Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 468


ตอนที่ 468 ยอมแต่งสาวใช้ ก็ไม่แต่งหญิงตระกูลเล็ก

สะใภ้รองเห็นบุตรสาวเช่นนี้ก็ร้อนใจ ทำไมไม่รู้จักชมท่านอาสักคำสองคำ ดูคู่หมายเอ้อร์เป่าสิ ว่าฉลาดพูดเพียงใด

“เถาจื่อ คุยกับท่านอาสิ”

สะใภ้รองผลักดันบุตรสาวอย่างร้อนใจ

เถาจื่อตกใจสะดุ้ง มองนางท่าทางลนลาน

ลู่เจียวหันไปมองพี่สะใภ้รองลู่

สะใภ้รองหัวเราะแหะๆ แล้วก็หันไปกล่าวกับสะใภ้ใหญ่ว่า “พี่สะใภ้ พวกเราไปห้องครัวเตรียมอาหารกลางวันกันเถอะ ให้ท่านแม่คุยกับเจียวเจียว”

สะใภ้ใหญ่เองก็เห็นด้วย “ได้”

หู่จื่อพาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ออกไปเล่น จ้าวอวี้หลัวก็ไม่แพ้เด็กผู้ชาย วิ่งเร็วราวกับลมกรดตามไปทันที เถาจื่อก็วิ่งตามออกไป

สุดท้ายในห้องโถงเหลือแต่ผู้ใหญ่

เถียนซื่อมองไปยังลู่ต้าเหนียน “พวกเจ้าคุยกับลูกเขยไปก่อน ข้าขอตัวไปคุยกับเจียวเจียว”

ลู่ต้าเหนียนพยักหน้า เซี่ยอวิ๋นจิ่นเองก็พยักหน้าเล็กน้อยกล่าวว่า “ท่านแม่คุยกับเจียวเจียวเถอะ ระยะนี้นางคิดถึงท่านแม่มาก”

วาจาอ่อนโยนสนิทสนมและเอ่ยเรียกเจียวเจียว มองออกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนตอนนี้ดีอย่างมาก

ในใจเถียนซื่อก็วางใจลง นางดึงมือลู่เจียวไปเรือนตะวันตก ไปคุยที่ห้องลู่กุ้ย

“เจียวเจียว แม่ว่าตอนนี้อวิ๋นจิ่นดีกับเจ้ามาก เจ้าวางแผนร่วมชีวิตกับอวิ๋นจิ่นแล้วใช่หรือไม่”

ลู่เจียวยิ้มมองเถียนซื่อกล่าวว่า “ข้ารับปากให้โอกาสเขา ระยะนี้เขาแสดงออกได้ไม่เลว ท่านแม่อย่าได้เป็นห่วง”

ในที่สุดเถียนซื่อก็วางก้อนหินที่หนักอึ้งในใจลงได้ “อย่างนั้นก็ดี อย่างนั้นก็ดี ในใจแม่เป็นห่วงเรื่องเจ้ากับอวิ๋นจิ่น แล้วยังเรื่องลู่กุ้ยอีก”

เถียนซื่อเอ่ยถึงลู่กุ้ยก็อดโมโหไม่ได้ “ไว้เจ้ากำราบน้องชายเจ้าหน่อย กลับมาครั้งนี้ ข้าเชิญแม่สื่อหาหญิงสาวหลายคนมาให้เขาดูตัว เขาไม่เห็นด้วยสักคน เจ้ารู้ไหมเขาพูดอันใด”

ลู่เจียวพอจะเข้าใจลู่กุ้ยอยู่บ้าง ไปเห็นที่อำเภอชิงเหอมาไม่น้อย หญิงในอำเภอเหล่านั้นกับหญิงบ้านนาในหมู่บ้านย่อมแตกต่างกัน เกรงว่าลู่กุ้ยคงไม่มองหญิงบ้านนาแล้ว

“ในเมื่อไม่เข้าตาเขา ท่านแม่ก็อย่าได้ร้อนใจไป ไว้ข้าหาแม่สื่อในอำเภอหาให้เขาสักคน”

พอได้ฟังว่าจะแต่งหญิงในอำเภอเป็นภรรยา เถียนซื่อก็เป็นห่วง

“เจียวเจียว หญิงในอำเภอเหล่านั้นไม่ธรรมดา จะแต่งได้หรือ น้องชายเจ้าเป็นคนบ้านนอกคอกนา เขาเกิดที่นี่ หากแต่งหญิงในอำเภอ คนจะดูแคลนเขาไหม วันหน้าชีวิตเขาจะลำบากนะ”

