียบว่า “อ้าว…อรุณสวัสดิ์ครับคุณพรนภา เมืองไทยมันแค๊บ…แคบสำหรับคุณพรนภาจริงๆนะครับเนี่ย อ้อ…ขอแนะนำหลานสาวให้รู้จักหน่อยนะครับ จะได้รู้จักกันเอาไว้ นี่ลินจิราหลานสาวผมครับ ลินจี้นี่คุณย่าพรนภาเพื่อนของคุณย่าไงลูก”

ลินจิรายกมือไหว้เพื่อนของคุณย่าพร้อมกับเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าเรียบๆ เพราะรู้สึกไม่ถูกชะตากับเพื่อนของคุณย่าคนนี้เอาซะเลย “สวัสดีค่ะคุณย่าพรนภา”

พรนภาหน้าแตกเพล้งๆ ยกมือไหว้ตอบ จ้องมองสาวน้อยข้างกายนัทชัยตั้งแต่หัวจรดเท้า ขมวดคิ้วเอ่ยถามด้วยความข้องใจ แอบแขวะเล็กๆว่า “เอ…หลานข้างไหนกันคะคุณนัทชัย ก็คุณกับจินไม่มีลูกนี่คะ”

“แหมคุณพรนภาล่ะก็…ชอบตอกย้ำกันจริงนะครับว่าจินเป็นหมัน อ้อ…ลินจิ้เป็นหลานของลูกของเพื่อนผมน่ะครับ แกเกิดที่อเมริกาโตที่อเมริกาเพิ่งจะมาเมืองไทยเป็นครั้งแรกครับก็เลยพูดภาษาไทยไม่ค่อยได้ครับ พอดีผมมาติดต่อธุระกับลูกความที่นี่ก็เลยพาแกมาเที่ยวด้วย นี่ถ้าจินไม่ติดงานก็คงมาเที่ยวด้วยแหละครับ คุณพรนภาก็รู้ๆ กันอยู่งานโรงพยาบาลยุ่งขนาดไหน จะให้เหมือนคุณพรนภาได้ยังไงล่ะครับ มีสามีคอยเลี้ยงไม่ต้องทำงาน เลยมีเวลาว่างเยอะ แล้วนี่สามีคุณพรนภาไปไหนล่ะครับ ไม่เห็นมาด้วยกัน หรือว่ามัวไปตีกอล์ฟอยู่ครับ ระวังนะครับเดี๋ยวจะได้ของแถมร้องอุแว้ ๆมาแบ่งสมบัติสามีคุณพรนภาอีกคน”

นัทชัยกระเซ้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแถมเหน็บแนมอีกเล็กน้อย

ทำเอาสาวใหญ่ร่างท้วมชักสีหน้าไม่พอใจเอ่ยล่ำลาทันที “ฮึ…ขอตัวก่อนนะคะคุณนัทชัย เดี๋ยวเพื่อนๆจะรอนาน ลาล่ะค่ะ”

พรนภาสะบัดหน้าเดินจากไป ทำให้นัทชัยหัวเราะคิกคักอย่างสะใจ ส่วนลินจิราทำหน้าเหรอหรา เพราะไม่เข้าใจว่าคุณปู่พูดอะไรกับเพื่อนของคุณย่า ถึงทำให้เพื่อนของคุณย่าคนนั้นโกรธจนเดินหนีไปแบบนั้น

“คุณปู่ขา คุณปู่พูดอะไรกับเค้าคะ เค้าถึงได้โกรธจนเดินหนีไปแบบนั้นคะ”

“ก็เค้าอยากมาว่าลินจี้ก่อนนี่ หาว่าลินจี้เป็นเกิร์ลเฟรนด์ของลุง ลุงก็แค่ถามหาสามีเค้าเท่านั้นเอง อย่าไปสนใจเลยลูก ไปทานข้าวกันดีกว่า”

นัทชัยโอบบ่าหลานสาวพาเดินไปยังห้องอาหารของโรงแรม ไม่สนใจหน้าสวยใสที่ขมวดคิ้วผูกโบด้วยความไม่เข้าใจอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าคุณปู่ไม่ยอมอธิบายให้ฟัง  สาวน้อยจึงเลิกใส่ใจ

ทางด้านพรนภาเดินบ่นอาฆาตแค้นหน้าหงิกงอตรงไปสมทบกับกลุ่มเพื่อนที่มาเที่ยวด้วยกัน “ฮึ…ไอ้ทนายปากหมา! คอยดูเถอะแม่จะเผาให้อยู่ไม่เป็นสุขเล้ย!”

