Skip to content

Tales of Herding Gods 369


ตอนที่ 369 แก้แค้นในชาติหน้า

ตรงหน้าประตูนั้นอันมีรูปสลักพันมังกร มังกรไร้เขาทุกชนิด ขนาดตามฉินมู่มาติดๆ รอให้เขาป้อนอาหารแก่พวกมัน

หลงเจี่ยวหนันก็ตามไปด้วยประกายตาวูบไหวไปมา นางเหลือบแลไปมองยังมังกรไร้เขาสีแดงตัวหนึ่งบ่อยครั้ง ท่ามกลางมังกรที่เทพครองแดนเลี้ยงมังกรให้ฉินมู่ป้อนอาหาร มังกรแดงไร้เขาจากสํานักขี่มังกรก็อยู่ด้วย

มังกรแดงไร้เขาของราชามังกรนั้นเป็นตัวตนระดับจ้าวลัทธิ และมันคุ้นเคยกับหลงเจี่ยวหนันเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่ามันจะถูกเทพครองแดนเลี้ยงมังกรชิงไป แต่ตราบใดที่หลงเจี่ยวหนันเป่าขลุ่ยของนาง นางก็ยังคงสามารถควบคุมมัน

ฉินมู่สายตาไม่ไหวติง แต่สมองของเขาแล่นเร็วจี๋คิดหาวิธี หลบหนี

หากว่าเทพครองแดนเลี้ยงมังกรนํารังมังกรออกไป เขาและห่วง หยกจักรพรรดิก็อาจจะปลิวไปหมอบราบตรงหน้าเมื่อรังมังกรถูก กระตุ้นให้ทํางาน แล้วอย่างนั้นเขาจะอธิบายที่มาของจี้หยกตนเอง

ได้อย่างไร

ถูกฉีกทึ้งออกและกลืนกินเข้าไปโดยมังกรนั้นเป็นจุดจบที่ไม่ น่าดูชม แต่หากว่าเขาไม่ตายล่ะ?

แต่ถ้าเขาวิ่งหนีไปตอนนี้ เขาก็คงหนีไม่พ้นมังกรไร้เขาทั้งหลายที่ติดตามาข้างหลังเขา ยิ่งไปกว่านั้น หลงเจี่ยวหนันยังอยู่ใกล้ๆ อีก หากว่าเขาพยายามหนี หญิงผู้นี้ก็คงจะสังหารเขาเป็นแน่

“สาวใช้ หยิบสมุนไพรออกมาหลอมปรุงยา” ฉินมู่โยนถุงเต๋าตี้ให้หลงเจี่ยวหนัน สีหน้าเขาเดี๋ยวก็คลํ้าเดี๋ยวก็ดี

แม้ว่าเขาจะอยู่ค่อนข้างห่างจากรังมังกร ห่วงหยกจักรพรรดิที่

ห้อยคอเขาอยู่ก็ยังดิ้นดุกดิกไปมาราวกับว่ามันกําลังจะกลับมามีชีวิต มีความเชื่อมโยงอย่างอธิบายไม่ถูกระหว่างตัวมันกับรังมังกร ยิ่งไปกว่านั้นห่วงหยกจักรพรรดิยังยิ่งร้อนฉ่ามากขึ้นและมากขึ้น ราวกับว่ามันกําลังจะแปลงร่างเป็นมังกรและโบยบินกลับไปยังรัง

หลงเจี่ยวหนันข่มโทสะและเปิดถุงเต๋าตี้เพื่อคัดแยกสมุนไพรวิญญาณ ฉินมู่นําลูกแก้วมังกรมาไว้ในมือและดูดซับพลังในนั้น ทันใดนั้น พลังงานอันน่าสะพรึงกลัวก็กวาดซัดไปทั่วร่างของเขา และเติมเต็มเข้าไปในแขนขา ทําให้พละกําลังเขาเพิ่มพูนขึ้นอย่าง มหาศาล!

ไม่ว่าจะอย่างไร ข้าต้องหนี ม่อย่านั้นหลังจากที่เทพครอง แดนเลี้ยงมังกรขุดรังมังกรขึ้นมาได้ล้ว ข้าก็จะไม่มีโอกาสหนี!

