ตอนที่ 909 คำสั่งเดียว
“กลับไปพักผ่อนซะ ให้ข้าคิดก่อน” หลัวเฟิง พูดขึ้น
หลัวปิง และ หลัวไฮ่ มองหน้ากับก่อนจะออกไปเหลือเพียงแค่ สวีซิน และหลัวเฟิง
…
ในตอนที่พวกเขาเดินออกไป หลัวปิง อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “น้องชาย
ทำไมเจ้าถึงบอกพ่อเรื่องนี้ เขาเพิ่งผ่านการสืบทอดความเป็นความตายมาและกลับมาได้อย่างปลอดภัย แต่เจ้ากับพูดเรื่องแบบนี้ นั่นจะไม่ทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายรึไง? เจ้าไม่รู้รึไงว่าเบื้องหลังพวกอพยพน่ะน่ากลัวแค่ไหน?”
“ขะ…ขะ..ข้าแค่ทนไม่ไหวอีกต่อไป” หลัวไฮ่ พูดออกมาอย่างอ่อนแรง
“ทนไม่ไหว? เจ้ากลับมากี่ครั้งกัน เจ้าออกไปสำรวจจักรวาลมานาน
และตอนนี้เจ้าเป็น ระดับห้วงมิติ ด้วยสมบัติและเทคนิคมากมายที่พ่อเตรียมให้เจ้า…เจ้าน่ะแข็งแกร่ง อีกอย่างแล้วสำหรับความปลอดภัย
ของเจ้า แม่ได้เตรียม รูปแบบชีวิตพืชระดับอมตะ ไว้ให้กับเจ้า ไม่
ต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของเจ้าเลย แค่ฐานะของเจ้า จะมีนักรบคนใดที่กล้ามาหาเรื่องเจ้า? เจ้าน่ะชินกับการอยู่แบบนี้แล้ว เจ้าไม่เคยที่
จะต้องทนทรมานมาก่อน!”
“แต่พ่อแตกต่างจากเจ้า”
“เขาคือเสาหลักของตระกูลหลัว เขาคือเสาหลักของโลก! ยิ่งเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งมีการอิจฉาเกิดขึ้นมากเท่านั้น เขาโดนจับตาดูโดยหลายเผ่าในจักรวาลและทั้งหมดนั้นต้องการที่จะฆ่าเขา การสำรวจของเขาต้องทำให้เขาต้องเอาตัวเองไปเสี่ยง! เจ้าให้เขาสบายใจในตอนที่เขากลับมาไม่ได้รึไง? แค่การกลั่นแกล้งเล็กน้อย? พวกเราที่เข้ามาที่นี่น่ะโดนแกล้งมาตลอด ตราบใดที่ท่านพ่อแข็งแกร่งขึ้น พวกมันก็จะเสียความกล้า ในตอนที่เขาผ่านการทดสอบ ภูเขาเสียดฟ้า พวกมันก็ควบคุมคนของตัวเองได้ขึ้นมานิดหน่อย ทนมันเถอะจนกว่าพ่อจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงของจักรวาล…จากนั้นพวกนั้นจะหายไป” หลัวปิง มองไปที่น้องชาย “ในฐานะคนในครอบครัว เราไม่ควรที่จะสร้างปัญหาให้กับเขา พ่อน่ะเหนื่อยมามากแล้ว”
“อืม” หลัวปิง รู้สึกผิดขึ้น “ข้าแค่ทนมันไม่ไหวเฉยๆ…”
“ใครจะทนได้”
หลัวปิง ส่ายหน้า “โลกก็เป็นแบบนี้ หมัดใครใหญ่กว่าก็แข็งแกร่งกว่า!
พวกอพยพนั้น…หลายคนมีภูมิหลังที่น่ากลัว ข้าได้ยินมาว่าพวกนั้นมี
ความสัมพันธ์โดยตรงกับพวกชนชั้นสูงขององค์กรจักรวาลเสมือนและ
สำนักขวานยักษ์! ชนชั้นสูง! เจ้าชายคนใดจะมาคิดถึงเรา? พวกนั้นแค่ไว้หน้าพ่อเท่านั้น”
“อืม” หลัวไฮ่ พยักหน้า
“รอจนกว่าท่านพ่อจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่แท้จริง จากนั้นพวกนั้นก็จะเชื่อฟัง” หลัวปิง ถอนหายใจ เขาไม่หวังให้พ่อของเขาลงมือในตอนนี้
ยังไงซะราชานรกก็จัดการภูตผีได้ง่ายๆ สิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่นั้นอยู่ไป
ตลอดกาล ตระกูลของพวกเขาอยู่กันมากว่าล้านยุค สำหรับรุ่นหลังของพวกเขา จะมีสักกี่คนจะมีสักกี่คนที่ได้เห็นผู้ก่อตั้งตระกูล?
