Skip to content

Tales of Herding Gods 322


ตอนที่ 322 การโจมตีของปีศาจรากไม้

ฉินมู่อึ้งไปเล็กน้อย “หญิงสาวจํานวนมากกําลังอาบนํ้าอยู่หรือ มาอาบนํ้ากันในป่าร้างช่างน่าสนใจอะไรอย่างนี้…ช้าก่อน เหมือน ข้าจะเคยเจอพวกสาวๆ ที่อาบนํ้าในป่าร้างมาก่อนนี่นา!”

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมา และตัวสั่นเทาอย่าง ช่วยไม่ได้ เขาพึมพํา “คงไม่ใช่นางปีศาจเฒ่านั่นหรอก จริงไหม

เป็นไปไม่ได้ มันไม่น่ารอดชีวิตได้นานขนาดนี้ในแดนโบราณ วินาศ ข้าคงวิตกกังวลมากเกินไป! แต่เพื่อปลอดภัยไว้ก่อน พวก เราเดินอ้อมไปดีกว่า”

ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังลั่นมาจากข้างหลัง “สหายเต๋า โลกมัน ช่างกลมเสียจริง เอ๋?”

ฉินมู่หันกลับไปและเห็นอวี้ป๋อชวนนําผู้ฝึกวิชาเทวะจากตําหนักสวรรค์แท้ทั้งหมดบุกเข้ามาไล่ล่าสังหารพวกเขาด้วยความเร็วสูง

ผู้ฝึกวิชาเทวะแห่งตําหนักสวรรค์แท้เหล่านั้นร่ายเวทมนตร์ของ พวกเขาไปด้วยระหว่างที่วิ่งกรูกันมา และต้นไม้ใหญ่ก็ถอนรากของ มันออก แปรเปลี่ยนเป็นยักษ์ต้นไม้ที่ก้าวตึงๆ เข้ามาด้วยขายาวๆ ของมัน

ในเวลาเดียวกัน ผืนดินก็สะท้านหวั่นไหวเมื่อหินภูเขากลิ้งไป ข้างหน้าด้วยความเร็วสูง รวมเข้าด้วยกันเป็นยักษ์หิน

แม้แต่เนินเขาใต้เท้าฉินมู่ก็สั่นสะเทือน ก้อนดินเริ่มกลิ้งร่วงลง ไป และหินภูเขาในเนินนั้นก็ยกตัวสูงขึ้นๆ กลายเป็นโครงสร้าง ขนาดยักษ์ จนกระทั่งยักษ์เนินเขาก่อรูปขึ้นมา

“ดูเหมือนว่าข้าคงได้แต่ต้องมุ่งไปข้างหน้า! หวังว่านั่นคงไม่ใช่ นางปีศาจเฒ่า!”

ฉินมู่ออกคําสั่ง และกิเลนมังกรก็ตะบึงไปข้างหน้าทันที เนินเขาใต้เท้าพวกเขาหยัดยืนขึ้นเรียบร้อยแล้ว กิเลนมังกรจึงเรียกเมฆอัคคีมาใต้เท้าของตนเพื่อวิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิตตามแขนของยักษ์เนินเขา

ยักษ์นั้นหมุนตัวและเหวี่ยงแขนอีกข้างไปยังพวกเขา กิเลนมังกรกระโจนขึ้นไปบนท้องฟ้า และเสียงเปรี้ยงปร้างครืนครันราวโลกาวินาศก็ดังมาจากข้างหลัง แขนทั้ง 2 ของยักษ์เนินเขาฟาดเข้าใส่กันและแตกทลาย ทําให้หินจํานวนมากมายไร้คณาปลิวว่อนไปทั่วทุกทิศ!