ฉินมู่ยื่นมือออกไป และเส้นสายของหินหนืดก็ไหลออกมาจาก แม่นํ้าใกล้ๆ มายังข้างตัวเขา

ในเมื่อเจ้าอยากให้ข้าป้อนอาหารมังกรของเจ้า ข้าก็จะป้อน อาหารพวกมัน! ม่เพียงแต่ข้าจะเลี้ยงอาหาร ข้าจะลักพาตัวพวกมันไปด้วย! ข้าไม่อาจหนีไปจากเทพครองแดนเลี้ยงมังกรด้วยตนเองได้ ต่หากว่าข้าขี่มังกรไป ใครจะรู้!

ปราณชีวิตของเขาแปรเปลี่ยนเป็นปราณชีวิตเต่าดํา และ อุณหภูมิของหินหนืดก็ลดตํ่าลง แต่ทว่ามันไม่แข็งตัว โลหะแวววาว จํานวนมากร่วงหล่นลงจากสายหินหนืดสายนี้ และหล่นเคร้งคร้า งลงกับพื้น

สิ่งที่แข็งตัวออกจากหินหนืดนั้นคือแก่นแร่ทองคําทมิฬ มันมี จุดหลอมเหลวที่สูงกว่าหินหนืด

ใช้วิธีนี้ ฉินมู่ก็สามารถสกัดแก่นแร่ทองคําทมิฬออกมาได้ อย่างรวดเร็ว ความบริสุทธิ์ของมันยังสูงมากอีกด้วย

ไม่นานนัก เขาก็สามารถเก็บเอาแก่นแร่ทองคําทมิฬได้มาก พอ และหลอมสร้างขึ้นเป็นขลุ่ยทองคํา ในขณะเดียวกันนั้น หลง เจี่ยวหนันซึ่งกําลังคัดแยกสมุนไพรก็ยังไม่ทันจะเสร็จ

ฉินมู่แตะขลุ่ยทองคําไปที่ปากของตนและใช้เคล็ดลับควบคุม มังกรที่เขียนเอาไว้ในคัมภีร์เลี้ยงมังกร เมื่อเขารวบรวมปราณชีวิต และเป่าเข้าไปในขลุ่ย เสียงดนตรี 2 ตัวโน้ตก็ดังออกมา

เป็นครั้งแรกที่เขาฝึกปรือเคล็ดลับควบคุมมังกร ดังนั้น เสียงดนตรีของขลุ่ยจึงค่อนข้างเงอะๆ งะๆ แต่ทว่า หลังจากที่ทดสอบเสียงสองสามที ฉินมู่ก็ชํานาญมากขึ้น มังกรไร้เขาพวกที่มีวรยุทธ์ตํ่าก็บินไปบินมาตามเสียงขลุ่ยของเขา ดูเหมือนจะสนุกไปกับเสียงนั้น

ฉินมู่ก้าวไปข้างหน้า และมังกรไร้เขาอีกจํานวนหนึ่งก็

เคลื่อนไหวตามเสียงขลุ่ยเขาเพิ่มมากขึ้น    ไม่นานนัก เขาก็สัมผัส

ได้ถึงสํานึกรู้ของมังกรไร้เขา 7 ตัวเชื่อมต่อกับเขาผ่านเสียงขลุ่ย

ตูม!

จิตของเขาระเบิดออก และเขารู้สึกว่าสํานึกรู้และห้วงคิดของ เขาเชื่อมต่อกับสํานึกรู้ของมังกรไร้เขา 7 ตัวอันกว้างใหญ่ราว มหาสมุทร!

หางตาของหลงเจี่ยวหนันกระตุก และนางหยุดคัดแยก สมุนไพรทันที ด้วยประกายตาวูบวาบ นางนําขลุ่ยหยกของตน ออกมาเริ่มเป่าด้วยเช่นกัน นางพยายามที่จะต่อสู้แย่งชิงการ ควบคุมมังกรไร้เขาเหล่านั้น

“สาวใช้ เจ้ารนหาที่ตายหรือ”

ฉินมู่โกรธเกรี้ยวและทันใดนั้น เขาก็ปล่อยขลุ่ยทองคํา เขาใช้ ปราณชีวิตของเขาเล่นเสียงเพลงออกมาจากขลุ่ย ส่วนตัวเขาซัด กําปั้นไปยังหลงเจี่ยวหนัน เขานั้นเดือดดาลอย่างถึงที่สุด หญิงผู้นี้ เอาแต่คอยตอแยเขา! หากว่าเขาไม่สังหารนาง ก็คงยากจะหลบหนี ไปได้!