เถียนซื่อยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นห่วง ลู่เจียวรีบกล่าวปลอบใจนาง “ท่านแม่ ท่านอย่าได้เป็นห่วง ข้ารับรองจะช่วยเขาดู หากหญิงผู้นั้นไม่ดี ข้าจะไม่ให้เขาแต่ง ท่านแม่วางใจได้”

“เช่นนั้นเจ้าต้องคอยดูไว้หน่อย เจ้าตัวทำแต่เรื่องให้คอยเป็นห่วง รู้อย่างนี้ตอนนั้นให้หมั้นหมายก่อนค่อยไปอำเภอ”

เถียนซื่อโมโหแล้ว นอกประตูลู่กุ้ยกำลังเดินเข้ามาพอดี “ท่านแม่ ท่านว่าอะไรข้า”

เถียนซื่อกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ว่าเจ้าหัวสูง หญิงบ้านนาเป็นเช่นไรหรือ หญิงบ้านนาแต่งไม่ได้หรือ ท่านแม่เจ้าก็เป็นหญิงบ้านนา หรือว่าอีกหน่อยเจ้าก็จะรังเกียจแม้แต่แม่ด้วย”

ลู่กุ้ยรีบขอร้องลู่เจียวให้ช่วย

ลู่เจียวดึงมือเถียนซื่อมากล่าวว่า “ท่านแม่ ท่านวางใจ ข้ารับรองจะหาลูกสะใภ้ที่ดีมาให้ท่านแม่”

กล่าวถึงตรงนี้ ลู่กุ้ยก็เอ่ยขึ้นว่า “พี่เจียว ความจริงข้าเองก็ต้องตาต้องใจคนผู้หนึ่ง ไม่รู้ว่าพี่จะเห็นด้วยหรือไม่”

หญิงสองคนในห้องพากันหันขวับไปมองเขา “เจ้าต้องตาต้องใจสตรีผู้หนึ่งหรือ”

“ตอนไหนกัน”

ลู่เจียวแสดงท่าทีว่าตนเองไม่รู้เรื่อง ลู่กุ้ยกล่าวอย่างเกรงใจว่า “เฝิงจือข้างกายพี่เจียว ข้าว่าดีมาก”

วาจาเขาทำเอาลู่เจียวโมโหทันที นางคิดไม่ถึงว่าลู่กุ้ยจะต้องตาต้องใจเฝิงจือ

ไม่ใช่ว่าเฝิงจือไม่ดี กลับกัน เฝิงจือนั้นดีมาก ไม่เพียงแต่หน้าตาดี แต่กิริยาวาจาก็ดีมาก

เพียงแต่เฝิงจืออายุมากกว่าลู่กุ้ย และอีกฝ่ายอาจจะไม่ต้องตาต้องใจลู่กุ้ย

“เจ้าอยู่ดีๆ ไปต้องตาต้องใจเฝิงจือได้อย่างไร”

“พี่เฝิงจือไม่เพียงแต่หน้าตาดี แต่ยังรู้มารยาท ดีกว่าหญิงอื่นมาก” ลู่กุ้ยกล่าวจบก็มองลู่เจียว กล่าวว่า “พี่เจียว ให้พี่เฝิงจือแต่งกับข้าได้หรือไม่”

ลู่เจียวได้สติ มองลู่กุ้ยกล่าวว่า “เรื่องนี้ข้าตัดสินใจไม่ได้จริงๆ”

เถียนซื่อได้ยินสองพี่น้องพูดจากันไปมา สีหน้าพลันไม่เข้าใจ จึงถามว่า “เฝิงจือเป็นใคร”

ลู่เจียวบอกนาง “เฝิงจือเป็นหัวหน้าสาวใช้ประจำตัวข้าเอง หน้าตาดีมาก และยังมีความสามารถมาก หากนางแต่งกับลู่กุ้ย ถือว่าลู่กุ้ยได้กำไรแล้ว แต่ไม่แน่ว่านางจะอยากแต่งกับลู่กุ้ย”

สุดท้ายลู่เจียววิจัยตัวยาหนึ่งรักษารอยแผลเป็นบนใบหน้าเฝิงจือได้

ดังนั้นตอนนี้เฝิงจือสวยมาก เดินออกไปข้างนอก บอกว่านางเป็นคุณหนูก็มีคนเชื่อ

หญิงเช่นนี้แต่งกับลู่กุ้ยถือว่าเหนือกว่า แต่ปัญหาก็คือลู่เจียวไม่ได้รู้สึกว่าเฝิงจือต้องตาต้องใจลู่กุ้ย