หรือเจ้าแห่งจักรวาล?
แม้ว่าพวกนั้นจะไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อนแต่เกียรตินั้นฝังลึกในสายเลือด มันก็เหมือนตระกูลหลัว และหลัวเฟิง พวกเขาต่างก็ภูมิใจ
ในตัวเขา และผู้ก่อตั้งตระกูลส่วนใหญ่ต่างก็เป็นเจ้าแห่งจักรวาล มันง่ายที่จะจินตนาการได้ถึงเกียรติที่พวกเขามี และบนโลกนี้ เจ้าชายพวกนั้นต่างก็สร้างทีมขนาดใหญ่ขึ้นมา!
******
มหาสมุทรแปซิฟิก ภายในเมืองที่ลอยอยู่
“หลัวเฟิง มีดียังไง!” ชายปีกเขียวที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เอามือวางไว้ที่พักเก้าอี้พร้อมกับตาที่เป็นประกาย
“นายท่านอย่าเพิ่งโกรธเคือง” หญิงสาวคนหนึ่งผมสีม่วงยิ้มพร้อมกับ
เดินเข้าไปหา “เขาคือศิษย์ของผู้นำเมือง มันเป็นธรรมดาที่เขาจะมี
เกียรติ แต่ไม่ว่าจะมีเกียรติมากเพียงใดแต่เขาก็ไม่อาจทำสิ่งใดต่อต้านเราได้ ผู้อพยพในเมืองลอยฟ้าที่นี่นั้นมาจาก 5 ผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยศิษย์หลายคนของตระกูลเจ้าแห่งจักรวาล แม้ว่าพวกเขาจะเป็นแค่รุ่นหลังแต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนที่ หลัวเฟิง จะมายุ่งด้วยได้”
“อืม”
ตอนนั้นชายคนนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมา เขาโบกมือและให้หญิงสาวผมม่วงบินมานั่งที่ตัก พวกเขาใกล้ชิดกันอย่างมาก
ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “จักรพรรดิ จินลี!”
“หืม?” ชายเกราะเขียวคิ้วขมวดและมองไปด้านนอกพร้อมกอด
หญิงสาวเอาไว้ เขาไม่พอใจ “ฟาจาง มีเรื่องอะไร?”
ชายสี่แขนเดินเข้ามาและเสียงก็ได้ดังก้องขึ้น “จินลี ไม่ว่ายังไงก็
ตาม หลัวเฟิง ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรจักรวาลเสมือนและเขาเป็นศิษย์ของ ผู้นำเมือง อย่าทำเกินไป ถ้าเรื่องมันยุ่ง เจ้าจะสามารถจัดการมันได้รึไง?”
“ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะกล้ามายุ่งกับข้า!” จินลี ลุกขึ้นด้วยท่าทีหงุดหงิด
“ฮืม” ฟาจาง มองไปที่อีกฝ่ายอย่างเย็นชา “จินลี เพื่อให้กระจ่างในเรื่องนี้ แม้ว่าเจ้าจะเป็นรุ่นหลังของ เจ้าแห่งจักรวาล แต่ตระกูลของเจ้านั้นอยู่มากว่าล้านล้านปี สมาชิกนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน แม้ว่าเราจะเป็นจักรพรรดิและเราเป็นชนชั้นสูงของตระกูลแต่ชนชั้นสูงที่แท้จริง…จะไม่ส่งคนมาที่โลกเพื่อปกป้องเด็กอมมือ”
จินลี กำลังจะขัดขึ้นมา
“ให้ข้าถามหน่อย เจ้าเคยเห็นผู้ก่อตั้งมาก่อนรึเปล่า?” ฟาจาง ถาม
สีหน้าของ จินลี บิดเบี้ยวไป
“แม้แต่ข้าก็ไม่เคยเห็นเขามาก่อน” ฟาจาง ถอนหายใจ “สำหรับ
เจ้าแห่งจักรวาล ตระกูล ซาชิ มีคนภายในอยู่นับไม่ถ้วน เราเป็น
อะไร? มันจะดีกว่าหากทาตัวให้ไม่สะดุดตา”