ฉินมู่เหลียวหลังกลับไปดูและเห็นว่าในจังหวะที่หินเหล่านั้นตก ร่วงไปถึงพื้น มันก็กลิ้งหลุนๆ กลับไปยังร่างกายของยักษ์เนินเขา อีกครั้งราวกับมีขางอกเงย ไม่นานนักแขนทั้ง 2 ของมันก็งอก

ขึ้นมาใหม่

“เจ้าตําหนัก สุดยอดวิชาของตําหนักสวรรค์แท้ของพวกเจ้า นับว่าวิเศษเหนือธรรมดาจริงๆ!” ฉินมู่อุทานด้วยความทึ่ง

เสียงซีอวี่รวบรวมพลังวัตรเท่าที่มี และฝ่ามือของนางก็ฟาดไป ข้างหลังเพื่อต่อต้าน ทันใดนั้นเสียงหวีดร้องก็ดังมาจากร่างของยักษ์เนินเขา แสงสีเขียวลอยออกมาจากเนินเขาที่ก่อเป็นตัวยักษ์ จากนั้นก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย

ยักษ์นั้นก็ถล่มลงมา และหินก้อนใหญ่ๆ มากมายกลิ้งกระจัด กระจาย กลายมาเป็นรูปทรงเนินเขาอีกครั้ง

“เวทมนตร์นี้ก็ยอดเยี่ยม!” ฉินมู่ตาเป็นประกายและเอ่ยถาม “เจ้าสอนข้าได้ไหม”

เสียงซีอวี่ลังเลครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า “ท่านเป็นผู้มีพระคุณต่อ พวกเราสองแม่ลูก หากว่าท่านต้องการเรียน ข้าย่อมต้องสอนท่าน เป็นแน่”

ฉินมู่ยิ้มและกล่าว “ข้าไม่เรียนจากเจ้าโดยเปล่าหรอกนะ ตําหนักสวรรค์แท้เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งแผ่นดินตะวันตก ดังนั้นข้า ก็จะนําเอาวิชาสืบทอดลัทธิระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ออกมาแลกเปลี่ยน กับเจ้า แต่ก่อนอื่นต้องออกไปจากที่นี่ก่อน!”

ระหว่างที่กิเลนมังกรวิ่งตะบึงไป ค้างคาวขาวทั้ง 2 ก็บินวนไป รอบๆ ปล่อยคลื่นเสียงออกไปโจมตียอดฝีมือตําหนักสวรรค์แท้

“มังกรอ้วน วิ่งเร็วเข้า เร็วขึ้นอีก!” พวกค้างคาวเร่งกิเลนมังกร

“หุบปาก!” กิเลนมังกรโมโหเดือด และตะโกนกลับไป “ข้าวิ่ง เร็วสุดๆ แล้ว!”

เพลิงไฟแผ่ออกมาจากร่างของเขาและขยายใหญ่ ขึ้นๆ แปรเปลี่ยนเป็นสัตว์ยักษ์มหึมาที่ตัวยาวกว่า 60 วา เมื่อเขาวิ่งไป ก็ว่องไวปานสายฟ้า ในไม่กี่อึดใจ เขาก็ข้ามภูเขาตรงหน้า และไป

ยังทะเลที่ค้างคาวขาวบอกว่ามีเด็กสาวมากมายอาบนํ้าอยู่

ทะเลสาบนี้ใสอัศจรรย์ ราวกับแก้วผลึกที่ฝังเข้าไปในภูเขา มองจากข้างบนลงไปก็มองถึงก้นทะเลสาบอันลึกกว่า 15 วาได้ ชัดถนัดตา ในนั้นไม่มีทั้งพืชนํ้าและปลา มันสะอาดใสจนเกิน จินตนาการ

พฤกษชาติงอกเงยริมทะเลสาบอย่างเป็นระเบียบ มีเสื้อผ้าและ กางเกงขาวจํานวนมากห้อยอยู่บนกิ่งก้านของพวกมัน บนพื้นก็มี รองเท้าถักที่มีส้นสีขาวและปักลายดอกโบตั๋นสีสดใสไว้ด้านหน้า

เสียงของเด็กสาวหัวเราะต่อกระซิกและเริงเล่นกันในทะเลสาบดังมาถึงกลุ่มผู้คน พร้อมกับเสียงเพลงอันเสนาะเพราะพริ้ง ราวกับว่า สถานที่นี้คือสรวงสวรรค์บนพื้นพิภพ

กิเลนมังกรบุกเข้าในสถานที่นี้และตะลึงลาน เขาไม่กล้า ทําลายความสงบที่นี่ จึงตะโกนไป “แม่นางทั้งหลายในทะเลสาบ ขึ้นบกเร็วเข้า!”

“อ๊าา!”

