Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 552

ตอนที่ 552 หุ้ยหยวนในการสอบหุ้ยซื่อ

การสอบเดือนสองสอบติดกันสามรอบ สอบสี่คัมภีร์ห้าตำราและคำถามเฉพาะ

วันที่สิบห้าเดือนสามก็ติดประกาศผลสอบ

เช้าตรู่มา ตระกูลเซี่ยก็มีคนมา คนที่มาก็คือเจิ้งจื้อซิ่ง สหายร่วมชั้นเรียนเซี่ยอวิ๋นจิ่นและภรรยากับบุตรสาวเขา

เจิ้งจื้อซิ่งยังระงับตนเองได้ แต่จู้เป่าจูภรรยาเขากลับทำอย่างไรก็ไม่อาจระงับตนเองไว้ได้

นางตื่นเต้นอย่างมาก ประเดี๋ยวก็ยืนขึ้น ประเดี๋ยวก็นั่งลง ประดี๋ยวก็วิ่งไปถามลู่เจียว

“เจียวเจียว เจ้าว่าจื้อซิ่งจะสอบได้หรือไม่ หากครั้งนี้สอบไม่ได้ พวกเราก็จะกลับอำเภอชิงเหอไปแล้ว จื้อซิ่งจะต้องไปอ่านตำราอีกสามปีแล้ว”

เจิ้งจื้อซิ่งเหลือบมองจู้เป่าจูที่ร้อนใจราวกับมดบนหม้อร้อน ก็ขมวดคิ้วไม่พอใจเอ่ยว่า “สงบนิ่งหน่อย”

ดูภรรยาอวิ๋นจิ่นบ้าง ท่าทางสง่างาม กิริยามารยาทเรียบร้อย ไม่ได้มีท่าทางว้าวุ่นร้อนใจแม้สักนิด หันมาดูภรรยาเขาที่ลุกลี้ลุกลนจนนั่งไม่ติด

เจิ้งจื้อซิ่งมองจู้เป่าจู พลันเริ่มร้อนใจ หากเขาสอบจิ้นซื่อได้จริง วันหน้าจู้เป่าจูก็คือนายหญิงตระกูลเจิ้ง นิสัยนางเช่นนี้ไม่อาจเป็นนายหญิงจัดการเรื่องภายในตระกูลเจิ้งได้

สีหน้าเจิ้งจื้อซิ่งเริ่มรู้สึกว่าไม่ได้การแล้ว

จู้เป่าจูเห็นท่านพี่เริ่มโมโห ก็รีบนั่งลง

เจิ้งจื้อซิ่งระงับอารมณ์ หันไปมองจู้เป่าจูกล่าวว่า “การสอบก็สอบเสร็จแล้ว ติดหรือไม่ติดก็กำหนดไว้แล้ว เจ้าร้อนใจไปจะมีประโยชน์อันใด ดังนั้นควรสงบใจรอฟังข่าวก็พอ”

ตระกูลเซี่ยกับตระกูลเจิ้งส่งคนไปกรมพิธีการรอข่าวแล้ว

รายชื่อติดประกาศของการสอบหุ้ยซื่อจะติดขึ้นที่หน้าประตูกรมพิธีการที่แรก จากนั้นก็ให้เจ้าหน้าที่นำข่าวไปแจ้งแต่ละคน

ดังนั้นพวกเขาสงบใจรอก็พอแล้ว

เจิ้งจื้อซิ่งกับจู้เป่าจูกล่าวจบก็หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว “ขายหน้าต่อหน้าอวิ๋นจิ่นกับพี่สะใภ้แล้ว”

เจิ้งจื้อซิ่งคุยกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นลู่เจียวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นอย่างมาก ในวาจายังแฝงความนัยซาบซึ้งใจกับการสอบหุ้ยซื่อครั้งนี้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้รับข้อมูลขุนนางหัวหน้าคุมสอบมา ยังได้รับข้อมูลเรื่องบทความและคำวิจารณ์บทความอื่นของหัวหน้าคุมสอบ ตามหลักควรเก็บเป็นความลับถึงจะถูก

แต่เขาถึงกับแอบมอบข้อมูลทั้งหมดให้ ทำให้เจิ้งจื้อซิ่งซาบซึ้งใจ หากสอบครั้งนี้ไม่ติด ก็เพราะชะตาชีวิตเขาไม่ดีแล้ว

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวยิ้มมองเจิ้งจื้อซิ่ง แสดงท่าทางบอกว่าไม่เป็นไร

แต่ลู่เจียวยังมองไปที่จู้เป่าจูอย่างเป็นห่วง เจิ้งจื้อซิ่งรำคาญจู้เป่าจูอย่างเห็นได้ชัด หากเขาสอบติดจิ้น ซื่อจริง วันหน้าจะรังเกียจจู้เป่าจูหรือไม่