“ข้าทนเจ้ามานานแล้ว!” หลงเจี่ยวหนันก็โกรธเกรี้ยวอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อนางได้ยินคํา

ว่าสาวใช้ นางก็ปล่อยขลุ่ยหยกของนางออกจากมือ เพื่อให้ปราณ ชีวิตของนางเป่ามันแทน นางยื่นมือออกไปเพื่อปะทะกับฉินมู่ซึ่งหน้า

หญิงนางนี้ม่ด้โง่ นางก็รูรู้อยู่ชัดว่าเทพครองแดนเลี้ยงมังกร ให้ลูกแก้วมังกรอันดีกว่าของนาง ต่นางก็ยังล้าปะทะกับข้าตรงๆ จะต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน!

ฉินมู่รีบใช้พลัง และในพริบตาที่ฝ่ามือของพวกเขาปะทะกัน มังกรแดงไร้เขาก็ทะลวงเข้าใส่ฉินมู่ มันไม่ใช่ใดอื่นนอกเสียจาก มังกรอัคคีไร้เขาแห่งสํานักขี่มังกร!

เมื่อเทพครองแดนเลี้ยงมังกรกําลังขุดรังมังกรขึ้นมา สมาธิของ เขาทั้งหมดก็จดจ่ออยู่กับเรื่องนั้น นี่ทําให้การควบคุมที่เขามีเหนือ มังกรทั้งหลายที่เขาเลี้ยงเอาไว้อ่อนแอลง และหลงเจี่ยวหนันก็ สามารถเชื่อมต่อกับมังกรแดงไร้เขาได้ทันที สั่งให้มันจู่โจม

ฉินมู่ได้คาดเอาไว้แล้วถึงอันตราย ดังนั้นเขาจึงรีบถอยออก ห่าง มังกรไร้เขาสีเขียวพลันตวัดกรงเล็บเข้าไปปะทะกับมังกรแดง ไร้เขา คลื่นอากาศอันน่าสะพรึงกลัวในสายแร่มังกรพลันระเบิด ออกมา ส่งทั้งฉินมู่และหลงเจี่ยวหนันปลิวไป!

ฉินมู่ร่วงลงบนแม่นํ้าหินหนืดที่ร้อนจัด มันพลันกระเพื่อมปุดๆ ทันที และมังกรอัคคีไร้เขา 2 ตัวพลันยกตัวขึ้นมาจากในนั้นและ พาเขาเหาะขึ้นไป

หลงเจี่ยวหนันถูกกระแทกอัดผนังด้วยแรงระเบิด และเสียงดนตรีขลุ่ยของนางพลันควบคุมมังกรไร้เขาตัวอื่น เพลิงไฟของมันเจิดจ้าขึ้นทุกขณะ เปล่งแสงบาดตาในคอของมัน เมื่อมันอ้าปากออก ลําแสงไฟหลี ก็ยิงออกไปยังฉินมู่ราวกับมังกรเพลิงทะยาน!

มันคือไฟประเภทที่สามารถหลอมละลายได้ทุกอย่าง และแม้แต่ หินหนืดก็ยังต้องระเหยเป็นไอ!

ขลุ่ยของฉินมู่พลันควบคุมมังกรวารีไร้เขาตัวหนึ่งให้ขยํ้าไปบนหัวของมังกรอัคคีไร้เขา สัตว์เลี้ยงของเขาพ่นนํ้าข่าน อันสะกดข่มไฟหลี และมังกรไร้เขา 2 ตัวก็โรมรันพันตูกันอย่างดุเดือด

ฉินมู่คีบ 2 นิ้วคู่และแทงออกไปข้างหน้า กระบี่ไร้กังวลของ เขาพุ่งออกมาจากฝัก ทะลวงทะลุม่านเพลิง ยิงตรงไปยังหว่างคิ้ว ของหลงเจี่ยวหนันในพริบตา

หลงเจี่ยวหนันตื่นตระหนก แต่นางไม่มีเวลาหลบหลีก ดังนั้นนางจึงแค่เอียงหัวหลบไปข้างหนึ่ง กระบี่ไร้กังวลกรีดผ่านใบหน้า ของนางและปักเข้าไปในเกล็ดมังกรบนผนังข้างหลัง

เกือบไปแล้ว!