เด็กสาวในทะเลสาบทั้งหมดกรีดร้องด้วยความแตกตื่น เมื่อ พวกนางเห็นสัตว์ตัวใหญ่ยักษ์ตะลุยมา ส่วนบางนางที่ใจกล้าหน่อย ก็ชูแขนอันขาวผ่องกวักเรียกและหัวเราะคิกคัก “เจ้าตัวใหญ่ ลงมา เล่นข้างล่างเร็วเข้า!”

ฉินมู่มองไปที่บรรดาสาวๆ ในทะเลสาบและสีหน้าซีดเผือด เขา รีบบอกกิเลนมังกร “มังกรอ้วน เป็นนางปีศาจเฒ่าจากสันเขา เดียวดายจริงๆ! ไปเร็วเข้า ไป! พวกเราต้องอ้อมที่นี่ไป!”

เขาไม่กลัวอวี้ป๋อชวนและพรรคพวก แต่เขาหวาดกลัวปีศาจ รากไม้จากสันเขาเดียวดาย นางปีศาจเฒ่าที่ลัทธินักบุญสวรรค์ สะกดเอาไว้ตั้งนานนมมาแล้ว

“นางปีศาจเฒ่าจากสันเขาเดียวดาย?”

กิเลนมังกรกระโดดโหยงด้วยความตกใจ และเกล็ดมังกรทั้ง ร่างเขาลุกชูชัน แทบจะทิ่มตําเท้าของเสียงฉีเอ๋อ เขารีบอ้อม ทะเลสาบ และโกยแน่บอย่างไม่คิดชีวิตเป็นเส้นตรง คราวนี้เขาวิ่ง เร็วจี๋กว่าเมื่อครู่อีก!

สันเขาข้างหลังพวกเขาพลันเลื่อนลั่นครั่นครื้น และหินภูเขา กลิ้งร่วงลงจากยอดเขา เห็นได้ชัดว่าอวี้ป๋อชวนนําผู้ฝึกวิชาเทวะ ของเขาแปรเปลี่ยนภูเขานี้ให้เป็นยักษ์มาไล่โจมตีพวกเขา

ภูเขาลูกนี้สูงกว่าเนินลูกก่อนหน้ามาก ดังนั้นหากมันแปลงเป็น ยักษ์ขึ้นมา จะไล่ตามคณะฉินมู่ให้ทันก็จะง่ายดาย!

ในตอนนั้นเอง ภูเขาอันสูงตระหง่านก็พลันพังทลายลง และ โครงกระดูกขาวโพลนจํานวนนับไม่ถ้วนก็ร่วงลงมาจากข้างใน ท่ามกลางโครงกระดูกเหล่านั้น มีทั้งกระดูกคนและกระดูกสัตว์

พิสดารที่เอามากองรวมๆ กันแล้วก็สร้างภูเขาอีกลูกได้สบาย!

พวกมันมีมากมายเหลือคณานับขนาดที่ภูเขาทั้งลูกถูกขุดให้ กลวงโบ๋เพื่อซุกซ่อนพวกมันเอาไว้ ภาพที่เห็นนี้ทําให้อวี้ป๋อชวน และพรรคพวกอ้าปากค้าง

“ตัวอะไรกันที่กินผู้คนและสัตว์พิสดารเข้าไปมากมายขนาดนี้” อวี้ป๋อชวนไม่มีเวลามาใส่ใจหาคําตอบนี้ และกล่าวด้วยเสียงเข้ม “ในกระดูกมีดวงจิต ดังนั้นจงใช้วิชาลับสังหารไหน่ขุย!”

ทุกคนร่ายเวทมนตร์ และโครงกระดูกนับไม่ถ้วนก็ปีนไต่อย่าง รวดเร็วขึ้นมาก่อตัวเป็นยักษ์กระดูกขาวที่สูงใหญ่เทียมภูเขา มัน ก้าวอาดๆ ตรงฝ่าทะเลสาบ ก็ในเมื่อนี่เป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดในการ

ไล่ล่า

อวี้ป๋อชวนและพวกพ้องเหาะขึ้นไปบนอากาศและขึ้นไปยืนบน บ่ายักษ์กระดูกขาว หญิงสาวจํานวนหนึ่งที่กําลังอาบนํ้าใน ทะเลสาบไม่อาจหลบหลีกเท้ายักษ์นี้ได้ทัน จึงถูกเหยียบเละจนตาย