“แต่เจ้าต้องเห็นว่าหมาของใครที่เจ้ากำลังตี ผู้อพยพที่นี่ต่างก็ถือว่าเป็นชนชั้นสูงจากหลากหลาย เจ้าแห่งจักรวาล ไม่มีใครกล้ามายุ่งกับเรา” ฟาจาง พูดขึ้น “แต่เจ้าไม่ควรที่จะหยิ่งทะนงเกินไป การปฏิบัติกับมนุษย์โลกคนอื่นด้วยวิธีนี้มันไม่เป็นอะไรแต่สำหรับ หลัวเฟิง เจ้าต้องแสดงความเคารพให้กับเขา การท้าทายก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยสักนิด…ใครกันที่ไม่รู้จักหน้าตาเขา? แต่เจ้าจงใจที่จะทำแบบนั้นเอง เจ้าคงรู้เรื่องนี้ได้”
“พอแล้ว” สีหน้าของ จินลี บิดเบี้ยว “มันก็แค่ หลัวเฟิง คนเดียวไม่ใช่รึไง? เขาเป็นแค่ ระดับห้วงมิติ ข้าไม่เชื่อว่าเข้าจะแข็งแกร่งขึ้นมากมายนัก! เจ้าคิดว่าการแข็งแกร่งขึ้นนั้นมันง่ายรึไง? ทุกขั้นนั้นเต็มไปด้วยอันตราย ยิ่งเขาทำได้ดีเท่าไหร่ ยิ่งมีเผ่าอื่นที่ต้องการฆ่าเขา! ไม่ใช่แค่อันตราย…แค่กฎความเข้าใจในการจะเป็นอัศวินก็ยากอย่างมากแล้ว! แม้แต่กลุ่มศิษย์ ผู้นำเมือง หรือทั้งหมดก็ไม่อาจจะเป็นอัศวินได้!”
“อย่าเฉไฉ…มันก็แค่เพราะ หลัวเฟิง เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรจักรวาล
เสมือนเหมือนกับเจ้า นั่นแหละว่าทำไมเจ้าถึงได้มาพูดแทนเขา”
“ฮึ่ม” สีหน้าของ ฟาจาง เปลี่ยนไปพร้อมกับเดินจากไปทันที
จินลี มองไปที่ฉากนั้นแล้วฮึดฮัดอย่างเย็นชา
“มนุษย์โลกที่มีเกียรติ” จินลี มองไปยังอวกาศที่กว้างขวาง เขามอง
ไปยังมนุษย์ด้านล่าง “แม้ว่าเจ้าจะมี หลัวเฟิง คอยหนุนหลังแต่นั่นไม่
อาจจะเปลี่ยนสายเลือดต่ำตมของเจ้าได้ ในตอนที่เขาตาย ข้าอยากเห็นว่าเจ้าจะสิ้นหวังเพียงใด ในตอนที่เป็นแบบนั้น…ข้าจะให้เจ้าออกจากโลกไปซะ!”
“หลัวเฟิง รึ?”
“มาดูกันว่าเขาจะทำตัวแบบนี้ได้นานแค่ไหน” เขาโกรธเคืองอย่าง
มาก ตั้งแต่ที่เขาไม่ได้ความเคารพในตระกูล ความเกลียดและความไม่พอใจก็เพิ่มขึ้น…และ หลัวเฟิง คือดวงดาวที่สดใสเมื่อเทียบกับเขา เป็นธรรมดาที่เขาจะทนไม่ได้และเขาหวังให้ หลัวเฟิง แสดงสีหน้าสิ้นหวังออกมา
******
จักรวาลเสมือน พลังงานอันปั่นป่วนครอบคลุมไปทั่ววังที่ยอดเกาะ
สายฟ้า หลัวเฟิง เข้าไปด้วยท่าทีเคารพ
“อาจารย์” เขาโค้งให้
“มีเรื่องอะไรรึ?” ผู้นำเมืองพูดออกมา
“ข้ามีเรื่องขอให้อาจารย์ช่วย” หลัวเฟิง ตอบกลับ
เงาหนึ่งเดินออกมาจากพลังงาน ผู้นำเมืองในชุดทองได้พูดขึ้นมา “เจ้าผ่านอันตรายในเขตนอกสงครามมามากมาย และเจ้ากลับไม่เคยมาหาข้า เจ้าน่ะไม่ใช่คนที่มาขอให้ข้าช่วย…มีเรื่องอะไรงั้นรึ?” ผู้นำเมืองน่ะชื่นชอบ หลัวเฟิง อย่างมากแล้ว ตั้งแต่ที่เขาได้แสดงความแข็งแกร่งออกมาในการฆ่า จักรพรรดิระดับขีดจำกัด และเทียบเท่ากับ แบล็คที
มันทำให้ผู้นำเมืองตระหนักได้ว่า…ศิษย์ของเขายังคงมีอย่างอื่นซ่อนเอาไว้!