ไม่ทันที่นางจะได้พักหายใจ แสงกระบี่นับพันก็พุ่งผ่านไฟมา! ในตอนนั้นเอง มังกรแดงไร้เขาก็ม้วนพันรอบตัวนางเพื่อ

ปกป้อง แสงกระบี่นับไม่ถ้วนปะทะกับเกล็ดมังกรของมันส่งเสียง

เคร้งคร้าง กระบี่บินทั้งหมดของฉินมู่ถูกมังกรไร้เขาระดับจ้าวลัทธิ ป้องกันเอาไว้ได้ทั้งหมด

ในสายแร่มังกร มังกรไร้เขาทั้งหลายตกอยู่ในความตระหนก ตกใจ และพวกมันก็เปล่งเสียงมังกรร้องลึกยาวออกมา แรงสะเทือน อันเกิดจากเสียงคํารนเหล่านั้นแทบจะระเบิดแก้วหูของฉินมู่และหลงเจี่ยวหนัน

ปราณชีวิตของฉินมู่เป่าไปยังขลุ่ยทองคําเมื่อเขาพยายามควบคุมมังกรไร้เขาให้มากขึ้น หลงเจี่ยวหนันเองก็รีบเร่งเร้าปราณ ชีวิตของนางเพื่อต่อสู้กับเขา

มังกรไร้เขาหลายตัวถูกเสียงขลุ่ยของพวกเขาควบคุมและสํานึกรู้ของพวกมันก็เชื่อมต่อกับพวกเขา ทําให้พวกมันต่อสู้ตะลุมบอนกัน วรทธ์ของมังกรไร้เขาเหล่านี้เทียบเท่ากับยอดฝีมือ ขั้นใกล้เทพเจ้า และแต่ละตัวก็ล้วนไร้เทียมทาน พวกมันใช้ทักษะเทวะหลายอย่างและส่วนใหญ่ก็ปะทะกันด้วยร่างเนื้อ

ตอนนั้นฉินมู่ถึงเพิ่งได้เห็นว่าร่างเนื้อของเผ่ามังกรนั้น แข็งแกร่งน่าสะพรึงกลัวสักเพียงไหน เมื่อพวกมันเคลื่อนไหวไป กล้ามเนื้อนับหมื่นนับพันก็ถูกช่วงใช้ และเมื่อเส้นเอ็นของมันหด และยืดออกมา ก็สร้างเสียงกัมปนาทอันราวกับอสุนีบาตกลางฟ้า แจ้ง !

นี่คือฤทธานุภาพอันสามารถเคลื่อนขุนเขาถมมหาสมุทร และ มันอยู่ในร่างกายของมังกรตัวหนึ่ง พลังระเบิดปะทุของพวกมัน เหนือลํ้ากว่าเผ่ามนุษย์ไม่รู้กี่แสนเท่า!

แต่ทว่า ฉินมู่และหลงเจี่ยวหนันล้วนแต่ตระหนัก ทั้งคู่นั้นแทบ จะปลิดชีวิตไปเมื่อมังกรไร้เขา 2 ตัวเริ่มพ่นไฟและพ่นนํ้าใส่กัน ดังนั้นจึงดีที่สุดถ้าไม่ให้มังกรพวกนี้ใช้ทักษะเทวะ แต่ให้สู้กันด้วย กายเนื้อเท่านั้น

แม้ว่าวรยุทธ์ของพวกเขาจะแตกต่างกัน ด้วยหลงเจี่ยวหนันอยู่ ในขั้นเจ็ดดาวอันเหนือกว่าฉินมู่ในขั้นหกทิศไปมาก แต่ฉินมู่ก็ไม่ ด้อยไปกว่านางเรื่องความเข้มข้นของพลังวัตร