อวี้ป๋อชวนและพรรคพวกควบคุมยักษ์กระดูกขาวข้ามทะเลสาบไล่ล่ากิเลนมังกร ผู้ซึ่งตะบึงไปด้วยความกลัวตายอ้อมไปบนฝั่งทะเลสาบ ในจังหวะนั้นเอง นํ้าในทะเลสาบก็ทะลักล้นขึ้นมา

เมื่อหญิงสาวหลายร้อยคนลอยขึ้นมาบนอากาศ เบื้องหลังพวกนาง คือหนวดรากสีดํามะเมื่อม และพวกมันหวีดร้องเป็นเสียงเดียวกัน “จ้าวลัทธิมารฟ้า!”

กร๊อบ กร๊อบ กร๊อบ!

เสียงของถูกบีบแตกดังมาอย่างต่อเนื่องเมื่อยักษ์กระดูกขาวถูก หนวดรากพวกนั้นพัวพันและบีบรัดอย่างรุนแรง ยักษ์นั้นก็แหลก ทําลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เศษกระดูกแตกหักนับไม่ถ้วนกระจัด กระจายไปทุกทิศทาง ผู้ฝึกวิชาเทวะสิบกว่าคนในขั้นหกทิศไม่อาจ หลบหลีกได้อันเนื่องจากมีวรยุทธ์ตํ่าต้อย และถูกเศษกระดูกแทง

ทะลุ ร่วงต๋อมๆ ลงไปในนํ้า พวกที่มีวรยุทธ์กล้าแข็งขึ้นมาหน่อยก็ใช่ว่าจะรับมือง่าย พวกเขาต้องคอยหลบหลีกเศษกระดูกที่ปลิวว่อน ไปมาเต็มไปหมด และพวกเขาทุกคนต่างก็กระอักเลือดจากแรง กระแทก

เมื่อผู้ฝึกวิชาเทวะที่ร่วงลงไปในนํ้าพยายามดิ้นรนออกมา นํ้า ในทะเลสาบก็ผุดฟองปุ๋งๆ เมื่อหนวดยาวสีดํามะเมื่อมเหมือนงู เหลือมผุดนํ้าขึ้นมาและม้วนรัดพวกเขาดึงไปก้นทะเลสาบ

อวี้ป๋อชวนและคนอื่นๆ อ้าปากค้าง พวกเขารีบเหาะขึ้นไปบน อากาศเพื่อหลบหนีทะเลสาบนี้ ภาพอันสงบร่มเย็นเมื่อครู่กลายเป็น ดุเดือดเลือดพล่าน หญิงเปลือยซึ่งมีหนวดรากงอกออกมาพากัน โผล่ออกมาจากทะเลสาบและคว้าจับผู้คนเพื่อดึงพวกเขาลงไปใต้น้ำ

บางคนก็ช่วงใช้วิชาเทวะของตําหนักสวรรค์แท้โดยทันที เพื่อที่จะควบคุมหนวดรากเหล่านั้น ตําหนักสวรรค์แท้เชื่อว่าทุกสิ่งมีจิตและวิญญาณ ดังนั้นทักษะเทวะของพวกเขาจึงสามารถ

ควบคุมได้ทุกสิ่งไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่ ทุกอย่างสามารถูกบังคับใช้ และกลายเป็นการโจมตี แต่กระนั้นเมื่อพวกเขาเจอกับหนวดราก ประหลาดพวกนี้ ทักษะเทวะของพวกเขาทั้งหมดกลับไร้ประโยชน์

ผู้คนมากกว่าสิบคนถูกหญิงสาวบนหนวดรากจับตัวไป ลากลงในทะเลสาบเป็นตายก็ไม่ทราบชัด

“จ้าวลัทธินักบุญสวรรค์ ข้าเจอเจ้าในที่สุด!” อวี้ป๋อชวนและพรรคพวกเหาะออกไปพ้นจากทะเลสาบใหญ่