ไม่งั้นแล้วไม่ว่า ระดับห้วงมิติ จะมีพรสวรรค์เพียงใด แม้ว่าจะมีเกราะนายพลหรือการเข้าใจกฎระดับ 20 แต่เขาคงไม่อาจจะฆ่า จักรพรรดิระดับขีดจำกัด ได้ง่ายนัก!
นี่ไม่ต้องนับการต่อสู้กับ แบล็คที เขานั้นจะไม่ถามสิ่งที่ศิษย์ปกปิดไว้ เพราะทุกคนต่างก็มีความลับของตัวเอง เขาเข้าใจเรื่องนี้ว่ามันเป็นเรื่องที่ศิษย์ของเขาไม่อยากบอกออกมา
เขาเองก็ตระหนักได้ว่าความสำเร็จในอนาคตของ หลัวเฟิง นั้นน่าตกใจ
ดังนั้นเขาจึงจัดการเรื่องยุ่งยากต่างๆ และเอาตัวตนให้กับศิษย์เป็นการส่วนตัว
“มันเป็นแบบนี้ ในตอนที่ข้ากลับไปที่โลก มีหลายอย่างมากมายเกิดขึ้นข้าตระหนักได้ว่า…มีผู้อพยพสร้างปัญหาให้กับมนุษย์โลกของเรา” หลัวเฟิง พูดด้วยความเคารพ “ ข้าไม่มีทางเลือกอื่น ดังนั้นข้าจึงต้องมาขอให้ท่านช่วย”
หลัวเฟิง มาขอให้เขาช่วย
เขาพูดขึ้นมาตรงๆ ผู้นำเมืองด้วยฐานะนี้แล้วจะไม่โกรธเรื่องนี้ ถ้า
หลัวเฟิง ต้องทนกับมัน นั่นจะทำให้เขาหงุดหงิด
“เรื่องเล็กแบบนี้…ใช่สิ ผู้อพยพนั้นมาจากตระกูลมีอำนาจมากมาย เจ้าไม่ควรที่จะไปยุ่งกับพวกนั้น ข้าจะสั่งออกไปเอง” ผู้นำเมืองพยักหน้า “ข้ารู้ว่าเจ้าให้ค่าตระกูลและมนุษย์เพียงใด ข้าจะจัดการเรื่องพวกนี้ให้เจ้า ไม่ต้องสนใจเรื่องแบบนี้…ที่เจ้าต้องทำคือต้องแข็งแกร่งขึ้น!”
“ได้ อาจารย์ ข้าจะทำให้ดีที่สุด” หลัวเฟิง ดีใจอย่างมาก การตอบรับของอาจารย์นั้นง่ายดายและตรงประเด็น
“ไปเถอะ” ผู้นำเมืองพยักหน้า
หลัวเฟิง โค้งให้อย่างเคารพก่อนจะออกมา
ผู้นำเมืองยิ้มในตอนที่มองศิษย์จากออกไป หลัวเฟิง ไม่เคยมาขอให้ช่วยมาก่อนและตอนนี้เขากลับทำ มันเป็นเรื่องเล็กแท้ๆ
“การห่วงใยมนุษย์และตระกูล นิสัยเช่นนี้…ตราบใดที่มนุษย์ปฏิบัติกับ
เขาอย่างดี เขาก็จะสู้จนตายเพื่อพวกเรา” ผู้นำเมืองพยักหน้า มีนักรบมากมายที่ทรยศในหมู่มนุษย์ ในตอนที่พวกเขาแข็งแกร่ง พวกเขาจะไม่สนแม้แต่ความปลอดภัยของเผ่าตัวเอง
มันก็เหมือนกับ ยาชิ ผู้นำ ของเผ่า หยันชาง แต่เดิมแล้วมาจากมนุษย์แต่เขาเลือกที่จะออกไปและมีอำนาจของตัวเอง นี่ทำให้หลายฝ่ายโกรธเคืองแต่อำนาจของยาชินั้นมหาศาลและเขามีสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ที่คอยหนุนหลัง ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่ทนกับมัน
…
ครึ่งวันต่อมา คำสั่งก็ได้ส่งไปที่วังผู้พิทักษ์และหน่วยจัดการภายในของผู้อพยพและมนุษย์
คำสั่งนั้นง่ายดาย…มันบอกว่าห้ามไม่ให้ผู้อพยพคนใดๆ ก้าวเท้าหรือบินไปในอาณาเขตโลก และไม่ให้มนุษย์ก้าวขึ้นมาหรือบินมายังเมืองลอยฟ้า ใครที่ต่อต้าน…ต้องถูกฆ่าทันที!
“อะไรกัน!” ชายเกราะเขียวที่ซึ่งกำลังเล่นกับหญิงสาวตะโกน
ออกมาเมื่อรู้คำสั่ง