จํานวนของมังกรไร้เขาที่ขลุ่ยของพวกเขาควบคุมได้นั้นมีเพียงแค่คนละ 3 ตัว หากมากไปกว่านั้นและปราณชีวิตของพวก เขาไม่เพียงพอ สํานึกรู้ของพวกเขาก็จะไม่สามารถรองรับได้

ฉินมู่นั้นเพิ่งฝึกปรือเคล็ดลับควบคุมมังกร แต่มันเป็นฉบับสมบูรณ์ หลงเจี่ยวหนันได้ฝึกปรือวิชานี้มา 30-40 ปี แต่มันมาจากฉบับที่ไม่สมบูรณ์ ดังนั้น พลังในการควบคุมมังกรของพวกเขาจึงเท่าเทียมกัน

แต่ถึงอย่างไร หลงเจี่ยวหนันก็มีความได้เปรียบ มังกรแดงไร้ เขาของราชามังกรนั้นคุ้นเคยกับนาง จึงง่ายที่จะควบคุม มันยังคง ต่อสู้ได้อย่างดุร้าย ฟังคําสั่งทุกอย่างของนาง

ในทางกลับกัน ฉินมู่นั้นเพิ่งเชื่อมต่อกับมังกรไร้เขา 3 ตัว ดังนั้นเขาจึงไม่อาจควบคุมพวกมันได้ดั่งใจ

ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยนี้ได้ชี้ชะตาผลแพ้ชนะ!

หลงเจี่ยวหนันควบคุมมังกรแดงไร้เขาไปกัดคอของมังกรเหลืองไร้เขาตัวหนึ่ง ฟาดมันเข้ากับผนังหินอย่างหนักหน่วง ร่างของมังกรแดงไร้เขาแตะลงกับพื้น และมันเลื้อยหลบหลีกมังกรไร้เขาที่กําลังสู้กันตัวอื่นๆ มุ่งไปยังฉินมู่โดยพลัน

“ไอ้เด็กเวร ข้าจะล้างแค้นให้กับทุกคนในสํานักขี่มังกร!” หลง เจี่ยวหนันตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด

สายตาของฉินมู่เป็นประกาย และเขาถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว เขาพลันแปลงกายเป็นเงามืดที่เกาะแนบกับผนังและเคลื่อนไหวไป

ตามผนังของสายแร่มังกรนี้ หลบหลีกมังกรแดงไร้เขาโดยไต่ขึ้นไป เหนือหัวมัน

“พี่สาวหลง ข้าเสียใจด้วย” เสียงของเขาดังมาจากผนังระหว่าง ที่เคลื่อนที่ไปประชิดตัวนางอย่างรวดเร็ว

หลงเจี่ยวหนันตกตะลึงเมื่อเห็นเงาใหญ่ปรากฏอยู่ข้างหลัง กิเลนมังกรได้รอเวลานี้อยู่นานแล้ว รอให้มังกรแดงไร้เขาออกห่าง จากตัวนาง ปากของเขาอ้ากว้าง และเพลิงแท้สมาธิก็พวยพุ่งออกมา

หลงเจี่ยวหนันรีบหันกลับไปและฉวยลูกแก้วมังกรออกมาต้าน รับเพลิงกิเลน เมื่อทั้ง 2 อย่างปะทะกัน ลูกแก้วก็ปะทุแสงหลากสี ออกมาและป้องกันเพลิงกิเลนเอาไว้

กําลังฝีมือของกิเลนมังกรนั้นเทียบเท่ากับยอดฝีมือระดับชาว สวรรค์ และเพลิงกิเลนของเขานั้นก็ร้ายกาจเป็นอย่างยิ่ง เผาไหม้

มือของนางที่ใช้ถือลูกแก้วมังกรให้ดําเกรียม ทว่าตัวของหลง เจี่ยวหนันนั้นปลอดภัยไร้อันตราย

ในจังหวะนั้น เงามืดอันฉินมู่ได้แปลงกายมาก็ร่วงลงมาจาก ข้างบนก่อรูปเป็นเนื้อกายเมื่อเขาต่อยเข้าไปที่ตําแหน่งหลังหัวใจ ของหลงเจี่ยวหนัน

ตูม!