นั่นในที่สุด และร่อนลงเหยียบพื้นอีกครา แต่ไม่ทันที่พวกเขาจะได้

พักหายใจสักอึด พวกเขาก็เห็นต้นไม้ใหญ่ทั้งหลายริมฝั่งนํ้าถอนรากของพวกมันออก และวิ่งตะลุยอย่างบ้าคลั่งไปทางที่กิเลนมังกร หลบหนี

อวี้ป๋อชวนและพวกแตกตื่นและเริ่มวิ่งหนีเช่นกัน ยอดยุทธ์ขั้น ชาวสวรรค์แห่งตําหนักสวรรค์แท้จํานวนหนึ่งรีบปลดปล่อยจิตวิญญาณดั้งเดิมของพวกเขาออกมาร่ายทักษะเทวะและต้านรับการโจมตีของต้นไม้ยักษ์เหล่านั้น

หลังจากวิ่งหนีไปได้สักร้อยลี้ พวกเขาก็พ้นเขตการโจมตีของ ต้นไม้ประหลาดและรากพิลึกเหล่านั้น ทุกคนระบายลมหายใจโล่ งอกและชะลอฝีเท้าลง

หากว่าพวกเขาเดินทางด้วยฝีเท้าที่คงที่ ก็คงไม่รู้สึกเหน็ด เหนื่อยแม้ว่าจะต้องเดินทางเป็นพันลี้ แต่นี่พวกเขาหนีตายด้วย กําลังทั้งหมดที่มี เพียงแค่ร้อยลี้ก็ทําให้พวกเขาเหนื่อยจนลิ้นห้อย

กิเลนมังกรก็ชะลอฝีเท้าพลางหอบหายใจอย่างหนัก เขาก็วิ่ง ไปได้ไม่ไกลจากพวกนั้นมากนัก

“พวกเราน่าจะหนีพ้นแล้ว” ฉินมู่ระบายลมหายใจโล่งอกและ กล่าว “ระยะทางที่หนวดรากของปีศาจรากไม้ครอบคลุมถึงนั้น น่าจะเพียงร้อยลี้หรือราวๆ นั้น ดังนั้น…ช้าก่อน!”

สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดเมื่อเขามองดูไปรอบๆ เขาเห็นว่าพืชพรรณที่นี่หนาแน่น และคาคบไม้ก็สร้างเงาต่างๆ บนพื้น ป่า ป่าเช่นนี้เห็นได้บ่อยครั้ง แต่เมื่อพวกเขาเดินทางผ่านพวกมัน ฉินมู่ได้เห็นพืชที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน

พวกมันเป็นดอกไม้ใหญ่มหึมาที่สูงเท่าตัวคน กลีบบอบบาง ของพวกมันห่อเป็นดอกตูมไว้ แต่ตั้งตรงสูงชะลูด ใบคู่ขนาดใหญ่ งอกเงยขึ้นทุกๆ ก้านดอกไม้

แม้ว่าฉินมู่จะเรียนรู้วิชาแพทย์มาจากนักปรุงยาและสามารถ จําแนกแยกแยะพืชพรรณและสมุนไพรทุกประเภท แต่เขาก็ไม่เคย เห็นดอกไม้ประหลาดเช่นนี้มาก่อน

อวี้ป๋อชวนและคนอื่นๆ ก็บุกเข้ามาในป่าดอกไม้นี้เช่นกัน และ ขมวดคิ้วเมื่อเห็นสภาพโดยรอบ แต่ทว่าพวกเขาไม่หยุดยั้งไล่ล่า ฉินมู่และคณะ

ทันใดนั้น ดอกไม้ใหญ่ก็พ่นละอองเกสรออกมาอย่างแช่มช้า และดอกตูมของมันก็หมุนพริ้วเมื่อกลีบดอกไม้อันบอบบางค่อยๆ แย้มบานออกมา สีกลีบดอกที่เคยขาวก็เปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นๆ เปลี่ยนจากสีชมพูอ่อน เป็นสีชมพูสด ก่อนจะค่อยๆ กลายเป็นสี แดงเจิดจ้า

เมื่อดอกไม้บานเต็มดอก เด็กสาวที่คุกเข่าอยู่ในดอกไม้นั้นก็ ลุกขึ้นอย่างแช่มช้าและมองไปยังฉินมู่ หวีดร้องเสียงแหลม “จ้าวลัทธินักบุญสวรรค์ ลัทธินักบุญสวรรค์ของเจ้าทําให้ข้าเจ็บแค้นเหลือเกิน!”