เถียนซื่อได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็หวั่นไหว มองลู่เจียวถามว่า “เจ้ารู้สึกว่าเป็นไปได้หรือไม่”

ลู่เจียวหันไปมองเถียนซื่อกล่าวว่า “ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี้ยากอยู่สักหน่อย”

นางกล่าวจบก็หันไปมองลู่กุ้ยกล่าวว่า “รอให้ข้ากลับไปอำเภอก่อน จะช่วยเจ้าลองถามเฝิงจือ แต่ข้าคาดว่าเป็นไปได้ไม่มาก จะให้ดีเจ้าก็ทำใจไว้หน่อย ข้ารู้สึกว่าความคิดเจ้าเหมือนจะมีปัญหา?”

ลู่กุ้ยได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็พลันรู้สึกขัดข้องใจ เขาคิดว่าหากเขาจะแต่งกับเฝิงจือน่าจะเป็นเรื่องง่ายถึงจะถูก

“ปัญหาอันใด”

“เจ้าคิดหรือว่าแต่งกับเฝิงจือเป็นเรื่องง่ายมาก คิดว่านางเป็นสาวใช้ข้า เจ้าคิดแต่งกับนาง นางควรดีใจมาก จากนั้นก็ยินดีปรีดาแต่งกับเจ้าใช่ไหม”

ลู่กุ้ยพูดไม่ออก เขาคิดเช่นนี้จริง

ลู่เจียวแค่นหัวเราะ “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร ชายบ้านนอกคนหนึ่ง ถือสิทธิ์อันใดเจ้าต้องตาต้องใจนาง นางก็ต้องรับปาก ยินดีปรีดารับปากแต่งกับเจ้า ลู่กุ้ย เจ้าอย่ามองตนเองสูงเกินไปนัก ไม่ควรมีความคิดเช่นนี้”

ลู่กุ้ยได้ฟังคำพูดลู่เจียว อารมณ์ก็พลันอัดอั้นขึ้นมา “พี่เจียว นางเป็นสาวใช้ ได้แต่งกับข้าไม่ควรดีใจหรอกหรือ”

ลู่เจียวหัวเราะเย็นชา เถียนซื่อเองก็ไม่พอใจ ถลึงตาใส่บุตรชายตนเอง

“เจ้าพูดจาอันใดกัน ที่ว่าสาวใช้ได้แต่งกับเจ้าควรจะดีใจ อีกฝ่ายคิดแต่งกับเจ้าเรียกว่าโชคร้ายต่างหาก เจ้ายังไม่ทันได้แต่งกับนางก็มีความคิดเช่นนี้อยู่ก่อนแล้ว วันหน้านางแต่งกับเจ้า ไม่ใช่ว่าต้องคอยสำนึกบุญคุณเจ้าตลอดเวลาอย่างนั้นหรือ เจ้าต้องการบอกว่านางเป็นสาวใช้ ได้แต่งกับเจ้า เพราะเจ้าลดตัวอย่างนั้นสิ”

“แม่เจ้าตอนนั้นก็เป็นสาวใช้ ในตำบลมีคนต้องตาต้องใจข้ามากมาย แต่ข้าไม่แต่งกับผู้ใด แต่เลือกแต่งกับท่านพ่อเจ้า”

“เฝิงจือเป็นหัวหน้าสาวใช้ประจำตัวพี่เจ้าได้ เห็นได้ชัดว่านางเป็นคนมีสติปัญญา คนเขาจะมาต้องตาต้องใจคนโง่เง่าอย่างเจ้าหรือ เจ้าช่างเป็นคนคิดเองเออเองเสียจริง”

“เจ้าควรรู้ว่าสาวใช้ประจำตัวเจ้านายในตระกูลใหญ่ มีคนมากมายเท่าไรคิดแต่งกับนาง มีวาจาหนึ่งกล่าวได้ดี ยอมแต่กับบ่าวหญิง ก็ไม่แต่งกับหญิงตระกูลเล็ก หมายความว่าสาวใช้ในตระกูลใหญ่ กิริยามารยาทและการอบรมสั่งสอนล้วนเหนือกว่าผู้อื่น”

เถียนซื่อกล่าวจบก็ไม่อยากพูดกับบุตรชายอีก หันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “ไม่ต้องไปสนใจเขา”

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version