เมื่อเดินมาใกล้กลุ่มเพื่อนๆ พรนภารีบปรับสีหน้าทันควันพร้อมกับเม้าแหลกทันทีว่า “ขอโทษด้วยค่ะที่ทำให้รอนาน พอดีเจอกับคุณนัทชัยสามีของคุณหมอจินตนาเพื่อนสมัยเรียนประถมด้วยกันน่ะค่ะ เลยทักทายกันนิดหน่อย เค้าพากิ๊กมาเที่ยวค่ะ คงไม่อยากให้ภรรยารู้หรอกค่ะ เมื่อกี้เค้าเลยรีบออกตัวว่าเป็นหลานสาวน่ะค่ะ แต่แหม…ไม่อยากจะพูดเลยนะคะ หลานสาวแบบไหนก็ไม่รู้ เดินกอดกันกลมซะขนาดนั้น สงสัยว่าคงเป็นหลานแบบว่าท้องชนกันซะมากกว่าค่ะ พวกคุณเห็นแล้วก็ช่วยๆ เหยียบไว้นะคะ เดี๋ยวคุณหมอจินตนารู้เข้าจะบ้านแตกซะเปล่า ๆ”

“เห็นเค้าคุยกันว่าสามีคุณหมอจินตนาออกจะรักภรรยาจะตายไป ต๊าย…ตาย นี่ไม่เห็นกับตาไม่เชื่อนะคะเนี่ยว่าสามีคุณหมอจินตนาจะหัวงูกับเค้าด้วย โถ…น่าสงสารคุณหมอจินตนานะคะ วันๆ ทำแต่งานไม่ได้รู้เลยว่าสามีแอบนอกใจ น่าสงสารจริ๊ง”

“ไม่เห็นกับตาอย่างนี้ไม่มีทางเชื่อนะคะว่าคุณนัทชัยทนายความชื่อดังของเมืองไทยจะเป็นเฒ่าหัวงูด้วย เด็กคนนั้นดูเด๊ก…เด็ก อายุถึง 18 รึเปล่าก็ไม่รู้ หน้าตาดูเหมือนจะเป็นลูกครึ่งด้วยซิคะ คงเป็นลูกคุณโส(โสเภณี)แน่ๆ เลยค่ะ ถึงได้กล้าควงผู้ชายอายุคราวพ่ออย่างนี้น่ะ เดี๊ยนว่าคุณนัทชัยคงจะเลี้ยงดูให้เงินเยอะนะคะ เห็นเสื้อผ้าที่เด็กคนนั้นใส่รึเปล่าค่ะ แบรนด์เนมทั้งนั้นเลยค่ะ ไม่ใช่ของก๊อปด้วยนะคะ น่าสงสารคุณหมอจินตนานะคะ เป็นเมียหลวงที่อาภัพนักใช้แต่ของลดราคา ส่วนเมียน้อยใช้ของแบรนด์เนมใหม่ล่าสุด”

บลาๆๆๆๆๆๆ

เสียงเม้าแตกของกลุ่มสาวใหญ่สร้างความพอใจให้กับพรนภามาก เพราะหลังจากนี้ข่าวว่านัทชัยมีเมียน้อยคงกระพือไปทั่วแน่ๆ

จนเมื่อไกด์หนุ่มเรียกขึ้นรถ พรนภาจึงสำทับอีกครั้งปั้นสีหน้าสงสารเพื่อนสมัยประถมเต็มที่ แต่ในใจกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยความสะใจ ฮิๆๆๆๆๆ บ้านแตกแน่ๆ ไอ้ทนายปากหมา

“พวกคุณก็ช่วยๆ เหยียบให้มิดเลยนะคะ ขืนคุณหมอจินตนารู้เข้าจะทะเลาะกันซะเปล่าๆ ไปขึ้นรถเถอะค่ะ ไกด์เรียกแล้ว”

แล้วกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นก็พากันขึ้นรถออกจากโรงแรมเพื่อกลับกรุงเทพฯ  พร้อมกับเสียงเม้าแตกของสาวใหญ่ทั้งหลาย ที่ยังเม้าไม่เลิกถึงข่าวเรื่องนัทชัยมีเมียน้อย

ส่วนหนุ่มใหญ่บรรดาสามีของพวกสาวใหญ่ก็รวมหัวกันเล่นไพ่ดื่มกินร้องเพลงกันสนุกสนาน

หลังทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว นัทชัยก็ขับรถพาลินจิราไปธนาคารเพื่อให้ธนาคารออกเช็คเงินสดสั่งจ่ายให้กับศิริชัยเป็นค่าที่ดิน

จากนั้นก็พากันไปยังสำนักงานที่ดินเพื่อจัดการเรื่องซื้อขายให้เสร็จสิ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version