ในป่าดอกไม้ ดอกไม้ใหญ่เหล่านั้นก็เบ่งบานออกมาตามๆ กัน และใจกลางของทุกๆ ดอก มีดรุณีวัยกําดัดที่ทรงเสน่ห์ประดุจหยก พวกนางมองไปทางฉินมู่และกรีดร้อง “เจ็บแค้นยิ่งนัก!”

ฉินมู่หนังหัวชาตึ้บ และเขาเร่งเร้ากิเลนมังกร “มังกรอ้วน เผา พวกมันให้หมด! พี่น้องฝู ใช้คลื่นเสียงของพวกเจ้าโจมตี!”

กิเลนมังกรพ่นไฟออกจากปากของมัน พลางเปล่งไฟแท้ห้อม ล้อมกายของตนเอง ค้างคาวขาวสองตนก็บินขึ้นไปบนอากาศและ ปลดปล่อยคลื่นเสียงออกมา ในเวลาเดียวกันนั้นฉินมู่ก็ร่ายรํากระบี่ ไร้กังวล และกระบี่เทวะนี้ก็พุ่งฉวัดเฉวียนไปมาราวสายฟ้า ตัดเฉือน

รากที่ติดอยู่กับสะโพกของดรุณีทั้งหลายอันกระโจนขยํ้าเข้ามา

ในเวลานี้ กระบี่วิเศษที่ไหนก็ไร้ประโยชน์ มีแต่กระบี่เทวะเล่มนี้ เท่านั้นถึงจะสามารถป้องกันรับมือปีศาจรากไม้แห่งสันเขา เดียวดายได้

แต่หากว่าเป็นร่างจริงของนางปีศาจเฒ่านี้มาเอง ฉินมู่ก็ไม่แน่ใจว่าแม้แต่กระบี่ไร้กังวลจะทําอะไรนางได้หรือไม่

“วรยุทธ์ของนางปีศาจเฒ่านี้ดูเหมือนจะเพิ่มพูนขึ้นอีก!” ฉินมู่ กล่าวด้วยความกังวล

พรึ่บบบ!

หญิงสาวจํานวนนับไม่ถ้วนลอยขึ้นไปบนอากาศ ดึงเอาดอกไม้และใบไม้โจมตีทุกๆ คนที่ย่างกรายเข้ามาในป่า

ผู้ฝึกวิชาเทวะแห่งตําหนักสวรรค์แท้นําต้นไม้หยกออกมาใช้ รากและกิ่งก้านนับพันของต้นไม้หยกโจมตีดรุณีกําดัดเหล่านั้น แต่ พบว่ากลีบดอกและใบไม้ห่อตัวพวกนางไว้อย่างหนาแน่น

ผู้ฝึกวิชาเทวะเหล่านั้นลิงโลดใจและใช้รากกับกิ่งของต้นไม้หยกเพื่อรัดพันรอบๆ พวกนางอีกที แต่ทว่าดอกตูมเหล่านั้นลื่นเหลือล้นทนเหลือหลาย และหลุดออกไปดังเป๊าะ เกสรพลันพุ่ง ออกมาจากข้างในและแทงทะลุศีรษะของผู้ฝึกวิชาเทวะพวกนั้น

อวี้ป๋อชวนสีหน้าแปรเปลี่ยนอย่างรุนแรง และเขาตะโกน ออกมา “อัญเชิญสมบัติศักดิ์สิทธิ์!”

สัตว์พิสดารที่เหมือนกับลิงยักษ์ดุร้ายที่มีเขาและสูงเพียงแค่หนึ่งคืบก็กระโดดออกมาจากบ่าของเขา และทุบอกตนเองปึกๆ ด้วยกําปั้น ร่างของมันขยายใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น ก่อนที่สัตว์ตนนี้ จะอ้าปากร้องคํารามอย่างเกรี้ยวกราด สมบัติวิเศษชิ้นหนึ่งอัน เรืองรองไปด้วยแสงสีหยกก็ลอยออกมาจากปากของมัน

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version