แม้ว่าในใจลู่เจียวเริ่มเป็นห่วง แต่ก็ไม่ได้กล่าวอันใด จู้เป่าจูไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลสักนิด นางเป็นห่วงแค่สามีตนจะสอบได้หรือไม่

ตอนใกล้เที่ยง คนรับใช้ตระกูลเซี่ยกับตระกูลเจิ้งก็กลับมาอย่างตื่นเต้น

“คุณชาย เหนียงจื่อ ได้แล้วๆ”

คนรับใช้ตระกูลเจิ้งเองก็ตะโกนมาอย่างตื่นเต้น “ได้แล้ว คุณชายได้แล้ว”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวท่าทางนิ่งไม่ตื่นเต้นอันใด พวกเขารู้แล้วว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะสอบได้ ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นห่วงเรื่องนี้ ตอนนี้แค่คิดอยากดูว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นสอบได้ตำแหน่งหุ้ยหยวนหรือไม่เท่านั้น

เจิ้งจื้อซิ่งกับจู้เป่าจูไม่ได้คิดมากมายเช่นนั้น พวกเขาขอเพียงสอบได้ก็พอแล้ว

จู้เป่าจูพุ่งเข้าไปคว้ามือคนรับใช้ตน ถามว่า “ท่านพี่สอบได้จริงหรือ ได้จริงหรือ”

คนรับใช้ตระกูลเจิ้งพยักหน้าอย่างดีใจหงึกๆ “ขอรับ เหนียงจื่อ คุณชายได้แล้ว เขาสอบได้แล้ว”

ในที่สุดจู้เป่าจูก็ระงับอาการตื่นเต้นไว้ไม่ไหวอีกต่อไป หัวเราะลั่นดังขึ้น ไม่สนใจคนในห้องโถง เอาแต่กล่าวไม่หยุดว่า “ได้แล้ว ท่านพี่ข้า เขาสอบได้แล้ว ดีเยี่ยมจริงๆ”

นางกล่าวจบก็ให้สาวใช้ข้างกายมากล่าวว่า “คุณชายสอบได้แล้ว เขาสอบได้แล้ว”

สาวใช้พยักหน้าตื่นเต้น “ใช่ คุณชายสอบได้แล้ว นี่เป็นเรื่องมงคลใหญ่ยิ่ง”

จู้เป่าจูตื่นเต้นเสร็จก็วิ่งไปตรงหน้าลู่เจียว ดึงมือลู่เจียวมากล่าวอย่างตื่นเต้น “เจียวเจียว ได้ยินไหม ท่านพี่ข้าสอบได้แล้ว เขาสอบได้แล้ว ดีเยี่ยมจริงๆ”

เจิ้งจื้อซิ่งเดิมดีใจมาก แต่พอเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวท่าทางไม่ได้ดีใจอันใด แล้วหันไปมองจู้เป่าจูลิงโลดดีใจราวกับเสียสติ ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ดูๆ เจ้าตื่นเต้นจนท่าทางเหมือนอะไรไปแล้ว”

จู้เป่าจูได้ฟังคำตำหนิเจิ้งจื้อซิ่งก็หันไปมองเขา “ท่านพี่ ท่านไม่ดีใจหรือ ท่านสอบได้แล้ว ท่านสอบได้แล้ว”

เจิ้งจื้อซิ่งเม้มปากนิ่งเงียบ จู้เป่าจูเห็นท่าทางเขาก็นิ่งอึ้งตกใจ ความดีใจในใจค่อยๆ จางลง รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆ เจื่อนลง สีหน้าเหมือนทำอันใดไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้กล่าวอันใดอีก

ในห้องโถง เซี่ยอวิ๋นจิ่นเริ่มรำคาญขี้เกียจสนใจตระกูลเจิ้ง แต่ลู่เจียวเริ่มรู้สึกว่าไม่ได้การแล้ว นางเดินเข้าไปดึงจู้เป่าจูไปนั่ง

“คุณชายเจิ้ง ท่านสอบได้แล้ว เป่าจูดีใจก็เป็นเรื่องสมควร เจ้าทำเช่นนี้ทำให้นางสลด…”

จู้เป่าจูก้มหน้าลง เจิ้งจื้อซิ่งได้สติทันที เห็นว่าตนเองทำไม่ถูกต้อง เขารีบกล่าวขอโทษจู้เป่าจูว่า “เป่าจู ข้าไม่ได้ว่าเจ้าไม่ดี เพียงจากนี้จะมีการสอบเตี้ยนซื่อ สุดท้ายจะเป็นเช่นไรก็ยังไม่รู้ ดังนั้นพวกเราไม่ควรดีใจมากเกินไป”

จู้เป่าจูคิดแล้วก็รู้สึกว่าท่านพี่ตนกล่าวได้ถูกต้อง จึงยิ้มกล่าวว่า “อืม ข้ารู้แล้ว”