หลงเจี่ยวหนันถูกเป่ากระเด็น และปะทะเข้ากับผนังสายแร่ มังกร กระดูกทั่วร่างของนางแตกละเอียด

“หากว่าชาติหน้ามี ค่อยมาแก้แค้นข้า!”

ฉินมู่ดีดนิ้ว และกระบี่ไร้กังวลก็แทงเข้าไปในหว่างคิ้วของหลง เจี่ยวหนัน นางไถลลงมาจากผนัง และกระบี่ปักตรึงนางไว้บนผนัง หิน

นิ้วกระบี่ของฉินมู่ชี้กลับ และกระบี่ไร้กังวลก็บินกลับมาเข้าฝัก กระบี่อื่นๆ ก็พรั่งพรูกลับเข้ามาในถุงเต๋าตี้ของเขา แต่บนผนังหิน นั้นไม่เหลือหลงเจี่ยวหนันแล้ว มีเพียงแต่ซากเนื้อเละละเอียด

นางไม่อาจลอกคราบเกิดใหม่ได้อีกต่อไป

ปราณชีวิตของฉินมู่เล่นเพลงขลุ่ย และมังกรอัคคีไร้เขาตัว หนึ่งก็พุ่งเข้ามาหา ฉินมู่กระโดดขึ้นขี่หลังของมันและตะโกนเรียก “มังกรอ้วน!”

กิเลนมังกรรีบกระโดดขึ้นไปบนหลังมังกรตัวนี้และกระดิกหาง ไปมาประจบเขา ตอนนั้นฉินมู่ถึงสังเกตเห็นว่าในปากของเขาคาบ ถุงเต๋าตี้ของเทพครองแดนเลี้ยงมังกรเอาไว้อยู่

“เก่งมาก!” ฉินมู่เอ่ยคําชมอันหายากซึ่งทําให้หัวใจของกิเลนมังกรพองฟู

ด้วยความปลื้มปริ่ม เสียงของขลุ่ยกลายเป็นเร่งเร้า และมังกรอัคคี ไร้เขาก็รีบวกตัวกลับ ทะยานเหินกลับไปยังทางที่พวกเขามาอย่างรวดเร็ว

“ด้วยความเร็วของมังกรอัคคีไร้เขาตัวนี้ หากว่ามันยังคงตะบึง ไปด้วยความเร็วสูงสุด มันก็คงวิ่งออกจากแดนโบราณวินาศภายใน ไม่ถึงวัน และไปถึงจักรวรรดิสันตินิรันดร์!”

ฉินมู่ตื่นเต้น และเมื่อเขาเหลียวกลับไปมอง สีหน้าเขาก็มืดดํา แม้ว่ามังกรอัคคีไร้เขาจะตะบึงไปอย่างเร็วจี๋ แต่มังกรไร้เขาตัวอื่นๆ ก็ติดตามเขามาราวกับเงาตามตัว บ้างก็เหาะ บางก็เลื้อยวิ่ง และ บางตัวถึงกับแหวกว่ายมาในแม่นํ้าหินหนืด ทั้งหมดโงหัวขึ้นมา มองมาที่เขา รอให้เขาป้อนอาหาร

“ข้าเคยป้อนอาหารพวกเจ้าแค่ครั้งเดียว อย่าตามข้ามาเลย!” ฉินมู่วิงวอนพวกมัน “ข้าขอร้อง! พวกเจ้าเป็นอิสระแล้ว อยากไปที่ ไหนก็ตามใจเจ้าเถอะ อย่าตามข้ามา!”

มังกรไร้เขาหลากสีสันยังคงตามเขาไปด้วยหัวที่ชูสูงจ้องมอง เขา รอให้เขาป้อนอาหาร

“พวกเจ้าทําตัวยังกับมังกรอ้วนไม่มีผิด!”

ฉินมู่โมโหจนพูดไม่ออก เขาได้แต่นําถุงเต๋าตี้ของเทพครอง แดนเลี้ยงมังกรออกมา เพื่อหลอมปรุงยาป้อนพวกตะกละเหล่านี้

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version