ลู่เจียวมองเจิ้งจื้อซิ่งแล้วก็มองจู้เป่าจู ในใจแอบนึกเป็นห่วง

แต่ก็มิได้กล่าวอันใดมาก นางหันหน้าไปถามบ่าวตระกูลเซี่ย “หลินตง คุณชายสอบได้ที่เท่าไร”

หลินตงกำลังจะเอ่ย นอกประตูบ้านพลันมีเสียงฝีเท้าม้าวิ่งมาอย่างเร่งรีบ พร้อมเสียงฆ้องเสียงกลองตีดังกระหึ่มมาแต่ไกล ยังเจือเสียงตะโกนแสดงความยินดีดังแว่วมาด้วย “เซี่ยอวิ๋นจิ่นเมืองหนิงโจวสอบได้ที่หนึ่งของการสอบหุ้ยซื่อครั้งนี้ ได้เป็นหุ้ยหยวน เซี่ยอวิ๋นจิ่นเมืองหนิงโจวสอบได้ที่หนึ่งของการสอบหุ้ยซื่อครั้งนี้”

ลู่เจียวกับคนรับใช้ตระกูลเซี่ยล้วนได้ยินเสียงที่ดังมาจากที่ไกลๆ เริ่มใกล้เข้ามา

ในที่สุดลู่เจียวก็ยิ้มพลางออกคำสั่งพ่อบ้านเซียว “รีบเตรียมเงินมงคลมอบให้เจ้าหน้าที่ อีกอย่าง ยกกระบุงเหรียญทองแดงสามกระบุงกับขนมน้ำตาลก้อนสองกระบุงไปโปรยหน้าประตู”

พ่อบ้านเซียวรับคำไปเตรียม เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเองก็ลุกขึ้นเดินไปหน้าประตู เจิ้งจื้อซิ่งกับจู้เป่าจูเองก็ลุกเดินตามไป

เจิ้งจื้อซิ่งเริ่มรู้สึกอิจฉาในโชคชะตาเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่ดีอย่างมากจริงๆ เขาขาหักก็ยังได้ภรรยาตนเองรักษาหาย ภรรยายังมีความสามารถ ตอนนี้เขาถึงกับสอบหุ้ยซื่อได้เป็นหุ้ยหยวน หลังการสอบเตี้ยนซื่อ หากฝ่าบาทต้องพระทัย ก็อาจได้เป็นจ้วงหยวน

แม้ว่าฝ่าบาทไม่รับสั่งแต่งตั้งเขาเป็นจ้วงหยวน อย่างน้อยก็ควรได้หนึ่งในสามอันดับแรก

เป็นถึงหุ้ยหยวน อย่างไรก็ต้องได้หนึ่งในสามอันดับแรก

ดังนั้นเขาก็คือจิ้นซื่อจี๋ตี้[1]ไปแล้ว ส่วนเขานั้น หากสอบไม่ได้ระดับสอง ก็คงต้องไปเป็นระดับสามที่ต้องเป็นขุนนางตำแหน่งซู่จี๋ซื่อในสำนักศึกษาฮั่นหลินสามปี จากนั้นก็ต้องเข้าสอบให้ผ่านเพื่อไปเป็นขุนนางท้องที่นอกเมืองหลวง

เจิ้งจื้อซิ่งยิ่งคิดก็ยิ่งอัดอั้น แต่ไม่ได้แสดงออก เดินตามเซี่ยอวิ๋นจิ่นออกมานอกประตูบ้าน

ทุกคนเพิ่งจะถึงหน้าประตู เจ้าหน้าที่แสดงความยินดีจากกรมพิธีการก็มาถึง เสียงตีฆ้องตีกลองและประทัดดังกระหึ่มไปทั่ว เจ้าหน้าที่นั่งอยู่บนหลังม้าทำให้เสียงประกาศยิ่งดังก้อง “เซี่ยอวิ๋นจิ่นเมืองหนิงโจวสอบได้ตำแหน่งหุ้ยหยวน เซี่ยอวิ๋นจิ่นเมืองหนิงโจวสอบได้ตำแหน่งหุ้ยหยวน”

………………

[1] ระดับจิ้นซื่อแบ่งออกเป็นสามระดับ

ระดับแรกก็คือลำดับที่ 1-3 เรียกรวมว่าจิ้นซื่อจี๋ตี้ แบ่งออกเป็นจ้วงหยวน ปั้งเหยี่ยนและทั่นฮวาตามลำดับ

ระดับสองก็คือลำดับที่ 4-150 เรียกว่าจิ้นซื่อชูเซิน

ระดับสามก็คือก็คือลำดับที่ 151-300 เรียกว่าถงจิ้นซื่อ ซึ่งหมายถึงว่าดุจจิ้นซื่อ แต่มิใช่จิ้นซื่อ ได้รับการปฏิบัติตามธรรมเนียมดังจิ้นซื่อ แต่ละระดับย่อมได้รับตำแหน่งงานหลังการสอบต่างกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version